Sunday, August 17, 2008

ปล่อยเสือทักษิณเข้าป่า วันหน้าก็ตัวใครตัวมัน

หลังจากที่โซ้ยทักษิณกันเต็มสูบ ด้วยการตั้งหน้าตั้งตาไล่ฟัด กัดไม่ปล่อยพอๆกับอัลเซเชี่ยนตัวเมีย ด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าต้องจับเสือใส่กรงให้จงได้ แต่ทำไปทำมา ไม่รู้ทำกันท่าไหน กลับกลายเป็นไล่พยัคฆ์เข้าป่าไปเสียฉิบ ความที่ย่ามใจไปหน่อย เลยไม่ทันระวังว่า ถ้าบีบหนักจนเกินไป เสือใหญ่อาจจะแตกตื่น

คราวนี้หละซวยแน่ ถ้าตามจับกลับมาไม่ได้ งานนี้ไม่ใครก็ใครมีหวังได้ตายหมู่

เหตุผลของการลี้ภัย จากจดหมายที่ทิ้งบอมบ์มาจากลอนดอน ต่อให้คนธรรมดาสามัญ ที่พอมีสติปัญญาอยู่บ้าง และไม่หน้ามืดตามัวจนเกินไป ก็สามารถเข้าใจได้ ว่าเหตุเภทภัย มันสาหัสสากรรจ์เสียเหลือเกิน ลงว่าตาชั่งผีสิงดาหน้ากันออกมา แผลงฤทธิ์แผลงเดชอย่างบ้าคลั่ง ไม่อายฟ้าไม่กลัวดิน ต่อให้บริสุทธิ์ผุดผ่องแค่ไหน ก็คงจะรอดยาก

อุตส่าห์ลงเล่นตามกติกา ทั้งๆที่รู้ว่ามันร่างโดยศัตรู เพราะซื้อใจว่า ยังไงก็คงจะมียางอายกันอยู่บ้าง แต่ที่ไหนได้ มันเอากรรมการลงมาไล่บี้ ไม่ว่าจะขยับไปทางไหน เจอเป่าฟาวล์มันลูกเดียว แต่ทีฝ่ายตรงข้ามกลับปล่อยเล่นฟรีสไตล์ ขืนลากลุยเข้าไป มันสกัดด้วยไม้หน้าสาม สุดท้ายต้องยอมแพ้กรรมการ โยนผ้าแล้วถอยห่างออกมาเล่นลูกยาว ดีกว่าฝืนเล่นลูกสั้นให้มันสอยเอา

ตามแผนการอันบ้าระห่ำของฝ่ายอำมาตย์ ส.ว.กับองค์กรอิสระรับหน้าเสื่อ โยนยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของตาชั่งที่จะส่งลูกไปเข้าซังเต หลังจากนั้นก็ตามเก็บเอาในคุก อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น หน้าด้านซะอย่าง เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้ ขนาดอยู่นอกคุก ยังคาร์บ๊องกันเป็นว่้าเล่นมาแล้ว

ทางฟากคนรักทักษิณนั้นต่างพากันโล่งอก เมื่อรู้ว่าคนที่ตนเฝ้าห่วงใยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น มีแหล่งกบดานที่ปลอดภัยติดอันดับโลก แค่นี้ก็เบาใจไปได้หลายเปลาะ ต่อไปนี้จะได้เย่อกันให้มันหยด ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง คอยกลัวว่าหมาป่าศักดินา มันจะมารุมขย้ำลูกแกะทักษิณ

ผิดกันไกลลิบกับทางม้าใช้อำมาตย์ข้าทาสศักดินา ที่นาทีนี้ได้แต่มองตากันปริบๆ ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ได้ยินแต่เสียงเจื้อยแจ้ว ของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ที่วันๆทำอะไรไม่เป็น นอกจากคอยฉกฉวยโอกาส ตีกระหน่ำซ้ำเติมคู่ต่อสู้ ตามธรรมดาของนิสัยถาวรที่ฝังลึกถึงกระดูก จนใครๆก็ส่ายหัว ด้วยหมดหวังที่จะเยียวยา

ฝันหวานเลยสิมาร์ค นี่น่าจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เก้าอี้นายกฯ เข้าใกล้แค่มือสอย มาลอยอยู่ตรงหน้า จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นกรุ่นของแก้มก้นลุงหมักที่เตะจมูกอยู่ปึ๋งปั๋ง ถึงขนาดนี้แล้วมีหรือมาร์คจะอดใจไหว ยังไงก็ต้องตะเกียกตะกายไขว่คว้ามาเชยชมให้จงได้

เกิดมากับเขาชาติหนึ่ง ยังไม่เคยทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าเกิดฟลุ๊คได้เป็นนายกฯประเทศไทยขึ้นมา แม้เพียงเสี้ยวนาทีก็ถือว่าเป็นบุญหัวแล้ว หลังจากนั้น ต่อให้มาร์คต้องดิ้นตาย คงไม่เสียดายชีวิต

โอ้ว่าอนิจจาประเทศไทย เก้าอี้นายกฯมีหวังต้องแปดเปื้อนราคี ด้วยน้ำมือของหนุ่มน้อย ที่มีวิสัยทัศน์สั้นกว่าหางอึ่ง นอกจากตายอดตายอยากกับตำแหน่งนายกฯแล้ว ไม่เคยเห็นมีอะไรออกมาจากสมองกุ้ง ที่ถูกสื่อช่วยกันตีจนขึ้นฟู เพื่อหลอกตาว่าเป็นสมองลิง

ในขณะที่พวกตัวเป้งๆหน้าซีดตัวสั่นกันเป็นแถวๆ แต่พวกกะเลวรากกลับยังไม่รู้จักที่ตาย ทำเป็นกระดี๊กระด๊า โผล่หน้าออกมาชกลมโชว์พาวกันยกใหญ่ อย่าว่าแต่ปปช.ที่กำลังย่ามใจไล่จี้ยิกๆ หาเรื่องจะปิดรายการที่เขาออกมาสาวไส้ตัวเอง แม้แต่กกต.ก็กำลังออกลูกหน้าด้าน ช้างตายทั้งตัวยังพยายามจะเอาใบบัวมาปิด

บุคคลล้มละลายอย่างแป๊ะซะอีก ที่ยังอุตส่าห์คิดได้ ว่างานนี้พลาดไปซะแล้ว ถ้าทักษิณไม่อยู่ในเกมส์ ต่อไปก็คงจะลำบาก ถ้าไม่มีแรงอาฆาตทักษิณเป็นตัวกระตุ้น พันธมิตรก็มีหวังเป็นพันธหมา ใครเขาจะมาเลี้ยงไว้ให้เปลืองน้ำข้าว เมื่อเขาเขี่ยทักษิณออกไปพ้นทางได้แล้ว ต่อไปก็น่าจะถึวคิวแป๊ะ

ตอนนี้ทางฝ่ายทักษิณนั้นแค่ขึงเกมส์ แล้วลากยาวก็เหลือกิน เพราะว่าเวลายังมีอีกเยอะ ใจเย็นๆเล่นไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อน ลูกผู้ชายแก้แค้น 10 ปียังไม่สาย ทุกวันนี้จอมมารก็เหลาเหย่เต็มทน สภาพง่อนแง่นอย่างนี้ ถ้าอยู่ได้ถึง 5 ปี ต้องนับว่าโคตรเก่ง

เผลอๆภายในปีสองปีก็อาจจะเท่งทึงเอาดื้อๆ ถึงเวลานั้นประชาชนต้องมีเฮ เมื่อเมฆหมอกผ่านไป ท้องฟ้ายิ่งแจ่มใสเบิกบาน ถึงตอนนั้น นับเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะเอาคืน บัญชีแค้นที่จดใส่หนังสุนัข คงถึงเวลาซะที ที่จะได้รับการสะสาง

ปัจจุบันนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน แค่เอ้อระเหยช็อปปิ้งไปวันๆ ทางฝ่ายแป๊ะก็ร้องจ๊ากแล้ว เพราะแต่ละวันที่ผ่านไป ย่อมหมายถึงค่าใช้จ่ายที่บานเป็นกระด้ง เหมือนนั่งตุ๊มๆต่อมๆอยู่ในรถแท็กซี่ คอยลุ้นมิเตอร์ที่มันขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าโชเฟอร์ย่อมแฮ็ปปี้ แต่คนจ่ายนั้นแทบคลั่ง นี่ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์มันยืดเยื้อไปอีกซักพัก คงไม่แคล้วต้องหันมากัดกันเอง

นี่ก็แว่วว่าป๋าชักจะเหล่ๆ เพราะพวกมัฆวานมันกินล้างกินผลาญกันเหลือเกิน แต่ผลงานไม่เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน ขอเงินได้เท่าไหร่ไปละเลงเรียบ เลยจดๆจ้องๆว่า ถ้าพ้นขีดอันตรายเมื่อไหร่ จะปลดสายอ๊อกซิเย่น แต่นกรู้อย่างแป๊ะมีหรือจะอ่านไม่ขาด ถึงขั้นนี้แล้วมันก็ต้องชิงไหวชิงพริบกันเป็นธรรมดา กะโหลกบางตายช้ากะโหลกหนาตายก่อน

ในขณะที่ทางสี่สาวฮึ่มฮั่ม จะไม่เลี้ยงแป๊ะไว้ทำป๋า แล้วนึกหรือว่าทางมัฆวาน จะเก็บป๋าไว้ทำแป๊ะ

วโรทาห์: 17 ส.ค. 51

No comments: