Saturday, October 24, 2009

ด่วน! อาเซียนซัมมิทเจอป่วนหนัก พรก.มั่นคง เอาไม่อยู่

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตำแหน่งประธานอาเซียน ที่นึกว่าใครเป็นก็ได้ ทำท่าว่าจะมีอาถรรพ์ซะแล้ว เมื่อคนที่มาสวมรอยดันบุญไม่ถึง จะหยิบจะจับอะไรมันเลยมีปัญหาไปซะหมด ขนาดว่าเตรียมการกันมาอย่างดี ยังให้มีอันเป็นไป ต้องป่วนกันไม่เสร็จ

อย่างคราวที่แล้วก็เจอจอมเนรคุณอย่างเนรวิน พาพวกเสื้อน้ำเงิน ไปดักตีเสื้อแดงจนงานกร่อย เล่นเอาที่ประชุมถึงกับวงแตก เปิดตูดเผ่นแน่บ อย่างกับผึ้งแตกรัง ป่านนี้ยังเคืองท่านประธานไม่หายว่า

แหม..ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน มันยังทิ้งกันได้ลงคอ

มาครั้งนี้กะว่ายังไงก็กินนิ่มแน่ๆ เพราะเตรียมกองทหารไว้เต็มอัตราศึก พร้อมอาวุธหนักครบมือ ซ้ำมีร่างประกาศพรก.มั่นคงเอาไว้รอเสร็จ ขนาดนั้น ยังไม่วายเจอป่วนเข้าอีกจนได้

แถมคราวนี้ยังแสบหนักขึ้นไปอีกหลายกิโลขีด เพราะมันป่วนจากภายใน โดยแก๊งค์ออฟโฟร์ ที่เกิดเฮี้ยนขึ้นมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต่อให้พ่อพรก.ยังยากที่จะเอาอยู่

เมื่อจู่ๆผู้นำ 4 ประเทศ ก็มาไม่ทันเปิดงานมันซะดื้อๆ ด้วยข้ออ้างสั้นๆง่ายๆว่า ตู-ม่าย-ว่าง!

แล้วแก๊งค์ที่ว่าก็บิ๊กเนมกันทั้งนั้น นำทีมโดยบิ๊กบัง ประธานาธิบดีสุสิโล่ บัมบัง ยุดโดโยโน่ แห่งอินโดนีเซีย พร้อมด้วยคู่หูคู่ฮาอย่าง นายกรัฐมนตรีดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค แห่งมาเลเซีย

ผสมโรงโดยประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัลป์ อาร์โรโย่ แห่งฟิลิปปินส์ และที่ขาดไม่ได้เป็นอันขาด คือสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน

ว่ากันว่า รายหลังนี้ ตั้งใจมาป่วนโดยเฉพาะ

แต่ที่ไม่คาดไม่ฝันว่าจะทำกันได้ คือสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาเลาะห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ข่าวว่าทรงเมินโรงแรมที่ประทับ ซึ่งรัฐบาลไทยจัดให้อย่างไม่สมพระเกียรติ แล้วเสด็จไปประทับที่บ้านรับรองของน้าแม้ว

หลังจากนั้นก็ทรงประชวร ไม่เสด็จมาร่วมเปิดงาน ซะงั้น

หมดกัน..ชื่อเสียงประเทศชาติป่นปี้ ยังไม่เท่าอดชักรูปหมู่ ซึ่งมาร์คหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ ว่าจะเอาไปประดับหอแต๋วแตก ให้เลื่องลือกันไปว่า มาร์คหล่อที่สุดในอาเซียน

งานนี้ ต้องเรียกว่าขาป่วนเขามีระดับ ถึงได้เล่นซะงานกร่อยตั้งแต่ยังไม่เปิดด้วยซ้ำ มิน่าล่ะ เสื้อแดงถึงได้ทำเป็นใจดี ส่งพี่กี้ร์ไปยื่นหนังสือสนับสนุนการประชุม แล้วกลับบ้านไปนอนเกาพุงเฉย

และที่ทำเอาคอการเมืองถึงกับซี้ดปาก อย่างกับฟาดตำไทยใส่พริก 7 เม็ด ก็คือลีลาพญามังกรอย่างพ่อใหญ่จิ๋ว เมื่อแตะมือกับพญานาคอย่างฮุน เซน ก็เล่นเอางูดินอย่างมาร์ค ถึงกับดิ้นพราดๆ อย่างกับไส้เดือนถูกขี้เถ้าร้อนๆ

ถ้าแค่นี้ถือว่าฮาแล้ว แสดงว่ารู้ไม่จริง ต้องติดตามตอนต่อไป แล้วจะรู้ว่า ยังฮาได้อีก

เมื่อฮุนเซนไปกระซิบกระซาบข้างหูลุงจิ๋วว่า ได้เตรียมที่พักอย่างดีไว้ให้เพื่อนแม้ว จะมาเมื่อไหร่ก็เวลคัมเสมอ

มีหรือที่อินทรีการเมืองระดับนั้นจะไม่รู้ว่า พ่อใหญ่แกปากสว่างจะตายไป ขนาดป๋าไม่ให้เข้าไปลาบวช แกยังเอามาปูดซะเสียหมาหมด

แล้วลุงจิ๋วก็ไม่ทำให้ลูกหลานต้องผิดหวัง เมื่อแกเอาคำพูดของฮุนเซนมาป่าวประกาศซะดังลั่น เล่นเอาแมลงสาบถึงกับผีเข้ากันยกก๊วน

ให้มันรู้กันไปว่า เมื่อพ่อใหญ่จิ๋วพูดจารู้เรื่องขึ้นมา อะไรก็เอาแกไม่อยู่

แล้วเราก็ได้เห็นลีลาการเมืองระดับฮุนเซน เมื่อเขาปล่อยของผ่านลุงจิ๋ว แล้วยังตามมาย้ำหัวตะปูที่กรุงเทพฯ ยืมปากผู้สื่อข่าวนับพันที่มารอทำข่าวการประชุม ให้มันดังก้องไปทั้งโลก กล้าๆแทงเต็งไปเต็มๆที่ฝั่งเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยไม่เห็นหัวใครอยู่ในสายตา

ถือเป็นการลงทุนครั้งเดียว แต่กินยาวไปได้ชั่วลูกชั่วหลาน

ด้วยคิวเพื่อนช่วยเพื่อน ซื้อใจกันล่วงหน้า นอกจากยืนยันให้พักพิงแล้ว ยังจะตั้งเพื่อนแม้วเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจอีกต่างหาก ถ้าใครยังขืนข้องใจ จะลากเรื่องที่เพื่อนแม้วถูกรัฐประหาร เข้าไปพูดในที่ประชุม เหมือนกรณีออง ซาน ซูจี ซะให้เข็ด

เจอกับดักเข้าไปเต็มเปา แทนที่จะรู้ตัว ประธานอาเซี่ยนเด็กดื้อของเรา กลับแสดงอาการฮึดฮัดโดดเกาะโพเดียม ลอยหน้าลอยตาเหน็บกลับไปหลายดอก ทั้งๆที่เรื่องน่าอายอย่างนี้ น่าจะโบ้ยไปให้เทพทุย เขารับเหมาโชว์โง่แต่เพียงผู้เดียว ดูจะเข้าท่ากว่า

คงกลัวว่าจะสวนกลับไม่ได้อย่างใจ เลยทำให้ถลำลึก แสดงวุฒิภาวะออกมา ให้ชาวโลกได้เห็นกันจะๆ

เจอมวยเชิงสูงระดับอัคคมหาเสนาบดีเดโชอย่างฮุนเซน เล่นเอาเอกอัครมหาซื่อบื้อของเรา ถึงกับเข้าป่า ออกทะเล กู่ไม่กลับกันเลยทีเดียว

เป็นอันว่า ถึงจะจัดการประชุมได้ แต่กลับต้องมาเสียหน้าหนักเข้าไปอีก เจอเข้าไปไม้นี้ คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างมาร์ค แทบจะคลั่งซะให้ได้ อยากสั่งกองทัพลุยถั่วเขมรให้รู้แล้วรู้รอด ก็ไม่มีอำนาจ

จะยืมมือป๊อกเด้ง ก็กลัวใจมันจริงๆ รู้ๆกันอยู่ว่าขานั้น เห็นงานเป็นโดดหนี เห็นหมีเป็นโดดใส่ นอกจากจะไม่จัดให้แล้ว เผลอๆมันจะไปตั้งก๊วนออกทีวีกับสรยุทธ แล้วประกาศกร้าวว่า ถ้าเป็นผม ผมลาออกไปแล้ว

อะไรไม่เจ็บปวดเท่า การประชุมอาเซียนซัมมิท กลายเป็นทักษิณซัมมิทไปซะฉิบ อุตส่าห์หมายมั่นปั้นมือว่าจะแจ้งเกิดในงานนี้ ดันมาโดนทักษิณแย่งซีนไปซะได้ ทั้งๆที่จะว่าไปแล้ว ขานั้นก็ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไร ให้เป็นเรื่องเป็นราว

ยังขุดหาเพชรงกๆอยู่ที่อาฟริกาด้วยซ้ำไป

วโรทาห์: 24 ต.ค. 52

Wednesday, October 21, 2009

จิ๋วปะทะป๋า นี่คือเกมส์รักษาสถาบันฯ

ว่ากันว่า อัจฉริยะ คือคนที่ใกล้บ้า แต่ยังไม่บ้า ส่วนคนบ้านั้น คืออัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เลยกลายเป็นคนบ้า บังเอิญว่าลุงจิ๋วแกแค่เฉียดบ้าไป ไม่ถึงเส้นยาแดงผ่าแปด จึงได้รับการยกย่องเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพ ทหารอัจฉริยะหนึ่งเดียว ตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพไทยนะนั่น ทำเป็นเล่นไป

จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่เราจะฟังแกพูดไม่รู้เรื่อง แต่แกพอจะฟังเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแกดัดจริตพูดภาษาเทพ เพียงแต่ว่าแกพูดตามที่แกรู้ แล้วเราดันไม่รู้ตามที่แกพูด ก็เท่านั้นเอง

ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากทะเลาะกับคนบ้า พอๆกับที่ไม่มีใครอยากต่อกรกับอัจฉริยะ บังเอิญว่าป๋าแกซวยจัด ดันไปถือหางคนละฝั่งกับขงเบ้ง เรื่องของเรื่อง นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เลยต้องแต๋วแตก ออกมาบ๊งเบ๊งเป็นการใหญ่ เมื่อลุงจิ๋วแกเปิดหน้าชน ไม่มีการเกรงใจกัน

ว่ากันอีกว่า ถ้าพฤษภาทมิฬไม่ได้ลุงจิ๋วปล่อยวินมอร์ไซค์ออกมาป่วนไม่เลิก ป่านนี้ลุงสุจินดาไม่รู้ว่าเช็คบิล ไปนอนเกาพุงถึงไหนแล้ว ไม่มีทางได้ผุดได้เกิดหรอก อัศวินม้าขาวน่ะ

ในเมื่อรู้มือกันอย่างนี้แล้ว ถ้าป๋าไม่รู้สึกหนาวบ้าง ก็ให้มันรู้ไป

เมื่อตอนที่อเมริกันแตกทัพ เปิดตูดหนีจากไซง่อนอย่างหมดรูป กองทัพเหงียนก็ได้ใจ ร่ำๆจะกรีฑาทัพมายึดสารขัณฑ์ซะให้ได้ ดีว่าลุงจิ๋วแกแอบต่อสาย ให้จีนใหญ่เปิดสงครามสั่งสอน รุกพรวดเดียวถึงฮานอย ดึงกองทัพเวียตกง กลับไปต้อนรับขับสู้แทบไม่ทัน เมืองที่มีแต่ทหารที่เก่งกับชาวบ้าน เลยรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้อย่างหวุดหวิด

บำเหน็จที่ได้คือ ลุงจิ๋วเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ ตามธรรมเนียมอันเลวทราม ของเมืองตอแหล

และก็เป็นคอมมูนิสต์จิ๋วคนนี้ ที่ทำการสลายพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยด้วยคำสั่ง 66/23 ซึ่งคนเซ็นต์คือป๋า จัดการงุบงิบรับชอบไปแต่เพียงผู้เดียว แถมยังได้รับยกย่องว่าฉลาดล้ำลึกซะไม่มี ที่รู้จักใช้การเมืองนำการทหาร

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี ก็เป็นป๋าคนเดียวกันนี้ ที่กำลังใช้การทหารมานำการเมืองอย่างเข้มข้น ด้วยการสั่งทหารให้ไล่ฟัดคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ จนบ้านเมืองฉิบหายวายวอด ไม่มีชิ้นดี

อะไรไม่ว่า มันพาเอาสถาบันอะไรต่อมิอะไร เป๋กันไปหมด เล่นกันจนชาติไม่เป็นชาติ ทำให้ทุกจังหวัดต้องเวียนกันออกมาร้องเพลงชาติจนคอโป่ง ยังไม่รู้ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า

ถ้าเปรียบสถาบันฯเป็นกระบี่อาญาสิ ทธื์ ก็ถูกป๋าลากเอามาฟาดฟันศัตรูทางการเมือง ที่ถูกป๋าตราหน้าว่าเป็นศัตรูของชาติ เป็นอันตรายต่อสถาบันฯ จนกระทั่งกระบี่บิดงอยับยู่ยี่ ยากที่จะเยียวยาแก้ไข ให้กลับดีดังเดิม

ที่สำคัญ ศัตรูของป๋า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือประชาชนทั้งนั้น เป็นรากฐานสำคัญของชาติ เป็นเกราะคุ้มครองสถาบันฯ ที่แข็งแกร่งเหลือกำลังลาก แต่ป๋าดันลากมาเผชิญหน้ากันซะฉิบ

ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงไม่สิ้นชาติก็คงไม่มีอะไรเหลืออยู่ดี ดังนั้น จึงถึงเวลาที่พ่อใหญ่จิ๋วต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อรักษาสถาบันฯเอาไว้ ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างสง่างาม

แล้วคนระดับขงเบ้ง มีหรือที่จะไม่รู้ว่า ถ้าจะแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริงๆ ก็มีแต่นำพาสถาบันฯเข้าไปอิงแอบกับประชาชนเท่านั้น ถึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

นั่นคือเหตุผลที่ ถึงยังไงลุงจิ๋วก็ต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ไปซุกหว่างขาประชาธิปัติย์ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ให้มันแตกร้าวหนักเข้าไปอิก เพราะต่อให้สิบบิ๊กจิ๋วไปเติมพลังให้ฝ่ายอำมาตย์ ก็ไม่สามารถเอาชนะประชาชนได้อยู่ดี

มีแต่จะลากยาว ให้สงครามมันยืดเยื้อออกไป ให้่บรรลัยวายวอดหนักเข้าไปอีก ทั้งๆที่ผลบั้นปลาย ยังไงประชาชนก็เป็นฝ่ายชนะ

ถ้าขืนปล่อยให้พรรคเพื่อไทย ภายใต้การหนุนหลังของมหาชน ยืนซดกับอำมาตย์ตัวต่อตัว เกรงว่าถ้าเลือดเข้าตา จะยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เกิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินขึ้นมา มันจะดูไม่จืด

เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่สี่เหล่าทัพ ต้องกรีฑามาเข้าพรรคเพื่อไทย จนป๋าถึงกับชักดิ้นชักงอ ด่ายัดลุงจิ๋วไม่มีชิ้นดี

แต่คนอย่างป๋านั้นแพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว ต่อไปนี้คงได้เห็นลูกกะแป๋งป๋า ดาหน้าออกมาแหกปากด่าทักษิณไปตามระเบียบ..พูดถึงผีผีก็มา เมื่อนายแพทย์สังเวช บัดสีบัดเถลิง ออกมาเปิดจุกเป็นคนแรก สวดชยันโตทักษิณว่าเล่นไม่เลิก ไม่มีจิตสำนึกใหม่ อะไรของแกก็ไม่รู้

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหา นับหน้าถือตามากมาย แต่ไหงเปิดกะโหลกออกมา มันกลวงโบ๋ไม่มีรอยหยักแม้แต่น้อย มิน่าล่ะ ถึงเก็บได้แค่ข้อมูลเกี่ยวกับทักษิณ เลยย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องทักษิณ ไม่รู้จักเลิก

ไปเปรียบอะไรกับท่านปรีดี หรือนายกฯชาติชาย ที่พอถูกปฏิวัติก็เงียบหายไปเลย ทำไมไม่นึกบ้างว่า พวกกะโหลกกะลาทั้งหลาย ตอนนั้นทำไมไม่ออกมาปกป้องกติกาบ้านเมือง เหมือนที่ประชาชนกำลังทำอยู่ตอนนี้

ซึ่งถ้าประชาชนลุกขึ้นมาสู้ มีหรือที่ท่านเหล่านั้น จะไม่ออกมาร่วม

แล้วถ้าประชาชนตั้งป้อมสู้อย่างทุกวันนี้ จะมีทหารเลวหน้าไหน ยังกล้าลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีก ถ้าพวกแก่ๆในวันนี้ ลุกขึ้นมาสู้ซะตั้งแต่วันนั้น มันจะมีการทำรัฐประหารทำลายสถิติโลกถึงเกือบ 20 ครั้งได้ยังไง

ในเมื่อหน้าที่ตัวยังไม่ทำ ก็อย่าได้มาใส่เกือกขัดขวางคนอื่น ถ้าทำเป็นแค่อ่านหนังสือต่างประเทศ แล้วเก็บเอาขี้ปากเขา มาเหน็บคนในชาติที่เป็นศัตรูอำมาตย์ ก็สู้รีบๆตายไปซะ ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อน ให้คนเขาด่า

แล้วจำใส่กะโหลกหนาๆไปถึงปรโลกด้วยว่า สงครามวันนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ อย่ามาแหลดูถูกประชาชน ว่าถูกบงการโดยทักษิณ คนที่เล่นไม่เลิกจริงๆ ก็คือประชาชนต่างหาก ไม่ใช่ทักษิณ

ทักษิณอาจจะเลิกได้ แต่ประชาชนไม่มีทางเลิกแน่

วโรทาห์: 21 ต.ค. 52

Monday, October 19, 2009

แค่จะทวงฎีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน

นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เสื้อแดงริอ่านจัดชุมนุมเป็นต้นมา เมื่อจะทวงถามฎีกากันทั้งที มันก็ต้องมีแสดงอิทธิฤทธิ์กันนิดหน่อย เพื่อที่ว่าคนแก่จะได้เลือดลมสูบฉีด หูตาสว่างโร่เป็นตาตั๊กแตน นี่ขนาดว่า ไม่มีการตีฆ้องร้องป่าว

แค่สะกิดเบาๆ ยังแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน

เหมือนจะกระชากอารมณ์อิจฉา ของคนแก่ที่ไม่รู้จักคำว่าปล่อยวาง ให้พุ่งปรี๊ดฉีดกระฉูดจนหน้าแดงก่ำ แถมยังตอกย้ำด้วยคำพูดเรียบๆ ของนายกฯขวัญใจประชาชนว่า เสียดายที่ไม่ได้วิดีโอลิ้งค์เข้ามาดูความยิ่งใหญ่

เพราะต้องรีบขึ้นเครื่องไปดูเพชรเม็ดใหม่ ที่เพิ่งขุดขึ้นมา

แต่ถึงยังไง งานนี้ก็ต้องให้เครดิตป๋าไปเต็มๆ ที่อุตส่าห์ช่วยฟูมฟักเสื้อแดงจนเติบใหญ่มา จวบจนเท่าทุกวันนี้ เพราะป๋าแท้ๆที่ช่วยเสือกไสไล่ส่ง ประชาชนทั้งหลายให้มากองรวมกัน ที่ฝั่งฟากเสื้อแดง ด้วยการตอกย้ำระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน จนชาวบ้านเขาเหลืออด ต้องตะโกนออกมาดังๆว่า

พวกมึงทำอะไรไม่เคยผิด แต่พวกกูทำอะไรไม่เคยถูก

ล่าสุดนี้ ยังอุตส่าห์พ่นดอกอุตพิตออกมาจากรูทวารจู๋ๆว่า "การเข้าพรรคเพื่อไทย เป็นการทรยศต่อชาติ" แปลไทยเป็นไทยให้เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพรรคเพื่อไทยคือศัตรูของชาติ คนที่จะเข้าพรรคนี้ ถึงต้องระวังว่าจะเป็นการทรยศต่อชาติ

เลยทำให้ศัตรูของชาติ ต้องออกมากันเต็มถนน เมื่อวันที่ 17 ตุลา

ก่อนที่จะมาพลิกลิ้นแผล็บ เมื่อนักข่าวดันไปถามเรื่องด่าลุงจิ๋ว ป๋าบอกไม่ได้พูดว่าทรยศชาติ แต่เตือนว่า จะทำอะไรคิดให้รอบคอบ เพราะอาจจะเป็นการทรยศชาติ

ใครฟังก็ได้แต่นั่งงง ว่ามันต่างกันยังไงหรือป๋า

คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ถ้าพูดออกมาทีไร เป็นต้องได้ฮากันท้องคัดท้องแข็ง อย่างเช่นเรื่องม้ากับจ๊อคกี้ ที่เล่นเอาฮาตรึมสมัยน้าแม้ว จนกระทั่งป่านนี้ ผ่านไปกว่า 3 ปี ยังฮากันไม่เสร็จ

ยังมีวลีเด็ดที่ป๋าฝากเอาไว้เยอะแยะ ถ้าขุดคุ้ยขึ้นมาเดี๋ยวมีฮาอีก อย่างเช่นว่า "ป๋าไม่พูดเรื่องการเมือง" แต่ไม่รู้เป็นไง

ไม่ว่าป๋าจะพูดอหิวาต์อะไรออกมา การเมืองเป็นได้เดือดปุดๆ ไปซะทุกที

มิน่าล่ะ ใครๆเขาถึงว่า อาการของโรคที่ป๋าเป็นนั้น มันมีพัฒนาการน่าเป็นห่วง สังเกตุว่าแรกๆป๋าก็แค่ออกมาแหล่ แต่แหล่ไปแหล่มาชักจะเริ่มแหล แล้วแทนที่จะรีบรักษา กลับออกมาแหลเป็นรายวัน

กว่าจะมารู้ตัวอีกที ก็แหลลงตับไปซะแล้ว

คนอย่างลุงจิ๋ว ดีชั่วยังไงแกก็ยังเป็นทหารประชาธิปไตย ขณะที่ทหารประชาธิปไตยครึ่งใบ มันกอดเก้าอี้ผบ.ทบ.แน่น จนกระทั่งเกษียณแล้วยังมีขอต่อวีซ่า แต่ลุงจิ๋วแกกล้าลาออกมันดื้อๆ เพื่อลงมาเล่นการเมือง

เสียอยู่อย่างเดียวว่า แกเป็นทหารที่ซ้ายหันขวาหันไม่เป็น เล่นเอาป๋าเสียวสยองกับแกอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าป๋าสั่งซ้ายแกจะไปขวา แต่ถ้าป๋าสั่งขวาแกจะออกซ้าย พอป๋าถามว่าจิ๋วจะหันไปทางไหนเอาให้แน่ ป๋าจะได้สั่งได้ถูก แกกลับปากหวานบอกว่า

แล้วแต่ป๋า สั่งมาได้เลย

ควันหลงจาก 17 ตุลา กระแสคลื่นประชาธิปไตย ที่จะพัดไล่คลื่นเผด็จการ ไปลงนรก มาถึงวันนี้ ชักจะแรงจัด ถึงขนาดเด็กๆยังออกแถลงการณ์ ไม่ให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง เรียกว่าย้อนเกล็ดพวกเฒ่ากะโหลกกะลา จนหน้าม้านไปตามๆกัน

เพราะขนาดรัฐบาลเด็กดื้อประกาศใช้พรบ.ฉุกเฉินอยู่โครมๆ พวกที่เคยดิ้นพราดๆ ห้ามลุงหมักจัดการกับพันธมิตร ยังนั่งอมสากกันหน้าตาเฉย ขนาดโดนเด็กมันส่งอีเมล์ไปลากคอมาร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ ยังทำเป็นหน้ามึน

เลยโดนแฉชื่อออกมาประจานซะเจ็บแสบ ใครเป็นใครคงไปหาดูได้ไม่ยาก แต่ที่แน่ๆแค่เปิดชื่อโคทม อารียา กับสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ก็เรียกเสียงฮือฮากันอื้ออึง

ส่วนพวกม.นกเขานั้นไม่ต้องไปพูดถึง ขนาดลูกศิษย์ลูกหามาออกแถลงการณ์กันอยู่เหย็งๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัว ไม่รู้ว่าพวกอาจารย์มันไปเลี้ยงนกเขาอยู่ที่ไหน

ต้องฝากบอกไปยัง อธิการบ่ดี คนที่ปากว่าตาขยิบปริ๊บๆคนนั้นว่า อย่าคิดว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้ว จะพาชาวบ้านไปลงนรกขุมไหนก็ได้ เพราะประชาชนที่โง่เขลานั้น ถึงจะยังมีอยู่ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างโร่ รู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำเนียนเป็นพวกประชาธิปไตย แต่ใจเป็นทาสเผด็จการ ทรยศต่ออุดมการณ์ วิ่งโร่ไปรับใช้อำมาตย์ เพื่อที่จะได้เป็นกรรมการโน่นนี่ ไม่รู้กี่สิบตำแหน่ง สวาปามกันจนพุงปลิ้น

ส่วนคนเฒ่าคนแก่ ที่กำลังใกล้ตาย เจียนอยู่เจียนไปทุกขณะ ถ้ารู้ว่าพลังของประชาชนนั้น เข้มแข็งขนาดไหน ก็อย่าเพิ่งตกใจจนช็อคตายไปซะก่อน ขอให้ท่องเอาไว้ว่า

แม้วจ้างมา..แม้วจ้างมา จะได้นอนตายตาหลับ

วโรทาห์: 19 ต.ค. 52

Wednesday, October 14, 2009

พรรคการเมืองใหม่..ผีเน่าที่แยกวงจากโลงผุ

ล่วงเลยไปแล้วหลายวัน แต่ฝุ่นควันยังไม่ยอมจางหายไปซักที สำหรับการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ได้รับความสนใจอย่างมืดฟ้ามัวดิน ชนิดที่ว่า แทบจะเหยียบกันตายที่ธันเดอร์โดม

เมื่อสนามกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ชมแค่ 5 พัน ต้องมารับศึกหนักจากยอดพันธมิตร ที่แห่แหนกันเข้าไปอย่างล้นหลามถึง 2,000 คน

เป็นธรรมดาของผู้ยิ่งใหญ่อย่างเดอะแป๊ะ ที่ก้าวย่างแต่ละที แผ่นดินแทบจะทรุดลงไปซะให้ได้

แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อการนับคะแนนซึ่งแสดงเจตนารมย์โดยการยกมือ ผลปรากฎว่าแป๊ะได้รับเลือกอย่างถล่มทลายถึง 1,700 เสียง ในขณะที่อีก 300 เสียง ไม่รู้ว่าผิดคิวอีท่าไหน ถึงไม่ยอมเลือกแป๊ะ

แต่ถึงยังไง มันก็เพียงพอที่จะทำให้แป๊ะเข้าป้ายไปอย่างลอยลำ ลืมไปเลยกับที่เคยถ่มน้ำลายไว้เลอะเทอะ ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เมื่อปี 2548 ว่า...

"ผมขอประกาศให้ทราบว่า ถ้าในอนาคตเห็นผมรับตำแหน่งทางการเมือง ถ้าเจอที่ไหนให้พ่อแม่พี่น้องถอดรองเท้าขว้างใส่หน้า หรือถ่มน้ำลายใส่หน้าผมได้เลย"

เป็นอันว่า สำหรับหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ สดๆซิงๆ ภารกิจอันหนักอึ้งนับจากนี้ไป คือการคอยหลบหลีกรองเท้า จากจอมตบหน้าอย่างป้าเสื้อแดงให้ดี เพราะผลงานจากการที่เคยถอดรองเท้าตบหน้ามาร์คมาแล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

เห็นไหมล่ะ! ปัญหานักการเมืองโกงกิน แก้ได้ง่ายๆด้วยการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีก อาจจะมีพรรคการเมืองใหม่กว่า ใหม่ที่สุด และใหม่กว่าของใหม่ที่สุด ตามมาอีกเป็นระลอก

คนเรายามเมื่อดวงตก แม้แต่เรียกหมามันยังไม่กระดิกหาง เมื่อทั้งเจ้ากุ๊ยกษิต เจ้าด่างบุญยอด กับเจ้าตูบสมเกียรติ ต่างออกอาการตาขวาง ไม่ยอมกลับเข้ากรงง่ายๆ ทั้งๆที่เจ้าของร้องเรียกโม่วๆจนปากฉีกถึงรูหู อุตส่าห์ร่วมแรงร่วมใจ ป่วนบ้านป่วนเมืองด้วยกันอยู่ได้ตั้งนาน จู่ๆอุดมการณ์มันดันไม่ตรงกันขึ้นมาดื้อๆ

ก็ไม่รู้ว่าอุดมการณ์อะไรของพวกมัน ถึงได้เปราะบางหลุดรุ่ย อย่างกับเส้นด้ายเปื่อยๆ ขนาดนั้น

ควันหลงตามมา ที่ต้องจับตาดูกันให้ดี คือพรรคการเมืองเก่าแก่ขี้อิจฉาอย่างประชาธิป่วน ที่โดนย้อนเกล็ดเข้าไปลูกนี้ เห็นทีจะทำใจลำบาก

เมื่อหมาหวงก้างอุตส่าห์ยอมกัดฟัน ส่งกระดูกชิ้นเดียวที่มีอยู่ไปให้หมาบ้ายืมแทะ หวังเพียงว่าจะได้มีแรงไปไล่กัดทักษิณ ที่เป็นคู่แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน ไม่คาดว่าพอแทะนานเข้า หมาบ้าชักจะมันปาก นึกว่ากระดูกชิ้นนั้น เป็นของมันไปซะฉิบ

สุนัขสองตัวไม่อาจแทะกระดูกชิ้นเดียวกันได้ฉันใด ศึกชิงกระดูกชิ้นใหญ่ ระหว่างพรรคการเมืองใหม่ กับพรรคการเมืองเก่าแก่โบร่ำโบราณ ก็ต้องเกิดขึ้นฉันนั้น

เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกับแมลงสาบ แล้วแป๊ะจะรู้ ว่านรกนั้นมีจริง

อุตส่าห์สู้ถนอมน้ำใจ คำน้อยไม่เคยว่าให้เสียหาย มีไหมที่ใครมาด่าพรรคแมลงสาบแล้ว ไม่ถูกประสานเสียงเห่าหอนโต้ตอบ อย่างเอาเป็นเอาตาย จะมีก็แต่แป๊ะนี่แหละ ที่ได้รับสิทธิพิเศษ ปล่อยให้ด่าฟรีไม่มีชาร์จ แล้วยังจะเอายังไงอีก

ว่ากันว่า งานนี้มีสิทธิ์เจ๊งทั้งคู่ เมื่อพันธมิตรก็แผ่วปลายจนแทบไม่เหลือฟอร์มเดิมแล้ว เลือกตั้งเมื่อไหร่มีหวังม้วนเสื่อเก็บฉากเมื่อนั้น อะไรไม่ว่า จะพาลลากเอาแมลงสาบวอดวายไปด้วย อย่างช่วยไม่ได้

เพราะว่าช่วงหลายปี มานี้ พรรคสะตอก็โหนไข่เผด็จการจนเสียมวลชนไปไม่น้อย ซ้ำยังมาโชว์ฟอร์มห่วยแตก บริหารประเทศจนเละเทะอีก ไม่กล้าคิดเลยว่า เลือกตั้งครั้งหน้า ยังจะเหลือสาวกพันธุ์แท้จริงๆอยู่เท่าไหร่

ก็ในเมื่อฐานเสียงมันเป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนผีเน่ากับโลงผุ เลือกตั้งครั้งต่อไป เชื่อขนมกินได้เลยว่ามีกัดกันเละเทะ ผลสุดท้ายคะแนนที่น้อยอยู่แล้ว ยังต้องมารวมพลังหารสองเข้าให้อีก แล้วมันจะไปมีอะไรเหลือ เขาถึงว่า งานนี้ตาอยู่สบายแฮ

เลิกคุยไปเลยเรื่อง 70/30 ตอนนี้แค่ประคองตัวให้รอด จากอาการเสียศูนย์แหกโค้งลงคูอย่างเสี่ยประชัยก็รากเลือดแล้ว

ในขณะที่การเมืองข้างถนน ถูกบีบเข้าตาจน ทำให้ต้องขึ้นมาวิ่งบนทางอย่างทุลักทุเล ส่วนพรรคการเมืองของอำมาตย์ ที่ใช้อภิสิทธิ์แล่นฉิวบนไฮเวย์ ก็กำลังจะซิ่งลงข้างถนน ด้วยฝีมือโชเฟอร์เด็กดื้อ มือใหม่หัดขับ อย่างเด็กชายเหงียนจอมกู้

งานนี้เล่นเอาแมลงสาบเฒ่าทั้งหลาย ต้องวิ่งกันตีนขวิด เพื่อหาทางดิสเบรคกันโดยด่วน ไม่งั้นเที่ยวนี้มีสิทธิ์ตายยกแก๊งค์

มาถึงขั้นนี้ คงต้องเอาใจช่วยแป๊ะกันสุดฤทธิ์สุดเดช คนเราลงว่าถึงขั้นแย่งสุนัขรับประทานแล้ว ต้องถือว่าเข้าตาจนสุดๆ จากผู้ยิ่งใหญ่ข้างถนน ที่หันไปทางไหนมีแต่คนชิ่งหลบกันวูบวาบ แต่หลังจากเจอปืนไปเที่ยวนั้น บารมีกลับวูบหายไม่เหลือหลอ ตอนนี้ขนาดจ้องหน้าสุนัข มันยังไม่ยอมหลบสายตา

ไม่รู้ว่าปราการด่านสุดท้าย คือพรรคการเมืองใหม่ จะคุ้มกะลาหัวแป๊ะได้ซักกี่น้ำ ในเมื่อหนทางข้างหน้า เห็นแล้วก็เข่าอ่อน ไหนจะคดีอาญาที่รออยู่เป็นกะตั้ก รวมกันแล้วไม่รู้ว่าจะเจอคุกกี่ปี เบาะๆที่หวยออกแล้วตอนนี้ ก็ 7 ปีกับอีก 3 เดือน ถึงขนาดหลบมุมไปทำปากกล้า แต่ขามันก็อดสั่นไม่ได้ งานนี้ต่อให้ไม่ตายคาคุก ก็ยังมีลุ้นยกสอง...

เจอยิงกบาลรอบใหม่

วโรทาห์: 14 ต.ค. 52

Wednesday, October 7, 2009

ห้ามกระพริบตาเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากพลาดช็อตเด็ด

การเมืองร้อนฉ่าขึ้นมาทันควัน เมื่อสถานการณ์ปรอทขึ้นๆลงๆ ไม่อยู่กับร่องกับรอย บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายคลุมๆเครือๆจับต้นชนปลายไม่ถูก ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท บรรดาขาใหญ่วัยโจ๋จึงต่างเอากองทัพส่วนตัว ออกมาตั้งท่าคุมเชิงกัน ชนิดที่ไม่มีใครยอมลงให้ใคร เป็นอันขาด

คนไทยตาดำๆจึงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ลุ้นเสียวกันทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ จนกว่าวันไหนจะมีแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย หักมุมออกมา ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป ว่าใครหมู่ใครจ่า

สำหรับคอการเมืองขนานแท้ ช่วงนี้คงกระพริบตาไม่ได้เป็นอันขาด เพราะท่านอาจจะพลาดช็อตเด็ดไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถึงแม้จะรีเพลย์ได้ในภายหลัง มันก็ไม่มีชีวิตชีวาเท่ากับได้แหกตาดูกันเจ๋งๆ

ผิดกับเรื่องประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเพิ่งเก็บฉากไปเรียบร้อยโรงเรียนมาร์ค หลังจากที่มีโอกาสไปเกาะโพเดียมจ้อกันสดๆ จนขาใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตยถึงกับน้ำตาซึม นึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ว่าแล้วก็ควักกระเป๋าดังหนึบ โยนใส่กะลามา 680 ล้านบาท

บอกว่าเอาไปพัฒนาประชาธิปไตยซะ ให้มันมีชีวิตชีวาน้อยๆหน่อย

ทำอย่างนี้บ้านเราเขาเรียกว่า เอาเงินตบหน้ากันชัดๆ เพียงแต่ว่างานนี้พี่กันคงจะเสียดอลล่าร์เปล่า เพราะว่าหน้าหนาๆอย่างนายกฯของเราคนนี้ ต่อให้ตบยังไง ก็ไม่รู้สึกมึน

ผิดกับคนแก่ที่ไร้ชีวิตชีวาคนนั้น ที่วันๆเอาแต่ทำหน้ามึนจนชาวบ้านอยากจะบ้าตาย สมแล้วที่โดนดีเข้าให้ จนแทบเอาตัวไม่รอด ขนาดจวนเจียนจะเข้าโลงอยู่รอมร่อ ยังถูกตามด่าตามเช็ด ถึงกับหนีหัวซุกหัวซุน เข้าค่ายนั้นออกค่ายนี้ หวังซุกหว่างขาแมงดาปีกเขียว

พวกที่วันๆเอาแต่ลุ้นเสียว เรื่องคอมมิชชั่นงบประมาณค่าซื้ออาวุธ

ใครไม่มาเป็นป๋าบ้าง คงไม่มีทางรู้หรอกว่า การโดนประชาชนจงเกลียดจงชังเป็นล้านๆ แถมออกมาไล่ตะเพิดกันเป็นแสนๆ มันเจ็บกระดองใจผู้ทรงคุณธรรมซะขนาดไหน

หันไปทางกระบวนการยุติธรรม ที่มีชีวิตชีวา ก็กำลังอาละวาดอย่างเมามัน เพราะนอกจากจะยืดได้หดได้ แถมยังล็อคเป้าได้ตามใจปรารถนาแล้ว ยังสามารถดลบันดาลให้พลิกคว่ำพลิกหงายได้ อย่างถูกที่ถูกเวลาอีกต่างหาก

เพราะเหตุนั้น คดีกล้ายาง ที่ติ๊ดชึ่งดึงจังหวะอยู่นานสองนาน พอได้เวลาเหมาะๆถึงได้เกิดสปัสซั่ม ออกมาปล่อยผีกันอย่างสนุกสนาน เล่นเอาไอ้ห้อยจอมเนรคุณ อ้าขาผวาปีกซะยกใหญ่ จนแล้วจนรอด ป่านนี้ยังฉลองกันไม่เลิก

ขณะที่สายน้าแม้วเจอคุกเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่โซ่ข้อกลางอย่างลุงจิ๋วหวานจ๋อย แต่อนิจจา..ในร่างแหเดียวกัน กลับมีปลาเล็กปลาใหญ่ ที่เล็ดลอดออกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ นัยว่าเป็นโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่เปลี่ยนใจไม่เอาแม้วโดยเฉพาะ

ควันหลงที่ตามมาติดๆ เลยช่วยไม่ได้ที่ต้องเกิดอาการเป็นงงกันระนาว เมื่อพ่อใหญ่จิ๋วเด้งรับเทียบเชิญเข้าพรรคเพื่อไทย อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาสมุนอำมาตย์ไข้ขึ้นกันปุบปับ ออกอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว จับไข่สั่นกันเป็นแถว

ลงว่าถ้าน้าแม้วได้ขงเบ้งมาประสานสิบทิศอย่างนี้ บอกได้เลยว่างานนี้ ตัวใครก็ตัวมัน

เสียวอยู่อย่างเดียว ที่ช่วงหลังมานี้ ขงเบ้งแห่งกองทัพบก ดันกลายเป็นจิ๋วจอมชักไปซะฉิบ หลังจากที่วาดลวดลายลีลาชักเข้าชักออก จนเหวอไปตามๆกัน ความน่าเกรงขามเลยลดลงไปเยอะ แต่ถึงยังไง ถ้าจะลองใช้บริการอีกซักตั้ง ก็ยังไม่น่าเกลียดซักเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องถือว่าเสื้อแดงมีแต่ได้กับได้ เพราะถ้าลุงจิ๋วทำดีเราก็แค่ตามน้ำสบายไป แต่ถ้ายังขืนทำยึกยัก มาออกลูกล่อลูกชนอีก ค่อยโน้มคอคนแก่มาตีเข่า ก็ยังไม่สายจนเกินเพล

ก้าวย่างก้าวนี้ของลุงจิ๋ว นับว่าสั่นฟ้าสะเทือนดินอยู่ไม่น้อย เหมือนได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างจากดวงดาว ที่ส่งผลใหญ่หลวง ทำให้สมุนอำมาตย์ต้องหยุดคิด ตรวจสอบทิศทางลมกันใหม่ ว่ามันน่าจะมีอะไรในก่อไผ่ นอกจากหน่อไม้กับใบแห้งๆ

สถานการณ์ล่อแหลมอย่างนี้ ใครขืนอ่านทางไม่ขาด งานนี้มีโอกาสซึมยาวไปถึง ชั่วลูกชั่วหลาน

ก็ขนาดบรรดาหมาแก่ ที่เคยเห่าหอนเรียกผี อย่างสนุกสนาน ยังเกิดอาการหลงคีย์ขึ้นมาเฉยๆ โดยเฉพาะหมาสังเวช บัดสีบัดเถลิง ที่ตามจิกทักษิณอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังหันกลับมาจ้อเรื่องความเป็นธรรม อย่างหน้าตาเฉย

หรือหมาผู้ดีหัวเถิก ที่เคยเห่าทักษิณตามฤดูกาล ยังอุตส่าห์เกิดดวงตาเห็นธรรมกระทันหัน บอกว่าคนที่ไม่นิยมจ้าว ยังสมควรต้องมีที่ยืนในสังคมเหมือนกัน

คงเหลือแต่แก๊งค์เด็กดื้อ ที่ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ วันๆเอาแต่เถลิงอำนาจกันสุดเหวี่ยง แค่เรื่องตั้งผบ.ตร.ตำแหน่งเดียว มันล่อซะสีกากีแตกเละเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ เล่นเอาอำมาตย์เฒ่าถึงกับมึนตึ้บ

แต่ทีเรื่องงานจริงๆมันไม่เอาอ่าวซักเรื่อง ด้านเศรษฐกิจก็ฝากความหวังไว้กับพี่เบิ้มสหรัฐฯ จากนั้นก็หันมากู้แหลก แบ่งกันงาบอย่างตายอดตายอยาก เล่นเอาสื่อที่คอยตามเชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงกับหันหลังยูเทิร์นกันแทบไม่ทัน

ขนาดเรื่องสมานฉันท์ยังต้องใช้ เงินปูลาดกันเป็นฟ่อน หลังจากสมานให้กองทัพไปนับหมื่นล้านแล้ว ยังแอบสมานให้แป๊ะไปสร้างสื่อใหม่ 300 ล้าน แล้วนี่ล่อไปอีก 13 ล้าน เอาไปร้องเพลงชาติไทยให้คนไทยฟัง

เป็นวิธีง่ายๆหลอกให้คนไทยรักกัน แล้วแอบล่อกันจนพุงปลิ้น นี่ถ้าไม่ใช่คุณชายสะอาด รับรองว่า ไม่มีทางฟาดได้ขนาดนี้

รอบบ้านก็แง่งๆกับเขาไปทั่ว จนชาวบ้านเขาไม่อยากคบด้วยแล้ว ยกเว้นเขมรเจ้าเดียวที่ได้ที ดักแทงเข่าจังหวะสอง ฉวยโอกาสที่ประเทศไทยถูกอหิวาต์กินเมือง จัดการยึดพื้นที่รอบเขาพระวิหารเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

แถมสำทับกลับมาอีกว่า ถ้าทหารไทยกล้าล่วงล้ำเข้าไปแม้แต่เซ็นต์เดียว จะยิงให้กลิ้งเหมือนหมาข้างถนน นี่เท่ากับว่ามันไม่เห็นหัวเถิกๆของทหารไทยอยู่ในสายตา ถึงได้ข่มเอา..ขู่เอา

ถ้าผมเป็นผบ.ทบ.ผมลาออกไปแล้ว ไม่ด้านหน้าอยู่ทนให้ชาวบ้านเขาถ่มถุยเอาหรอก

เขียนถึงตรงนี้เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ว่า 6 ตุลาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง วันนี้เมื่อปี 2519 เป็นวันอันแสนอัปยศอดสู โหดทมิฬเหลือกำลังลาก แต่ถึงวันนี้ตัวละครสำคัญๆ ก็ทะยอยรับกรรมกันเป็นแถว

คาดว่าก่อนตายคงต้องทนทุกข์ทรมาน เหมือนนักศึกษาที่ถูกตอกอก ตายคาสนามหลวง เป็นแน่แท้

แปลกแต่จริงที่วันนั้น นักศึกษาถูกยัดข้อหาว่าเป็นญวน ให้พวกกระหายเลือดตามฆ่าเป็นว่าเล่น แต่ 33 ปีผ่านไป เรื่องราวมันดันกลับตาลปัตร พลิกคว่ำพลิกหงาย กลายเป็นว่าคนไทยตายกันเป็นเบือ...

เพราะคำสั่งฆ่าจากนายกฯลูกหลานคนญวน

วโรทาห์: 6 ต.ค. 52