Friday, January 29, 2010

ต่อให้รบแพ้สักร้อยครั้ง ก็ยังเป็นแดง

ยิ่งใกล้วันดีเดย์ล้างบาง ระบอบอำมาตย์เข้าไปทุกที บรรดาสมุนน้อยใหญ่ของฝ่ายนั้น ต่างก็ออกอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว สวิงสวายหัวใจสั่น เมื่อถูกฝ่ายประชาชนโน้มคอลงมาตีเข่า อัดเข้าลิ้นปี่เนื้อๆเน้นๆ เสียผู้เสียคนกันไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เหมือนมวยกำลังได้ใจ กลับจากไล่โจรฮุบป่าที่เขายายเที่ยง ก็ยกพลกันไปที่เขาสอยดาว สาวเดือนลงมากระทืบโชว์ ให้เห็นกันจะๆว่า คุณธรรมจริยธรรม มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ถ้าขืนอำมาตย์แก้เกมไม่ตก เห็นทีว่า ไม่ช้าก็เร็วเป็นได้รากเลือด ช้ำในตายกันเป็นแถว แต่ครั้นจะใช้ยาแรง ทำรัฐประหารให้รู้แล้วรู้รอด ก็กลัวว่ามันจะบานไม่รู้หุบ จึงได้แต่ขู่ฟ่อๆไม่ให้เข้าใกล้ ด้วยการลากรถถังออกมาโชว์พาวดึกๆดื่นๆ เรียงแถวกันมา 20-30 คัน ตระเวณหาอู่ซ่อมให้ควั่ก ยังดีที่ยังไม่อ้างว่า ออกมาหาปั๊มป์ปะยาง 24 ชั่วโมง

แต่แค่นี้ก็เกินพอ ที่จะทำให้ประชาชนเจ้าของประเทศ ขี้หดตดหายกันไปทั้งบาง

หมาเห่ามันไม่กัด แต่ถ้าลงว่าหมาจะกัด จ้างให้มันก็ไม่เห่า คำพังเพยของคนโบราณ จะยังขลังอยู่หรือไม่ คงได้รับการพิสูจน์กันในไม่ช้า

ทางฝั่งประชาชนโดยคนเสื้อแดงเป็นโต้โผใหญ่ ก็ไม่มีลดราวาศอกซักกะนิด เพราะว่าเลยขีดอดทน ทะลักจุดเดือดไปตั้งนานแล้ว หมูไม่กลัวน้ำร้อน ต่อให้ข่มขู่ยังไงก็ไม่เสียว อะไรไม่อะไร ยังท้าตีท้าต่อยว่า ถ้าแน่จริงก็รีบออกมากันให้ว่อง เลยกลายเป็นหน้าที่ของนักธุรกิจน้อยใหญ่ ที่ต้องรับหน้าเสื่อ นั่งเสียวดากกันเป็นแถว

ก็โถ..ไม่ต้องให้ถึงกับ ทำรัฐประหารจริงๆหรอก เอาแค่ที่ซิ่งรถถึงออกมากึงกัง เที่ยวเร่หาปะยางกลางค่ำกลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอน หุ้นก็ร่วงพรู ตกรูดมหาราด จนไม่รู้จะว่ายังไงกันแล้ว

พลพรรคอำมาตย์นี่ ก็บ้าดีเดือดกันทุกคน กล้าแลกกล้าชน แรงดีไม่มีตกกันจริงๆ สงสัยว่าน่าจะใกล้วันฝีแตกเข้าไปเต็มที มันถึงได้ใจกล้าหน้าด้านกันขนาดนั้น กะแค่นายทหารคนหนึ่งจาบจ้วงใส่ผู้บังคับบัญชา โทษฐานที่ทำยึกยักชักเข้าชักออก ก็มีลูกอดีตนายทหารเสื้อคับจอมงาบ ลากเอาสถาบันทหารออกมาไล่บี้กัน เป็นว่าเล่น

โชว์ 2 มาตรฐานในวงการสีเขียวกันเห็นๆ แล้วอย่างนี้ใครจะไปทนไหว ทีเครื่องGT200ทำให้เสียศักดิ์ศรีกว่านี้เยอะ ยังไม่เห็นมีหน้าไหนออกมาว่าอะไรสักแอะ ขนาดตอนที่ผบ.ทบ.ออกมาไล่รมต.กลาโหมกลางอากาศ มันยังนั่งอมสากกันหน้าตาเฉย ขืนเล่นกันอย่างนี้ ก็จงระวังตัวกันให้ดีเถอะ มีคนเขาฝากเตือนมาว่า

ถ้าสถาบันประชาชนเหลืออดเมื่อไหร่ แล้วจะหนาวกันไปทั้งกองทัพ

ต้องนับว่าเป็นความซวยของฝ่ายอำมาตย์โดยแท้ ที่ลูกน้องแต่ละตัวไม่เคยเป็นผู้เป็นคนกับใครเขา ขนาดลงทุนปล้นอำนาจมาให้ ดันก้นจนเป็นนายกฯสมใจอยาก มันยังกล้าโหลยโท่ยเละเทะ เหลือกำลังลาก เพราะนอกจากเอาแต่เกาะโพเดียมแอ๊คท์ท่าแล้ว ที่เหลือก็มีแต่รายการโชว์โง่ไม่เว้นแต่ละวัน

มาถึงวันนี้ ที่เคยด่าว่าคนอื่นเอาไว้เสียๆหายๆ ล้วนแต่เข้าตัวเองหมด หาว่าเขาโกงทั้งโคตร ทั้งๆที่ยึดอำนาจมาแล้ว ยังหาหลักฐานเอาผิดเจ๋งๆไม่ได้ แม้แต่คดีเดียว แต่ที่ประจานอยู่ทนโท่คือพวกตัวเอง ที่งาบกันจนพุงปลิ้น กินกันจนพุงกาง ฟาดกันเนื้อๆเน้นๆ ไม่มีเกรงใจประชาชน

มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงจะเอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่ เพราะไม่ใช่แค่ฝ่ายอำมาตย์เท่านั้นที่หลังพิงฝา แม้แต่ฝ่ายประชาชนที่เคยพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงมาโดยตลอด ก็ชักจะเลือดเข้าตา ออกมาฮึ่มฮั่มใส่อำมาตย์ อย่างชนิดที่ว่า ไม่มีใครกลัวใครกันแล้ว

ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นธรรมโดยพร้อมเพรียงกันขนาดนี้ ยิ่งไม่มีครั้งไหนที่ประชาชน สามารถมีประชามติโดยไม่ต้องนัดหมายว่า มีแต่สองมือของเราเท่านั้น ที่จะพลิกแผ่นดินไทย ให้เป็นธรรมและเป็นทอง อย่างแท้จริง

เอาเถอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อเห็นว่าสมควรรบ ก็จงรบเถิดอรชุน เพียงแต่ว่าต้องประเมินสถานการณ์ให้เป๊ะๆ ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง รบให้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา วางแผนให้ดี มีก๊อกหนึ่ง สอง สาม เอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด ที่พูดมานี้ ไม่ใช่ว่ากลัวแพ้ เพียงแต่ว่ายังเสียวไม่หายจากคราวสงกรานต์ทมิฬ

ธรรมชาติของเสื้อแดงนั้น แดงแล้วแดงเลย ต่อให้รบแพ้สักร้อยครั้ง ก็ยังเป็นแดง แม้กระนั้น ก็ยังไม่อยากให้ไปเสียเลือดเนื้อกันโดยใช่เหตุ ชีวิตนักรบประชาธิปไตย 1 ชีวิตนั้น ประเมินค่าไม่ถูก ต่อให้แลกชีวิตสุนัขได้เป็นร้อยก็งั้นๆ คิดสะระตะยังไง ก็ยังขาดทุนบักโกรกอยู่ดี

จึงต้องทำใจให้เป็นกลาง ไม่รักใครจนเลยเถิด หรือชังใครจนน่าเกลียด แล้วใช้หมองนั่ง'มาธิ พินิจพิเคราะห์ดูให้ดี ทบไปทวนมาจนเห็นภาพได้ชัดเจน ว่าใครกันแน่ที่เป็นแม่ทัพตัวจริงของฝ่ายศัตรู ต้องรู้เขารู้เรา จึงจะรบได้ถึงกึ๋น ถ้าขืนสุ่มสี่สุ่มห้าชี้เป้าแบบเครื่อง GT200 ต่อให้รบชนะยึดเมืองได้ ก็ยังแพ้อยู่ดี เพราะถ้าถึงเวลานั้น...

อำมาตย์หงายโจ๊กเกอร์ออกมา มันจะรับมุกกันไม่ทัน

วโรทาห์: 29 ม.ค. 53

Thursday, January 14, 2010

เขายายเที่ยง ยุทธการงัดอ้อยออกจากปากช้าง

เละตุ้มเป๊ะ ดูไม่จืดจริงๆ เซ่อวินสตัน เชอร์ชิลแห่งเมืองไทย หลังจากโดนเสื้อแดงเค้นคอจนตาโปน ยอมคายเขายายเที่ยงออกมาอย่างเสียไม่ได้ พร้อมเลือดกำเดาที่พุ่งกระฉูดออกมาเป็นสาย ก็พูดกันดีๆแล้วไม่รู้ฟัง มันเลยต้องลงมือลงไม้กันบ้าง หวังว่าคงจะเข้าใจ

เคราะห์ยังดีที่ อัยการสูงปรี๊ด ท่านมาถูกที่ถูกเวลาอย่างไม่น่าเชื่อ ตัดสินใจลงชนแทนวัว สั่งไม่ฟ้องมันดื้อๆ อ้างว่าไม่ได้เจตนา ไม่งั้นมีหวังได้เห็นองคมนตรี ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ประเดิมศักราชใหม่ ให้อร้าอร่ามกันไปเลย

เรื่องของเรื่อง เป็นถึงองคมนตรี แถมยังคั่วตำแหน่งประธานโครงการอนุรักษ์ป่าเขาใหญ่ อีกต่างหาก แต่ดันไปงาบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้าให้ มันเลยดูไม่จืดอย่างที่เห็น

เคยได้ยินคลับคล้ายคลับคลาว่า นักการเมืองนั้น ต้องมีต่อมจริยธรรมโตกว่าคนปกติ แต่องคมนตรีคงไม่จำเป็น ก็ขนาดเรื่องแดงโร่ออกอย่างนี้ ยังทำทู่ซี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ยอมคืนซะงั้น แค่บอกว่า "พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากรมป่าไม้ชี้ขาดลงมา"

แหม..ถ้าแน่จริง ก็ประกาศไปเลยว่า "ไม่พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าใครจะชี้ขาดลงมาก็ตาม"

สงสารแต่กรมป่าไม้ ที่อยู่ดีๆต้องไปอุ้มเผือกร้อนเอาไว้ จนหน้าเขียวหน้าเหลือง เลยขอต่อเวลาทดเจ็บไปอีก 60 วัน แล้วค่อยตัดสินชี้ขาด ว่าจำเป็นต้องคืนหรือไม่

นับเป็นการกระทำ 2 มาตรฐานที่น่าเกลียดน่าชังเป็นที่สุด ทีตาสีตาสารีบผวาเข้าเอาใจ ไม่ทันข้ามวันก็ได้ติดคุกสมใจอยาก แต่กับผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้า ดันปล่อยให้นั่งลุ้นเสียวอยู่ได้ตั้ง 60 วัน มันจะอะไรกันนักกันหนา

เขาถึงว่า สอนใครต่อใคร สอนได้หมด แต่สอนตัวเองมันยากอย่างนี้นี่เอง ก็แหม..บ้านหลังงาม ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ที่ดินทำเลทอง ของดีๆทั้งนั้น องคมนตรีก็เสียดายเป็นเหมือนกัน

อะไรไม่ว่า ขนาดจับได้คาหนังคาเขาถึงขั้นนี้ จนแล้วจนรอด ยังไม่ยอมลาออกจากองคมนตรี ไหนเห็นจ้อกันจังว่า รักสถาบันจะเป็นจะตาย ในเมื่อรู้ตัวว่าเป็นตำบลกระสุนตก ก็น่าจะเด้งหลบไป ให้ไกลๆจากสถาบันหน่อย แต่นี่ดันมาล่อเป้า กะให้กระสุนตกใส่สถาบัน จะได้หาเรื่องจับคนยิงยัดคุกซะให้เข็ด

เสื้อแดงนี่ก็แรงไม่ตกจริงๆ ยิ่งหลังๆมานี้ ได้น้ำเลี้ยงจาก 2 มาตรฐานของอำมาตย์ ถึงกับโตวันโตคืน จนใหญ่ยิ่งกว่าช้าง ออกหมัดแต่ละที แหม..มันได้น้ำได้เนื้อ เหลือกำลังลาก

แต่แน่นอนว่า ไปงัดอ้อยออกจากปากช้าง ช้างมันก็ต้องสู้สุดฤทธิ์เป็นธรรมดา เชื่อเลยว่า ต่อจากนี้ไปเกมต้องแรงขึ้น ชนิดถึงลูกถึงคนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าถ้าพูดถึงลูกโหดแล้ว ลุงยุทธแกเป็นรองก็แค่ป๋าคนเดียว ไม่เชื่อไปถามทหารกะเหรี่ยงดูได้

อย่างว่า การยุทธครั้งนี้ ฝ่ายวางแผนคงไม่ได้ต้องการแค่อ้อย แต่หวังผลเลยเถิดไปถึงการเปิดโปงเวทย์ไสยมนต์ดำ ที่พญาช้างสารพยายามเสกสรรค์ปั้นแต่ง เพื่อแหกตาชาวบ้านว่า ช้างโขลงนี้ ดื่มกินคุณธรรมเป็นอาหารหลัก

แต่เอาเข้าจริง ก็ฟาดไม่เลี้ยงเหมือนกัน

พูดถึงเขายายเที่ยงทีไร อดไม่ได้ต้องนึกถึงลุงจิ๋วทุกที หวังว่าคงยังจำกันได้ เพราะเรื่องเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่ปี ตอนนั้นลุงยุทธแกกำลังขึ้นหม้อในตำแหน่งนายกฯ เพราะป๋าแกออกมาเชียร์แขกให้ ว่าคนนี้ไหว้ได้ ไม่ต้องกลัวเสียมือ

อยู่ๆลุงจิ๋วไม่รู้มาจากไหน มาถึงก็ปล่อยของเรื่องโบกี้รถไฟ บอกให้นักข่าวไปถามนายกฯว่า ของนี้ท่านได้แต่ใดมา

เรื่องหมูๆอย่างนี้ มีหรือลุงยุทธจะไม่โดดงับ รีบรวบรวมเอกสารแล้วนัดนักข่าวมาฟังชี้แจง รวดเร็วฉับไวอย่างไม่น่าเชื่อ เผลอแผล็บเดียว โดดขึ้นโพเดียมออกทีวีอธิบายจ๋อยๆ หน้าโปรเจ็คเตอร์ที่ฉายภาพบ้านหลังใหญ่โต พร้อมโบกี้รถไปตั้งเด่นเป็นสง่า

สื่ออำมาตย์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่แน่ใจว่า ถึงขนาด"รวมกันเฉพาะเกือก"หรือเปล่า ผลปรากฎว่า..เคลียร์ เรื่องโบกี้รถไฟ ไม่มีใครค้างคาใจแม้แต่น้อย

แต่เจ้ากรรม ดันมาอื้อฮือ..โอ้โฮ ตรงที่ตั้งของโบกี้รถไฟ ที่ท่านถ่ายรูปมาขึ้นจอให้ดูกันจะๆนั่นแหละ ว่าบ้านอะไรมันจะใหญ่โตสวยงามปานนั้น แถมวิวทิวทัศน์ก็สุดยอด อย่างกับอยู่ในอุทยานแห่งชาติยังไงยังงั้น

กว่าจะรู้ตัวว่า ถูกขงเบ้งหลอกให้ออกมาเปิดโปงเรื่องเขายายเที่ยง ก็ลอกคราบตัวเองออกจอทีวีซะล่อนจ้อน ไม่เหลือแม้แต่กกน. ส่งให้บิ๊กจิ๋วนั่งหัวร่องอหายอยู่หน้าจอทีวี จนป่านนี้ยังอำกันไม่เสร็จ

แปลกแต่จริง ที่งานนี้มีแต่พวกทรยศชาติ ดาหน้าออกมาทวงคืนสมบัติชาติ ในขณะที่พวกกู้ชาติ ที่เคยทวงคืนดาวเทียมอยู่เหย็งๆ กลับนั่งอมสากกันเงียบกริบ ก็ขนาดป๋าจอมเชียร์แขก ยังนั่งแก้มตุ่ย ไม่รู้ว่าอมอะไรอยู่ ก็เพราะ 2 มาตรฐานอย่างนี้นี่เอง บ้านเมืองมันถึงได้ทุรยุค

ร่ำๆว่าจะนองเลือดซะให้ได้

วโรทาห์: 14 ม.ค. 53

Tuesday, January 5, 2010

ลุ้นระทึก 365 วันอันตราย..ปีเสือลำบาก

เปิดฉากบทความแรกของปีนี้ ต้องขอกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่ 2553..ปีแห่งความหวังว่า น่าจะมีลุ้นชนิดม้วนเดียวจอด จากการที่หลายฝ่ายออกมาวิแคะตรงกันเด๊ะๆว่า หลังจากที่เย่อกับอำมาตย์มาหลายปี มาวันนี้ ประชาชนชักจะเล่นเป็น

จึงฟันธงโดยพร้อมเพรียงว่า น่าจะมีเสียว ส่วนจะเสียวมากเสียวน้อย เสียวปานกลาง หรือว่าเสียวหน้าเสียวหลัง ก็ต้องไปถามอำมาตย์กันเอาเอง

ปีวัวบ้า เราได้รัฐบาลทุย ออกมาลุยถั่ว ไล่ขวิดประชาชนจนแตกฮือ ล้มตายหายสาบสูญไปไม่น้อย ประชาชนมือเปล่าได้แต่ยืนมองทำตาปริบๆ สู้จำกล้ำกลืนข่มความเจ็บช้ำไว้ภายใน หวังว่าจะเอาคืนทบต้นทบดอกเมื่อถึงคราฟ้าเปลี่ยนสี นารีเปลี่ยนใจ

รัฐบาลภาคต่อของคมช. ลูกไล่อำมาตย์ที่ถูกส่งมาแก้มือ ด้วยความเสียดายที่ว่า ตอนนั้นไม่กวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก ทำให้ต้องงึกๆงักๆอยู่ทุกวันนี้ จึงไม่แปลก ที่ผลงานจะประจานตัวเองว่า นอกจากกู้เอามายัดแล้ว หน้าที่หลักก็คือไล่ล่าทักษิณ กับไล่ยิงเสื้อแดง คงกะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนไทย ให้มันหมดประเทศ ก็ไม่รู้

แต่อย่างว่า คนมันหล่อหลักลอย ลอยไปก็ลอยมา เลยยิ่งแก้ยิ่งยุ่งขิง กลายเป็นลิงแก้แห ยิ่งกวาดล้างเสื้อแดง ยิ่งแดงเถือกไปทั่วบ้านทั่วเมือง เล่นเอาป๋าอยากจะบ้าตาย วันละหลายๆครั้ง

สุดท้าย ถึงท้ายปี ยังอุตส่าห์มีลุ้นปาฏิหาริย์ ถึงขนาดสุนัขจะออกลูกเป็นลิง ความยุติธรรมจะกลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทย แต่หลังจากที่รอแล้วรอเล่า ฟาดแห้วรอหมดไปหลายเข่ง ถึงได้หูตาสว่างโร่ว่า

ปาฏิหาริย์มีจริง แต่อยู่ที่กำปั้นทั้งสองของประชาชน

ท้ายสุดจริงๆ ถึงได้มีข่าวดี ที่ประชาชนพอจะยิ้มออกได้บ้าง เมื่อผลสำรวจของอีแอบโพลล์ ทะลุ่มทะลุยฟันโช๊ะออกมาว่า ปีเก่าที่ผ่านไป ไม่มีอะไรที่ประชาชนจะสุขใจไปกว่า ข่าวที่ว่าปีใหม่นี้ ระบอบอำมาตย์ กำลังจะบรรลัย

เอ้า..เอาไงก็เอากัน ล้างแผ่นดินกันซะที คงจะดีไม่หยอก ไหนๆก็ไหนๆยังไงก็เอาซะให้สะเด็ดน้ำ ไม่งั้นก็ยักแย่ยักยันกันไม่เลิก จริงอยู่ที่ว่าบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้า แต่มันก็ต้องสง่างามพอสมควร ไม่ใช่เดินขาถ่างทั้งริดสีดวงคาดาก จะทำงานทำการอะไรก็ไม่ถนัด

คุ้มดีคุ้มร้าย ฝีมะม่วงปะทุออกมาที แทบจะวายป่วงกันทั้งประเทศ

ไม่ต้องมานิรโทษกรรม ให้มันเมื่อยตุ้ม เมื่อมันไม่ควรจะผิด มันก็ต้องไม่ผิดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่มาเขียนกฎหมา_ให้มันผิด แล้วค่อยนิรโทษกรรมกันภายหลัง ทีลากปืนออกมาเขียนกฎเอาโทษย้อนหลัง ยังทำได้ ถ้าประชาชนจะเขียนใหม่ให้ถูกต้อง มันก็สมควรแล้ว

สรุปว่า ปีใหม่หรือปีเก่า ก็ไม่ได้สำคัญไปกว่า ประชาชนจะได้ประชาธิปไตยคืนมาเมื่อไหร่ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ จะคืนให้แต่โดยดี หรือต้องให้ใช้กำลังกระชากเอา แต่ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมา ท่าทางว่ามันจะชอบอย่างหลัง

ทำเป็นเล่นไป ปีใหม่นี้เป็นปีเสือลำบาก ประชาชนหลังพิงฝา อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ถึงวันนี้ สงครามประชาชนจึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น จะจริงหรือไม่ จะใช่หรือมั่ว ก็เล่นเอาตาแก่ผมขาว คนที่ไม่เค้ยไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองซักนิด ถึงกับสะดุ้งโหยง กระย่องกระแย่งขึ้นมาสวมเครื่องแบบ 3 เหล่าทัพแทบไม่ทัน

ปีนั้นเล่นเรื่องม้ากับจ๊อกกี้ มาปีนี้ยังไม่วายเล่นของสูง แถมด้วยปลุกพระสยามเทวาธิราช ขึ้นมาหลอกหลอนประชาชน เป็นการใหญ่

นับเป็นการเพ้อเจ้ออย่างเสมอต้นเสมอปลายที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ว่าได้ เพราะถ้าพระสยามเทวาธิราชมีจริง ป่านนี้พวกแก๊งค์กะโหลกกะลา มีหวังถูกไล่ถีบไปสุมหัวกันในนรก ไม่ได้มาเสนอหน้าให้เขาด่าพ่อล่อแม่อยู่ทุกวันนี้หรอก

ประวัติศาสตร์มันต้องเปลี่ยน ยังไงก็ต้องเปลี่ยน ถ้าใครไม่ร่วมจารึกประวัติศาสตร์หน้าสำคัญหน้านี้ คงต้องเสียใจไปชั่วลูกชั่วหลาน

โลกล้อมประเทศ ประชาชนล้อมอำมาตย์ วันนี้เล่นกันแรง ถึงขั้นสวรรค์ล้อมนรกกันแล้ว เมื่อลุงหมักตัดสินใจขอวีซ่า ไปปูเสื่อรอเช็คบิลอยู่บนสรวงสวรรค์ เรียกว่า ต่อให้พวกอำมาตย์วายวอดเหลือแต่วิญญาณ ยังไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ

งานนี้มีแต่ตั๋วทัวร์นรก One way ticket to the hell

แตกหัก อ่านว่าแตกหัก ดูยังไงก็แตกหัก ในเมื่อคนมันเอาแต่ได้ ยังไงก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ทีพวกเดียวกันเสียเปรียบ มันขอให้ประชาชนเลือกข้าง แต่พอพวกมันได้เปรียบ มันเรียกร้องให้สมานฉันท์

ตอนที่พวกเหลืองประท้วง มันช่วยกันลงแขก ขย่มให้รัฐบาลลาออก พอฝ่ายตรงข้ามประท้วง มันเรียกร้องให้ปราบปรามอย่างเด็ดขาด

ทีพวกตัวเองพูดใส่ไฟได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีปัญหา แต่ฝ่ายตรงข้ามห้ามแอะแม้แต่คำเดียว กลัวประชาชนสับสน คงคิดแบบโง่ๆว่า ถ้าปิดหูปิดตา ปิดปากประชาชนได้ บ้านเมืองต้องอยู่ใต้อุ้งเท้าของพวกมัน

ขนาดตุลาการยังออกมารับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า มี 2 มาตรฐานสำหรับคนดีกับคนชั่ว แต่ไม่ได้บอกว่า ใครดีใครชั่ว ใครเป็นคนตัดสิน

จะบ้าตาย แค่นี้ก็คิดกันไม่เป็น

ความยุติธรรมมันต้องมีให้สำหรับทุกผู้ทุกคน อย่างเสมอภาค ไม่ว่าคนดี คนเลว หรือผู้ร้ายใจทมิฬ ก็ต้องได้รับความยุติธรรม โดยเสมอหน้ากัน ไม่งั้นจะมีศาลเอาไว้ทำไม ในเมื่อแค่จ่าแฮรี่ก็สามารถชี้เป็นชี้ตาย ส่งคนร้ายไปลงนรกได้แล้ว

คงลืมไปว่า ความยุติธรรมคือลมหายใจของตุลาการ ถ้าไม่ต้องมีความยุติธรรม ก็ไม่ต้องมีตุลาการ ความยุติธรรมแบบเลือกได้ ชาวบ้านเขาจัดกันเองเป็น ไม่ต้องไปจ้างใคร มานั่งชี้หน้าประชาชน ให้มันเปลืองภาษีโดยใช่เหตุ

ยิ่งประชาชนคนส่วนน้อยที่หลงผิดด้วยแล้ว ยิ่งต้องสำเหนียกกันให้หนักว่า วันนี้ท่านสนับสนุนให้ความอยุติธรรมย่ำยีฝ่ายตรงข้ามได้ วันหน้าก็เตรียมรับเละเอาไว้ได้เลย ถ้าไม่เจอกับตัวเอง ก็ต้องโดนกับลูกหลาน

ถ้าฉลาดก็ปล่อยวางความเกลียดทักษิณเอาไว้ก่อน แล้วออกมาร่วมกันทวงคืนความยุติธรรมสู่สังคมไทย เพื่อที่ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาเสียเลือดเนื้อในภายหลัง

เมื่อเสียงกลองรบระรัวลั่น อำมาตย์น้อยใหญ่ก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ช่วงหลังมานี้ กระแสคลั่งชาติจะรุนแรงเป็นพิเศษ อะไรๆก็เมืองไทยดีซะเหลือเกิน..น่าภาคภูมิใจตายละ!

เมืองไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร นอกจากเมืองขึ้นของระบอบอำมาตย์

คนไทยไม่เคยเป็นขี้ข้าใคร นอกจากขี้ข้าอำมาตย์

วโรทาห์: 5 ม.ค. 53