Tuesday, December 15, 2009

เต๋า-007 เข็ดจริงๆ ให้ดิ้นตาย

บินกลับบ้านมานอนเลียแผลใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับยอดชายนายคนยอดซวยแห่งปี 2552 ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ หรือเต๋า-007 จารชนจำเป็นซึ่งตกที่นั่งจำยอม รับหน้าที่จารกรรมแผนการบินของอดีตนายกฯโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เป็นการหักมุมปิดฉากแบบแฮ๊ปปี้เอนดิ้งสำหรับสองแม่ลูก แต่สำหรับมาร์คแล้วมันไม่ใช่ เพราะถูกปล่อยให้ค้างเติ่ง จนต้องวิ่งแจ้นไปหาช่างรองเท้า ให้ช่วยทำศัลยกรรมใบหน้า ที่แตกยับเละเทะหมอไม่รับเย็บ

ก็ไหนว่าแผนการบินไม่ใช่ความลับ แล้วไหงถึงโดนจำคุก 7 ปี พร้อมอ๊อปชั่นจับปรับอีกเป็นแสน นี่ถ้าไม่ได้ลุงจิ๋วกับน้าแม้ว สองแรงแข็งขัน ช่วยกันพายช่วยกันจ้ำ ป่านนี้นักโทษชายศิวรักษ์ มีหวังยังโซ้ยข้าวแดงอยู่ที่คุกไปรซอ ไม่รู้จักเลิก

ยังดีที่ไม่ไปเชื่อลมปากตาเฒ่าชวน ที่งวดนี้มาแนวพหูสูตร สู่รู้ไปหมดว่านายเต๋าไม่ผิด เลยยุให้สู้คดีสุดลิ่มทิ่มประตู ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง เข้าไปนั่น แต่ยุยังไงก็ยุไม่ขึ้น นอกจากว่าทางเขมรยินยอมให้ตาแก่ปากจัดคนนี้ ไปติดคุกแทนระหว่างอุทธรณ์ พร้อมทั้งให้เบิกงบโกงเข้มแข็งไปสู้คดีได้ โดยไม่ต้องควักเนื้อเอง

ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลลากยาวไปซัก 20-30 ปี เต๋าก็บ่ยั่น

แต่จะว่าไป รัฐบาลไทยก็ไม่ได้นิ่งดูดายซะทีเดียว มีความพยายามช่วยจริงช่วยจัง จนคุณแม่ต้องขอร้องว่า ให้ช่วยไปไกลๆหน่อย ฉันยังไม่อยากให้ลูกติดคุกหัวโต เพราะพี่แกดันหนักไปทางช่วยด่าประจานรัฐบาลเขมร มากกว่าที่จะช่วยเกี้ยเซี้ย

เรื่องของเรื่อง จนป่านนี้คนไทยยังไม่มีโอกาสรู้เรื่อง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้แต่ว่าฟังรายงานจากสื่อไทยแล้วปวดหัวมึนตึ้บ ซัดพาราไปเป็นกำมือยังไม่หายมึน

ก็เครื่องลงจอดไปแล้วตั้ง 20 นาที ทีวีเขมรก็ถ่ายทอดให้เห็นกันจะๆ แต่นายคำรบยังอุตส่าห์โทร.ไปล้วงความลับจากนายเต๋าว่า เครื่องบินทักษิณลงหรือยัง แถมยังโทรซ้ำโทรซากตั้ง 3 ครั้ง ลากยาวไปถึง 7 นาที มันมีอะไรให้คุยกันนักกันหนา นอกจากคำว่า..ลงจอดตั้งกะปีมะโว้แล้ว

ฝ่ายนายเต๋าก็อินกับบทบาทไปหน่อย เล่นย่องเข้าไปจิ๊กข้อมูลจากหอบังคับการบิน แล้วแทนที่จะต่อสายตรง ยืนรายงานจ๋อยๆอยู่ตรงนั้น เพราะมันไม่ใช่ความลับซักหน่อย แต่กลับทำกระมิดกระเมี้ยน แอบจดใส่ฝ่ามือออกมา แค่คำว่า CL 30 แล้วยืนหลบมุมโทรศัพท์รายงานเข้าหานายคำรบ

กับคำถามว่าเครื่องลงหรือยัง และคำตอบว่า CL 30 ยังล่อไปตั้ง 7 นาที เสียค่าโทรศัพท์ไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่รู้ว่าเท่าไหร่

นี่ถ้าข้าราชการไทยมีไหวพริบปฏิภาณซักหน่อย..เปิดทีวีเขมรหาข่าวซะ มันก็ไม่มีเรื่อง

งานนี้ต้องบอกว่าเสียค่าโง่อย่างแรง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นายเต๋าจะไม่เอะใจว่า มันจะเอาข้อมูลการบินของทักษิณไปทำไมกัน ทั้งๆที่เขากำลังฮึ่มฮั่มกันอยู่ แสดงว่ารู้อยู่เต็มอกว่าไม่ชอบมาพากล แต่ก็ยังทำ อาจจะเป็นเพราะว่าทางเลาขาทูต รับประกันซ่อมฟรีให้ ว่าไม่มีเรื่อง

ไม่นึกว่า พอเกิดเรื่องขึ้นมา กระทรวงต่างประเทศแค่บอกว่าทำไปตามกรอบของการทูต แต่ปล่อยให้นายเต๋าทำไปตามกรอบของขี้ทูต จนถูกจับยัดเข้าซังเตเขมรซะ..หายโง่เป็นปลิดทิ้ง

นี่ถ้านายคำรบไม่มีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครอง เรื่องคงจะง่ายขึ้นเยอะ แค่ตำรวจเขมรจับไปดีดไข่เค้นหาความจริงแป๊บเดียว เรื่องก็แดงโร่ลามปามไปถึงใครต่อใคร ที่กำลังมุดหัวหลบมุมอยู่ในตอนนี้

แต่ถึงยังไง สุดท้ายนายเต๋าก็ได้ออกมาลอยนวลโดยไม่ต้องคอยนาน เล่นเอาใครต่อใครหนาวๆร้อนๆ จับไข่สั่นกันเป็นแถว

ก็คนระดับนายกรัฐมนตรี ยังต้องออกมาตีกัน ห้ามศิวรักษ์ป้ายสีคำรบเป็นอันขาด ทำให้ชาวบ้านเขาเอะใจว่า มันรู้ได้ยังไงว่าคำรบบริสุทธิ์ แล้วรู้ได้ยังไงว่า ศิวรักษ์จะป้ายสี

ยิ่งพยายามดับไฟไม่ให้ขยายผล บอกว่า มันควรจะจบได้แล้ว ยิ่งแปลกไปกันใหญ่ เพราะผิดวิสัยของแมลงสาบที่เคยประพฤติปฏิบัติกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ ที่ถ้าพวกตัวได้เปรียบ เป็นต้องตามกระทืบซ้ำ ให้จมธรณี ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด

แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อเรื่องมันเข้าตัว กระแส"จัดฉาก"ก็ถูกโหมประโคมเป็นการใหญ่ เริ่มจากวอร์รูมอำมาตย์ ผ่านสื่อไร้จรรยาบรรณ โพลล์แมลงสาบ แล้วก็บรรดากองเชียร์ ต่างส่งเสียงหอนรับกันเป็นแถว

ขอเพียงมีใครจุดพลุมาว่าจะเอายังไง ทุกคนก็พร้อมที่จะตามแห่ ตะแบงหาเหตุผลเอามาประกอบจนได้ ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่แค่ไหน ไม่ต้องไปใส่ใจให้มันเมื่อยตุ้ม

ก็ขนาดฮุน เซน นำนายเต๋ามาส่งให้ถึงมือแม่ มันยังเอามาเป็นประเด็น ทำนองว่า ปฏิบัติต่อนักโทษดีเกินกว่าเหตุ เพราะน้าฮุนแกไปโอบหลังโอบไหล่นายเต๋า แทนที่จะโดดถีบเข้าแสกหน้า ฐานที่ทำจารกรรม ล้วงคองูเห่าเขมร

อุทาหรณ์เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ตราบใดที่คนไทยยังโง่ไม่เลิก ตราบนั้นก็อย่าหวังว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้

แต่ดูแล้วยังไงเมืองไทยก็คงต้องดักดานไปอีกหลายปี จนกว่าจะมีใครตายโหงตายห่าให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว สิ้นเวรสิ้นกรรมต่อคนไทยทั้งชาติ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ยังไม่รู้ว่าประชาชนจะอดทนได้แค่ไหน

เป็นธรรมดาของอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลาย ผู้คนก็วิปริตผิดเพศ เห็นผิดเป็นถูก ไม่เอาเหตุเอาผล เอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง เมื่อฝ่ายที่เสียเปรียบเรื่องเหตุผล ถือดีว่ามีปืนอยู่ในมือ จึงช่วยไม่ได้ ที่อีกฝ่ายก็ต้องหันไปหาทางเลือกที่ไม่อยากเลือก นั่นคือกองกำลังติดอาวุธ

ในเมื่อตัดสินกันด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ ก็คงต้องไปจบกันที่ปลายปากกระบอกปืน

วโรทาห์: 15 ธ.ค. 52

Wednesday, December 2, 2009

เมื่อเด็กน้อยโดนน้าฮุนตบหน้าอีกฉาดใหญ่

ควันหลงจากศึกอาเซียนซัมมิท ยังไม่มีทีท่าว่าจบลงได้ง่ายๆ หลังจากที่เจ้าภาพเปิดศึกแลกแข้ง กับแขกบ้านแขกเมืองอย่างเมามัน จนกระทั่งป่านนี้ ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาเป็นระลอกๆ แต่ละดอกเล่นเอาท่านประธานอาเซียน ถึงกับหน้าสั่นฟันยางกระเด็น ดูไม่จืดจริงๆ

ก็เรื่องการระงับเงินกู้ 1,400 ล้านบาท ที่ฝ่ายไทยงัดออกมาขู่เขมรนั่นไง แค่ยังไม่ทันขยับ น้าฮุนฯก็สวนกลับทันควันว่า ไม่กู้ไม่เก้อมันแล้ว เงินแค่นี้เก็บไว้งาบกันเองเหอะ เขมรเขามีปัญญาหาของเขาได้

ออกหมัดซัดกันโต้งๆอย่างนี้ เล่นเอาฝ่ายข่มขู่ ถึงกับตาเหลือกตาค้างซะเอง รีบแก้ตัวเป็นพัลวันว่า ใครบอกไม่ให้กู้ มันเป็นการเข้าใจผิดชัดๆ สงสัยว่าที่ปรึกษาใหญ่คือทักกี้ จะไปซี้ซั้วยุแหย่อะไรเข้าให้ซะแล้ว

ว่าไปนั่น! ขี้เยี่ยวไม่ออกขอให้นึกถึงทักษิณไว้ก่อน รับรองได้ว่าฉี่ง่ายถ่ายสะดวก ไม่มีคำว่าผิดหวังจริงๆ

เรื่องนี้คงต้องไปฟังทัศนะจากไอ้ปื้ดเด็กวัดอาวุโส ในฐานะที่ผ่านหลักสูตรอ๊อกเหล็กมาหมาดๆ จึงอยากเสนอหน้าให้คำแนะนำฟรีๆ กับช่างอ๊อกเหล็กรุ่นพ่อว่า ในเมื่อมันยุได้ เราก็น่าจะยุมั่ง

โดยเฉพาะเรื่องยุให้รำตำให้รั่ว ฆ่าผัวมันเสียเอาเมียมันมา ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของพรรคประชาธิปัติย์เลยก็ว่าได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะส่งใครไป ก็รับประกันซ่อมฟรีว่า น้าฮุนต้องหันกลับมา เห็นกงจักรเป็นดอกบัว อย่างไม่ต้องสงสัย

หรือถ้าจะให้ชัวร์จริงๆ ก็ส่งแป๊ะไปลุยถั่วด้วยตัวเอง ถ้าเขมรไม่แตกเป็นเสี่ยงๆ เจริญรอยตามตายแลนด์ที่กำลังชักพะงาบๆอยู่ ก็ให้มันรู้กันไป

เรื่องของเรื่อง กว่าที่จะมีวันนี้ได้ ต้องถือว่ามาร์คทำเพื่อประเทศชาติจริงๆให้ดิ้นตาย เมื่อสมัยเป็นฝ่ายค้านอุตส่าห์แท็คทีมกับพวกกุ๊ยข้างถนน ด่าฮุนเซนซะสาดเสียเทเสีย เพียงเพื่อหวังล้มรัฐบาลลุงหมักเอ๊ย!..เพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร อย่างน้อยไม่ได้ตัวปราสาทกลับมา ก็ขอให้ได้ผืนดินใต้ปราสาทก็ยังดี

ไม่นึกว่าวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อป๋าดันให้มาตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ หอกทมิฬมันจะย้อนกลับมาแทงทมิฬอย่างเจ็บแสบ เล่นเอาน้ำตาไหลพรากๆ ชี้หน้าโทษคนโน้นคนนี้เป็นการใหญ่

ต้องยอมรับกันว่า น้าฮุนแกก็เลือดเย็นซะเหลือเกิน แทนที่จะออกอาการให้เห็น เป็นการเตือนกันก่อน แกกลับเล่นตีลูกบื้อ จะด่าว่ายังไงแกก็เฉย เอาคนที่ด่าแกมาเป็นนายกฯก็เฉย แถมตั้งกุ๊ยร่วมแก๊งค์มาเป็นรมต.ต่างประเทศ ก็ยังเฉยอีก

แต่เฉยของแกดันเป็นเฉยมีงาน หลังจากที่หลอกฟันเอาวัตถุโบราณคืนไปได้หลายสิบชิ้นแล้ว น้าฮุนก็จัดการลากเข้าคิลลิ่งฟิลด์

พอได้จังหวะจะโคนก่อนงานอาเซียนซัมมิทจะเริ่มขึ้น แกเลยถือโอกาสออกอาวุธหนักอย่างไม่ปรานีปราศัย เป็นการเอาคืนชนิดทบต้นทบดอก แถมบวกกำไรไปอีกบานตะเกียง

ทั้งแบะท่าเวลคัมเพื่อนแม้ว อยากมาเขมรเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น จะสร้างบ้านพักหรูหราไว้คอยท่า แถมจะตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอีกต่างหาก

หะแรกก็นึกว่าแกพูดเล่น ที่ไหนได้ งานนี้เล่นออกเป็นพรก.ฉุกเฉิน ลงพระนามโดยพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี เรียกว่าทำซะเป็นงานช้าง เพราะไม่ต้องการคำปฏิเสธจากท่านทักษิณ งานนี้ต้องถือว่า เป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เป็นอย่างดี

แล้วเรื่องอะไรท่านแม้วจะปฏิเสธให้โง่ มิใยที่สื่อขี้ข้าอำมาตย์จะร่ำร้อง กราบไหว้วิงวอนแกมบังคับทุกวิถีทาง อย่างไร้ผล เพราะถ้าทำอย่างนั้น นอกจากจะเป็นการหักหน้าเขมร ทำให้เสียไมตรีกันเปล่าๆแล้ว ก็ใช่ว่าจะได้ดิบได้ดีจากพวกอำมาตย์ซะเมื่อไหร่

ว่าแล้วก็ขี่เรือเหาะข้ามหัวใครต่อใคร ไปรับตำแหน่งอย่างเต็มภาคภูมิ

เท่านั้นแหละ! เหมือนลากเอาไข่ป๋าออกมาทุบๆๆๆๆ แล้วก็ทุบด้วยค้อนปอนด์อันเบ้อเริม เล่นเอาเจ้าของไข่ถึงกับออกอาการหน้าเขียวหน้าเหลือง ลงไปนอนชักดิ้นชักงอ..ช้าก..แหง่กๆๆๆ

แล้วมาร์คก็ยื่นหน้าไปเข้าทางตีนชนิดเต็มๆ เมื่อทำเป็นโชว์พาวคิดเร็วทำเร็ว เรียกทูตไทยประจำเขมรกลับเป็นการด่วน เลยเข้าทางน้าฮุนเขาก็เรียกทูตเขมรประจำไทยกลับมั่ง เป็นการประกาศก้องว่า "กูไม่กลัวมึง"

เล่นเอามาร์คหน้าชา ไปไม่เป็นอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหันรีหันขวาง ออกมาร้องไห้แงๆ ขอให้ไทยช่วยไทย ใครไม่ช่วยจะถือว่าเป็นคนขายชาติ

โพลล์ชั่วก็ตาลีตาเหลือกออกมารับมุก ชงลูกคลั่งชาติให้พวกอำมาตย์ยกซดกันโฮกฮือๆ แต่ที่ไหนได้ประชาชนกลับเฉยๆ

มันเรื่องอะไร ที่อยู่ๆคนไทยเกเรไปเที่ยวระรานเขา พอเขาเอาคืนมั่ง ดันวิ่งโร่มาขอให้คนไทยช่วย พอไม่ช่วยก็ไล่ให้ไปอยู่เขมร..ซะงั้น

อะไรไม่ว่า ดันมาทำงามหน้าอีก เมื่อไปจารกรรมข้อมูลเขาจนถูกจับได้ ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด ถ้าเรื่องไม่จริง ทำไมจะเป็นเดือดเป็นร้อน ถึงขนาดรมต.ต่างประเทศ ตาลีตาเหลือกบินกลับไทย ทั้งๆที่กำลังทำงานสำคัญ เตรียมการประชุมเอเป็คที่สิงคโปร์อยู่

มาถึงวันนี้ เรื่องมันเลยบานไม่รู้หุบไปซะแล้ว เพราะนโยบายต่างประเทศยุคโบราณ ที่ถือว่าเพื่อนบ้านเป็นลูกไล่ พอขู่แล้วเขาไม่กลัว คราวนี้เลยหาทางลงไม่เจอ

แถมมาเจอนายกฯเขมร ที่เป็นมวยเชิงสูงซะอีก เรื่องมันเลยไปกันใหญ่ ล่าสุดนี้น้าฮุนก็ออกมาพูดชัดถ้อยชัดคำว่า เขาไม่ได้มีเรื่องกับคนไทย แต่มีหนี้ต้องชำระกับเจ้า 2 ตัวนั่น และที่สำคัญยังตีแสกหน้ากันจังๆอีกว่า ไม่มีความสุขในการทำงานกับนายกฯวิ่งราวคนนี้

เป็นคำพูดที่แทงใจดำคนไทยซะเหลือเกิน เพราะอย่าว่าแต่น้าฮุนเลยที่ไม่มีความสุข แม้แต่ประชาชนคนไทยด้วยกันเอง ก็อยากจะบ้าตายวันละหลายๆครั้ง ตราบใดที่เจ้าเด็กแว้นคนนี้ ยังนั่งทับขี้บนตำแหน่งนายกฯ ยิ่งอยู่ไปยิ่งทำให้ทำให้นึกถึงคำกล่าวของเหลาจื่อที่ว่า

"การปกครองที่ดีนั้น ราษฎรจะไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง" แต่ภายใต้การปกครองของมาร์ค...

ไม่มีวันใดเลย ที่ราษฎรไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง

วโรทาห์: 2 ธ.ค. 52

Thursday, November 26, 2009

อำลาอาลัย..ลุงหมักของเรา

ในที่สุด เหตุการณ์ที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย อย่างเราๆท่านๆ รู้สึกประหวั่นพรั่นใจไม่อยากให้เกิดมาโดยตลอด ก็อุบัติขึ้นจนได้

นั่นคือ อสัญกรรมของนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ บุรุษชาติอาชาไนยจอมทระนงอย่างฯพณฯ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุทรเวช หรือลุงหมักของเรา เมื่อเวลา 8.48 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ซึ่งมาผิดที่ผิดเวลา ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเข้าสู่กลียุค อันเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนต้องการเสาหลัก ที่ทรงความเที่ยงธรรมอย่างท่านเป็นที่สุด

เหมือนสูญเสียแม่ทัพผู้กล้าไป ในท่ามกลางสมรภูมิรบ การคร่ำครวญพิรี้พิไร รังแต่จะบั่นทอนกำลังใจในการต่อสู้ โดยใช่เหตุ ดังนั้น แม้ว่าจะอาลัยรักเพียงใด คงทำได้แค่เพียงหลั่งน้ำตาอยู่ในอก แล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อสู้ต่อไป จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยมา

สมดังปณิธานของลุงหมัก ที่ต่อสู้เพื่อสิ่งนี้มาชั่วชีวิต

ธรรมชาตินั้นเที่ยงธรรมเสมอ ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เคยดึงดันหรือผ่อนปรน ต่อให้เป็นผู้ที่ประชาชนรักแสนรักเพียงใด เมื่อถึงเวลาต้องจากไป ก็ไม่ได้รับการยกเว้นอยู่ดี

สุดที่จะหาคำใดมากล่าว เพื่อสื่อถึงความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก และหวังพึ่งพิงในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องมาด่วนจากไป ทั้งๆที่ไม่ใช่เวลาอันควร แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่ออะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

บุคคลากรที่ทรงคุณค่าอย่างท่าน ใช่ว่าจะหาที่ยืนได้ง่ายๆ ในบ้านป่าเมืองเถื่อน อย่างบ้านนี้เมืองนี้ แต่ความดีของท่าน ก็ยืนหยัดท้าทาย ทนทานต่อแรงเสียดสี และกำชัยเหนือความชั่วช้า ที่โหมประดังเข้ามาย่ำยีอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุด

เพราะถือหลักว่า "ความกลัวทำให้เสื่อม" ลุงหมักจึงไม่เคยเสื่อม เพราะคนอย่างท่าน ไม่เคยเกรงกลัวใคร ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม หรือหน้าไหนทั้งสิ้น แม้กระทั่งบรรดาสื่อชั่ว ที่รวมหัวกันใส่ไฟ ทำลายล้างท่านอย่างป่าเถื่อน ไร้ความปราณี เหมือนฝูงหมาป่าที่รุมขย้ำพญาราชสีห์ อย่างเมามัน

แต่ถึงที่สุดแล้ว ธรรมะก็ชนะอธรรม ความดีก็ชนะความชั่ว กาลเวลาได้ออกใบรับรองความบริสุทธิ์ผุดผ่องให้ลุงหมัก ชนิดที่คงไม่มีนักการเมืองหน้าไหน ที่จะซื่อสัตย์ได้เท่านี้อีกแล้ว

อดีตของท่านจะเป็นอย่างไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่วาระสุดท้าย ท่านได้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ด้วยการยืนหยัดออกนำหน้าประชาชน ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า อำนาจมืดนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน

ถ้าไม่มีลุงหมักในวันนั้น ยังไม่รู้ว่า เสื้อแดงในวันนี้จะเป็นอย่างไร

ยังไม่ลืมวันวานอันหวานชื่น เมื่อลุงหมักถือธงนำหน้า นำพาพรรคพลังประชาชนออกปราศัยหาเสียง ท่ามกลางมวลมหาประชาชน ที่หลั่งไหลกันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน เพื่อฟังลุงหมักพูดอย่างออกรสออกชาติ พร้อมๆกับแสดงพลังให้เป็นที่ประจักษ์

วันนั้นคือวันที่ประชาชนฮึกเหิมเป็นที่สุด ทั้งรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความยินดี แผ่ซ่านไปทั่วทุกผู้ทุกคน กำแพงแห่งอธรรม ถูกพังทลายลง ด่านแล้วด่านเล่า จนในที่สุด พรรคพลังประชาชนก็เข้าเส้นชัยอย่างขาวสะอาด

ยังไม่ลืมวันที่พวกเราต้องหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ เมื่อเห็นลุงหมักใส่ชุดขาว เข้าพิธีรับตำแหน่งนายกฯ อย่างสง่าผ่าเผย

แต่มาวันนี้ ทั้งๆที่ห่างกันไม่นาน เรากลับต้องมาเสียน้ำตาอีกครั้ง กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ของลุงหมักผู้เป็นวีรบุรุษในดวงใจของเราทุกคน

ถ้าเลือกได้ ลุงหมักคงไม่อยากจากพวกเราไป ในสภาพนี้ และถ้าเลือกได้ พวกเราก็คงไม่ยอมให้ใครมาพรากลุงหมักไปเช่นกัน

แต่ในเมื่อมันเป็นชะตาฟ้าลิขิต ถึงยังไงเราก็ต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ แม้จะอาลัยอาวรณ์แค่ไหน ก็คงต้องปล่อยให้ลุงหมักไปพักผ่อนให้สบาย

ส่วนพวกเรา หลังจากเช็ดน้ำตาแล้ว ก็คงต้องรวบรวมพลังออกก้าวเดินต่อไป เพื่อสานต่อเจตนารมย์ของลุงหมัก ให้ลุล่วงให้จงได้

ไว้เสร็จศึกเมื่อใด คงได้ปลุกลุงหมักมาฉลองชัยให้สุดๆ

วโรทาห์: 26 พ.ย. 52

Thursday, November 12, 2009

รวมวาทะเด็ด จากสมเด็จฯฮุนเซน

กลายเป็นมวยถูกคู่ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างเด็กดื้อ ศิษย์หลายเสา กับฮุนเซน พระวิหารยิม เมื่อฝ่ายแรกเปิดฉากรัวหมัดใส่อย่างไม่ยั้ง ราวกับว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน

แต่พอฝ่ายหลังตั้งหลักได้ เท่านั้นแหละมาร์คเอ๊ย เรียกว่าเห็นดาว เห็นเดือน เห็นตะวันกันเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็ตามมาดูบทสัมภาษณ์ เฉพาะเนื้อๆเน้นๆ ที่คัดจากมติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ก็แล้วกัน

"ผมขอประกาศชัดๆ ให้คนไทยรู้ว่าเรื่องนี้รัฐบาลไทยมาหาเรื่องกัมพูชา"

"เรื่องที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชานี้ เป็นปัญหาระหว่างผมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยในปัจจุบันโดยแท้
..ก่อนที่จะพูดขอให้ศึกษาหาความรู้ให้มากกว่านี้เพราะตอนที่ผมเริ่มทำงานการเมืองนั้นนายกรัฐมนตรีไทยยังเป็นเพียงเด็กวิ่งเล่นอยู่เลย"

"อยากปิดก็ขอให้ปิดไปเลย..เพราะกัมพูชาก็จะปิดเช่นกันและปิดทางด้านเศรษฐกิจด้วย
..สั่งห้ามสินค้าไทยทั้งหมดข้ามแดนเข้ามายังตลาดกัมพูชา แม้แต่หมูเพียงตัวเดียว จะไม่ให้ข้ามเข้ามา"

"เรื่องการแต่งตั้งอดีตนายกรัฐมนตรีไทยมาเป็นที่ปรึกษานั้น ผมขอประกาศชัดๆ ให้คนไทยรู้ว่าเรื่องนี้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ มาหาเรื่องกัมพูชา
.. ผมจะบอกให้ว่า จริงๆแล้วปฏิกิริยาของคนไทยที่แท้จริงเป็นอย่างไร คือพวกเสื้อแดงสนับสนุนการแต่งตั้ง พวกเสื้อเหลืองโกรธและประท้วงคัดค้าน และยังมีกลุ่มที่สบายใจโดยอยู่เฉยๆ เงียบๆ อีกด้วยต่างหาก"

"หากทักษิณมาพำนักอยู่ในกัมพูชา นายกรัฐมนตรีไทยจะกลัวอะไรกันนักกันหนา ทักษิณไปมาแล้วทั่วโลกไม่เห็นทำอะไร ไปศรีลังกา ล่าสุด ก็ยังไม่เห็นได้ทำอะไรเลย แต่พอบอกว่าจะมากัมพูชาก็หาเรื่องกัมพูชา"

"อยากรู้นักว่าใครเป็นเบี้ยของใครกันแน่ อภิสิทธิ์ตกเป็นเครื่องมือของทักษิณเอง เพราะเมื่อทักษิณเปิดตัวเข้ามา อภิสิทธิ์ก็กระโดดออกมาตอบโต้โดยไม่คิดอะไรเลยและไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของ ชาติเลย"

"สมัยนครวัดนั้นประเทศไทยอยู่ที่ไหนกัน อ้างว่ากัมพูชามายึดครองบุกรุกดินแดนไทยนั้น กัมพูชาจะไปยึดดินแดนไทยได้อย่างไร ศึกษาประวัติศาสตร์เสียให้ดีว่า ใครรุกรานใครกันแน่"

"ผมจึงถือโอกาสนี้ร้องขอให้พี่น้องเสื้อแดงและ พรรคเพื่อไทยเสียสละอนุญาตให้ผมนำท่านทักษิณ มาช่วยกัมพูชาในเรื่องเศรษฐกิจบ้างด้วยแล้วกัน"

"ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทักษิณก็ต้องไล่แก้ตั้งแต่ทักษิณมาเลย ตั้งแต่เรื่องการปฏิวัติ เมื่อ 19 กันยายน 2549"

"ถ้าอภิสิทธิ์เก่งจริงก็ขอให้เลือกตั้งใหม่สิ ท่านกลัวอะไรหรือ หรือว่ากลัวที่จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรืออย่างไร หรือว่ากลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง"

"ผมเองเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับเสียงสนับสนุนถึง 2/3 ของสภากัมพูชา แล้ว ท่านอภิสิทธิ์ได้รับเท่าไหร่กันหรือ ขโมยเก้าอี้เขามานั่ง ขโมยของของคนอื่น มาเป็นของตัวเองจะให้เคารพได้อย่างไร"

"อภิสิทธิ์มีปัญหาท่วมตัวอยู่แล้ว อาจตายได้..ทักษิณเป็นเพื่อนของผม เพื่อนไม่สามารถหักหลังเพื่อนได้ ไม่สามารถโยนเพื่อนให้เสือกินได้หรอก"

"อยากฉีกอะไรทิ้งก็ฉีกไปเลย อยากปิดอะไรก็ปิดไปเถิด เพราะถ้าเปิดคงจะไม่สะดวกแล้ว เห็นทีต้องถอนกำลังทหาร 911 (หน่วยรบพิเศษ) ของกัมพูชาออกภายในหนึ่งสัปดาห์ดีกว่า เพราะว่าใช้กำลังเพียงนิดๆ หน่อยก็พอ (ที่จะสู้กับไทย) แล้ว"

"รองนายกรัฐมนตรีสุเทพของไทยได้ขอ ว่า ให้ช่วยจับทักษิณส่งตัวไปประเทศไทยได้หรือไม่ เรื่องนี้ผมทำไม่ได้หรอก ถ้าผมทำเช่นนั้นก็ถือเป็น กบฏต่อมิตร"

"ขอร้องให้พี่น้อง ประชาชน-ตำรวจ-ทหารไทย ทราบว่าคนที่คุณๆ ทั้งหลายต่อว่าอยู่นั้นเป็นผู้ที่ชนะการเลือกตั้งมาแล้วทั้งนั้น ผมเคารพอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ผมจึงช่วยเขา มีแต่อภิสิทธิ์เท่านั้นที่จงเกลียดจงชังคนเหล่านั้น"

"ไทยก็ยังสนับสนุนให้เขมรแดงทำการสู้รบกับรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย แล้วให้พวกเขมรแดงไปอยู่ประเทศไทย ไทยให้อยู่ในดินแดนไทยได้อย่างไร เรายังไม่ทำเช่นนั้นเลย ถ้าทักษิณตั้งกองกำลังอยู่ในดินแดนกัมพูชาจะว่าอย่างไรบ้างล่ะ
..ลงนามไม่สนับสนุนเขมรแดง ลงนามสันติภาพ แต่ก็ยังละเมิดหลายอย่าง ขอให้คนไทยดูไว้กฎหมายระหว่างประเทศยังไม่เคารพเลย จะให้เราเคารพกฎหมายไทยได้อย่างไร"

"..ลงนามด้วยมือ ลบด้วยเท้า ขอยกเลิกการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชา
.. ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เกี่ยวกับกัมพูชา แต่เป็นเรื่องระหว่างไทยกับยูเนสโก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึง จริตที่แท้จริงของนายกรัฐมนตรีไทย และเป็นเสมือนการดูหมิ่นเหยียดหยามว่า กัมพูชาโง่อย่างแท้จริง"

"ประเทศไทยเอาปัญหาปราสาทพระวิหารมาเป็นตัวประกัน เป็นเครื่องมือในการโค่นล้มรัฐบาลตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัคร ตลอดจนพยายามเอาผิดกับอดีตรัฐมนตรี นพดล"

------------------

เป็นไงบ้าง ท่านผู้ชม อ่านแล้วต้องยอมรับว่า โดนทุกดอก เข้าทุกเม็ด อย่างกับเข้ามาพูดอยู่ในหัวใจคนไทย ยังไงยังงั้น คนที่พูดได้ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่บอก ใครจะไปรู้ ว่าไม่ใช่ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์

เพราะว่าข้อมูลของน้าฮุนฯแกแน่นปึ้กระดับที่ ถ้าบอกว่าบ้านแกไม่ได้ติดดีสเตชั่น คงไม่มีใครเชื่อ

งานนี้ ถ้าจะบอกว่ามาร์คเสียหมา ก็คงไม่ผิดจากความจริงไปซักเท่าไหร่ เพราะประมาทคู่ต่อสู้แท้ๆ เลยเจอสวนเข้าไปจังๆ เล่นเอามาร์คถึงกับ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก จากมวยได้ใจ ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำ กลับมายืนพิงเชือก เป่าลมออกจากปากเหมือนหมาหอบแดด หน้าอูมๆเหลืออยู่ไมถึง 2 นิ้ว

ขนาดนี้เราว่าฮาแล้ว แต่น้าฮุนฯแกบอกว่า ยังฮาได้อีก ขอแค่มาร์คเปิดเกมงามๆมาเรื่อยๆ รับรองได้ว่า น้าฮุนฯจะไม่ทำให้หลานมาร์คต้องผิดหวัง เป็นอันขาด

เจอลูกหลงไปเต็มๆ แต่ยังเก็บอาการอยู่ คือบักป๊อกหน้ามึนของเรา เมื่อน้าฮุนฯแกบลั๊ฟมาว่า "ใช้กำลังเพียงนิดๆ หน่อยๆก็พอสู้กับทหารไทยแล้ว" นี่ไม่ใช่แค่หยาม แต่มันเหยียบหน้ากันชัดๆ

แต่ไม่เป็นไร เพราะทหารไทยไม่ถนัดสู้กับคนมีปืน

เวรกรรม ตอนแรกก็นึกว่า เขมรถอนทหารไปบางส่วน เพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับทหารไทย ที่ไหนได้ กลายเป็นว่ามันมากเกินไป กลัวจะเหยียบกันตาย ตอนไล่ปล้ำทหารตุ๊ด..อะไรจะขนาดนั้น

นี่ถ้าผมเป็นผบ.ทบ. ผมลาออกไปแล้ว

เห็นเพื่อนเขาช่วยเหลือกันในยามยากแล้ว บอกตรงๆว่า "กูอายแทนมึงว่ะ ป๊อก!"

ฮุนเซนกับทักษิณจะคบหากันมา ซักกี่ปีกันเชียว แต่พอทักษิณมาเจอเสือ เพื่อนคนนี้กลับออกหน้า ไม่ยอมให้มันมากัดเพื่อนเป็นอันขาด ผิดกันอย่างลิบลับ กับเพื่อนเก่าเล่ายี่ห้อ ตั้งแต่เข้าโรงเรียนเตรียมทหาร...

พอจวนตัวเข้า มันโยนเพื่อนให้เสือกิน

วโรทาห์: 12 พ.ย. 52

Wednesday, November 11, 2009

ก้าวย่างอันยิ่งใหญ่ ของจอมคนแห่งอุษาคเนย์

รถยนต์ตรวจการณ์สีขาว เปิดไฟวับวาบบนหลังคา แล่นนำหน้านกเหล็กสีเงิน อ้อยอิ่งมาตามลานสนามบินอย่างสง่าผ่าเผย ท่ามกลางสายตาฝูงชน ที่เฝ้ามองผ่านสื่ออย่างใจจดใจจ่อ ด้วยภารกิจที่ไม่ธรรมดา ทำให้ยานบินส่วนตัวลำกระทัดรัด ดูยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะมันทำหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งยวด เป็นภารกิจที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตราบนานเท่านาน

ประตูเปิดออกเมื่อยานจอดสนิท พลันร่างของบุรุษหนึ่งก็ปรากฎขึ้นอย่างโดดเด่น ภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า สวมทับด้วยชุดสูทสีดำ แต่งแต้มด้วยเน็คไทด์ลายดอกสีแดง ท่วงท่าทระนงองอาจ ราวกับพญาราชสีห์ ที่เกิดมาเพื่อยิ่งใหญ่โดยธรรมชาติ

นั่นคือการปรากฎตัวอย่างเป็นทางการ ของจอมคนแห่งอุษาคเนย์ ผู้เรืองนามขจรขจายไปทั้งสิบทิศว่า ทักษิณ ชินวัตร

ค้อมร่างลงเล็กน้อย สองมือยกขึ้นจบกันอย่างนอบน้อม สองเท้าก้าวเข้าหาแขกเหรื่อที่มารอต้อนรับอย่างสมเกียรติ ท่วงทีกริยาสุภาพเรียบร้อย ดูไปไม่ผิดกับเสือซ่อนเล็บ ราศีผู้นำเจิดจ้าเกินกว่าที่จะเรียกว่านักโทษ ซึ่งเป็นสมญาที่หมู่มารพยายามจะยัดเยียดให้เป็น

โดยไม่ยอมรับรู้ความจริงที่ว่า แม้จะเป็นนักโทษของอำมาตย์ แต่เขาคือพระเอกที่ครองใจประชาชน

ในรถลีมูซีนสีดำคันโก้ ขนาบหน้าหลังด้วยรถคุ้มกันที่ไว้ใจได้ ปิดท้ายด้วยรถติดตามอีกยาวเหยียด นั่นคือขบวนเกียรติยศที่จะนำแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญ ไปส่งยังบ้านพักรับรอง ที่จัดไว้เป็นพิเศษ ภายใต้การอารักขาอย่างเข้มแข็ง ที่ไม่มีช่องว่างให้แก่ความผิดพลาด แม้เพียงเท่ารูเข็ม

วินาทีนั้น หากมีแมลงวันสักตัว บินโฉบเข้ามาในรัศมีทำการ ร่างของมันคงต้องแหลกลาญ สลายลงในพริบตา

คฤหาสน์ใหญ่โตมโหฬาร ยังดูด้อยไปถนัด เมื่อต้องทำหน้าที่ต้อนรับ อาคันตุกะผู้ยิ่งใหญ่ ที่เป็นยิ่งกว่าแขกพิเศษของรัฐบาล จนแม้แต่ท่านผู้นำแห่งกำปูเจีย ยังต้องให้เกียรติอย่างสูง ด้วยการนำพาครอบครัวอันอุ่น เข้ามาต้อนรับถึงที่พำนัก อันเป็นความรู้สึกที่ คนผู้ไม่มีครอบครัวไม่อาจสัมผัสได้

มหาบุรุษต่างอาณาจักร โผเข้าสวมกอดกัน ราวกับพี่น้องที่เหินห่างกันไปนาน ต่างแลกเปลี่ยนความอบอุ่นให้แก่กันและกัน อันเป็นสัญญาณว่าอาณาจักรทั้งสอง จะปรองดองเป็นหนึ่งเดียวไปชั่วนิรันดร์

เพื่อนก็คือเพื่อน เพียงแค่ได้พบกันก็สุขใจเกินพอแล้ว ไม่มีพิธีรีตองให้รุ่มร่าม ไม่มีของฝากติดไม้ติดมือให้ยุ่งยาก นอกจากสองมือที่อบอุ่น กับหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี ถ้าจะประเมินค่าของฝากที่บรรจุมาในสมองแล้ว มันยิ่งกว่าเศียรเทวรูป ที่เคยมีโจรนำมาจิ้มก้อง ชนิดเทียบกันไม่ติด

เมื่อสองมหาบุรษมาประสานกัน อุปสรรคขนาดไหนถึงจะขวางกั้นได้ การนำพาประชาราษฎร์ โต้คลื่นไปบนกระแสแห่งโลกาภิวัฒน์ นับเป็นความท้าทายสำหรับผู้มองการณ์ไกล แต่เป็นความเสียวสยองของระบอบโบราณ ที่เกาะกินประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

ในขณะที่อาณาจักรโบราณอย่างกำปูเจีย กำลังจะก้าวย่างไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น แต่อาณาจักรที่ก้าวหน้าอย่างสยามประเทศ กลับถูกฉุดรั้งให้ถอยกลับไปในสมัยโบราณ โดยเครือข่ายอำมาตย์อันล้าหลัง ที่ไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ภายใต้สภาวะแวดล้อม ที่เต็มไปด้วยประชาชนหัวก้าวหน้า

ท่ามกลางบรรยากาศอันชื่นมื่น มันคือความขมขื่นของปวงชนชาวไทย ที่ไม่อาจรักษาบุคคลากรอันล้ำค่าไว้ ให้อยู่ช่วยสร้างบ้านแปลงเมือง

น้ำตานั้นเอ่อท้นจนพาลจะไหลออกมานอกเบ้า เมื่อเห็นแก้วมณีที่เคยครอง ต้องตกไปอยู่ในมือของเพื่อนบ้าน ที่เขาเล็งเห็นคุณค่า จนนำขึ้นประดับคอออกเดินเฉิดฉาย โดยเจ้าของที่แท้จริงได้แต่แอบมองด้วยความอิจฉา ที่ไม่อาจรักษาดวงแก้ว ที่โจรครองเมือง มันบีบบังคับให้ทำลายทิ้ง

เมื่อบุญมา แต่วาสนายังไม่ถึง จึงทำได้แค่ลิ้มรสความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว นอกเหนือกว่านั้น คงต้องฝากประชาชนชาวเขมร ให้ช่วยดูแลรักษาไว้ให้จงดี ระหว่างนี้จะนำไปใช้ประโยชน์ก็ไม่ว่ากัน เพียงขอให้ส่งคืนในสภาพเดิม หลังจากที่ชาวไทยเผด็จศึกอำมาตย์แล้ว

เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง สว่างไสวไปทุกหย่อมหญ้า วิสัยทัศน์ของประชาชน ก็เปล่งประกายเจิดจ้า มองทะลุไปถึงก้นบึ้งแห่งมนต์ดำ มาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีใครลังเลที่จะบุกบั่นไปทวงสิทธิ์ เพื่อชีวิตข้างหน้าที่ดีกว่า แม้ภูเขาจะขวางหน้า แม้ขอบฟ้าจะขวางกั้น ประชาชนจะฟันฝ่า เพื่อตามหาศิลามณี

ในเมื่อเจ้าของก็สุดจะหวงแหน และมณีล้ำค่าก็ผูกพันกับเจ้าของ มีหรือที่ทั้งคู่จะไม่ได้กลับมาอยู่ร่วมกัน ในที่สุด

แม้ว่าวันนี้จะยังดูมืดมน แต่ในเมื่อข้างหน้ายังเห็นแสงสว่าง ย่อมแสดงว่าความหวังยังรออยู่ แม้จะอ่อนล้าเพียงใด แต่ถ้าใจยังไม่สิ้นหวัง สังขารคงต้องตะเกียกตะกายไปให้ถึงฝั่งจนได้ ถ้าอัดอั้นตันใจนัก ก็แค่ร้องในใจให้ดังๆว่า...

เมื่อสวรรค์ส่งเขามา ซับน้ำตาให้ปวงชน ใยนรกต้องส่งจอมมาร มาตามล่าล้างผลาญเล่า

วโรทาห์: 11 พ.ย. 52

Monday, November 9, 2009

ซวยแล้วมาร์ค กระแสคลั่งชาติ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น

หลังจากที่ทุ่มทุนสร้าง วางข่ายล้อมอวน ด้วยการร้องเพลงชาติรอมาเป็นนานสองนาน ในที่สุดก็มีปลาใหญ่เข้ามาฮุบเหยื่อเอาจนได้ เมื่อสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ประกาศอุ้มทักษิณ ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู โดยไม่มีการเกรงใจใคร

และแล้วมหกรรมคลั่งชาติที่จ่อคิวรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ ก็ได้เวลาโหมโรงอย่างเป็นทางการซะที

ทั้งโพลเอย สื่อเอย นักวิชาการขาโจ๋ กับนักธุรกิจขาประจำเอย ต่างออกมาประสานเสียงโบ๊ววว..โบ๊ววว..ระเบ็งเซ็งแซ่กันไปหมด เป้าหมายคือการปั่นหัวประชาชน ให้หันมามีเรื่องกับเขมร เพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวด จากพิษเศรษฐกิจ ภายใต้ฝีเท้าการบริหารประเทศของมาร์ค พร้อมกับกวาดล้างทักษิณและเสื้อแดงไปในตัว

ก็ขนาดเจ็บกันเจียนตาย สื่อยังช่วยกันแหลออกมาได้ ว่าภาคธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ จากการเรียกทูตกลับจากพนมเปญ แต่วงในเขารู้ว่า กำลังนั่งจับไข่สั่นอยู่ที่กัมพูชากันเป็นแถว มีแต่น้ำตาลมิตรผล ที่หาญกล้าออกมาแฉกันตรงๆว่า ไปปลูกอ้อยรอไว้แล้วจมหู กำลังจะสร้างโรงงานอยู่รอมร่อ แต่ต้องติดเบรคกันตัวโก่ง

เพราะสถานการณ์มันเข้าไคลฯซะขนาดนี้ ถ้าจะให้ไปบ้าทะลุ่มทะลุยเดินหน้าชน สู้เอาเงิน 2 พันล้านไปทุ่มซื้อหวย ยังจะมีโอกาสรุ่งมากกว่า

แปลกแต่จริง ที่ไม่ยักมีนักธุรกิจด่ารัฐบาล โทษฐานที่โอเวอร์รีแอ๊คจนน่าเกลียด แถมสภาหอการค้าไทย ยังถือโอกาสใช้ลิ้นให้เป็นประโยชน์ ชเลียร์ว่านักธรกิจยอมเจ็บไม่ยอมอาย ไม่ว่าจะเป็นจะตายยังไง ขอเชียร์รัฐบาลให้เอาศักดิ์ศรีของประเทศไว้ก่อน

เห็นว่าถ้ารัฐบาลยืน ยันทำในสิ่งที่ถูกต้อง จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ถึงขนาดกล้าที่จะเข้ามาลุยถั่ว สร้างงานในประเทศ คล้ายๆกับว่าทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ว่างั้นเถอะ

แหม..เล่นเอาความจริงมาแหลเป็นขนมอย่างนี้ จึงช่วยไม่ได้ ที่มาร์คจะออกอาการเขินเล็กน้อย ในขณะที่ขนหน้าแข้งเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย

เป็นธรรมดาของ 1 ประเทศ 2 มาตรฐาน มันก็ต้องมีอะไรบ้าๆบวมๆอย่างนี้ นี่ถ้าเป็นรัฐบาลลุงหมัก ขืนทำอย่างนี้ มีหวังนักธุรกิจดิ้นตายกันเป็นแถว

หันไปมองภาคธุรกิจ เห็นถ้อยทีถ้อยชเลียร์กันไป แต่พอหันมาฝั่งประชาชน ไหงมันกลายเป็นหนังคนละม้วนไปได้ ก็ไม่รู้ เมื่อใครต่อใครพากันอวยพรให้มาร์คจนหูตูบ บอกว่าอ้ายเฮีย! วันๆแม่มันไม่ทำอ่าอะไร ดีแต่หาเรื่องชกต่อยกับชาวบ้าน ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

กะอีแค่เรื่องของคนๆเดียว มันเล่นซะโกอินเตอร์ ดูไม่จืด แม่มันทำอย่างนี้ พวกที่ไม่ได้รับประทานภาษี มีหวังอดตายกันพอดี

แต่ว่าก็ว่าเถอะ จนป่านนี้ ยังไม่มีใครเข้าใจเหมือนกัน ว่าแค่ฮุนเซนตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษา ทำไมมันถึงต้องออกอาการเม้งแตกกันขนาดนี้ ในเมื่อมั่นอกมั่นใจนักหนา ว่าตัวเองทำถูก ก็น่าจะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เขมรออกทะเลไปคนเดียว ก็สิ้นเรื่อง

ก็ถ้าน้าฮุนฯยังขืนเดินหน้านโยบาย สร้างบ้านพักหรูหราให้นักโทษไปเรื่อยๆ แถมนอกจากไม่ยอมส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ยังจะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอีกต่างหาก คิดดูแล้วกัน ว่าต่อไปยังจะมีใครกล้าคบหาด้วย

เมื่อเขมรกลายเป็นสวรรค์ของอาชญากร นักเซ็นต์ชื่อให้เมียซื้อที่ ไปซะแล้ว

เรื่องของเรื่อง มันไม่น่าจะมีเรื่องด้วยซ้ำไป เมื่อแต่เดิมมันก็แค่ขู่กันไปขู่กันมา เหมือนนักมวยที่ต่อปากต่อคำกันนอกเวที เอ็งมาลูกนี้ ข้าจะตอบโต้ด้วยลูกโน้น ถ้าเอ็งต้อนรับทักษิณ ข้าจะให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน อีกฝ่ายก็โต้ทันควันว่า จ้างให้ก็ไม่ส่ง เพราะเป็นคดีการเมือง เป็นการแลกน้ำลายกันไปมา ทั้งๆที่ยังไม่ได้ขึ้นเวที ด้วยซ้ำไป

แต่ที่ไหนได้ กำลังโต้กันไปโต้กันมาอยู่มันๆ ไม่นึกว่าท่านประธานอาเซี่ยนจะของขึ้น โดดงับน่องสมาชิกอาเซียนบ้านใกล้เรือนเคียงซะ เล่นเอาแผลเปิดเหวอะหวะ ดูยังไงก็ดูไม่จืด

กลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ เด็กดื้อหัดบริหารประเทศ เมื่อกัมพูชาตัดสินใจประกาศแต่งตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ แล้วมีหรือที่นายกฯเด็กฝึกงานจะยอมเสียหน้า โดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง จัดการประกาศเรียกทูตกลับทันควัน ในขณะที่ฮุนเซนก็ทันกัน เรียกทูตตัวเองกลับมั่ง ใครจะทำไม

คงต้องดูกันต่อไปว่า เมื่อเศรษฐีใหม่ตัดสินใจ ถอดสูทเข้าคลุกวงใน กอดปล้ำตีเข่ากับขอทานข้างถนน อย่างถึงลูกถึงคน เพียงเพื่อรักษาศักดิ์ศรี ที่ถูกตอกหน้าเอาเจ็บๆ งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะฉิบหายหนักกว่ากัน อีกไม่นานก็น่าจะเริ่มออกอาการ

แต่ที่แน่ๆ เริ่มเห็นแผลแตกที่ใต้ตานักชกเมื่อวานซืนแล้ว เมื่อเจอมวยเชิงสูงอย่างน้าฮุนฯ ที่เก๋าเกมอ่านขาดอย่างกับอ่านหนังสือการ์ตูน ดักแย็ปแล้วชิ่งออก ไม่ยอมเป็นฝ่ายเปิดเกมหนักให้ถูกตัดคะแนน แต่อาศัยยั่วยุให้เด็กมันออกหมัดก่อน แล้วค่อยดักเก็บกินจังหวะสอง แค่นี้ก็ตุนคะแนนจนเป๋าตุงแล้วตุงอีก

เป็นที่น่าสังเกตุว่า น้าฮุนฯแกตั้งอกตั้งใจล่อเป้าวัวกระทิงมาร์คซะเหลือเกิน ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่า เด็กมันมีปัญหาเรื่องวุฒิภาวะทางอารมณ์ ยังมายั่วอยู่ได้ ทำไมต้องประกาศตั้งที่ปรึกษา ให้มาร์คอิจฉาจนวีนแตกน่าเกลียดขนาดนั้น ทั้งที่จะต่อฮ็อตไลน์สายตรง ปรึกษาอะไรน้าแม้ว ก็ทำได้อยู่แล้ว ในฐานะเพื่อนซี้ไม่มีซั้ว

อย่างการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็เหมือนกัน รอให้เรื่องมันเกิดแล้วค่อยพูดก็ยังไม่สาย จะเปิดศาลพิจารณาคดีซัก 20-30 ปี ก็ยังไม่น่าเกลียด หรือจะส่งซิกให้นักโทษเข้าๆออกๆ ล่อให้ศาลลักปิดลักเปิด มันก็เก๋ไปอีกแบบ แล้วทำไมต้องรีบด่วน ชวนมาร์คละเลงน้ำลาย จนเลอะเทอะไปหมด

จะเป็นเพราะเหตุผลกลใดไม่อาจทราบได้ แต่ชักสังหรณ์ใจว่า งานนี้เด็กดื้อมีโอกาสเสียค่าโง่สูง

เพราะแต่ละมาตรการที่มาร์คประกาศออกมานั้น ไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาต่อเขมรแต่ประการใด ขืนไปงดให้ความช่วยเหลือ ก็เข้าทางประเทศอื่นที่เรียงคิวรอช่วยเหลืออยู่แล้ว หรือถ้างดให้กู้ ขี้คร้านประเทศอื่น มายืนรอปล่อยกู้กันบานเบอะ ยิ่งไปยกเลิก MOU อะไรนั่นอีก

แน่ใจหรือว่ามันไม่ใช่ MOU ที่เขาอยากจะยกเลิกเต็มแก่อยู่แล้ว เพราะถ้าเซ็นต์กันในสมัยน้าแม้ว ก็ชัดเจนแน่นอนว่าเขาเสียเปรียบ เพราะตอนนั้น กัมพูชายังไม่มีอำนาจต่อรองซักเท่าไหร่

ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่หลอกกินเศียรเทวรูป ที่มีคนอุ้มไปจิ้มก้องมาแล้ว นักต่อนัก

เอาเป็นว่า นอกจากเรื่องอารมณ์แล้ว ก็น่าจะต่างคนต่างมีวาระซ่อนเร้น แต่คนหนึ่งทำเพื่อชาติ ในขณะที่อีกคนทำเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมือง รายแรกจึงลอยตัวไป เพราะได้การสนับสนุนจากประชาชนอย่างท่วมท้น ในขณะที่รายหลังแทบจะเอาหัวโขกโพเดียมตายซะให้มันรู้แล้วรู้รอด เมื่อไม่มีใครให้ท้าย นอกจากโพลที่ออกมาเชียร์กันสุดลิ่มทิ่มประตู

กระแสคลั่งชาติ จึงมีแค่แมลงสาบแก่ๆที่มีองค์ กับขาประจำเจ้าเดิมๆไม่กี่ตัว ที่ออกมาคลั่งหนัก ส่วนประชาชนนั้น คงจะหวังยากซักหน่อย แล้วยิ่งน้าฮุนฯแกเป็นมวยรอจังหวะด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ปั่นกระแสยากเข้าไปใหญ่ ทำไปทำมาถึงได้เกิดอาการหันรีหันขวาง ไม่รู้ว่าจะไปยังไงต่อ

คิดแล้วก็ให้เป็นห่วงนายกฯเด็กโง่ ที่ขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ ไม่รู้จักเลิก ระวังว่าโง่ซ้ำโง่ซาก จะติดเชื้อกลายเป็นโง่เรื้อรัง มันจะรักษายาก ถ้าลำบากนัก คราวหน้าคราวหลัง ลองเปลี่ยนไปยืมหัวแม่เท้าข้างซ้ายของท่านทักษิณเอามาคิดแทน ไม่แน่ว่า...

อาจจะฉลาดกว่าสมองกลวงๆที่ใช้อยู่ก็เป็นได้

วโรทาห์: 9 พ.ย. 52

Friday, November 6, 2009

แค่เขมรตั้งที่ปรึกษา อำมาตย์ก็จะพาไทยให้ล่มจม

เอาแล้วไง! กลายเป็นดอกบานไม่รู้หุบไปซะแล้ว เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์กัมพูชา ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา

ควบตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนขะแมร์

ส่งผลให้บรรดาขี้ข้าอำมาตย์ ถึงกับออกอาการหน้าเขียวหน้าเหลือง เหมือนถูกถีบเข้าที่พวงสวรรค์อย่างจัง ต่างคนต่างทิ้งตัวลงไปนอนดิ้นทุรนทุราย บิดตัวเร่าๆอย่างกับสุนัขขี้เรื้อนโดนสาดด้วยทิงเจอร์ แล้วตามซ้ำด้วยซีม่าโลชั่นกระปุกใหญ่

เสียงแผดร้องครวญครางไม่เป็นภาษามนุษย์นั้น ดังไปถึงยมโลกก็ว่าได้

แล้วก็เป็นไปตามคาด เรื่องมันๆพรรณอย่างนี้ มีหรือที่มาร์คจะอดใจได้ ไม่โชว์โง่ให้โลกเห็น ว่าแล้วมนุษย์โพเดียมก็โดดผึงออกมาสวนควันปืนแทบจะทันที ด้วยการสั่งให้กุ๊ยกษิตใช้ลูกนักเลง อ้างคนไทยทั้งชาติออกไปฟาดปากกับฮุนเซน อย่างเมามัน

ทำอย่างกับเรื่องคอขาดบาดตายระดับ8 ยังไม่ปาน ถึงกับเรียกทูตไทยประจำกัมพูชา กลับมาโดยด่วน แถมทำหน้ายียวนกวนบาทา สำรากออกมาให้ได้ยินกันชัดๆว่า

"ให้ทางกัมพูชาเลือกเอาว่าจะเลือกคุณทักษิณ หรือประเทศไทย"

ทั้งๆที่คำตอบที่ได้ น่าจะชัดเจนอยู่ในทีแล้วว่า

"เขาเลือกทักษิณ เพราะทักษิณคือประเทศไทย"

สงสารแต่คนไทยที่ไปทำธุรกิจอยู่ในกัมพูชา ว่าป่านนี้คงนอนสะดุ้งจนเรือนไหว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชาวบ้านชาวช่อง จะยกขบวนออกมาเซย์ฮัลโหล เหมือนในอดีต ในขณะที่รัฐบาลเด็กโง่ คงได้แต่ออกมาดักคอล่วงหน้าว่า

งานนี้ถ้ามีเผากันอีก คงเอาซี 130 ไปลงไม่ได้แล้ว

เป็นธรรมดาของคนในระบอบอำมาตย์ ที่ต้องมองทุกอย่างเป็นเกมการเมืองไปซะหมด โอกาสงามๆอย่างนี้ ก็ใช่ว่าจะมีมาบ่อยๆซะเมื่อไหร่ ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร งานนี้มันต้องมีเรื่องให้จงได้ เพื่อป้ายสีทักษิณ ให้เป็นคนขายชาติ ตามที่ป๋าต้องการ

กระแสคลั่งชาติเท่านั้น ที่เป็นความหวังในตอนนี้

ในขณะที่พลพรรคเสื้อเหลือง ที่ดักแทงเข่าคอยทีอยู่แล้ว ก็โหมฟืนเติมไฟกันมือเป็นระวิง พร้อมๆกันกับที่บิ๊กเสือก็ออกมาเปิดงานว่า

"ยังไม่สายเกินไปที่จะสร้างคนให้มีคุณภาพ มากกว่าสิ่งก่อสร้าง ต้องสอนคนให้มีความหยิ่งผยองในความเป็นคนไทย..."

แต่อาจจะสายเกินไป ถ้ายังไม่สอนพวกแก่กะโหลกกะลา ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ก่อนที่จะลงโลง

ที่มันวุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะทหารแก่ไม่ยอมตายพวกนี้ ที่แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ เที่ยวเดินสายมอมเมาชาวบ้าน กะจะโกหกกันจนกว่าจะตายไปข้าง เพียงเพราะว่ากลัวเขาจะรู้เท่าทัน ที่พวกมันไปแหกตาเขามาชั่วชีวิต

งานนี้คนที่ถูกเหล่มากที่สุด เห็นจะไม่พ้นลุงจิ๋ว ที่ขยันออกเดินสายหางานให้ป๋า จนงานเข้า รับไม่หวาดไม่ไหว ตั้งแต่อาเซียนซัมมิท ไปนครปัตตานี แล้วย้อนกลับมาเขมรอีก แต่ละงานล้วนแล้วแต่ได้น้ำได้เนื้อทั้งนั้น ไหนใครเขาว่าแกเป็นอัลไซเมอร์

อัลไซเมอร์บ้านมัน หางานเก่งจนร้องเจี๊ยกกันเป็นแถว

เจอเข้าไปหลายขนาน ป๋าถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่นั่งค้อนปะหลับปะเหลือก แค้นลูกจิ๋วก็แค้น แค้นทักษิณยิ่งแค้นใหญ่ แต่ที่เจ็บใจมากที่สุด เห็นจะไม่มีใครเกินเด็กโง่ ที่ป๋าอุตส่าห์อุ้มใส่เอวมาเป็นนายกฯ แต่ดันเจือกทำงานไม่เป็นสับปะรดขลุ่ย

ผลงานที่เห็นๆ มีแต่เก๊กหล่อใส่กล้อง กับรายการนายกฯพบประชาชน ที่พัฒนากันจัง ทั้งๆที่ไม่มีคนดู ตั้งแต่นั่งแท๊กซี่ให้โชเฟอร์สาวสัมภาษณ์ ไปถึงนอนแผ่หราผึ่งพุง ให้บักหัวเหม่งมันก้อร่อก้อติกอยู่ริมชายหาด

ยิ่งนับวัน รายการยิ่งติดเหรตขึ้นทุกที ตั้งแต่ดูได้ทุกคน มาจนถึง18อั๊พ ทำให้ป๋าร้อนใจ ต้องสั่งติดตามความเคลื่นไหวอย่างใกล้ชิด เพราะว่ายังเหลืออีกสเต็ปเดียว ก็จะลากกันเข้าไปกระหนุงกระหนิงในโรงแรมแล้ว ถึงเวลานั้น...

ไม่แน่ว่า ป๋าอาจจะต้องลงมือสัมภาษณ์เอง

วโรทาห์: 6 พ.ย. 52

Tuesday, November 3, 2009

ทุบหุ้นหลังจากที่หุ้นร่วงกระจายไปแล้ว..นี่แหละประเทศไทย

กลายเป็นจอมซัดแฮ็ททริคไปซะแล้ว สำหรับนายกฯเด็กดื้อ จอมสร้างภาพตัวพ่อ เมื่อลงสนามไปทำท่ามือหงิก ตะบันสตั๊ดใส่ลูกฟุตบอล ที่ลิ่วล้อใส่พานป้อนให้จนรับไม่หวาดไม่ไหว ในการแข่งขันฟุตบอลผู้อาวุโส ครม. vs ส.ว. ที่ธันเดอร์โดม เมื่อวันวานที่ผ่านมา

เป็นวันเดียวกัน กับที่รัฐบาลเผด็จการพลเรือน ซัดแฮ็ททริคเข้าใส่หัวใจประชาชน ด้วยการจับแพะชนแกะ มั่วนิ่มรวบตัวชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เอามาขึ้นแท่นบูชายัญ

ด้วยข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ตีปี๊บซะใหญ่โตว่าเป็นตัวการทุบหุ้น หวังกู้หน้าที่โดนต่างชาติปล่อยข่าวใส่แมลงเม่า จนหุ้นร่วงระเนระนาด แล้วจับมือใครดมไม่ได้

จากผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่รู้จักกันดีในเว็บบอร์ดการเมืองภายใต้นามแฝง bbb ว่าแสนจะสุภาพเรียบร้อย ไม่ค่อยมีปากมีเสียง มีแต่คอยแปลข่าวภาษาอังกฤษให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ไม่เคยสร้างปัญหาใดๆให้แก่ใครๆ แม้แต่น้อย

ไม่นึกว่า วันดีคืนร้ายภายใต้รัฐบาลเผด็จการจำแลง เธอจะกลายเป็นอาชญากรสำคัญ ตัวการปล่อยข่าวทุบหุ้น จนเจ๊งกันไปถ้วนหน้า

ถามหน่อยเถอะว่า มันบ้าหรือโง่กันแน่ ถึงคิดกันไม่เป็นว่า ตัวการปล่อยข่าวที่ไหน จะมาโพสต์ข้อความในเว็บบอร์ดอย่างโจ๋งครึ่ม ให้ตำรวจตามแกะรอยจนรวบตัวได้โดยละม่อม

แล้วบ้านมัน เดี๋ยวนี้เขาปล่อยข่าวทุบหุ้นกันในเว็บบอร์ดการเมืองกันแล้วหรือไง อะไรไม่ว่า ยังโง่ถึงขนาดมาปล่อยข่าวเอา หลังจากที่หุ้นร่วงกระจายไปแล้ว ตั้งหลายชั่วโมง

เอาเป็นว่า ถ้าอยากจะหาเรื่องก็แมนๆหน่อย เล่นกันซึ่งๆหน้าอย่ามาทำเหนียมอาย ไหนๆก็ด้านมามากแล้ว จะหน้าด้านอีกซักหน่อยจะเป็นไรไป

รัฐบาลเด็กเวร เมื่อใกล้ตาจน ก็ยิ่งบ้าเลือดขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนอย่างเราๆท่านๆ ที่แม้จะทนมามากแล้ว แต่ยังสามารถทนได้อีก ก็ไม่รู้จะทำยังไง ในเมื่อแบ็คมันแข็งเหลือกำลังลาก

คงได้แต่ส่งกำลังใจไปถึงเหยื่อทางการเมืองทั้ง 2 ราย ในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่เป็นตายยังไงก็ไม่อาจทอดทิ้งกัน

ขอให้เข้มแข็งเข้าไว้ สู้มันต่อไป จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยของเราคืนมา

เชื่อเถอะว่า ถึงที่สุดแล้วก็เอาผิดไม่ได้ แต่พวกมันก็ต้องทำเพื่อเป้าหมายทางการเมือง โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน วุ่นวายซักแค่ไหน

เพราะเป้าหมายที่แท้จริงนั้น คงกะว่างานนี้ยิงกระสุนนัดเดียว ได้นกเป็นฝูง นอกจากได้แก้หน้าเรื่องถูกทุบหุ้นแล้ว ยังได้ดิสเครดิตเสื้อแดง และที่สำคัญคือป้ายขี้ให้เว็บบอร์ดการเมือง ที่ทรงอิทธิพลในหมู่คนประชาธิปไตย อย่างประชาไท และฟ้าเดียวกัน

เผื่อว่าจะหาช่องปิดเว็บซะ เป็นการจำกัดการสื่อสารของฝ่ายต่อต้านอำมาตย์ไปในตัว

คำว่านิติรัฐชักจะเป็นจริงขึ้นทุกที เมื่อฝ่ายกุมอำนาจรัฐในบ้านนี้เมืองนี้ หายใจเข้าหายใจออกเป็นกฎเหล็กของเผด็จการ แต่แฝงตัวทำเนียนมาในรูปของกฎหมายประชาธิปไตย ที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าสมัยคมช.ซะอีก

ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่เลือดตาแทบกระเด็นอยู่แล้ว ต้องยุ่งยากหนักเข้าไปอีก ไหนจะต้องรู้กฎหมายระดับเทพแล้ว ยังต้องคอยระวังว่า ใครเป็นคนใช้กฎหมาย และกฎหมายเหล่านั้นมีไว้เพื่อใช้กับใคร หาไม่แล้ว เผลอเมื่อไหร่เป็นถูกรวบเข้าคุกไปโดยไม่รู้ตัว

สมดังสโลแกนที่ว่า เราทำให้ทุกคนรวยเท่ากันไม่ได้ แต่สามารถทำให้ทุกคนมีโอกาสเจอแจ๊คพ็อตเท่ากันหมด

โชคดีของพวกอำมาตย์ ที่เลือกเกิดมาเกาะกินในประเทศนี้ ประเทศที่ปกครองได้ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากเป็นไหนๆ เพราะว่า ประชาชนถ้าไม่โง่เป็นทุย ก็อึดเป็นแรด ขนาดทนจนทะลุขีดจำกัดแล้ว ก็ยังทนได้อีก แต่ไม่มีใครรับรองได้ว่า...

ตอนระเบิดออกมา อานุภาพมันจะรุนแรงซักแค่ไหน

วโรทาห์: 2 พ.ย. 52

Saturday, October 24, 2009

ด่วน! อาเซียนซัมมิทเจอป่วนหนัก พรก.มั่นคง เอาไม่อยู่

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตำแหน่งประธานอาเซียน ที่นึกว่าใครเป็นก็ได้ ทำท่าว่าจะมีอาถรรพ์ซะแล้ว เมื่อคนที่มาสวมรอยดันบุญไม่ถึง จะหยิบจะจับอะไรมันเลยมีปัญหาไปซะหมด ขนาดว่าเตรียมการกันมาอย่างดี ยังให้มีอันเป็นไป ต้องป่วนกันไม่เสร็จ

อย่างคราวที่แล้วก็เจอจอมเนรคุณอย่างเนรวิน พาพวกเสื้อน้ำเงิน ไปดักตีเสื้อแดงจนงานกร่อย เล่นเอาที่ประชุมถึงกับวงแตก เปิดตูดเผ่นแน่บ อย่างกับผึ้งแตกรัง ป่านนี้ยังเคืองท่านประธานไม่หายว่า

แหม..ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน มันยังทิ้งกันได้ลงคอ

มาครั้งนี้กะว่ายังไงก็กินนิ่มแน่ๆ เพราะเตรียมกองทหารไว้เต็มอัตราศึก พร้อมอาวุธหนักครบมือ ซ้ำมีร่างประกาศพรก.มั่นคงเอาไว้รอเสร็จ ขนาดนั้น ยังไม่วายเจอป่วนเข้าอีกจนได้

แถมคราวนี้ยังแสบหนักขึ้นไปอีกหลายกิโลขีด เพราะมันป่วนจากภายใน โดยแก๊งค์ออฟโฟร์ ที่เกิดเฮี้ยนขึ้นมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต่อให้พ่อพรก.ยังยากที่จะเอาอยู่

เมื่อจู่ๆผู้นำ 4 ประเทศ ก็มาไม่ทันเปิดงานมันซะดื้อๆ ด้วยข้ออ้างสั้นๆง่ายๆว่า ตู-ม่าย-ว่าง!

แล้วแก๊งค์ที่ว่าก็บิ๊กเนมกันทั้งนั้น นำทีมโดยบิ๊กบัง ประธานาธิบดีสุสิโล่ บัมบัง ยุดโดโยโน่ แห่งอินโดนีเซีย พร้อมด้วยคู่หูคู่ฮาอย่าง นายกรัฐมนตรีดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค แห่งมาเลเซีย

ผสมโรงโดยประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัลป์ อาร์โรโย่ แห่งฟิลิปปินส์ และที่ขาดไม่ได้เป็นอันขาด คือสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน

ว่ากันว่า รายหลังนี้ ตั้งใจมาป่วนโดยเฉพาะ

แต่ที่ไม่คาดไม่ฝันว่าจะทำกันได้ คือสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาเลาะห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ข่าวว่าทรงเมินโรงแรมที่ประทับ ซึ่งรัฐบาลไทยจัดให้อย่างไม่สมพระเกียรติ แล้วเสด็จไปประทับที่บ้านรับรองของน้าแม้ว

หลังจากนั้นก็ทรงประชวร ไม่เสด็จมาร่วมเปิดงาน ซะงั้น

หมดกัน..ชื่อเสียงประเทศชาติป่นปี้ ยังไม่เท่าอดชักรูปหมู่ ซึ่งมาร์คหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ ว่าจะเอาไปประดับหอแต๋วแตก ให้เลื่องลือกันไปว่า มาร์คหล่อที่สุดในอาเซียน

งานนี้ ต้องเรียกว่าขาป่วนเขามีระดับ ถึงได้เล่นซะงานกร่อยตั้งแต่ยังไม่เปิดด้วยซ้ำ มิน่าล่ะ เสื้อแดงถึงได้ทำเป็นใจดี ส่งพี่กี้ร์ไปยื่นหนังสือสนับสนุนการประชุม แล้วกลับบ้านไปนอนเกาพุงเฉย

และที่ทำเอาคอการเมืองถึงกับซี้ดปาก อย่างกับฟาดตำไทยใส่พริก 7 เม็ด ก็คือลีลาพญามังกรอย่างพ่อใหญ่จิ๋ว เมื่อแตะมือกับพญานาคอย่างฮุน เซน ก็เล่นเอางูดินอย่างมาร์ค ถึงกับดิ้นพราดๆ อย่างกับไส้เดือนถูกขี้เถ้าร้อนๆ

ถ้าแค่นี้ถือว่าฮาแล้ว แสดงว่ารู้ไม่จริง ต้องติดตามตอนต่อไป แล้วจะรู้ว่า ยังฮาได้อีก

เมื่อฮุนเซนไปกระซิบกระซาบข้างหูลุงจิ๋วว่า ได้เตรียมที่พักอย่างดีไว้ให้เพื่อนแม้ว จะมาเมื่อไหร่ก็เวลคัมเสมอ

มีหรือที่อินทรีการเมืองระดับนั้นจะไม่รู้ว่า พ่อใหญ่แกปากสว่างจะตายไป ขนาดป๋าไม่ให้เข้าไปลาบวช แกยังเอามาปูดซะเสียหมาหมด

แล้วลุงจิ๋วก็ไม่ทำให้ลูกหลานต้องผิดหวัง เมื่อแกเอาคำพูดของฮุนเซนมาป่าวประกาศซะดังลั่น เล่นเอาแมลงสาบถึงกับผีเข้ากันยกก๊วน

ให้มันรู้กันไปว่า เมื่อพ่อใหญ่จิ๋วพูดจารู้เรื่องขึ้นมา อะไรก็เอาแกไม่อยู่

แล้วเราก็ได้เห็นลีลาการเมืองระดับฮุนเซน เมื่อเขาปล่อยของผ่านลุงจิ๋ว แล้วยังตามมาย้ำหัวตะปูที่กรุงเทพฯ ยืมปากผู้สื่อข่าวนับพันที่มารอทำข่าวการประชุม ให้มันดังก้องไปทั้งโลก กล้าๆแทงเต็งไปเต็มๆที่ฝั่งเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยไม่เห็นหัวใครอยู่ในสายตา

ถือเป็นการลงทุนครั้งเดียว แต่กินยาวไปได้ชั่วลูกชั่วหลาน

ด้วยคิวเพื่อนช่วยเพื่อน ซื้อใจกันล่วงหน้า นอกจากยืนยันให้พักพิงแล้ว ยังจะตั้งเพื่อนแม้วเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจอีกต่างหาก ถ้าใครยังขืนข้องใจ จะลากเรื่องที่เพื่อนแม้วถูกรัฐประหาร เข้าไปพูดในที่ประชุม เหมือนกรณีออง ซาน ซูจี ซะให้เข็ด

เจอกับดักเข้าไปเต็มเปา แทนที่จะรู้ตัว ประธานอาเซี่ยนเด็กดื้อของเรา กลับแสดงอาการฮึดฮัดโดดเกาะโพเดียม ลอยหน้าลอยตาเหน็บกลับไปหลายดอก ทั้งๆที่เรื่องน่าอายอย่างนี้ น่าจะโบ้ยไปให้เทพทุย เขารับเหมาโชว์โง่แต่เพียงผู้เดียว ดูจะเข้าท่ากว่า

คงกลัวว่าจะสวนกลับไม่ได้อย่างใจ เลยทำให้ถลำลึก แสดงวุฒิภาวะออกมา ให้ชาวโลกได้เห็นกันจะๆ

เจอมวยเชิงสูงระดับอัคคมหาเสนาบดีเดโชอย่างฮุนเซน เล่นเอาเอกอัครมหาซื่อบื้อของเรา ถึงกับเข้าป่า ออกทะเล กู่ไม่กลับกันเลยทีเดียว

เป็นอันว่า ถึงจะจัดการประชุมได้ แต่กลับต้องมาเสียหน้าหนักเข้าไปอีก เจอเข้าไปไม้นี้ คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างมาร์ค แทบจะคลั่งซะให้ได้ อยากสั่งกองทัพลุยถั่วเขมรให้รู้แล้วรู้รอด ก็ไม่มีอำนาจ

จะยืมมือป๊อกเด้ง ก็กลัวใจมันจริงๆ รู้ๆกันอยู่ว่าขานั้น เห็นงานเป็นโดดหนี เห็นหมีเป็นโดดใส่ นอกจากจะไม่จัดให้แล้ว เผลอๆมันจะไปตั้งก๊วนออกทีวีกับสรยุทธ แล้วประกาศกร้าวว่า ถ้าเป็นผม ผมลาออกไปแล้ว

อะไรไม่เจ็บปวดเท่า การประชุมอาเซียนซัมมิท กลายเป็นทักษิณซัมมิทไปซะฉิบ อุตส่าห์หมายมั่นปั้นมือว่าจะแจ้งเกิดในงานนี้ ดันมาโดนทักษิณแย่งซีนไปซะได้ ทั้งๆที่จะว่าไปแล้ว ขานั้นก็ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไร ให้เป็นเรื่องเป็นราว

ยังขุดหาเพชรงกๆอยู่ที่อาฟริกาด้วยซ้ำไป

วโรทาห์: 24 ต.ค. 52

Wednesday, October 21, 2009

จิ๋วปะทะป๋า นี่คือเกมส์รักษาสถาบันฯ

ว่ากันว่า อัจฉริยะ คือคนที่ใกล้บ้า แต่ยังไม่บ้า ส่วนคนบ้านั้น คืออัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เลยกลายเป็นคนบ้า บังเอิญว่าลุงจิ๋วแกแค่เฉียดบ้าไป ไม่ถึงเส้นยาแดงผ่าแปด จึงได้รับการยกย่องเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพ ทหารอัจฉริยะหนึ่งเดียว ตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพไทยนะนั่น ทำเป็นเล่นไป

จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่เราจะฟังแกพูดไม่รู้เรื่อง แต่แกพอจะฟังเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแกดัดจริตพูดภาษาเทพ เพียงแต่ว่าแกพูดตามที่แกรู้ แล้วเราดันไม่รู้ตามที่แกพูด ก็เท่านั้นเอง

ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากทะเลาะกับคนบ้า พอๆกับที่ไม่มีใครอยากต่อกรกับอัจฉริยะ บังเอิญว่าป๋าแกซวยจัด ดันไปถือหางคนละฝั่งกับขงเบ้ง เรื่องของเรื่อง นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เลยต้องแต๋วแตก ออกมาบ๊งเบ๊งเป็นการใหญ่ เมื่อลุงจิ๋วแกเปิดหน้าชน ไม่มีการเกรงใจกัน

ว่ากันอีกว่า ถ้าพฤษภาทมิฬไม่ได้ลุงจิ๋วปล่อยวินมอร์ไซค์ออกมาป่วนไม่เลิก ป่านนี้ลุงสุจินดาไม่รู้ว่าเช็คบิล ไปนอนเกาพุงถึงไหนแล้ว ไม่มีทางได้ผุดได้เกิดหรอก อัศวินม้าขาวน่ะ

ในเมื่อรู้มือกันอย่างนี้แล้ว ถ้าป๋าไม่รู้สึกหนาวบ้าง ก็ให้มันรู้ไป

เมื่อตอนที่อเมริกันแตกทัพ เปิดตูดหนีจากไซง่อนอย่างหมดรูป กองทัพเหงียนก็ได้ใจ ร่ำๆจะกรีฑาทัพมายึดสารขัณฑ์ซะให้ได้ ดีว่าลุงจิ๋วแกแอบต่อสาย ให้จีนใหญ่เปิดสงครามสั่งสอน รุกพรวดเดียวถึงฮานอย ดึงกองทัพเวียตกง กลับไปต้อนรับขับสู้แทบไม่ทัน เมืองที่มีแต่ทหารที่เก่งกับชาวบ้าน เลยรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้อย่างหวุดหวิด

บำเหน็จที่ได้คือ ลุงจิ๋วเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ ตามธรรมเนียมอันเลวทราม ของเมืองตอแหล

และก็เป็นคอมมูนิสต์จิ๋วคนนี้ ที่ทำการสลายพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยด้วยคำสั่ง 66/23 ซึ่งคนเซ็นต์คือป๋า จัดการงุบงิบรับชอบไปแต่เพียงผู้เดียว แถมยังได้รับยกย่องว่าฉลาดล้ำลึกซะไม่มี ที่รู้จักใช้การเมืองนำการทหาร

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี ก็เป็นป๋าคนเดียวกันนี้ ที่กำลังใช้การทหารมานำการเมืองอย่างเข้มข้น ด้วยการสั่งทหารให้ไล่ฟัดคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ จนบ้านเมืองฉิบหายวายวอด ไม่มีชิ้นดี

อะไรไม่ว่า มันพาเอาสถาบันอะไรต่อมิอะไร เป๋กันไปหมด เล่นกันจนชาติไม่เป็นชาติ ทำให้ทุกจังหวัดต้องเวียนกันออกมาร้องเพลงชาติจนคอโป่ง ยังไม่รู้ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า

ถ้าเปรียบสถาบันฯเป็นกระบี่อาญาสิ ทธื์ ก็ถูกป๋าลากเอามาฟาดฟันศัตรูทางการเมือง ที่ถูกป๋าตราหน้าว่าเป็นศัตรูของชาติ เป็นอันตรายต่อสถาบันฯ จนกระทั่งกระบี่บิดงอยับยู่ยี่ ยากที่จะเยียวยาแก้ไข ให้กลับดีดังเดิม

ที่สำคัญ ศัตรูของป๋า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือประชาชนทั้งนั้น เป็นรากฐานสำคัญของชาติ เป็นเกราะคุ้มครองสถาบันฯ ที่แข็งแกร่งเหลือกำลังลาก แต่ป๋าดันลากมาเผชิญหน้ากันซะฉิบ

ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงไม่สิ้นชาติก็คงไม่มีอะไรเหลืออยู่ดี ดังนั้น จึงถึงเวลาที่พ่อใหญ่จิ๋วต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อรักษาสถาบันฯเอาไว้ ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างสง่างาม

แล้วคนระดับขงเบ้ง มีหรือที่จะไม่รู้ว่า ถ้าจะแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริงๆ ก็มีแต่นำพาสถาบันฯเข้าไปอิงแอบกับประชาชนเท่านั้น ถึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

นั่นคือเหตุผลที่ ถึงยังไงลุงจิ๋วก็ต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ไปซุกหว่างขาประชาธิปัติย์ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ให้มันแตกร้าวหนักเข้าไปอิก เพราะต่อให้สิบบิ๊กจิ๋วไปเติมพลังให้ฝ่ายอำมาตย์ ก็ไม่สามารถเอาชนะประชาชนได้อยู่ดี

มีแต่จะลากยาว ให้สงครามมันยืดเยื้อออกไป ให้่บรรลัยวายวอดหนักเข้าไปอีก ทั้งๆที่ผลบั้นปลาย ยังไงประชาชนก็เป็นฝ่ายชนะ

ถ้าขืนปล่อยให้พรรคเพื่อไทย ภายใต้การหนุนหลังของมหาชน ยืนซดกับอำมาตย์ตัวต่อตัว เกรงว่าถ้าเลือดเข้าตา จะยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เกิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินขึ้นมา มันจะดูไม่จืด

เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่สี่เหล่าทัพ ต้องกรีฑามาเข้าพรรคเพื่อไทย จนป๋าถึงกับชักดิ้นชักงอ ด่ายัดลุงจิ๋วไม่มีชิ้นดี

แต่คนอย่างป๋านั้นแพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว ต่อไปนี้คงได้เห็นลูกกะแป๋งป๋า ดาหน้าออกมาแหกปากด่าทักษิณไปตามระเบียบ..พูดถึงผีผีก็มา เมื่อนายแพทย์สังเวช บัดสีบัดเถลิง ออกมาเปิดจุกเป็นคนแรก สวดชยันโตทักษิณว่าเล่นไม่เลิก ไม่มีจิตสำนึกใหม่ อะไรของแกก็ไม่รู้

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหา นับหน้าถือตามากมาย แต่ไหงเปิดกะโหลกออกมา มันกลวงโบ๋ไม่มีรอยหยักแม้แต่น้อย มิน่าล่ะ ถึงเก็บได้แค่ข้อมูลเกี่ยวกับทักษิณ เลยย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องทักษิณ ไม่รู้จักเลิก

ไปเปรียบอะไรกับท่านปรีดี หรือนายกฯชาติชาย ที่พอถูกปฏิวัติก็เงียบหายไปเลย ทำไมไม่นึกบ้างว่า พวกกะโหลกกะลาทั้งหลาย ตอนนั้นทำไมไม่ออกมาปกป้องกติกาบ้านเมือง เหมือนที่ประชาชนกำลังทำอยู่ตอนนี้

ซึ่งถ้าประชาชนลุกขึ้นมาสู้ มีหรือที่ท่านเหล่านั้น จะไม่ออกมาร่วม

แล้วถ้าประชาชนตั้งป้อมสู้อย่างทุกวันนี้ จะมีทหารเลวหน้าไหน ยังกล้าลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีก ถ้าพวกแก่ๆในวันนี้ ลุกขึ้นมาสู้ซะตั้งแต่วันนั้น มันจะมีการทำรัฐประหารทำลายสถิติโลกถึงเกือบ 20 ครั้งได้ยังไง

ในเมื่อหน้าที่ตัวยังไม่ทำ ก็อย่าได้มาใส่เกือกขัดขวางคนอื่น ถ้าทำเป็นแค่อ่านหนังสือต่างประเทศ แล้วเก็บเอาขี้ปากเขา มาเหน็บคนในชาติที่เป็นศัตรูอำมาตย์ ก็สู้รีบๆตายไปซะ ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อน ให้คนเขาด่า

แล้วจำใส่กะโหลกหนาๆไปถึงปรโลกด้วยว่า สงครามวันนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ อย่ามาแหลดูถูกประชาชน ว่าถูกบงการโดยทักษิณ คนที่เล่นไม่เลิกจริงๆ ก็คือประชาชนต่างหาก ไม่ใช่ทักษิณ

ทักษิณอาจจะเลิกได้ แต่ประชาชนไม่มีทางเลิกแน่

วโรทาห์: 21 ต.ค. 52

Monday, October 19, 2009

แค่จะทวงฎีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน

นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เสื้อแดงริอ่านจัดชุมนุมเป็นต้นมา เมื่อจะทวงถามฎีกากันทั้งที มันก็ต้องมีแสดงอิทธิฤทธิ์กันนิดหน่อย เพื่อที่ว่าคนแก่จะได้เลือดลมสูบฉีด หูตาสว่างโร่เป็นตาตั๊กแตน นี่ขนาดว่า ไม่มีการตีฆ้องร้องป่าว

แค่สะกิดเบาๆ ยังแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน

เหมือนจะกระชากอารมณ์อิจฉา ของคนแก่ที่ไม่รู้จักคำว่าปล่อยวาง ให้พุ่งปรี๊ดฉีดกระฉูดจนหน้าแดงก่ำ แถมยังตอกย้ำด้วยคำพูดเรียบๆ ของนายกฯขวัญใจประชาชนว่า เสียดายที่ไม่ได้วิดีโอลิ้งค์เข้ามาดูความยิ่งใหญ่

เพราะต้องรีบขึ้นเครื่องไปดูเพชรเม็ดใหม่ ที่เพิ่งขุดขึ้นมา

แต่ถึงยังไง งานนี้ก็ต้องให้เครดิตป๋าไปเต็มๆ ที่อุตส่าห์ช่วยฟูมฟักเสื้อแดงจนเติบใหญ่มา จวบจนเท่าทุกวันนี้ เพราะป๋าแท้ๆที่ช่วยเสือกไสไล่ส่ง ประชาชนทั้งหลายให้มากองรวมกัน ที่ฝั่งฟากเสื้อแดง ด้วยการตอกย้ำระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน จนชาวบ้านเขาเหลืออด ต้องตะโกนออกมาดังๆว่า

พวกมึงทำอะไรไม่เคยผิด แต่พวกกูทำอะไรไม่เคยถูก

ล่าสุดนี้ ยังอุตส่าห์พ่นดอกอุตพิตออกมาจากรูทวารจู๋ๆว่า "การเข้าพรรคเพื่อไทย เป็นการทรยศต่อชาติ" แปลไทยเป็นไทยให้เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพรรคเพื่อไทยคือศัตรูของชาติ คนที่จะเข้าพรรคนี้ ถึงต้องระวังว่าจะเป็นการทรยศต่อชาติ

เลยทำให้ศัตรูของชาติ ต้องออกมากันเต็มถนน เมื่อวันที่ 17 ตุลา

ก่อนที่จะมาพลิกลิ้นแผล็บ เมื่อนักข่าวดันไปถามเรื่องด่าลุงจิ๋ว ป๋าบอกไม่ได้พูดว่าทรยศชาติ แต่เตือนว่า จะทำอะไรคิดให้รอบคอบ เพราะอาจจะเป็นการทรยศชาติ

ใครฟังก็ได้แต่นั่งงง ว่ามันต่างกันยังไงหรือป๋า

คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ถ้าพูดออกมาทีไร เป็นต้องได้ฮากันท้องคัดท้องแข็ง อย่างเช่นเรื่องม้ากับจ๊อคกี้ ที่เล่นเอาฮาตรึมสมัยน้าแม้ว จนกระทั่งป่านนี้ ผ่านไปกว่า 3 ปี ยังฮากันไม่เสร็จ

ยังมีวลีเด็ดที่ป๋าฝากเอาไว้เยอะแยะ ถ้าขุดคุ้ยขึ้นมาเดี๋ยวมีฮาอีก อย่างเช่นว่า "ป๋าไม่พูดเรื่องการเมือง" แต่ไม่รู้เป็นไง

ไม่ว่าป๋าจะพูดอหิวาต์อะไรออกมา การเมืองเป็นได้เดือดปุดๆ ไปซะทุกที

มิน่าล่ะ ใครๆเขาถึงว่า อาการของโรคที่ป๋าเป็นนั้น มันมีพัฒนาการน่าเป็นห่วง สังเกตุว่าแรกๆป๋าก็แค่ออกมาแหล่ แต่แหล่ไปแหล่มาชักจะเริ่มแหล แล้วแทนที่จะรีบรักษา กลับออกมาแหลเป็นรายวัน

กว่าจะมารู้ตัวอีกที ก็แหลลงตับไปซะแล้ว

คนอย่างลุงจิ๋ว ดีชั่วยังไงแกก็ยังเป็นทหารประชาธิปไตย ขณะที่ทหารประชาธิปไตยครึ่งใบ มันกอดเก้าอี้ผบ.ทบ.แน่น จนกระทั่งเกษียณแล้วยังมีขอต่อวีซ่า แต่ลุงจิ๋วแกกล้าลาออกมันดื้อๆ เพื่อลงมาเล่นการเมือง

เสียอยู่อย่างเดียวว่า แกเป็นทหารที่ซ้ายหันขวาหันไม่เป็น เล่นเอาป๋าเสียวสยองกับแกอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าป๋าสั่งซ้ายแกจะไปขวา แต่ถ้าป๋าสั่งขวาแกจะออกซ้าย พอป๋าถามว่าจิ๋วจะหันไปทางไหนเอาให้แน่ ป๋าจะได้สั่งได้ถูก แกกลับปากหวานบอกว่า

แล้วแต่ป๋า สั่งมาได้เลย

ควันหลงจาก 17 ตุลา กระแสคลื่นประชาธิปไตย ที่จะพัดไล่คลื่นเผด็จการ ไปลงนรก มาถึงวันนี้ ชักจะแรงจัด ถึงขนาดเด็กๆยังออกแถลงการณ์ ไม่ให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง เรียกว่าย้อนเกล็ดพวกเฒ่ากะโหลกกะลา จนหน้าม้านไปตามๆกัน

เพราะขนาดรัฐบาลเด็กดื้อประกาศใช้พรบ.ฉุกเฉินอยู่โครมๆ พวกที่เคยดิ้นพราดๆ ห้ามลุงหมักจัดการกับพันธมิตร ยังนั่งอมสากกันหน้าตาเฉย ขนาดโดนเด็กมันส่งอีเมล์ไปลากคอมาร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ ยังทำเป็นหน้ามึน

เลยโดนแฉชื่อออกมาประจานซะเจ็บแสบ ใครเป็นใครคงไปหาดูได้ไม่ยาก แต่ที่แน่ๆแค่เปิดชื่อโคทม อารียา กับสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ก็เรียกเสียงฮือฮากันอื้ออึง

ส่วนพวกม.นกเขานั้นไม่ต้องไปพูดถึง ขนาดลูกศิษย์ลูกหามาออกแถลงการณ์กันอยู่เหย็งๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัว ไม่รู้ว่าพวกอาจารย์มันไปเลี้ยงนกเขาอยู่ที่ไหน

ต้องฝากบอกไปยัง อธิการบ่ดี คนที่ปากว่าตาขยิบปริ๊บๆคนนั้นว่า อย่าคิดว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้ว จะพาชาวบ้านไปลงนรกขุมไหนก็ได้ เพราะประชาชนที่โง่เขลานั้น ถึงจะยังมีอยู่ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างโร่ รู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำเนียนเป็นพวกประชาธิปไตย แต่ใจเป็นทาสเผด็จการ ทรยศต่ออุดมการณ์ วิ่งโร่ไปรับใช้อำมาตย์ เพื่อที่จะได้เป็นกรรมการโน่นนี่ ไม่รู้กี่สิบตำแหน่ง สวาปามกันจนพุงปลิ้น

ส่วนคนเฒ่าคนแก่ ที่กำลังใกล้ตาย เจียนอยู่เจียนไปทุกขณะ ถ้ารู้ว่าพลังของประชาชนนั้น เข้มแข็งขนาดไหน ก็อย่าเพิ่งตกใจจนช็อคตายไปซะก่อน ขอให้ท่องเอาไว้ว่า

แม้วจ้างมา..แม้วจ้างมา จะได้นอนตายตาหลับ

วโรทาห์: 19 ต.ค. 52

Wednesday, October 14, 2009

พรรคการเมืองใหม่..ผีเน่าที่แยกวงจากโลงผุ

ล่วงเลยไปแล้วหลายวัน แต่ฝุ่นควันยังไม่ยอมจางหายไปซักที สำหรับการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ได้รับความสนใจอย่างมืดฟ้ามัวดิน ชนิดที่ว่า แทบจะเหยียบกันตายที่ธันเดอร์โดม

เมื่อสนามกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ชมแค่ 5 พัน ต้องมารับศึกหนักจากยอดพันธมิตร ที่แห่แหนกันเข้าไปอย่างล้นหลามถึง 2,000 คน

เป็นธรรมดาของผู้ยิ่งใหญ่อย่างเดอะแป๊ะ ที่ก้าวย่างแต่ละที แผ่นดินแทบจะทรุดลงไปซะให้ได้

แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อการนับคะแนนซึ่งแสดงเจตนารมย์โดยการยกมือ ผลปรากฎว่าแป๊ะได้รับเลือกอย่างถล่มทลายถึง 1,700 เสียง ในขณะที่อีก 300 เสียง ไม่รู้ว่าผิดคิวอีท่าไหน ถึงไม่ยอมเลือกแป๊ะ

แต่ถึงยังไง มันก็เพียงพอที่จะทำให้แป๊ะเข้าป้ายไปอย่างลอยลำ ลืมไปเลยกับที่เคยถ่มน้ำลายไว้เลอะเทอะ ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เมื่อปี 2548 ว่า...

"ผมขอประกาศให้ทราบว่า ถ้าในอนาคตเห็นผมรับตำแหน่งทางการเมือง ถ้าเจอที่ไหนให้พ่อแม่พี่น้องถอดรองเท้าขว้างใส่หน้า หรือถ่มน้ำลายใส่หน้าผมได้เลย"

เป็นอันว่า สำหรับหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ สดๆซิงๆ ภารกิจอันหนักอึ้งนับจากนี้ไป คือการคอยหลบหลีกรองเท้า จากจอมตบหน้าอย่างป้าเสื้อแดงให้ดี เพราะผลงานจากการที่เคยถอดรองเท้าตบหน้ามาร์คมาแล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

เห็นไหมล่ะ! ปัญหานักการเมืองโกงกิน แก้ได้ง่ายๆด้วยการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีก อาจจะมีพรรคการเมืองใหม่กว่า ใหม่ที่สุด และใหม่กว่าของใหม่ที่สุด ตามมาอีกเป็นระลอก

คนเรายามเมื่อดวงตก แม้แต่เรียกหมามันยังไม่กระดิกหาง เมื่อทั้งเจ้ากุ๊ยกษิต เจ้าด่างบุญยอด กับเจ้าตูบสมเกียรติ ต่างออกอาการตาขวาง ไม่ยอมกลับเข้ากรงง่ายๆ ทั้งๆที่เจ้าของร้องเรียกโม่วๆจนปากฉีกถึงรูหู อุตส่าห์ร่วมแรงร่วมใจ ป่วนบ้านป่วนเมืองด้วยกันอยู่ได้ตั้งนาน จู่ๆอุดมการณ์มันดันไม่ตรงกันขึ้นมาดื้อๆ

ก็ไม่รู้ว่าอุดมการณ์อะไรของพวกมัน ถึงได้เปราะบางหลุดรุ่ย อย่างกับเส้นด้ายเปื่อยๆ ขนาดนั้น

ควันหลงตามมา ที่ต้องจับตาดูกันให้ดี คือพรรคการเมืองเก่าแก่ขี้อิจฉาอย่างประชาธิป่วน ที่โดนย้อนเกล็ดเข้าไปลูกนี้ เห็นทีจะทำใจลำบาก

เมื่อหมาหวงก้างอุตส่าห์ยอมกัดฟัน ส่งกระดูกชิ้นเดียวที่มีอยู่ไปให้หมาบ้ายืมแทะ หวังเพียงว่าจะได้มีแรงไปไล่กัดทักษิณ ที่เป็นคู่แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน ไม่คาดว่าพอแทะนานเข้า หมาบ้าชักจะมันปาก นึกว่ากระดูกชิ้นนั้น เป็นของมันไปซะฉิบ

สุนัขสองตัวไม่อาจแทะกระดูกชิ้นเดียวกันได้ฉันใด ศึกชิงกระดูกชิ้นใหญ่ ระหว่างพรรคการเมืองใหม่ กับพรรคการเมืองเก่าแก่โบร่ำโบราณ ก็ต้องเกิดขึ้นฉันนั้น

เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกับแมลงสาบ แล้วแป๊ะจะรู้ ว่านรกนั้นมีจริง

อุตส่าห์สู้ถนอมน้ำใจ คำน้อยไม่เคยว่าให้เสียหาย มีไหมที่ใครมาด่าพรรคแมลงสาบแล้ว ไม่ถูกประสานเสียงเห่าหอนโต้ตอบ อย่างเอาเป็นเอาตาย จะมีก็แต่แป๊ะนี่แหละ ที่ได้รับสิทธิพิเศษ ปล่อยให้ด่าฟรีไม่มีชาร์จ แล้วยังจะเอายังไงอีก

ว่ากันว่า งานนี้มีสิทธิ์เจ๊งทั้งคู่ เมื่อพันธมิตรก็แผ่วปลายจนแทบไม่เหลือฟอร์มเดิมแล้ว เลือกตั้งเมื่อไหร่มีหวังม้วนเสื่อเก็บฉากเมื่อนั้น อะไรไม่ว่า จะพาลลากเอาแมลงสาบวอดวายไปด้วย อย่างช่วยไม่ได้

เพราะว่าช่วงหลายปี มานี้ พรรคสะตอก็โหนไข่เผด็จการจนเสียมวลชนไปไม่น้อย ซ้ำยังมาโชว์ฟอร์มห่วยแตก บริหารประเทศจนเละเทะอีก ไม่กล้าคิดเลยว่า เลือกตั้งครั้งหน้า ยังจะเหลือสาวกพันธุ์แท้จริงๆอยู่เท่าไหร่

ก็ในเมื่อฐานเสียงมันเป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนผีเน่ากับโลงผุ เลือกตั้งครั้งต่อไป เชื่อขนมกินได้เลยว่ามีกัดกันเละเทะ ผลสุดท้ายคะแนนที่น้อยอยู่แล้ว ยังต้องมารวมพลังหารสองเข้าให้อีก แล้วมันจะไปมีอะไรเหลือ เขาถึงว่า งานนี้ตาอยู่สบายแฮ

เลิกคุยไปเลยเรื่อง 70/30 ตอนนี้แค่ประคองตัวให้รอด จากอาการเสียศูนย์แหกโค้งลงคูอย่างเสี่ยประชัยก็รากเลือดแล้ว

ในขณะที่การเมืองข้างถนน ถูกบีบเข้าตาจน ทำให้ต้องขึ้นมาวิ่งบนทางอย่างทุลักทุเล ส่วนพรรคการเมืองของอำมาตย์ ที่ใช้อภิสิทธิ์แล่นฉิวบนไฮเวย์ ก็กำลังจะซิ่งลงข้างถนน ด้วยฝีมือโชเฟอร์เด็กดื้อ มือใหม่หัดขับ อย่างเด็กชายเหงียนจอมกู้

งานนี้เล่นเอาแมลงสาบเฒ่าทั้งหลาย ต้องวิ่งกันตีนขวิด เพื่อหาทางดิสเบรคกันโดยด่วน ไม่งั้นเที่ยวนี้มีสิทธิ์ตายยกแก๊งค์

มาถึงขั้นนี้ คงต้องเอาใจช่วยแป๊ะกันสุดฤทธิ์สุดเดช คนเราลงว่าถึงขั้นแย่งสุนัขรับประทานแล้ว ต้องถือว่าเข้าตาจนสุดๆ จากผู้ยิ่งใหญ่ข้างถนน ที่หันไปทางไหนมีแต่คนชิ่งหลบกันวูบวาบ แต่หลังจากเจอปืนไปเที่ยวนั้น บารมีกลับวูบหายไม่เหลือหลอ ตอนนี้ขนาดจ้องหน้าสุนัข มันยังไม่ยอมหลบสายตา

ไม่รู้ว่าปราการด่านสุดท้าย คือพรรคการเมืองใหม่ จะคุ้มกะลาหัวแป๊ะได้ซักกี่น้ำ ในเมื่อหนทางข้างหน้า เห็นแล้วก็เข่าอ่อน ไหนจะคดีอาญาที่รออยู่เป็นกะตั้ก รวมกันแล้วไม่รู้ว่าจะเจอคุกกี่ปี เบาะๆที่หวยออกแล้วตอนนี้ ก็ 7 ปีกับอีก 3 เดือน ถึงขนาดหลบมุมไปทำปากกล้า แต่ขามันก็อดสั่นไม่ได้ งานนี้ต่อให้ไม่ตายคาคุก ก็ยังมีลุ้นยกสอง...

เจอยิงกบาลรอบใหม่

วโรทาห์: 14 ต.ค. 52

Wednesday, October 7, 2009

ห้ามกระพริบตาเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากพลาดช็อตเด็ด

การเมืองร้อนฉ่าขึ้นมาทันควัน เมื่อสถานการณ์ปรอทขึ้นๆลงๆ ไม่อยู่กับร่องกับรอย บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายคลุมๆเครือๆจับต้นชนปลายไม่ถูก ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท บรรดาขาใหญ่วัยโจ๋จึงต่างเอากองทัพส่วนตัว ออกมาตั้งท่าคุมเชิงกัน ชนิดที่ไม่มีใครยอมลงให้ใคร เป็นอันขาด

คนไทยตาดำๆจึงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ลุ้นเสียวกันทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ จนกว่าวันไหนจะมีแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย หักมุมออกมา ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป ว่าใครหมู่ใครจ่า

สำหรับคอการเมืองขนานแท้ ช่วงนี้คงกระพริบตาไม่ได้เป็นอันขาด เพราะท่านอาจจะพลาดช็อตเด็ดไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถึงแม้จะรีเพลย์ได้ในภายหลัง มันก็ไม่มีชีวิตชีวาเท่ากับได้แหกตาดูกันเจ๋งๆ

ผิดกับเรื่องประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเพิ่งเก็บฉากไปเรียบร้อยโรงเรียนมาร์ค หลังจากที่มีโอกาสไปเกาะโพเดียมจ้อกันสดๆ จนขาใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตยถึงกับน้ำตาซึม นึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ว่าแล้วก็ควักกระเป๋าดังหนึบ โยนใส่กะลามา 680 ล้านบาท

บอกว่าเอาไปพัฒนาประชาธิปไตยซะ ให้มันมีชีวิตชีวาน้อยๆหน่อย

ทำอย่างนี้บ้านเราเขาเรียกว่า เอาเงินตบหน้ากันชัดๆ เพียงแต่ว่างานนี้พี่กันคงจะเสียดอลล่าร์เปล่า เพราะว่าหน้าหนาๆอย่างนายกฯของเราคนนี้ ต่อให้ตบยังไง ก็ไม่รู้สึกมึน

ผิดกับคนแก่ที่ไร้ชีวิตชีวาคนนั้น ที่วันๆเอาแต่ทำหน้ามึนจนชาวบ้านอยากจะบ้าตาย สมแล้วที่โดนดีเข้าให้ จนแทบเอาตัวไม่รอด ขนาดจวนเจียนจะเข้าโลงอยู่รอมร่อ ยังถูกตามด่าตามเช็ด ถึงกับหนีหัวซุกหัวซุน เข้าค่ายนั้นออกค่ายนี้ หวังซุกหว่างขาแมงดาปีกเขียว

พวกที่วันๆเอาแต่ลุ้นเสียว เรื่องคอมมิชชั่นงบประมาณค่าซื้ออาวุธ

ใครไม่มาเป็นป๋าบ้าง คงไม่มีทางรู้หรอกว่า การโดนประชาชนจงเกลียดจงชังเป็นล้านๆ แถมออกมาไล่ตะเพิดกันเป็นแสนๆ มันเจ็บกระดองใจผู้ทรงคุณธรรมซะขนาดไหน

หันไปทางกระบวนการยุติธรรม ที่มีชีวิตชีวา ก็กำลังอาละวาดอย่างเมามัน เพราะนอกจากจะยืดได้หดได้ แถมยังล็อคเป้าได้ตามใจปรารถนาแล้ว ยังสามารถดลบันดาลให้พลิกคว่ำพลิกหงายได้ อย่างถูกที่ถูกเวลาอีกต่างหาก

เพราะเหตุนั้น คดีกล้ายาง ที่ติ๊ดชึ่งดึงจังหวะอยู่นานสองนาน พอได้เวลาเหมาะๆถึงได้เกิดสปัสซั่ม ออกมาปล่อยผีกันอย่างสนุกสนาน เล่นเอาไอ้ห้อยจอมเนรคุณ อ้าขาผวาปีกซะยกใหญ่ จนแล้วจนรอด ป่านนี้ยังฉลองกันไม่เลิก

ขณะที่สายน้าแม้วเจอคุกเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่โซ่ข้อกลางอย่างลุงจิ๋วหวานจ๋อย แต่อนิจจา..ในร่างแหเดียวกัน กลับมีปลาเล็กปลาใหญ่ ที่เล็ดลอดออกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ นัยว่าเป็นโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่เปลี่ยนใจไม่เอาแม้วโดยเฉพาะ

ควันหลงที่ตามมาติดๆ เลยช่วยไม่ได้ที่ต้องเกิดอาการเป็นงงกันระนาว เมื่อพ่อใหญ่จิ๋วเด้งรับเทียบเชิญเข้าพรรคเพื่อไทย อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาสมุนอำมาตย์ไข้ขึ้นกันปุบปับ ออกอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว จับไข่สั่นกันเป็นแถว

ลงว่าถ้าน้าแม้วได้ขงเบ้งมาประสานสิบทิศอย่างนี้ บอกได้เลยว่างานนี้ ตัวใครก็ตัวมัน

เสียวอยู่อย่างเดียว ที่ช่วงหลังมานี้ ขงเบ้งแห่งกองทัพบก ดันกลายเป็นจิ๋วจอมชักไปซะฉิบ หลังจากที่วาดลวดลายลีลาชักเข้าชักออก จนเหวอไปตามๆกัน ความน่าเกรงขามเลยลดลงไปเยอะ แต่ถึงยังไง ถ้าจะลองใช้บริการอีกซักตั้ง ก็ยังไม่น่าเกลียดซักเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องถือว่าเสื้อแดงมีแต่ได้กับได้ เพราะถ้าลุงจิ๋วทำดีเราก็แค่ตามน้ำสบายไป แต่ถ้ายังขืนทำยึกยัก มาออกลูกล่อลูกชนอีก ค่อยโน้มคอคนแก่มาตีเข่า ก็ยังไม่สายจนเกินเพล

ก้าวย่างก้าวนี้ของลุงจิ๋ว นับว่าสั่นฟ้าสะเทือนดินอยู่ไม่น้อย เหมือนได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างจากดวงดาว ที่ส่งผลใหญ่หลวง ทำให้สมุนอำมาตย์ต้องหยุดคิด ตรวจสอบทิศทางลมกันใหม่ ว่ามันน่าจะมีอะไรในก่อไผ่ นอกจากหน่อไม้กับใบแห้งๆ

สถานการณ์ล่อแหลมอย่างนี้ ใครขืนอ่านทางไม่ขาด งานนี้มีโอกาสซึมยาวไปถึง ชั่วลูกชั่วหลาน

ก็ขนาดบรรดาหมาแก่ ที่เคยเห่าหอนเรียกผี อย่างสนุกสนาน ยังเกิดอาการหลงคีย์ขึ้นมาเฉยๆ โดยเฉพาะหมาสังเวช บัดสีบัดเถลิง ที่ตามจิกทักษิณอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังหันกลับมาจ้อเรื่องความเป็นธรรม อย่างหน้าตาเฉย

หรือหมาผู้ดีหัวเถิก ที่เคยเห่าทักษิณตามฤดูกาล ยังอุตส่าห์เกิดดวงตาเห็นธรรมกระทันหัน บอกว่าคนที่ไม่นิยมจ้าว ยังสมควรต้องมีที่ยืนในสังคมเหมือนกัน

คงเหลือแต่แก๊งค์เด็กดื้อ ที่ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ วันๆเอาแต่เถลิงอำนาจกันสุดเหวี่ยง แค่เรื่องตั้งผบ.ตร.ตำแหน่งเดียว มันล่อซะสีกากีแตกเละเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ เล่นเอาอำมาตย์เฒ่าถึงกับมึนตึ้บ

แต่ทีเรื่องงานจริงๆมันไม่เอาอ่าวซักเรื่อง ด้านเศรษฐกิจก็ฝากความหวังไว้กับพี่เบิ้มสหรัฐฯ จากนั้นก็หันมากู้แหลก แบ่งกันงาบอย่างตายอดตายอยาก เล่นเอาสื่อที่คอยตามเชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงกับหันหลังยูเทิร์นกันแทบไม่ทัน

ขนาดเรื่องสมานฉันท์ยังต้องใช้ เงินปูลาดกันเป็นฟ่อน หลังจากสมานให้กองทัพไปนับหมื่นล้านแล้ว ยังแอบสมานให้แป๊ะไปสร้างสื่อใหม่ 300 ล้าน แล้วนี่ล่อไปอีก 13 ล้าน เอาไปร้องเพลงชาติไทยให้คนไทยฟัง

เป็นวิธีง่ายๆหลอกให้คนไทยรักกัน แล้วแอบล่อกันจนพุงปลิ้น นี่ถ้าไม่ใช่คุณชายสะอาด รับรองว่า ไม่มีทางฟาดได้ขนาดนี้

รอบบ้านก็แง่งๆกับเขาไปทั่ว จนชาวบ้านเขาไม่อยากคบด้วยแล้ว ยกเว้นเขมรเจ้าเดียวที่ได้ที ดักแทงเข่าจังหวะสอง ฉวยโอกาสที่ประเทศไทยถูกอหิวาต์กินเมือง จัดการยึดพื้นที่รอบเขาพระวิหารเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

แถมสำทับกลับมาอีกว่า ถ้าทหารไทยกล้าล่วงล้ำเข้าไปแม้แต่เซ็นต์เดียว จะยิงให้กลิ้งเหมือนหมาข้างถนน นี่เท่ากับว่ามันไม่เห็นหัวเถิกๆของทหารไทยอยู่ในสายตา ถึงได้ข่มเอา..ขู่เอา

ถ้าผมเป็นผบ.ทบ.ผมลาออกไปแล้ว ไม่ด้านหน้าอยู่ทนให้ชาวบ้านเขาถ่มถุยเอาหรอก

เขียนถึงตรงนี้เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ว่า 6 ตุลาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง วันนี้เมื่อปี 2519 เป็นวันอันแสนอัปยศอดสู โหดทมิฬเหลือกำลังลาก แต่ถึงวันนี้ตัวละครสำคัญๆ ก็ทะยอยรับกรรมกันเป็นแถว

คาดว่าก่อนตายคงต้องทนทุกข์ทรมาน เหมือนนักศึกษาที่ถูกตอกอก ตายคาสนามหลวง เป็นแน่แท้

แปลกแต่จริงที่วันนั้น นักศึกษาถูกยัดข้อหาว่าเป็นญวน ให้พวกกระหายเลือดตามฆ่าเป็นว่าเล่น แต่ 33 ปีผ่านไป เรื่องราวมันดันกลับตาลปัตร พลิกคว่ำพลิกหงาย กลายเป็นว่าคนไทยตายกันเป็นเบือ...

เพราะคำสั่งฆ่าจากนายกฯลูกหลานคนญวน

วโรทาห์: 6 ต.ค. 52

Wednesday, September 16, 2009

มิคสัญญี กลียุค..บนความดื้อ ของเด็กบ้า

ฮือฮากันไปทั้งสนาม เมื่อจู่ๆกรรมการข้างเวที อย่างกล้านรก จัณฑาล แอนด์เดอะแก๊งค์ ก็คว้าไม้หน้าสาม ขึ้นเวทีไปแพ่นกบาลบิ๊กป๊อด ลูกสันติราษฎร์เอาดื้อๆ

ส่งผลให้นักมวยฝ่ายน้ำเงิน ออกอาการก้นเตี้ย เปิดโอกาสให้เด็กดื้อ ลูกป๋าดัน นักมวยฝ่ายเหลือง กระโจนเข้ากัดใบหูได้ อย่างเต็มปากเต็มคำ

เล่นเอาแฟนมวยทั้งสนามตกตะลึงตาค้าง ส่งเสียงครางเป็นนกถึดทือว่า แม่มันเล่นเหม็นกันอีกแล้วว้อย..ทั้งปี

จะว่าไปแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของสนามมวยสารขัณฑ์ ที่กรรมการข้างเวทีมักจะเกิดอารมณ์ร่วม ไม่เพียงแค่ออกหน้ามาเชียร์มวยอย่างน่าเกลียด แต่ถึงขนาดโดดขึ้นเวทีไปช่วยยำนักมวยฝ่ายตรงข้าม ก็ทำกันออกบ่อย

ถึงว่า..กลิ่นมิคสัญญี กลียุค ลอยเข้ามาเตะจมูกอยู่ผางๆ ยิ่งนับวันยิ่งฉุนขึ้นจมูกไปทุกที ตั้งแต่ตาเฒ่ากาลี มีบัญชาให้ท.ทหารถือธง แบกเด็กดื้อขึ้นวอ ล่อเก้าอี้นายกฯไปอย่างหน้าด้านๆ เด็กห่ามมันเลยย่ามใจ ควักไม้ขีดไฟออกมาเล่น เผาบ้านเผาเมืองอย่างสนุกสนาน

ลืมไปสนิทเลย กับที่เคยผายลมทางปากว่า "ประชาชนต้องมาก่อน" พอประชาชนไม่ยอมมาก่อน มันเลยซัดไม่เลี้ยง ทั้งเอ็ม-16 รถถัง ฮัมวี่ย์ เอ๊กเซอร์ไซส์กันให้วุ่น อะไรมันจะขนาดนั้น

ถึงขนาดเป่านกหวีดปรี๊ดๆ เรียกสีเขียวออกมาเต็มพรึ่ด เพียงเพื่อจะแสดงภาวะผู้นำของเด็กป๋า ก็ยังทำ

แขกไปไทยมา เผลอๆจะนึกว่าบ้านนี้เมืองนี้ อยู่ภายใต้อิทธิพลอำนาจปืน ของรัฐบาลทหาร ท่านนายพล"เหงียนมาร์ค"

ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่ป๋าทำไม่ได้นอกจากทำลูก จึงเป็นเหตุให้เด็กดื้อมั่นใจเต็มพิกัด ว่าจะออกฤทธิ์ออกเดชยังไงก็ได้ เดี๋ยวป๋าวิ่งเคลียร์ให้ สบายบรื๋อสะดือปลิ้น หายห่วงหมดกังวล แม้แต่วันมามาก

มีองค์กรอิสระเป็นของตัวเองซะอย่าง ป๋าเลยสบายไปแปดอย่าง ต่อให้ขึ้นช้างลงม้า ป๋าก็บ่ยั่น เด็กป๋าทั้งนั้น ตบได้สั่งได้ จะตัดสินยังไง ที่ไหน เวลาใด ขอให้บอก จะเอาตามกฎหมายหรือพจนานุกรม ว่ากันเป็นแพ็คเกจ ก็จัดให้ได้ทั้งนั้น

ต้องยอมรับว่า กล้าณรงค์ มันชักจะกล้าท้านรกขึ้นทุกที ตัดสินอะไรมันจะบังเอิญให้ถูกที่ถูกเวลาซะขนาดนั้น อุตส่าห์ลากยาวมาได้ตั้งเป็นนานสองนาน จำเพาะเจาะจงจะมาเกิดสปัสซั่ม เอาตอนที่เขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม

จะฉากหลบชิดซ้ายออกไปอีกแค่ไม่กี่วัน ไม่รู้มันจะอกแตกตายกันหรือยังไง

เอาเหอะ..ไว้ถึงวันที่ฟ้าสีทองผ่องอำไพ คงได้เห็นหัวล้านติดหนวดสวมแว่นตาดำ ถูกเสียบประจานไว้ที่ทางสามแพร่ง แล้วใครต่อใคร คงได้หัวเราะให้ฟันหัก

ส่วนเหงียนมาร์คคงต้องถูกจารึกชื่อไว้บนบัญชีหนังหมา ในฐานะหัวเชื้อชั้นดีของสงครามกลางเมือง

" ตูมมม..." พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงระเบิดกึกก้อง ก็ดังขึ้นที่บ้านของนายอวิชา มาหาคุณ เป็นเสียงเตือนนิ่มๆมาจากใครก็ไม่รู้ เพราะโจทย์มันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ส่งผลให้ 9 ปปช.ถึงกับฉี่เล็ด เรียกหาบริการจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กัน ให้เสียงหลง

นี่แหละที่เขาว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้เอ็ม-69 อย่าไปคิดอะไรมาก รับใช้ป๋าให้สุดลิ่มทิ่มประตู ไม่นานเกินรอ ต้องมีใครถูกหวย

สำหรับเสื้อแดงแล้ว งานนี้มันก็แค่แย้กัดกัน ใครจะเป็นใครจะตาย ไม่ต้องไปสนใจให้เมื่อยตุ้ม เป้าหมายอยู่ที่อำมาตย์ตัวเดียวอันเดียว ใครไม่เกี่ยวถอยไป

ดีแล้วที่อำมาตย์ดันทะลึ่งมาเสี้ยมให้แดงแตกเป็น หลายก๊ก บางก๊กไปสุดทางที่เชียงราย บางก๊กขอบายลงที่นครสวรรค์ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกก๊กคงต้องตีตั๋วต่อ ไปสมทบกันที่ปลายทางอยู่ดี เมื่อพบว่าปัญหามันไม่จบ เพราะโจทย์จริงอยู่ที่เชียงราย

ระหว่างนี้ คงต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อม ข่าวเขาว่า อีกไม่ช้าปู่โสมจะไปยาว คราวนี้คงต้องตีตั๋วนอน มีพระนำ ถึงเวลานั้นสีเขียวคงแย่งกันทำรัฐประหาร ส่วนสีแดงก็เข้าผสมโรง..ปฏิวัติประชาชน

อำมาตย์จะตายร้อนหรือว่าตาย เย็น ก็ต้องเลือกวิธีตายเอาไว้แต่เนิ่นๆ ถึงเวลานั้น ประชาชนจะได้จัดให้ถูก ต้องตามความประสงค์ของผู้ตาย เพราะดูแนวโน้มแล้ว...

ศพอำมาตย์จะเละแค่ไหน ก็อยู่ที่มันทำอะไรไว้กับประชาชน

วโรทาห์: 16 ก.ย. 52

Monday, September 7, 2009

เรื่องคลิปลับ "คำสั่งฆ่าจากนรก" อย่าหวังว่าจะจบลงได้ง่ายๆ

ออกอาการบ้าเลือดขึ้นทุกวัน สำหรับนายกฯลูกกรอกคะนองโพเดียม ที่วันๆมีแต่ข่าวฟาดงวงฟาดงา ไม่เกรงใจคนไม่สนใจใคร ด้วยมั่นใจสุดๆในพลังอุ้ม ของป๋าดูดแท็กทีมกับเจ๊ดัน

นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานของตาแก่หนังกลับ ที่เอาเก้าอี้นายกฯไปประเคนให้ละอ่อน ที่มีวัยวุฒิต่ำเตี้ยติดดิน จนก่อให้เกิดภยันตรายใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ เหมือนติดอาวุธให้กับคนบ้า ยังไงยังงั้น

นับว่าเป็นนายกฯคนแรก และอาจจะคนเดียวด้วยซ้ำไป ที่ประชาชนสามารถใช้คำว่า"หะเอี้ยยยยยย..."ได้ อย่างเต็มปากเต็มคำ จากผลงานการลุแก่โทสะ ออกมายืนแลกหมัดกับประชาชน อย่างถึงพริกถึงขิง

สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจไปทุกหย่อมหญ้า จนแทบกระอักโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ เพราะทำอะไรมันไม่ได้ ได้แต่กรีดร้องออกมาว่า "อ้ายยยย..หะเอี้ยยยยยย..."

เพราะเหตุนั้น เมื่อคลิปลับ "คำสั่งฆ่าจากนรก" ถูกปล่อยออกมาจากค่ายทหาร จึงไม่มีใครตั้งแง่สงสัยเลยแม้แต่น้อย ว่าจริงหรือมั่ว เพราะว่าทั้งน้ำเสียงลีลาอารมณ์ มันชั่วได้ใจ ชนิดที่ไม่มีใครเลียนแบบได้จริงๆ

จะตะแบงกันยังไงก็แล้วแต่ คงต้องยอมรับกันอย่างไม่อายว่า คลิปนี้ออกมาจี้จุดคีมึ้งได้อย่าง เจ็บแสบไปถึงรูทวารหนักจริงๆ ถึงขนาดเล่นเอาเจ้าตัวยิ้มไม่ได้ถ่ายไม่คล่อง จนต้องออกมาเต้นผางๆ ทำเป็นว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษให้จงได้

แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่กล้าสืบสาวราวเรื่องไปถึงต้นตอจริงๆ นอกจากเชิดเอาคุณหญิงหน้าผี ที่หลังๆมานี้ชักจะออกแนวพหูสูตรเรียกแม่ ให้เสนอหน้ามายืนยันนอนยันตีลังกายัน การันตีว่ามีการตัดต่อตั้ง 62 จุด

เล่นเอาฮือฮากันไปทั้งบาง ว่าตัดต่อภาษาบิดาคุณหญิงหรือไง ถึงได้พูดแค่ 4-5 คำตัดที แล้วอย่างนี้มันจะไปฟังเป็นภาษามนุษย์ได้ยังไงกัน

ประเด็นว่าหมาตัวไหนพูดนั้น เอาเป็นว่าตัดไปได้เลย เพราะว่าหมาในสภารับแล้วว่ามันพูดจริง ถึงแม้จะออกลีลางึกๆงักๆกั๊กๆไว้หน่อย ว่าพูดจริงบางส่วน แต่ไม่ว่าจะส่วนไหน ใครฟังก็รู้ว่า เป็นหมาตัวเดียวกันพูด..ชัดๆ

ส่วนประเด็นที่ว่าตัดต่อนั้น ก็ไม่มีใครเถียง เพียงแต่ว่าการตัดต่อนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความหมายปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด แล้วอีกอย่าง ยังมีหลายประโยคที่ไม่ว่าจะฟังยังไง มันก็ตีความเป็นอื่นไปไม่ได้อยู่ดี

อย่างข้อความที่ว่า "เริ่มจากประมาณดึกของคืนนี้จนถึงพรุ่งนี้" ฟังแล้วคนบ้าที่ไหนจะไปคิดว่า กำลังสั่งให้ทำอะไรดีๆในช่วงเวลานั้น และที่แน่ๆ รุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ มันก็ยิงประชาชน

ไม่มีหมาตัวไหน เถียงสักแอะว่าไม่ได้ยิง นอกจากตะแบงไปข้างๆคูๆว่า ยิงขึ้นฟ้าบ้าง ใช้กระสุนหลอกบ้าง และไม่มีใครตายบ้าง สุดแท้แต่ว่า จะแหลไปทางไหนได้ เป็นต้องแหลเอาไว้ก่อน

หรืออย่างประโยคที่ว่า "ผู้ชุมนุมต้องได้รับบทเรียน" ก็ยังคาใจไม่รู้ลืม ว่าทำไมผู้ชุมนุมถึงต้องได้รับบทเรียน แล้วบทเรียนอะไรไม่ทราบ ที่ผู้ชุมนุมต้องได้รับ ถ้าจะแถว่าตัดต่อมาจากนโยบายเรียนฟรี

มันก็ควรจะเป็น "ผู้ชุมนุมต้องได้รับ'แบบ'เรียน" ไม่ใช่ 'บท'เรียน ถึงจะถูก

แต่ที่แน่ๆ หลังจากนั้น ผู้ชุมนุมก็ได้รับบทเรียนจริงๆ แถมยังเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดรวดร้าว ชนิดที่ต้องจดต้องจำไปชั่วลูกชั่วหลาน มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน ว่าเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว

'บท เรียน'บทนี้ จะต้องแปลงให้เป็น'แบบเรียน' เพื่อที่อนุชนรุ่นหลังจะได้ช่วยกันสาปแช่งตระกูล'เวทนาชีวะ' อย่าให้พวกมันได้ผุดได้เกิด เป็นอันขาด

คนชั่วยังไงก็ต้องพูดแต่เรื่องชั่วๆ ถ้าไม่คิดชั่วทำชั่ว มีหรือจะพูดแต่ประโยคชั่วๆ ให้เขามาตัดต่อจนเป็นเรื่องเป็นราวได้ถึงขนาดนั้น

ถ้านายกฯพบประชาชนทั้งที พูดแต่เรื่องสร้างสรรค์ พูดถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ถ้าต้องพูดถึงผู้ชุมนุม ก็เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ มีหรือจะเกิดเรื่องเลวร้ายอย่างนี้ ขึ้นมาได้

แต่นี่มันตรงกันข้าม เพราะว่าในสมองมีแต่เรื่องทำลายล้าง มองฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูคู่อาฆาต ที่ต้องตามล้างตามผลาญกัน อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู อย่างกับไปฆ่าพ่อฆ่าแม่มัน ยังไม่ปาน

ยิ่งออกอาการร้อนตัว พยายามปิดปากปิดหูปิดตาประชาชน ก็ยิ่งเติมเชื้อความสงสัย ให้ชาวบ้านต้องคุ้ยแคะแกะเกา ขอดสะเก็ดออกมาให้ได้ ว่ามันอะไรกันนักกันหนา ถึงไม่กล้าเชิดหน้าขึ้นสู้ความจริง

ก็ไหนมั่นใจว่าเป็นคลิปเก๊ ทำไมไม่เปิดฟรีสไตล์ให้ทั้ง 2 ฝ่ายออกมาโต้กันด้วยข้อมูลล้วนๆ เพื่อที่ประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ถูก ว่าใครเป็นคนใครเป็นหมากันแน่

ถ้าคิดว่าปิดปากกันแล้วเรื่องจะเงียบหาย ก็นับว่าโง่มากๆ เพราะเท่ากับทำให้เรื่องนี้กลายเป็นปริศนาที่ไม่มีคำเฉลย แล้วเด็กชั่วคนนี้จะด้านหน้าอยู่ร่วมแผ่นดินกับชาวบ้านได้ยังไง

น่าสงสารคนไทยที่ถูกทหารไทยฆ่าตาย ในช่วงสงกรานต์ทมิฬ แต่ในที่สุดวิญญาณของพวกเขาก็ได้รับการชดเชยแล้ว ด้วยการที่คนสั่งฆ่าพวกเขา ต้องตกนรกหมกไหม้ กำลังตายทั้งเป็น อย่างน่าเวทนา เพราะไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่...

คลิปนี้จะยังอยู่คู่สังคมไทย ตราบชั่วฟ้าดินสลาย

วโรทาห์: 7 ก.ย. 52

Sunday, August 30, 2009

แม้แต่พระพิรุณยังมีวืด..ถล่มลงมาต้อนรับเสื้อแดง..เป็นการใหญ่

"มันบ้าหรือเปล่าวะ! ยังไม่มีห่าอะไรก็ประกาศพรบ.ฉุกเฉิน" เป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งทั้งชีวิตหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องการเมืองสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะว่าพูดขึ้นมาทีไรแกจะปวดหัวจี๊ดๆ

แต่ครั้งนี้ ดูท่าว่าแกจะเหลืออดเหลือทนจริงๆ ถึงได้โพล่งออกมาอย่างนั้น

"ทีตอนสมัครประกาศใช้ ทั้งๆที่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว แม่มันโวยวายกันใหญ่ หาว่ากระทบความเชื่อมั่นบ้างหละ นักท่องเที่ยวตกใจบ้างหละ แล้วทีตอนนี้นักท่องเที่ยวเลิกกลัวแล้วหรือไง ฉอดๆๆๆ..."

พอดีไปได้ ฟังเข้า เลยเก็บมาเล่าให้ฟังเฉยๆ มาร์คคงไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอก เพราะว่ามันชัวร์อยู่แล้ว พวกนี้รับเงินทักษิณ มาดิสเครดิตรัฐบาล

คิดได้อย่างนี้ ก็สบายใจไปแปดอย่าง บ้านเมืองจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน

ไม่รู้เวรกรรมอะไรของมาร์ค ขณะที่ชาวบ้านยังด่ากันไม่เสร็จ รัฐบาลก็งานเข้าจนได้ เมื่อเจอมือเก๋าอย่างลุงวีระ ย้อนเกล็ดซะเจ็บแสบ ด้วยการประกาศยุทธการ "ให้มันบ้าไปคนเดียว"

เลื่อนการชุมนุมไปเป็นวันที่ 5 กันยายน หลังหมดเขตพรบ.แค่ 1 วัน..ซะงั้น

อย่างนี้เรียกว่าเล่นง่าย กว่ารัฐบาลจะเข็นประกาศพรบ.ออกมาได้ ต้องคิดแทบกะโหลกแตก แถมต้องผ่านที่ประชุมครม. แล้วยังต้องมาโดนประชาชนด่าจนหูตูบอีก

แต่ลุงวีระลงทุนแค่ไมโครโฟนตัวเดียว แล้วกรอกเสียงลงไปว่า"เลื่อน" เท่านั้นเอง มาร์คก็หน้าแหกเป็นริ้วปลาช่อน พลิกตัวกลับไม่ทัน ถูกหักหน้าซ้ำสอง เลือดกำเดาพุ่งกระฉูด อย่างกับน้ำพุยังไม่ปาน

ก็ขนาดเพื่อนซี้ของชาวเสื้อแดง อย่างพระพิรุณยังมีวืด สงสัยไม่ได้ฟังแถลงการณ์เลื่อนประชุมของสามเกลอ ถึงได้หลับหูหลับตาเทจั่กๆลงมาเป็นการใหญ่ เบิกฤกษ์ตั้งแต่คืนวันที่ 29 ต่อเนื่องมาถึงเช้าวันที่ 30 ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้ง่ายๆ

ป่านนี้ไม่รู้ว่า ทหารที่ถูกเกณฑ์ให้มาล้อมร้ัวลวดหนามหิ่บเพลง กับอีก 21 กองร้อยที่ถูกห้ามลาห้ามป่วย เพื่อแสตนด์บายไว้ไล่ยิงประชาชนโดยเฉพาะ จะด่าเช็ดไปแล้วกี่กระบุงโกย

จริงอยู่ที่ว่า รัฐบาลเทพประทาน ทำอะไรก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แต่สำหรับภาคประชาชน มันก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่อง งานนี้มีแต่คนสมน้ำหน้า หาว่าเสือกโง่เอง

มีอย่างที่ไหน เล่นล้อมอวนไว้ก่อน เพียงเพราะได้รับรายงานว่าปลาจะมาชุมนุมกัน ปลาเลยแตกตื่นว่ายน้ำหนีหายไปหมด..ถามหน่อยซิ ว่าโง่กว่านี้ยังมีอีกไม๊?

ไม่รู้จะใช้คำว่าสงสาร หรือว่าทุเรศดี ขนาดหน้าแหกถึงปานนั้น ยังกล้ามาตีโพยตีพาย ว่าเสื้อแดงกลับกลอกไม่มาตามนัด แถมสำทับแก้เกี้ยวอีกว่า ถ้าเสื้อแดงชุมนุมเมื่อไหร่ ก็จะประกาศอีก

งามหน้ากันละคราวนี้ อยู่ดีๆรัฐบาลมาเล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับประชาชน..ซะงั้น

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ฟังจากที่มาร์คออกมากระฟัดกระเฟียดแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า บางทีลุงวีระก็ทำเกินไป แทนที่จะบอกกันแต่เนิ่นๆ นี่ดันไปประสานงานกับรัฐบาลซะเป็นตุเป็นตะ ว่าจะชุมนุมที่นั่น แล้วจะเคลื่อนไปที่นี่ เริ่มเวลานั้น แล้วไปเลิกเวลานี้ ขนาดเส้นทางที่ใช้ ยังระบุให้เสร็จสรรพ

เล่นเคาะกะลาให้หมาดีใจอย่างนี้ หมาที่โง่พอก็ต้องนึกว่าพูดจริง เลยจัดการเรียกประชุมครม.ฉับไว ออกประกาศภาวะฉุกเฉินดักหน้าทันที กะว่ายังไงงานนี้ มึงเสร็จกูแน่

ถึงได้โง่ลึก จนกลายเป็นโง่ดักดาน เมื่อเจอโรคเลื่อนแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่มีการบอกกล่าวเล่าสิบ เล่นเอาหน้าเขียวหน้าเหลือง ไปตามๆกัน

อย่างนี้แหละ ที่เขาเรียกว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องคลิปลับอื้อฉาว ยังไม่ทันสะเด็ดน้ำดี ก็ไปก่อเรื่องควายๆ มาให้ชาวบ้านได้ฮากันไม่หุบ

อาการภาวะผู้นำบกพร่อง ที่เกิดขึ้นอย่างถี่ยิบในระยะนี้ ถือเป็นการพิสูจน์มาตรฐานอ๊อกซ์ฟอร์ดได้ เป็นอย่างดีว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด...

มีหรือจะปล่อยกระบือออกมาเพ่นพ่าน..อยู่ในเวลานี้

วโรทาห์: 30 ส.ค. 52

Friday, August 28, 2009

คลิปลับของมาร์ค..คงต้องลำบากป๋าอีกแล้ว

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า โดยนิสัยถาวรส่วนตัวแล้ว ผมเกลียดเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนป้ายสีฝ่ายไหนก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ผมเกลียดพรรคแมลงสาบอย่างโคตรๆ

ดังนั้น แรกๆที่เกิดคลิปลับอื้อฉาวของมาร์คขึ้นมา ผมจึงไม่ค่อยติดตามซักเท่าไหร่ และไม่สนใจหาฟังด้วยซ้ำไป กะว่าปล่อยให้พิสูจน์กันซะให้เสร็จก่อน ว่ามันของจริงของปลอมแล้วค่อยมาว่ากัน

และผมก็คงไม่เขียนถึงเรื่อง แบบนี้ ถ้าไม่บังเอิญเจอลิ้งค์ไปห้องหว้ากอในพันทิพ เห็นว่าพิสูจน์ทราบกันจะๆแล้ว อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เลยต้องตามไปดูซะหน่อย เผื่อว่าจะสรุปได้ซะทีว่ามันยังไงกันแน่

เจ้าของกระทู้เขาออกตัวซะ ดิบดี ว่าเป็นคนทำงานด้านเสียง เลยยอมไม่ได้ที่มีคนเอาวิชาชีพมาใช้ในทางที่ผิด มันต้องอย่างนี้สิเพื่อน ช่วยๆกันผดุงความยุติธรรมไว้ให้สังคม อีกหน่อยเราก็ได้ใช้มันเองแหละ เจ้าความยุติธรรมนี่

เครื่อง มือที่ใช้วิเคราะห์ ก็โปรแกรม audacity ธรรมดานี่แหละ จัดการพล็อตกร๊าฟออกมาให้เสร็จสรรพ เห็นรูปแบบของคลื่นและสเป็คอะไรต่อมิอะไร ตามเรื่องตามราว

หลังจาก ที่ชี้จุดผิดสังเกตุในกร๊าฟไม่กี่จุด โดยที่ไม่มีรายละเอียดว่า ผิดสังเกตุแล้วมันยังไงต่อ ของจริงกับของปลอมมันจะผิดกันยังไง เท่านั้นเอง ผู้วิเคราะห์ก็ฟันธงเปรี้ยงๆเลยว่า ตัดต่อชัวร์ !!!

อ่านไปรอบแรกชัก เคลิ้มตามแฮะ แต่พอกลับไปอ่านทวนอีกทีก็ชักจะเอะใจ ว่าไหงมันสรุปง่ายจังหว่า กะอีแค่จุดผิดสังเกตุในทางเท็คนิคเล็กๆน้อยๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ แม้กับคลิปไม่ลับก็ตาม

เพราะเท่าที่รู้มา คลิปยาวๆมันก็ต้องตัดต่อให้กระชับอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่ประการใด

จาก ที่ไม่เคยคิดจะฟัง ผมเลยต้องไปหามาฟังซะหน่อย แต่พอได้ฟังแล้ว ก็ต้องแอบร้องโอ้โฮในใจ..มิน่าหละ ใครๆเขาถึงได้ว่า คนตัดต่อทำได้เนียนระดับเทพจริงๆ ทั้งสุ้มเสียง ลีลา ใช้ได้เลย

เอาเป็นว่า ตัดต่อเหมือนไม่ได้ตัดต่อ..ว่างั้นเหอะ

โดย เฉพาะเนื้อหานั้น สอดคล้องต้องกันตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งกว่าปี่กับขลุ่ยยังไม่ปาน ในเมื่อชัดเจนปราศจากข้อสงสัยถึงขนาดนี้ ก็ไม่ต้องไปอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ให้มันเมื่อยตุ้มแล้ว ไม่ต้องใช้โปรแกรมอะไรหรอก วโรทาห์นี่แหละจะวิเคราะห์ให้ฟัง

หะแรก พอได้คลิปมา ก็ต้องทำใจให้เป็นกลางซะก่อน ว่าเรื่องนี้อาจจะออกได้ 2 หน้า คือจริงหรือไม่ก็ปลอม จากนั้นจึงเริ่มต้นเปิดฟัง โดยไม่ต้องอินไปกับเนื้อหา ไม่งั้นเดี๋ยวของขึ้นซะก่อน การวิเคราะห์จะกลายเป็นวิแคระไปซะฉิบ

ในคลิปนั้น เปิดฉากขึ้นมา แค่ท้าวความไปถึงเรื่องมาร์คเจอรุมที่กระทรวงมหาดไทย ผมก็เริ่มสงสัยตะหงิดๆแล้วว่า ทำไมในการประชุมมันถึงพูดอย่างกับปาฐกถาเลยวะ ฟังแล้วมีแนวโน้มว่าจะเป็นคลิปปลอมแหงๆ แต่พอฟังๆไป ความข้องใจก็หายเป็นปลิดทิ้ง

เพราะจากเนื้อหาที่พูด มันพอนึกภาพออก ว่าเป็นการเรียกข้าราชการมานั่งป๋อหลอรวมกัน แล้วนายกฯเกาะโพเดียม แถลงนโยบายให้เอาไปปฏิบัติ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะออกแนวปาฐกถา ตามที่ถนัดอยู่แล้ว

ฟังไปจับผิดไป เอาว่าพยายามจับผิดมันทุกเม็ด เผื่อว่าจะช่วยมาร์คได้บ้าง ว่างั้นเหอะ แต่ที่ไหนได้ ยิ่งฟังก็ยิ่งเชื่อว่า..ของจริงทั้งดุ้นเลยมาร์ค

เรื่องที่ว่าตัดต่อ นั้นตัดทิ้งไปได้เลย เพราะถ้าจะตัดต่อกันจริงๆ มันต้องตัดกันแทบทุกจุด แล้วจะไปหาตัดคำพูดจากที่ไหนเป็นร้อยเป็นพันคำ มาปะติดปะต่อให้มันเป็นเรื่องเป็นราวซะขนาดนั้น

แล้วอีกอย่าง ยังนึกไม่ออก ว่าจะปรับแต่งเสียงยังไง ให้มันกลมกลืนเป็นโทนเดียวกันตลอด โดยที่ผู้ฟังไม่มีความรู้สึกว่าสะดุดหูเลย แม้แต่น้อย

ซึ่งจะว่าไปแล้ว แม้แต่ระดับเทพ ก็ไม่น่าจะทำได้ หรือถ้ามีใครทำได้ ก็ลองทำมาให้ฟังเปรียบเทียบดูซักคลิปเหอะ

ส่วน เรื่องที่ว่า มีบางช่วงเว้นวรรคนานไปหน่อย หรือเว้นวรรคในที่ไม่ควรเว้น แล้วทึกทักว่าเป็นการตัดต่อ ก็เล่นไม่ยาก แค่ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเว้นวรรคตามที่ควรจะเป็นแล้ว มันจะเป็นยังไง

ผลปรากฎว่า หลังจากที่ลองเว้นวรรคมันสารพัดท่า ฟังยังไงมันก็ยังได้น้ำได้เนื้ออยู่ดี เผลอๆที่ขาดหายไปตอนเว้นวรรค อาจจะเป็นไฮไลท์สำคัญซะด้วยซ้ำ..ทำเป็นเล่นไป

มา ถึงจุดสุดท้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดสลบของคลิปนี้ เมื่อหลายฝ่ายยอมรับตรงกันแล้วว่า เสียงพูดเป็นของมาร์คจริง พูดในโอกาสเดียวกันจริง แต่มีการตัดต่อ เอาคำว่า"ไม่" ออกไป ทำให้ฟังแล้ว มาร์คกลายเป็นหมาไปได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

จุดนี้ยิ่งง่ายใหญ่ เราก็แค่ถอดความออกมา แล้วเติมคำว่า"ไม่"กลับเข้าไป ในที่ที่คิดว่าเดิมทีมันน่าจะมีอยู่ ซึ่งถ้าตัดออกไปแล้ว จะทำให้เนื้อหาเปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังเท้า..ว่าแล้วก็ลงมือเลย

เจ้า ประคุณเอ๊ย..หลังจากที่ผมพยายามอยู่นานสองนาน เพื่อเติมคำว่า"ไม่"ลงไปในทุกจุดที่สงสัย ซึ่งน่าจะมีอยู่หลายสิบจุด ผลที่ได้นอกจากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังเละเป็นโจ๊ก เหมือนไม่ใช่คนพูดเลยทีเดียว

ไม่เชื่อก็ลองชมตัวอย่างดูก็ได้ อย่างประโยคที่ว่า..

"อันที่สองผม อยากจะให้เกิดเหตุการณ์บานปลายเหมือนกับพัทยา ที่มีเหตุการณ์พี่น้องประชาชนไปปะทะกับผู้ชุมนุม ผมก็อยากให้ท่านสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้มีภาพผู้ชุมนุมเอาปืนไปยิงใส่กลุ่มคนที่มาต่อต้านผู้ชุมนุม ซึ่งพอเหตุการณ์มันลุกลามปั๊บ เราประกาศใช้พ.ร.ก.มันก็จะได้รับการยอมรับบทบาทและความร่วมมือจากพี่น้อง ประชาชน
ในช่วงที่มีการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ถ้าหากว่ามีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลังจากที่มีปฏิบัติการต่างๆ ในเรื่องของทหาร พวกเราทุกคนต้องพยายามที่จะปกปิดการให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่"

หลังจากที่เติมคำว่า(ไม่)ลงไปแล้ว จะได้ประโยคใหม่ดังนี้

" อันที่สองผม(ไม่)อยากจะให้เกิดเหตุการณ์บานปลายเหมือนกับพัทยา ที่มีเหตุการณ์พี่น้องประชาชนไปปะทะกับผู้ชุมนุม ผมก็(ไม่)อยากให้ท่านสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้(ไม่)มีภาพผู้ชุมนุมเอาปืนไปยิงใส่กลุ่มคนที่มาต่อต้านผู้ชุมนุม ซึ่งพอเหตุการณ์มัน(ไม่)ลุกลามปั๊บ เรา(ไม่)ประกาศใช้พ.ร.ก.มันก็จะได้รับการยอมรับบทบาทและความร่วมมือจากพี่ น้องประชาชน
ในช่วงที่(ไม่)มีการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ถ้าหากว่า(ไม่)มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลังจากที่(ไม่)มีปฏิบัติการต่างๆ ในเรื่องของทหาร พวกเราทุกคนต้องพยายามที่จะ(ไม่)ปกปิดการให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการ(ไม่) ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่"

ชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คลิปลับประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ ใครไม่มีไว้ในครอบครอง วันหน้าวันหลัง ถูกลูกหลานด่าก็ช่วยไม่ได้

มิน่าล่ะ! แทนที่จะวางท่าเย้ยหยันไม่ยี่หระ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เที่ยวนี้มาร์คถึงกับเต้นผางๆ เร่งแก้ข่าวอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่เห็นบอกว่าเป็นเองก็หายเอง แบบไข้หวัดหมู ที่สังเวยชีวิตชาวบ้านไป เกือบจะครบ 99 ศพแล้ว

อะไรไม่ว่า งานนี้ทำท่าจะมันสะแด่วแห้วก็ตรงที่ ถึงแม้จะใช้สูตรเดิมว่า คลิปลับถูกปล่อยออกมาจากบริษัทฯของอดีตนายกฯ แต่ใครๆเขาก็รู้ว่า งานนี้ทหารเขาปล่อยของ..ก็ไม่รู้ไปทำอะไรใครเขาไว้นะมาร์ค

แต่ตอนนี้ ของจะถูกปล่อยออกมาจากไหน ยังไม่สำคัญเท่าที่ว่า ทำยังไงมันจะไม่ถูกปล่อยต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่มีการฟันธง ว่ามันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ทำเป็นเล่นไป..คลิปเนียนๆอย่างนี้ ใครฟังก็เชื่อทั้งนั้นแหละ

หันรีหันขวาง ก็ได้แต่พึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่จะช่วยสกัดกั้นการเผยแพร่คลิปโดยเร่งด่วน แต่พอหันไปเห็นบิ๊กป๊อดยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่ถูกเด็กเล็กมันไล่บี้จนแทบเสียผู้เสียคน..มาร์คก็ให้รู้สึกหนาวไป ถึงสะดือจุ่น

สรุปว่างานนี้..คงต้องลำบากป๋าอีกแล้ว

วโรทาห์: 28 ส.ค. 52

Wednesday, August 19, 2009

หลังฎีกา..น่าเชื่อว่า..จะมีแอ๊คซิเดนท์

ผ่านไปอีกครั้งกับเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ที่สั่นฟ้าสะเทือนดิน ถึงขนาดอสนีบาตฟาดผ่าแปล๊บๆ จนกระทั่งผีโขมดโจรไพร ต้องออกมาชักดิ้นชักงอ บิดตัวเร่าๆอย่างกับโดนซัดด้วยโกเต๊กซ์ ยังไงยังงั้น

นั่นคือ มหาพิธีถวายฎีกา 5 ล้าน 4 แสนรายชื่อ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สุดท้ายแล้ว ก็จำเป็นต้องหั่นเอามาเบาะๆแค่ 3 ล้าน 5 แสนรายชื่อ นัยว่าเพื่อยั้งมือไว้ไมตรี ไม่ให้สะเทือนซางกันจนเกินไป

เพราะว่าแค่นี้ ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนแล้ว

เห็นภาพชายหญิงเสื้อแดง ที่ช่วยกันหามห่อฎีกา เดินเรียงแถวเป็นขบวนแล้ว บอกตรงๆว่า เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอย พาลให้นึกสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ว่านี่พวกเราคิดถูกหรือคิดผิด ที่ดันมาเกิดในประเทศนี้

ประเทศที่คุยนักคุยหนาว่า แผ่นดินทำแผ่นดินท้อง แต่ไพร่ฟ้าหน้าใส ต้องออกมาเดินหน้าเซียว แบกหามความทุกข์ไว้เป็นกระบุงโกย เพื่อไปอ้อนวอนขอความเมตตา โดยที่ยังไม่มีทีท่าว่า จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แม้แต่น้อย

ภาพเหล่านี้คงต้องเก็บใส่กรอบไว้ให้ดีๆ เพื่อที่ว่าวันหน้าวันหลัง อนุชนรุ่นลูกรุ่นหลาน จะได้จินตนาการออกว่า พ่อแม่ปู่ย่าตายายของพวกเขา ต้องทุกข์ยากสาหัสสากรรจ์เพียงใด

กว่าจะได้กอบกู้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กลับคืนมาให้ ลูกหลานไทยทุกคน

ยังดีว่า พลหามของเราต่างแบกไปยิ้มไป ตามประสาเสื้อแดงอารมณ์ดี นี่ถ้าเปลี่ยนฟิลลิ่งมาเป็น เดินไปร้องไห้ไป คงได้บรรยากาศ..ดีพิลึก

เอาเถอะ! ในเมื่อเขาให้ส่งได้แค่ปากประตู แค่นั้นก็แค่นั้น จะทำยังไงได้ ชนชั้นต่ำอย่างชาวรากหญ้า เขาอุตส่าห์ปราณีถึงขนาดนั้น ก็ถือว่าบุญหัวแค่ไหนแล้ว

หลังจากนี้ ฎีกามันจะไปโดนทำแท้งที่ไหน ก็สุดแท้แต่บุญแต่กรรม ก็แล้วกัน สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็แค่ทำใจ ในเมื่ออำนาจทุกอย่างมันอยู่ในมือพวกเขาหมด ชาวบ้านอย่างเราๆ มีหน้าที่อย่างเดียวคือ

จ่ายภาษีให้พวกเขาไปถลุง แล้วซื้อปืนกลับมากดหัวพวกเราต่อ

เป็นอีกเกมส์หนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ วิเคาะวิแคะกันอย่างถึงพริกถึงขิง โดยเฉพาะพวกที่รักสถาบันจนน้ำลายไหลเรี่ยราด ถึงกับโดดก๋าออกมาปกป้องสถาบันกันยกใหญ่ หาว่าเสื้อแดงดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก ลากสถาบันลงมาเกลือกกลั้วการเมือง..ไปโน่น

ความจริงแล้ว ถ้าว่ากันอย่างแฟร์ๆ สถาบันน่ะถูกลากเข้ามาสู่วังวนของการเมือง ตั้งแต่ก่อน 19 กันยาวันมหาอัปยศด้วยซ้ำไป อย่างน้อยก็ตอนที่ตาเฒ่าผู้เชี่ยวชาญด้านขี่ม้า ออกมาเดินสายปลุกระดมม้าไม่ให้เชื่อฟังจ๊อกกี้

ทีตอนนั้นไม่เห็นมีใครหน้าไหนออกมาทักท้วงซักตัว นี่ก็แสดงว่า จะปกป้องสถาบันกัน ก็ต่อเมื่อพวกตัวเสียเปรียบเท่านั้น มิน่าล่ะ ถึงได้ชักดิ้นชักงอจะเป็นจะตาย เมื่อทำไปทำมา ทำท่าว่าอีกฝ่ายชักจะเล่นเป็นเหมือนกัน

ส่วนเสื้อแดงคนไหน ที่ฝันหวานว่า ฎีกาครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ก็คงต้องทำใจกันไว้แต่เนิ่นๆ เพราะว่าสุดท้ายแล้วอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหน่อไผ่ล้วนๆ

บรรดาโคตรเซียนเขาอ่านขาด ว่าหมากตานี้มันไม่ใช่ขนม งานนี้จึงต้องมีปฏิบัติการผ่าทางตัน เกิดแอ๊คซิเดนท์มาแย่งซีนไปซะ บัวจะได้ไม่ช้ำ น้ำจะได้ไม่ขุ่น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ใช่ว่าฎีกาจะสูญเปล่าซะทีเดียว อย่างน้อยก็ได้ทิ่มหน้ามหาอำมาตย์ เล่นเอาเลือดกำเดาไหลไม่หยุดไป ก็แล้วกัน

พูดถึงขบวนการอำมาตย์แล้ว ก็ได้แต่ปลงสังเวช ที่หลายปีมานี้ มีแต่เรื่องซวยๆไม่รู้จักเลิก แต่จะว่าไปแล้วก็ทำตัวเองทั้งนั้น เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับประชาชน เจอมวยลูกทุ่งใจถึง เข้าคลุกวงในตุ๊ยท้องไปหลายที ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่

ต้องอย่างนี้ถึงจะเรียกว่ามวยถูกคู่ ดูแล้วสมราคา ลำหักลำโค่นสูสีดู๋ดี๋ ล่อกันมันสะแด่วแห้ว อย่าบอกใคร

เคยยิ่งใหญ่คับฟ้า สั่งซ้ายหันขวาหัน ไม่มีใครกล้าหือ ขนาดสื่อที่ว่าห้าวๆ มันกล้าแตะอำมาตย์ซะเมื่อไหร่ ยิ่งตัวโคตรอำมาตย์ด้วยแล้ว ยิ่งกว่าบิดามารดาของพวกสื่อยังไม่ปาน แค่จะเอ่ยชื่อยังต้องล่อซะเต็มยศ แถมคำน้อยยังไม่เคยติติงให้สะเทือนซาง ซักกะนิด

จึงเหลือแต่ประชาชน นี่แหละ ที่จะยืนแลกหมัดกับอำมาตย์ได้ อย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่มีใครกลัวใคร คนซื่อๆอย่างรากหญ้า ลองได้บ้าขึ้นมา เป็นได้ล่อกันชนิด ลิ้นต่อลิ้นฟันต่อฟัน

ต่อให้ใหญ่แค่ไหน ก็มีสิทธิถูกด่าเหมือนหมาข้างถนน ต่อให้ 8 เหลี่ยม 12 คม มาจากไหน เจอประชาชนมือเปล่าๆ ยังถูกลบเหลี่ยมจนกลมกลิ้งเป็นลูกบิลเลียตไปได้

ในเมื่อหมาที่เลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้าน มันดันกลัวโจรจนฉี่เล็ด อย่าว่าแต่จะให้ไปกัดกับโจร ขนาดแค่เห่ามันยังไม่กล้า เจ้าของบ้านเลยต้องลุกขึ้นมาลุยกับโจรซะเอง ใครจะหาว่าทำให้บ้านเมืองวุ่นวายก็ช่างมัน ทำไงได้...

ในเมื่อโจร..มันมายึดบ้านของกู

วโรทาห์: 19 ส.ค. 2552

Friday, August 14, 2009

เอาอำมาตย์ของมึงคืนไป! เอาทักษิณของกูคืนมา!

ออกมาปกป้องสถาบันกันยกใหญ่ ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับสถาบัน รู้แต่ว่าสถาบันอำมาตย์นั่นแหละ ชักจะนั่งไม่ติดกันซะแล้ว ตั้งแต่เริ่มสำเหนียกว่า งานนี้ประชาชนเขาเอาจริง โดยมีลายเซ็นต์เกือบ 6 ล้านคนเป็นการันตี เกมส์นี้ถือว่าวัดใจได้เสียกันไปโลด

ได้ก็ดี..ไม่ได้ก็ไม่ว่าอะไร

ออกมาดิ้น..เอ้า..ออกมาดิ้น ลีลาเด็ดสะเด่าเขย่าทรวงอย่าบอกใคร ทั้งขาเล็กขาใหญ่ บรรดาขี้ข้าอำมาตย์ ที่เตรียมพร้อมรอรับคำสั่งอยู่แล้ว แค่กระตุกโซ่ที่ล่ามคอ ก็เป็นอันรู้กันโดยสัญชาตญาณว่า ให้..ออกมาดิ้น

ดิ้นๆๆๆๆ..ขนาดราชเลขาฯตั้งท่าเตรียมรับฎีกาแล้ว ยังไม่วายทะเล่อทะล่า..ออกมาดิ้น

ไม่รู้อะไรกันนักกันหนา ก็ถ้าฎีกามันติดขัดยังไง อย่างมากก็แค่ยื่นไปแล้วไม่ผ่าน เหมือนกระบวนการทั่วๆไป ก็เพิ่งรู้ว่า ถ้าฎีกาเสื้อแดง ยังไงก็ต้องผิด เมื่อผิดแล้ว พวกขี้ข้าอำมาตย์ ที่ยังชีพด้วยภาษีประชาชน ก็ถือเป็นหน้าที่ ต้อง..ออกมาดิ้น

ผิดกับตอนไล่ทักษิณ อย่างกับหน้ามือเป็นหลังเท้า ทีตอนนั้น เอะอะก็ถวายฎีกากันฉลุย แล้วไม่เห็นมีใคร..ออกมาดิ้น

เรื่องของเรื่อง ประชาชนที่แห่กันมาลงชื่อ ใครเขาไปสนใจว่าขั้นตอนกฎหมายมันเป็นยังไงกัน เขาอยากร้องเรียนถึงใครก็ว่ากันไปซื่อๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม นี่ถ้าการแสดงเจตน์จำนงค์อันบริสุทธิ์ ของชาวบ้านตั้ง 5-6 ล้านคน กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายไปซะแล้ว

เห็นทีว่า คงต้องไปแก้กฎหมายซะให้มันถูก

ทำเป็นเล่นไป ถ้าอ่านหน้าไพ่กันดีๆ ฎีกาเที่ยวนี้ มันส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ที่น่าสนใจ ไม่ต้องอื่นไกล ขนาดคนที่ไม่ยอมเซ็นต์ฎีกา ก็ไม่ใช่เพราะเห็นว่ามันผิดกฎหมาย แต่เป็นเพราะอะไร คงต้องไปสืบสาวราวเรื่องกันเอง เรื่องอย่างนี้ คิดได้แต่ห้ามพูด พูดได้แต่เจอคุก

ประชาชนส่วนใหญ่ ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด ก็ได้อาศัยโอกาสงามๆอย่างนี้ ส่งสัญญาณไปยังใครก็ตาม ที่พวกเขาคิดว่าพอจะอำนวยความยุติธรรมให้ได้ หรือถ้าพวกเขาคิดผิด ก็ให้มันรู้กันไป

แม้แต่พวกที่เคยอยู่กลางๆ หรือบางคนเคยโปรอำมาตย์ด้วยซ้ำไป แต่หลังจากที่ได้ลองชิมรัฐบาลสูตรเทพประทานแล้ว จึงตัดสินใจได้ไม่ยากเย็น ที่จะอาศัยฎีกานี้ส่งสัญญาณไปถึงมาร์คว่า

"ถ้ามึงทำได้แค่นี้ ก็ให้ทักษิณกลับมาเหอะ"

คงต้องยอมรับกันแล้วละว่า ที่ฎีกามันบานไม่หุบอยู่ทุกวันนี้ เพราะรัฐบาลเด็กสร้างของอำมาตย์นั้น มีส่วนอยู่ไม่น้อย ด้วยผลงานที่เข้าตากรรมการอย่างจัง ทำให้ผันตัวเองจากรัฐบาลเทพประทาน กลายมาเป็นรัฐบาลเทพเชิญยิ้ม ชั่วเวลาแค่ไม่กี่เดือน

โดยเฉพาะตัวหัวหน้ารัฐบาล ที่อำมาตย์เฒ่าถึงกับตากหน้า ออกมาเขี่ยลูกนำทางให้ ว่าประเทศไทยโชคดี ที่ได้มันมาเป็นนายกฯ ซึ่งก็ได้ผลเป็นอันมาก เพราะหลังจากนั้น สื่อขี้ข้าที่รู้งานดี ก็รับมุขทันที ว่าเด็กฝากคนนี้ ยังไงก็ต้องช่วยกันเชียร์ ช่วยกันลุ้น อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

แล้วก็ถึงครา คนป่ามีปืน..ใส่สูทผูกไทด์อย่างเท่ห์ มาดเฉียบขาด หน้าตาเคร่งขรึม มือเกาะโพเดียมไว้มั่น สายตามองตรงไปที่ผู้ชม เหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆว่า

"โพเดียมข้า..ใครอย่าแตะ"

โอกาสงามๆ ใช่ว่ามีมาเรื่อยๆ นี่ถ้าไม่ใช่อำมาตย์ประเคนเก้าอี้นายกฯมาให้ ใครหน้าไหนจะเชิญไปเกาะโพเดียม แล้วถ้าเก้าอี้นายกฯหลุดลอยไปเมื่อไหร่ โอกาสที่จะได้เกาะโพเดียม ก็กลับไปเหลือศูนย์เหมือนเดิม ชั่วโมงนี้จึงต้องยึดคติที่ว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก

ประเทศชาติจะฉิบหายเท่าไหร่ไม่ว่า หวัดหมูจะคร่าประชาชนไปกี่ชีวิตก็ไม่สน สนอยู่อย่างเดียวว่า ต้องยึดโพเดียมไว้ให้มั่น ส่วนเรื่องงานการฝากไว้ให้เด็กๆ

มันจะไปยากอะไร กับงานรูทีนไม่กี่อย่าง แค่คิดให้ได้ว่า จะกู้หนี้ที่ไหนเอามาใช้จ่าย จะขึ้นภาษีตรงไหนเอามาถลุง และที่สำคัญ จะเด้งรับยังไง ไม่ให้พ่อลิ้มมีโมโห..เพียงเท่านี้ก็ผ่านฉลุยแล้ว

ผลงานเด็ดสะเด่าซะขนาดนั้น ในฐานะป๋าดันจอมโปรโมท ท่านปุโรหิตจึงต้องรับไปเต็มๆ โดยไม่มีข้อแม้ จึงไม่แปลก ที่สมุนอำมาตย์จะแตกรัง ออกมาดิ้นพราดๆ เป้าหมายข้างหน้า ยังไงก็ต้องสะกัดกั้นฎีกาไว้ให้ได้ เพื่อเป็นการปิดปากประชาชน ที่กำลังกู่ก้องร้องตะโกน กรอกใส่หูอสูรพันหน้าว่า...

เอาอำมาตย์ของมึงคืนไป! เอาทักษิณของกูคืนมา!

วโรทาห์: 14 ส.ค. 2552

Saturday, August 1, 2009

ในที่สุด..ฟ้าก็เอื้อมมือลงมา..รับฎีกาเสื้อแดง

กลางดึกของคืนวันที่ 31 กรกฎา ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ท่ามกลางมหาประชาชน ที่มาร่วมสโมสรกันนับแสน เพื่อเป็นสักขีพยานในยุทธการ "ล้านฎีกา..สั่นฟ้าสะเทือนดิน"

และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย นั่นคือเสียงโฟนอินจากนายกฯในดวงใจ สลับเสียงขับกล่อมด้วยบทเพลง "ฉันจะกลับมา" ในขณะที่ยอดฎีกาก็พุ่งเอาๆ ไปถึง 4 ล้าน 1 แสน แถมยังไล่ล่าทำสถิติใหม่ต่อไป อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง

พลันที่เสียงโฟนอินขาดหายไป บนท้องฟ้าก็เกิดปรากฏการณ์ใหม่ ให้เห็นเป็นอัศจรรย์ ม่านเมฆที่บังฟ้า กลับแยกออกเป็นช่องโหว่ เผยให้เห็นดวงจันทรา ที่ทรงกลดเฉิดฉาย เปล่งประกายรัศมีเจิดจ้า งดงามเหนือคำบรรยาย

ประหนึ่งเป็นสัญญาณว่า ฟ้าได้ส่งจันทราเทวี แหวกม่านหมอกลงมา ซับน้ำตาให้มหาชนชาวเสื้อแดง พร้อมทั้งรับฎีกาไว้แล้ว เพื่อส่งต่อไปยังฟากฟ้า..โดยไม่มีการเซ็นเซอร์

เมฆหมอกเคลื่อนกลับ เข้าบรรจบกัน แสงจันทร์พลันลับไปจากสายตา ท้องฟ้าถูกปิดกั้นอีกครั้ง แต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ในเมื่อการต่อสู้อันยาวนานของประชาชน ได้รับรู้ไปถึงฟ้าดินจนได้

แม้ตำนานเรื่องนี้จะยังไม่ปิดฉากลง แต่ก็นับว่าใกล้เข้าไปเต็มทีแล้ว

ลุงวีระเป่าปากออกมาด้วยความโล่งอก แรงกดดันที่โถมทับอยู่เป็นแรมเดือน มลายไปอย่างกับยกภูเขาออกไปทั้งลูก นึกถึงวันที่ประกาศบนเวที ต่อหน้ามหาประชาชน ว่าขอซักล้านเสียงจะได้ไม๊ เพื่อพาท่านทักษิณกลับบ้าน

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ไข่มุขดำก็ไม่ได้เป็นอันกินอันนอน ไหนจะหาทางรวบรวมรายชื่อให้ได้ครบล้าน ไหนจะเจอพวกเดียวกันยำใหญ่เป็นหมูบะช่อ พูดได้ว่า ถ้าวันนี้หน้าแหก ไม่ได้ครบล้านตามที่ร้องขอ

รับรองได้ว่า ลุงวีระก็ลุงวีระเหอะ มีหวังกลับบ้านไม่ถูกเป็นแน่แท้

แล้วจะให้เก็บอาการอยู่ได้ยังไง ในเมื่อขอไปแค่ 1 ล้าน พวกประเคนมาซะ 6 ล้าน แถมสำทับให้อีกว่า ถ้าไม่พอยังขอเบิ้ลได้อีก..เอาซัก 12 ล้านไปเลยเป็นไง

สงสารก็แต่สมาคมอำมาตย์ชราทั้งหลาย ที่ได้ข่าวว่าคิดมากจนเยี่ยวเหลืองกันเป็นแถว จากที่ปรามาสไว้แต่แรกว่ายังไงก็ไม่ถึงล้าน เลยปล่อยเลยตามเลย ให้มันโซ้ยกันเอง เดี๋ยวก็หน้าแหกกันเอง แล้วค่อยออกมาตามซ้ำ

ที่ไหนได้ พอเอาเข้าจริงกลับทะลุเป้า จนเป้าทะลุแล้วทะลุอีก

โค้งสุดท้ายก่อนควบเข้าเส้นชัยเพียงแค่ไม่กี่วินาที บรรดาขี้ข้าอำมาตย์ถึงได้ตาลีตาเหลือก ลุกขึ้นมาเตะสลับล่างสลับบนเป็นพัลวัน

เริ่มจากเสือแก่ที่ยังหลงว่ามีลาย ออกมาชกลมวืดวาดวืดวาด เล่นเอาชาวบ้านหวาดเสียวไปตามๆกัน กลัวว่าลมสว้านตีขึ้น เดี๋ยวแกจะจุกอกตายเอาง่ายๆ

เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ จู่ๆก็ผีเข้า(อีกแล้วครับท่าน) ออกหน้ามาให้ข่าวฉอดๆว่า ที่ประชุมคนชราสับฎีกาซะเละเป็นวุ้นเหลวๆ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาชกเอาๆอยู่ข้างเดียว ก่อนที่คณะเทศมนตรีจะออกแถลงการณ์ไล่หลังมา สั้นๆง่ายๆว่า..เปล่า!

เล่นเอาเสือเฒ่าถึงกับใบ้รับประทาน พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เปลี่ยนจากบิ๊กเสือเป็นสมอลล์หมาไป..ในบัดดล

ส่วนมหาดไทยของอาเจ็กจิ้นตาหยี ก็มะงุมมะงาหรา ออกมาตั้งโต๊ะให้ถอนชื่อฎีกา เรียกลูกค้าอยู่เป็นชั่วโมง โดยที่ไม่มีหมามากรายใกล้แม้แต่ตัวเดียว สุดท้ายต้องรีบม้วนเสื่อเก็บฉากแทบไม่ทัน

หลังๆมานี้ คำว่าทักษิณเอาเงินซื้อ ชักจะขายไม่ออก จึงไม่ค่อยมีเสียงเล็ดรอดออกมาจากขี้ข้าอำมาตย์ซักเท่าไหร่ ยกเว้นชวนป๋วยเป่าปี่แก ที่ยังแผ่นเสียงตกร่องอย่างคงเส้นคงวา บอกว่าอย่าประเมินเสื้อแดงต่ำ เงินทองน่ะไม่เข้าใครออกใคร

ก็แน่หละ พอเพื่อนรักเครื่องบินตกตาย ถึงได้แจ้นไปงานศพแทบไม่ทัน ก็ดันไปฝากเงินซุกไว้เป็นสิบล้าน ขืนโดนเมียเพื่อนแฮ๊ฟไปมีหวังไข้ขึ้น นี่เรียกว่าประสบการณ์ตรงกันเลยทีเดียว

เฮ้อ..เกือบไปแล้วไหมล่ะ เงินทองไม่เข้าใครออกใคร..จริงๆ

ยอดอัพเดทลายเซ็นต์ฎีกาล่าสุด ไปอยู่ที่ 5 ล้านครึ่ง บวกลบไม่เท่าไหร่ จำนวนคนขนาดนี้ ถ้าเป็นนักการตลาดมือเจ๋งๆ ต้องไม่ยอมมองข้ามไปง่ายๆ ปริมาณผู้บริโภคมากมายขนาดนี้ พลังบริโภคจะมหาศาลขนาดไหน

ถ้าคิดว่าทั้งหมดมีแค่นี้ ก็ให้นับวโรทาห์ไปด้วยอีก 1 เสียง เพราะอยู่ในกลุ่มที่ทำใจลำบาก ไม่เซ็นต์ให้แต่ทำหน้าที่กองเชียร์ ก็ใจมันไม่ให้ พูดเท่าไหร่มันก็ไม่ฟัง เลยทำได้แค่มีสัญญาใจว่า ถ้าขาดล้านไป 1 เสียง ต้องรีบแจ้นไปเซ็นต์ให้แต่โดยดี

ที่ไหนได้ แค่ยอดอัพเดทณ.เวลา 4.00 น. ก็ล่อไป 5,429,143 แล้ว ถ้ารวมลายเซ็นต์ของผู้ต่ำศักดิ์อย่างวโรทาห์ไปอีก 1 เสียง ก็จะเป็น 5,429,144 ไม่มีอะไรแตกต่าง..ซักกะนิด

เอาหละ ไหนๆจันทราก็รับฎีกาไปเรียบร้อยแล้ว ถัดจากนี้ต่อไป มันจะติดกุกติดกักอยู่ที่ไหน หรือใครจะเล่นแร่แปรธาตุยังไง โดยไม่อายฟ้าดิน ก็คงต้องสุดแท้แต่อำเภอใจ ถือว่ามหาชนได้ประกาศเจตนารมย์ให้รับทราบโดยทั่วกันแล้ว

ถ้ายังคาใจอยู่ ก็คงต้องรอชมฉากต่อไป..ที่พร้อมจะคัมมิ่งซูน

ช่วงนี้คงต้องขอตัว แยกย้ายกันไปทำมาหากิน เก็บหอมออมริบพอให้ได้ค่ารถค่ารา เพื่อที่ว่า "ฉันจะกลับมา" เขย่าขวัญสั่นประสาท ให้ท่านมหาอำมาตย์ได้เกิดสปัสซั่มเป็นระยะๆ

ว่ากันว่า..คนเฒ่าคนแก่ เลือดลมสูบฉีดดีนักแล

วโรทาห์: 1 ส.ค. 52

Monday, July 27, 2009

งานแซยิด..ที่ยังความสุขใจไปทั่วหล้า

ผ่านไปแล้ว กับงานแซยิดของสามัญชนผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆ ชนิดที่ฝุ่นควันยังไม่ทันจางหาย ประชาชนยังปลื้มกันไม่เสร็จ ตรงกันข้ามกับตัวเป้งๆในเครือข่ายอำมาตย์ ที่จนป่านนี้ยังถ่ายเป็นเลือดไม่ยอมเลิก

ปรากฏการณ์เช่นนี้ ไม่รู้ว่าอีกกี่หมื่นกี่พันปีแสง จะย้อนกลับมาให้เห็นเป็นบุญตาอีกซักครั้ง ดังนั้นทุกผู้ทุกนามที่มีโอกาส ได้สัมผัสบรรยากาศอันยิ่งใหญ่ด้วยตัวเอง ต้องนับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว

ใครจะไปนึกว่า แค่พ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต่อสู้ดิ้นรน ล้มคว่ำคะมำหงาย จนขึ้นชั้นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทย จู่ๆจะกลายเป็นอภิมหาขวัญใจประชาชน สร้างสถิติตลอดกาล ชนิดที่คงไม่มีใครทำลายลงได้..ตราบชั่วนิรันดร

แปลกแต่จริง ที่คนๆหนึ่งซึ่งหนีคดีอาญาหัวซุกหัวซุน ฐานเซ็นต์ชื่อให้เมียไปซื้อที่ จนถูกตามไล่ล่าไปทั่วโลก อย่างกับราชายาเสพติดยังไม่ปาน แต่กลับมีมหาประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ ร่วมแรงร่วมใจกันควักกระเป๋าดังหนึบ จัดงานแซยิดให้อย่างยิ่งใหญ่ ชนิดที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ผิดกันกับคนอื่นๆ ที่ว่าดีนักดีหนาจนไม่อาจหาใครเทียบได้ สรรเสริญเยินยอกันจนเว่อร์ อย่างกับไม่ใช่คน แต่นอกจากประชาชนจะไม่คิดจัดงานฉลองวันเกิดให้แล้ว ยังกระเหิ้ยนกระหือรือรอฉลองวันตาย..อย่างใจจดใจจ่อ

เขาถึงว่า ห้ามน้ำห้ามทะเลยังพอห้ามได้ แต่จะห้ามใจคนนั้นอย่าหวัง นี่ขนาดว่า ฝ่ายอำนาจรัฐ เตะตัดขาสกัดกั้นทุกวิถีทางแล้ว ยังเอาไม่อยู่..คิดดูก็แล้วกัน

หรือว่านี่อาจเป็นการแสดงออก ซึ่งความอัดอั้นตันใจของประชาชน ที่ถูกกดขี่อย่างสาหัสสากรรจ์มาโดยตลอด หลังจากที่ชาวสกลนครและศรีสะเกษ โชคดีไปก่อนที่ได้มีโอกาส ระบายความแค้นลงที่การเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมา

ที่ทิ่มเอาขบวนการอำมาตย์หงายเก๋งไม่เป็นท่า จนเป็นข่าวฮือฮาให้ชาวบ้านตาดำๆ ได้แบ่งปันความสะใจกันไม่เสร็จ จนกระทั่งทุกวันนี้

เมื่อสบโอกาสวันครบรอบแซยิดของนายกฯในดวงใจ ที่บังเอิญมาถูกที่ถูกเวลาอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่าลูกมาเข้าทางตีนกันเห็นๆ จึงเป็นโอกาสที่จะได้แสดงท่า "บาทาลูบพักตร์อำมาตย์" ด้วยการจัดงานแข่งบารมีอย่างยิ่งใหญ่

โอกาสงามๆอย่างนี้ มีหรือประชาชนจะไม่ใส่กันเต็มสูบ

นับว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม กับการลงทุนจัดงานแค่ครั้งเดียว แต่ฟันกำไรเหนาะๆถึง 3 เด้ง นอกจากเป็นโอกาสได้สื่อสารไปถึงโคตรอำมาตย์ ว่าเขาไม่รักตัวแล้ว ยังได้ส่งความระลึกถึงไปยังคนที่ตัวรัก ซึ่งห่วงหาอาทรกันอยู่ไม่รู้คลาย..ทุกเวลานาที

ส่วนผลพลอยได้เล็กๆ น้อยๆ ก็คือการแสดงกตัญญูกตเวทิตา ต่อผู้ที่เคยทำคุณงามความดี ให้กับประเทศชาติอย่างเอนกอนันต์ ชนิดที่ทำจริงเจ็บจริง ไม่ใช่แสร้งทำแล้วมาลำเลิกกันไม่เสร็จ

งานวันเกิดยิ่งใหญ่ระดับนี้ ต่อให้โคตรอำมาตย์แปลงกายลงมาเอง ก็คงจะกินทักษิณลำบาก ถ้าวัดกันภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ไม่ใช้อำนาจรัฐกะเกณฑ์กันไปให้เมื่อยตุ้ม ไม่ใช้เงินภาษีประชาชนมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อย่างกับไม่ใช่เงินพ่อเงินแม่ตัวเอง

นอกจากนั้นยังไม่มีการโหมโฆษณา ประชาสัมพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง ตรงกันข้ามกลับโดนสื่อกลั่นแกล้งโจมตีอย่างเอาเป็นเอาตาย ประสานกับอำนาจรัฐ ที่งัดสารพัดวิชามารมาขัดขวางทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้

ยิ่งไม่ต้องไปเทียบชั้นกันซะให้ยาก ระหว่างนายกฯคนก่อนที่ถูกปล้นตำแหน่งไป กับนายกฯคนปัจจุบันที่ไปปล้นตำแหน่งมา หรือจะพูดให้ง่ายคือ ระหว่างทักษิณ..แวร์อาร์ยู? กับอภิสิทธิ์..ฮูอาร์ยู?

ซึ่งในทางการต่อสู้เขาเรียกว่ามวยคนละชั้น กระดูกมันคนละเบอร์ ฝีมือลายมือมันห่างไกลกัน ราวท้องฟ้ากับหุบเหว

ถ้าใครดวงซวย จับพลัดจับผลูหลงไปฟังรายการ "เชื่อแม่มันเลย..ประเทศไทย กับนายอภิสิทธิ์" ที่ดันมาออกอากาศในวันเวลาเดียวกัน กับที่ชาวบ้านเขากำลังทำบุญมหากุศลสุดยิ่งใหญ่ จะเห็นได้เลยว่า กึ๋นคนกับกึ๋นควาย มันต่างกันแค่ไหน

ยิ่งถ้าใครที่ถือคติว่ากำขี้ดี กว่ากำตด งานนี้คงต้องผิดหวังไปตามระเบียบ หลังจากที่ได้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วนั่งงงอีกพักใหญ่ คงพอสรุปได้ว่า วิสัยทัศน์ของนายกฯหนุ่มหล่อคนนี้

ไม่ใช่ขี้ๆ..มีแต่ตดเพียวๆ

จึงไม่มีข้อกังขาใดๆอีกแล้วว่า ถ้าให้เลือกนายกฯเมื่อไหร่ ยังไงก็ทักษิณ จากคุณูปการอันมากมายของท่าน ที่บรรยายกันสามวันแปดวันไม่รู้จบ ทำให้จนถึงป่านนี้ ประชาชนยังไม่อาจสรรหาคำเรียกขานใดๆ ที่คู่ควรต่อนายกฯในดวงใจตลอดกาลของพวกเขาได้

คำว่ามหาบุรุษนั้น คงกินความกว้างไปซักหน่อย ส่วนคำว่ารัฐบุรุษยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะว่าท่านไม่เคยมีประวัติอยู่บ้านหลวงฟรี ไม่เคยแม้แต่มีความคิดที่จะเข่นฆ่าประชาชน ยิ่งกว่านั้นยังไม่เคยเสวยสุขบนภาษีประชาชน แล้วสมคบโจรมาปล้นประชาธิปไตย

แต่หลังจากที่เปิดพจนานุกรมจนมือหงิกแล้วหงิกอีก ถ้าต้องเลือกเอาซักอย่าง...

คำว่าอภิมหาราษฎรผู้ยิ่งใหญ่..คงน่าจะพอกล้อมแกล้ม

วโรทาห์: 27 ก.ค. 2552

Monday, July 20, 2009

เย็นไว้..เสื้อแดง อำมาตย์มันเร่งเกมส์เร็วแล้ว

ยังต้องเย่อกันไปอีก หลายยก ระหว่างศักดินามหาอำมาตย์ กับประชาชนหัวใจสีแดงทั่วทั้งแผ่นดิน ล่าสุดอำมาตย์ส่งสัญญาณเร่งเกมส์เร็ว บี้สมุนออกเดินสายยั่วบาทาไปทั่วเหนือ-อีสานแล้ว หลังจากที่จั่ววืดมาโดยตลอด ทำให้จนแล้วจนรอด ยังเอาเสื้อแดงไม่ลงซักที

งานนี้กะว่ายังไงก็ต้องเผด็จศึกเสื้อแดงให้ได้ในเร็ววัน พร้อมกันกับที่กุ๊ยกษิตก็เร่งยิกให้ต่างชาติช่วยกันจับทักษิณ ถึงขนาดว่าเอาประเทศเป็นเดิมพันก็ยังทำ ไม่รู้ว่าแผ่นดินขวานทองเล่มนี้ เป็นของพ่อของแม่มันตั้งแต่เมื่อไหร่

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะอำมาตย์จับสัญญาณยี้ได้ถี่ยิบ นับตั้งแต่โครงการอภิมหากู้ มาจนถึงหวัดหมูมหากาฬ เสียงถล่มรัฐบาลดังอื้ออึงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เด็กมาร์คยังมะงุมมะงาหรา สนุกกับการแก้ปัญหาอยู่บนโพเดียม

ตอนที่จั่วไพ่แมลงสาบขึ้นมาใหม่ๆ ก็นึกว่าเจ๋งซะไม่มีแล้ว กะว่าตีไพ่สดๆซิงๆ รูปหล่อพ่อรวยเอาใจแม่ยกไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ขนาดป๋าดันตั้งใจประคบประหงมอย่างดี ไม่มีเกรงใจประชาชน ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพราะหวังเต็มที่ให้มันมาช่วยกู้หน้า

ที่ไหนได้..พอมาถึงมันก็กู้ เอา..กู้เอา แต่แทนที่จะมากู้หน้า มันดันเดินหน้ากู้เงิน เล่นเอาประชาชนร้องจ๊าก ด่าเช็ดลามปามไปถึงโคตรอำมาตย์ โทษฐานที่ยัดเยียดเด็กฝากมาเป็นรัฐบาล

ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป เสื้อแดงไม่ต้องทำอะไร อำมาตย์ก็ต้องตายแหงแก๋ เพราะยิ่งเวลาผ่านไป ขบวนการโป๊งโป๊งๆชึ่ง ก็ยิ่งเสื่อมหนักไม่มีหูรูด เหมือนไม้หลักปักขี้เลน โอนไปเอนมา ไม่มีใครไปทำอะไรมัน ก็เอนล้มลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ยิ่งขยับตัวมากก็ยิ่งเอนมาก

ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ ชาวบ้านก็ยิ่งหูตาสว่างมากขึ้นเท่านั้น

เวลาไม่คอยท่า นาฬิกามันเดินอย่างกับวิ่งผลัด 4 x 100 ขืนไม่ทำอะไรเลย ก็เท่ากับรอความตายไปวันๆ

แต่อย่างว่า คิดแบบอำมาตย์ กี่ปีกี่ชาติก็วนเวียนซ้ำซากอยู่แค่นั้น จากพัทยามาบุรีรัมย์ ข้ามไปภูพิงค์ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ได้ฮือฮา ยังหากินกับมุกเดิมเด๊ะๆ

ใช้แดงเทียมเป็นไส้ศึก เด้งรับเด้งส่งกับเสื้อน้ำเงิน ป่วนสถานการณ์สร้างความรุนแรง แล้วจัดการซะด้วยตำรวจชุดปราบจลาจล ส่วนแถวสองใช้ทหารถือเอ็ม-16 เตรียมพร้อมตลอดเวลา รอมาร์คประกาศภาวะฉุกเฉินเปิดทางให้เมื่อไหร่ ก็ลุยได้ทันที

จากนั้นก็ถึงทีสื่อชั่วในสังกัดอำมาตย์ ออกมาตามขยี้ซ้ำ เหมือนสงกรานต์ทมิฬเด๊ะๆ ใจคอจะไม่เปลี่ยนมุกเล่นมั่ง ก็ให้มันรู้ไป

สำหรับเสื้อแดงขาบู๊ทั้งหลาย คงต้องท่องคาถาเย็นไว้โยม เอาอีแต๋นไปบี้รถถัง มันจะได้ไม่คุ้มเสีย อย่าลืมว่าขานั้นมันซุปเปอร์เฮฟวี่เวทเรียกพ่อ เจอกร๋องแกร๋งเรียกพี่อย่างมวยรากหญ้า มันจะไปมีอะไรเหลือ

ริจะชกข้ามรุ่นไปเจอมวยใหญ่ มันก็ต้องมีลีลาหน่อย ต้องอาศัยลูกเขี้ยว แย๊ปรบกวนไปเรื่อยๆ เข้าเร็วออกเร็ว ไม่แลกไม่ชน เดี๋ยวมันก็ยุบไปเอง

เย็นสยบร้อน อ่อนสยบแข็ง ยิ่งมันเร่งเกมส์เร็ว เรายิ่งต้องยื้อเกมส์ช้า อย่าไปบ้าตามมันเป็นอันขาด

แต่อย่างว่า การรบยืดเยื้อกำลังใจมันต้องเกินร้อย ไม่เช่นนั้นอาจจะถอดใจได้ง่ายๆเหมือนกัน กระบวนการเติมเต็มกำลังใจ จึงต้องมีไว้อย่าให้พร่อง ไม่ว่าจะโดนเข้าไปเท่าไหร่ ก็ห้ามยอมแพ้เป็นอันขาด นึกเสียว่า ตราบใดที่ใจยังสู้อยู่ ตราบนั้นก็ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น

สื่ออำมาตย์จะโจมตียังไงก็ไม่ต้อง ไปไหวหวั่น เพราะนั่นจะยิ่งตอกย้ำให้ชาวบ้านเขาเกลียดชังพวกมันยิ่งขึ้น ก็ขนาดศึกใหญ่อย่างสงกรานต์ทมิฬ มันโหมฟืนเติมไฟซะขนาดนั้น ขณะที่ใครๆก็แทงเต็งว่าแดงแพ้แน่นอน แต่เรื่องจริงกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน

ยิ่งสื่อโหมโจมตีเท่าไหร่ ก็ยิ่งไปกระตุ้นต่อมสนใจชาวบ้าน ให้หันมาดูว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ ยิ่งไปใส่ไคล้มั่วซั่ว คนเขาก็ยิ่งเอะใจ ว่าอะไรมันจะขนาดนั้น พอดีพอร้ายเลยกลายเป็นไปยั่ว ให้ชาวบ้านที่รักความยุติธรรม ออกมาสืบสาวราวเรื่องค้นหาความจริง

ยิ่งขุดลึกก็ยิ่งเจอความเลวของอำมาตย์เยอะแยะ นั่นแหละคือสาเหตุ ที่ทำไมเสื้อแดงถึงได้เพิ่มเอาๆ จนแล้วจนรอด ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเอาไว้อยู่

ที่สำคัญคือ แดงแล้วแดงเลย ลงว่าถ้าได้แดงซะแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุด ก็ไม่มีทางเปลี่ยนสีได้ ลงว่าถ้าประชาชนมีหัวใจสีแดงซะแล้ว ต่อให้สื่อโจมตียังไงก็ไม่สะเทือน เหมือนเอาหัวชนกำแพง มีแต่จะหัวแตกละไม่ว่า

ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการสู้กับอำมาตย์ ก็คือการแทรกซึมเข้าหามวลชนให้ถึงรากหญ้า สู้การล้างสมอง ด้วยการเอาความจริงไปขาย ความจริงก็คือความจริง จะพูดร้อยครั้งพันครั้ง มันก็เป็นความจริงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ความเท็จของอำมาตย์ ยังไงก็ต้องแพ้ความจริงของประชาชนอยู่วันยันค่ำ ปากต่อปากแดงต่อแดงขยายออกไปเรื่อยๆ นานวันเข้าสีแดงจะแดงเถือกไปทั่วแผ่นดิน และที่สำคัญคือ จะเป็นแดงที่ไม่มีวันซีดจาง เพราะว่า...

ไม่ใช่ทั้งแดงแท้แดงเทียม..แต่เป็นแดงธรรมชาติ

วโรทาห์: 20 ก.ค.52

Thursday, July 16, 2009

ไอ้งั่งคนหนึ่ง..คืออัจฉริยะ..สำหรับไอ้งั่งอีกคนหนึ่ง

An idiot is genius for another idiot. วันนี้ต้องแอบยืมสำนวนฝรั่งมาใช้ซักเตื้อ ทั้งๆที่ปกติแล้วพยายามจะสงวนสิทธิ์ เอาไว้ให้พวกนักวิชาการปัญญาอ่อนเขาเล่นกัน ประเภทพูดไทยคำ อังกฤษสองคำ ให้มันขลัง ฟังดูน้องๆภาษาเทพ เผื่อชาวบ้านฟังไม่รู้เรื่อง จะได้เถียงไม่ออก

แต่เป็นความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองอย่างพอเหมาะพอเจาะ เมื่อไอ้งั่งคนหนึ่งได้รับความสำเร็จอย่างงดงาม ในการกรีฑาทัพขึ้นไปเหยียบยอดหน้าพี่น้องชาวบุรีรัมย์ ที่เตรียมยำใหญ่เอาไว้ต้อนรับชนิคเต็มอัตราศึก แต่ติดที่ไอ้เนร์..ไม่ยอมให้เสิร์ฟ

ไอ้งั่งตัวเตี้ยปากห้อย กับไอ้งั่งสะตอหน้าดำเลยได้ที อ้าขาผวาปีก ตีปี๊บสรรเสริญ เยินยออัจฉริยภาพของไอ้งั่งฟันเก..ซะใหญ่โต

ทำเป็นเล่นไป ไอ้งั่งม.7มันธรรมดาซะเมื่อไหร่ เห็นงั่งๆอย่างนั้น เป็นต้นแบบนักการเมืองสมัยใหม่ ของไอ้งั่งอีกหลายงั่งนะนั่น ไม่เว้นแม้แต่ไอ้งั่งรถดับเพลิง คนที่ทำเป็นแกล้งบ้าไปเปิดแอลซีจนวงแตก ต้องแสดงสปิริตเผ่นหนีแทบไม่ทันนั่นแหละ

แค่นึกก็เสียววาบ ถ้าอนาคตข้างหน้า ไอ้งั่งพวกนี้ได้เป็นใหญ่เป็นโตเมื่อไหร่..ก็ตัวใครตัวมันกันหละวะ

แต่ว่าก็ว่า เห็นมันจัดทัพกันแล้วให้นึกสมเพช โถ..กลัวกันจนฉี่ราดถึงขนาดนั้น ก็ไม่รู้จะไปทำไมให้มันอายหมาเปล่าๆ งานการก็เยอะแยะ ไม่ใช่ว่าว่างๆซะเมื่อไหร่ ไหนจะไข้หวัดหมูเอย ไหนจะเศรษฐกิจฉิบหายถึงขนาดนี้ ยังรีๆข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือกกันอยู่ได้

ความจริงจะว่าไปแล้ว ประเพณีเกณฑ์คนมาไล่ด่า ก็แมลงสาบเขาหละ ที่เป็นต้นตำรับดั้งเดิมห้ามลอกเลียนแบบ ทั้งนายกฯทักษิณทั้งนายกฯสมชาย โดนกันถ้วนหน้ามาแล้วเป็นปฐมฤกษ์ ไม่นึกว่าไปๆมาๆ หอกทมิฬจะย้อนศรกลับมาทิ่มทมิฬเข้าจนได้ โดนเข้ากับตัวเองถึงได้รู้รสชาติ

แหม..มันดิ้นพราดๆ แหกปากร้องเอ๋งๆ ไม่เป็นภาษาสุนัข

จบจากเรื่องไอ้งั่ง หันมาว่ากันเรื่องไอ้ง่าวกันต่อดีกว่า จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่ไอ้ง่าวที่อยากเป็นนายกฯจนตัวสั่นริกๆ โดดเกาะขามหาโจร ขอโดยสารทัวร์นรก พาไปสะด๊วบเก้าอี้นายกฯ จนเสร็จสมอารมณ์หมาย แต่พาเอาชาวบ้านวอดวาย ซวยไม่เลิกมาตราบเท่าทุกวันนี้

หวัดหมูนะ..ไม่ใช่หวัดแมว หะแรกนึกว่าหมูๆ เลยทำเป็นเชิงสูง เปลี่ยนชื่อเป็นหวัด 2009 ซะ แล้วยักคิ้ว ยักเอว ยักไหล่ บอกว่าไม่มีอะไรมาก เป็นเองก็หายเอง ทำเอาชาวบ้านหลงเชื่อกันเป็นแถว ไม่มีใครตั้งการ์ดป้องกันตัวซักคน กว่าจะรู้ว่าเป็นหมูเขี้ยวตันก็สายเกินเพลซะแล้ว

จั๊ดง่าว! ยังมีหน้ามาพ่นน้ำลายออกทีวีฉอดๆ ว่างานนี้ตัวใครตัวมัน รัฐบาลไม่เกี่ยว สะเหล่อติดหวัดเอง ก็เชิญไปหาหมอเอง เบิกประกันสังคมไม่ได้ ก็จ่ายเงินกันเอาเอง แถมยังย้ำให้หน้าชาอีกว่า เป็นแล้วก็อย่าได้เสนอหน้าไปทำงาน หรือทำเป็นขยันไปโรงเรียนซะล่ะ เดี๋ยวไปติดชาวบ้านเข้า จะหาว่าไม่บอกอีก

ที่ตายก็ตายไป ยังอยู่ในมาตรฐานที่ยอมรับได้ ส่วนเรื่องตายรายวันก็ไม่ต้องเป็นห่วง บักง่าวจะจัดให้..ตายเป็นรายสัปดาห์ สรุปว่า..รายงานยอดทุกวันพุธก็แล้วกัน

เวรกรรม..หลงฟังแทบตาย นึกว่าจะมีมาตรการอะไรเจ๋งๆออกมา กลายเป็นโดนตบหน้า ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก ยิ่งเห็นมาดยียวนกวนโอ๊ย ลอยหน้าลอยตา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ราวกับว่าข้านี้หล่อซะไม่มี มันเลยยิ่งเจ็บใจ นี่ถ้ายั้งเท้าไว้ไม่ทัน มีหวังทีวีพังเป็นแถบ

พระเจ้าคงเห็นว่าหวัดหมูยังท้าทายน้อยไป เลยส่งหวัดตะกวดมาถล่มซ้ำอีกระลอกใหญ่ เมื่อกุ๊ยกษิตเจอข้อหาก่อการร้ายเข้าไปเต็มเปา เล่นเอาบักง่าวถึงกับไปไม่เป็น ปลดก็ตายไม่ปลดก็ตาย เลยต้องก้มลงเลียน้ำลายที่เคยถ่มถุยเอาไว้ กฎเหล็ก 9 ข้อ กลายเป็นกฎมะเขือเผา 9 ลูกไป เรียบร้อยโรงเรียนจั๊ดง่าว

เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะกุ๊ยกษิต ไม่แน่จริงไม่ท้าตีท้าต่อยไปทั่วโลกหรอกวะ งานนี้ทุกฝ่ายถือหางกระซู่..เอ๊ยกษิตกันตรึม ทั้งสีเหลืองสีแดงประสานเสียงเชียร์กันกระหึ่ม

กษิต..สู้สู้..กระซู่..shit..shit..กษิต..สู้ตาย..ไว้ลาย..กระซู่

เป็นไงล่ะ เจอบททดสอบของจริงเข้าไป แค่บทสองบทก็เป๋ซะแล้ว ถ้าเปรียบเป็นมวยก็ถูกต้อนเข้ามุม..ไม่ใช่สิ..มวยโง่ๆทำเป็นเชิงสูง ติ๊ดชึ่งเข้าไปติดมุมเอง ฝีมือระดับนี้ คงไม่มีปัญญากรรเชียงหนีออกจากมุมแล้ว รออย่างเดียวว่า เมื่อไหร่จะถูกเสยปางคางลงไปนอนนับสิบ

สมใจแฟนเฉพาะกิจ ที่ทำเป็นหวังดีแต่ประสงค์ร้าย เชียร์ให้ไอ้ง่าวอยู่ไปนานๆ จะได้ตายสนิท ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกต่อไป และก็ได้ผลเกินคาด แค่ 6 เดือนผ่านไปก็เข้าเป้า ออกอาการร่อแร่ จนพี่เลี้ยงถอดใจ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์มาช่วยเอาไว้ มีหวังว่า..ถัดจากนายกฯปากมีดโกน

ก็จะเป็นนายกฯง่าวคนนี้แหละ..ที่ศพไม่สวย

วโรทาห์: 16 ก.ค. 52