Wednesday, April 30, 2008

ศักดินาหน้ามืด

เชื่อแล้วหละว่าหน้ามืด ถ้าลงถึงขนาดว่าเก็บทุกเม็ด ซิวทุกดอก จิกทุกเรื่องแม้แต่เรื่องธง ถ้าไม่เรียกว่าหน้ามืด ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว ขนาดว่างานแป๊ะสัมพันธ์ครั้งที่ 2 วางแผนปาขี้เพื่อป้ายสีฝ่ายตรงข้าม นั่นถือว่าสิ้นคิดสุดๆแล้วนะ แต่ยังแพ้งานนี้ ที่ส่ออาการสมองพิการหนักข้อเข้าไปอีก

โถ..มันจะอะไรกันนักกันหนา กะแค่แฟนบอลเขียนชื่อทักษิณลงบนธงชาติไทย จะว่าเค้าตั้งใจลบหลู่หรือก็เปล่า กลับจะให้เกียรติซะด้วยซ้ำไป แหม..ทำเป็นจะเป็นจะตายกันซะให้ได้ แล้วก็แปลกแต่จริง ไม่ว่าใครเป็นคนทำก็แล้วแต่ มันต้องโยงมาเล่นทักษิณให้จงได้ เล่นอย่างนี้มันไม่ส่อเจตนาไปหน่อยหรือพวก แล้วทีงานธรรมศาสตร์ป่วนเมือง มันเอาธงชาติไปห่อนม ไม่เห็นมีใครจะดิ้นตายซักคน

พวกกองเชียร์นี่ก็ยิ่งหน้ามืดไปกันใหญ่ ไม่เคยมีเรื่องไหนที่ปลุกไม่ขึ้น ทำเป็นรักชาติจนใจจะขาด น้อยๆหน่อยเหอะ มันจะอะไรกันนักกันหนา ชาติบ้าชาติบออะไรมันถึงจะบอบบางซะขนาดนั้น แตะเป็นยุบ เจออะไรไปหน่อย มันจะสิ้นชาติลงไปซะให้ได้ นี่สงสัยว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะอวดได้แล้วซิท่า นอกจากความรักชาติกับความภักดี ที่ยังทำให้พอดูเป็นผู้เป็นคนกะเค้าอยู่

แม๊..พูดเรื่องนี้แล้วความดันมันจะขึ้น หันมาหาข่าวสังคมเบาๆกันดีกว่า รวบยอดข่าวเด่นประเด็นดัง ประจำเดือนเมษาอันร้อนแรง ที่กำลังจะจากไป นอกจากงานอภิมหายักษ์ ยามเผาแผ่นดินครั้งที่ 2 วันที่ 25 ที่รายงานไปแล้ว...

@ พูดถึงงานดียามนี้ไม่มีใครเกินแป๊ะ ขนาดไม่ใช่หน้าข้าวหน้าเหล้า ยังงานเข้าอุตลุด จะไม่รับหรือมันก็ไม่ได้ ศาลท่านอุตส่าห์จัดให้ ถ้าไม่รับไว้เป็นได้เจอคุก แค่วันที่ 23 วันเดียวแท้ๆ มันอัดกันเข้ามา 2 งาน เล่นเอาหลังแอ่น วิ่งรอกกันจนขาขวิด ช่วงเช้างานน้าอุ๋ยเข้าที่กรุงเทพฯ แต่ตกบ่ายงานเฮียหมงดันไปเข้าที่ระยอง

นี่ยังไม่นับงานน้องนพฯ ที่เข้ามาก่อนหน้านี้ ยังค้างเติ่งเคลียร์กันไม่จบ แต่มาคิดอีกที โอกาสอย่างนี้ก็ใช่ว่าจะมีบ่อย ค่อยทำค่อยไปยังยื้อได้อีกหลายยก ถ้าลุ้นดีๆยังมีทางรุ่ง แจ็คพ็อทแตกเมื่อไหร่เป็นได้มีเฮ กินฟรีดื่มฟรี ที่พักพร้อม ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด สบายแป๊ะไปทั้งชาติ เอาเหอะ..ยังไงก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับแป๊ะไว้ก่อนก็แล้วกัน

@ ฮ็อตฮิตติดชาร์ทขึ้นมาทันที สำหรับซีดีเพลงรักป๋านะตาโง่ เมื่อได้โปรโมเตอร์มือเก๋าอย่าป้ารัญจวน ลงทุนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กับหนุ่มมาดเข้ม ผิวดำปี๋ หน้าตาติงต๊องอย่างเทพทวย คู่หูดูโอ้ เพื่อนซี้ต่างวัย ออกมาแฉโพยกันยกใหญ่ นอกจากขนแล้วยังมีซีดีเป็นหลักฐาน เห็นว่าด่าหยาบด่าคาย ด่าซะไม่มีดี ถ้าไม่จัดการให้ เป็นได้เห็นดีกัน

โถ..นึกว่าเพลงใหม่แกะกล่องมาจากไหน ที่แท้ก็เก๋ากึ้กตั้งแต่สมัยคมช.ครองเมืองแล้ว เนื้อเพลงนั้นสรรเสริญป๋าจนควันออกหู เด็กร้องได้ผู้ใหญ่ร้องดี ร้องมาหลายปีจนลืมหมดไม่เหลือซากแล้ว เคราะห์ดีที่ป้าจวนหยิบเอามาปัดฝุ่น ทบทวนความทรงจำ ถึงได้ฮ็อตฮิตติดลมบนขึ้นมาอีกครั้ง

จะว่าไปแล้วป้าจวนแกก็หวังดี ไม่อยากให้ใครไปด่าป๋าที่เคารพ เรียกว่าทวงความเป็นธรรมให้ป๋าว่างั้นเหอะ ออดอ้อนประชาชนจนของขึ้น หาก็อปกันยกใหญ่ อยากจะรู้ว่ามันจะหยาบกันซักแค่ไหนกัน แต่แล้วก็ผิดคาด พอฟังเสร็จพยักหน้ากันหงึกหงัก ยกนิ้วให้ว่าไม่หยาบๆ มันด่าได้ละเอียดดี ก๊ากกก...

คราวนี้เลยกลายเป็นไฟลามทุ่ง ลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน อัลบั้มดีๆ ใครๆก็อยากจะได้ไว้ในครอบครอง จากที่ไม่เคยฟังก็เลยได้ฟังเป็นบุญหู ดูท่าว่าจะกลับมาดังใหญ่ ร้อนถึงป๋าต้องออกมาโอดโอย ว่าขอเสียทีเถอะแม่รัญจวน เลิฟมีเลิฟมายด๊อก ถ้ารักป๋า อย่าออกมาช่วยบ่อย

@ ส่งท้ายเมษาฮาวายยังพอมีเรื่องดีๆมาให้ชื่นใจ หลังจากที่แช่งชักหักกระดูกกันมา นับเป็นเวลาก็ตั้งหลายปี ในที่สุดคำอธิษฐานก็เป็นจริงจนได้ เมื่อจู่ๆตาแก่ก็เกิดอาการหน้ามืดเสียศูนย์ ล้มคว่ำคะมำหงายในห้องน้ำ เป็นเหตุให้ได้ลุ้นกันตัวโก่งตัวงอ ป้าดติโท้ ถ้าโถส้วมไม่เบี่ยงหลบไปได้หวุดหวิดละก้อ งานนี้ได้มีเฮ ป่านนี้ได้นอนหงายรดน้ำกันชุ่มฉ่ำๆ ฉลองสงกรานต์กันยังไม่เสร็จ

รอดตายมาได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดสิบสองตลบ เลยต้องเปิดแน่บเข้าโรงพยาบาล ขึ้นขาหยั่งสอดสาย เช็คเครื่องใน ตับ ปอด เซี่ยงจี๊ ยังอยู่ดีหรือไฉน ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีส่วนไหนบุบสลาย หรือเคลื่อนย้ายผิดที่ผิดทาง นอกจากคอที่เอียงเพิ่มอีก 1 องศา 20 ลิบดา

แต่ผลการเอ๊กซเรย์สมองนี่สิน่าทึ่ง เอ๊กซ์แล้วเอ๊กซ์อีกดันไม่เจออะไร นอกจากทักษิณ ทักษิณ แล้วก็ทักษิณ หมอเลยสั่งจ่ายยาลดทักษิณให้ไปกิน แล้วก็ไล่กลับบ้านเก่า เอ๊ยให้กลับบ้านได้ แต่แหมกว่าจะตรวจเสร็จล่อซะดึกดื่น รถเมล์หมดเลยต้องนอนโรงพยาบาลซะ 1 คืน

ขนาดนั้นกระจอกข่าวยังเอามาเม้าท์ต่อ ว่าแน่ะในที่สุดก็ความแตก แอบเป็นโรคอื่นอยู่ด้วยก็ไม่บอก นอกจากความดันทุรังสูงที่เป็นมาแต่กำเนิดแล้ว หมอเจ้ากรรมก็ดันมาแฉโพย ว่ายังมีต่อมทอนซิลอักเสบอีกต่างหาก แล้วโรคนี้ก็ทำให้ไม่สามารถใช้เสียงได้ตามปกติซะด้วย

มิน่าล่ะ พักหลังมานี้ ไม่มีใครได้ยินเรื่องจ๊อกกี้อีกเลย

วโรทาห์: 30 เม.ย. 51

Monday, April 28, 2008

ยามใหญ่..ชักจะร่อแร่

และแล้วก็มาถึงวันนี้ที่รอคอย 25เมษาประชายามรวมใจ จัดขึ้นมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามมาแล้วจากครั้งที่หนึ่ง แต่งวดนี้มาแนวสยองนิดๆ เพราะเพิ่งผ่านงานอมนกมาหมาดๆ ชาวบ้านยังใจแป้ว อกสั่นกันยังไม่หาย งานนี้สาวๆเลยไม่กล้าโผล่ มีแต่สาวแก่กับแม่ประเทือง ที่รีบกระดี๊กระด๊าแห่มากันยกใหญ่ เผื่อว่าจะมีฟลุค

แต่มานับรวมหลงจ้งเก๋าเจ้งแล้ว ก็ยังหายหัวกันไปตั้งเยอะ นี่ขนาดว่าได้นักบวชนอกรีต มาเสริมทัพอีกตั้งหลายหัว ยังบางตาเห็นเป็นกระจุกอย่างกับหัวนกตะกรุม แป๊ะเห็นแล้วก็แทบจะลมใส่ ส่ายหัวดิ๊กจนพุงกระเพื่อม แล้วล้งเล้งซะดังลั่น ไอ๊หยา..ซี้เลี้ยว ถ้ามากันหร็อมแหร็มอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่มันจะมีเรื่อง

ขนาดนั้นเจ้าคนที่ชื่อใสแต่หน้าด๊ำดำ ยังมาทำปากเก่ง คุยโวว่าคราวหน้าจะย้ายก้นออกไปสุมหัวกันกลางแจ้ง เลยเจอแป๊ะทิ่มซะหงายเก๋ง บอกว่าน้อยๆหน่อย ยิ่งมายิ่งน้อยอย่างนี้ยังมีหน้ามาคุยโม้ ถ้าจัดคราวหน้าอย่าหาว่าดูถูก เตรียมเสื่อไปปูนั่ง ตั้งวงจั่วป๊อกเด้งซะยังจะเวิร์คกว่า ว่าแต่จะมากันครบขาหรือเปล่าเหอะ

สาเหตุที่มาน้อย เห็นเค้าว่านอกจากกลัวอาจารย์นกแล้ว เจอหนังสติ๊คยิงกบาลไปคราวที่แล้วก็มีส่วน จนป่านนี้ยังขยาดกันไม่เสร็จ แล้วไหนจะการแสดงก็หดหายไปจนเกลี้ยง เหลือแต่น้าหงาตัวเดียวอันเดียวยืนอยู่เดี่ยวโดด รับหน้าเสื่อโซ้ยกีร์ต้าจนมือแทบหงิก ตาดำยิ่งไม่สามัคคีกันอยู่ พอถึงคิวได้ขึ้นจ้อเลยเมาหมัด หันไปจวกศักดินาซะเละตุ้มเป๊ะ เล่นเอาคนฟังมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เอ๊ะ! เรามาผิดงาน หรือมันพูดผิดที่กันแน่หว่า

การแสดงอีกอย่างที่เสียดายกันสุดๆ คืองิ้วการเมืองอันอลังการ คราวก่อนแสดงฉากกราบแผ่นดิน ฮากันจนงอก่องอขิง ถือว่าสร้างสรรค์กันสุดๆเท่าที่สมองจะคิดได้ พ่อยกแม่เล้าเลยคอยลุ้นกันตัวโก่ง กะว่างวดนี้ ยังไง๊ยังไงต้องมีฉากอมนก แต่ที่ไหนได้ มันยกโรงหนีไปดื้อๆ ทำเอาอารมณ์ค้างเติ่งไปตามๆกัน

พูดถึงเรื่องปากเก่ง ชั่วโมงนี้ยังไม่มีใครกินแป๊ะลง ขนาดว่าศาลท่านคาดโทษ เอาปูนหมายหัวไว้แล้ว ดูมันกลัวซะเมื่อไหร่ มาเที่ยวนี้ ยังออกลูกจ้อในแนวถนัด ยักสูงลงมากินต่ำ เปิดถ้วยแทงกันเห็นๆ แม่ยกชอบใจตีมือเป่าปากกันเฟี้ยวฟ้าว กะจะยุให้เข้าคุกไปไวๆ แต่ไม่ได้แอ้มแป๊ะหรอก งวดนี้มันนกรู้ ไม่พาดพิงชื่อใครให้เสียศูนย์ ไม่งั้นงานเข้ามาอีก เห็นทีจะรับไม่ไหว ช่วงนี้เลยปิดประกาศงดรับงานไปพลางๆก่อน สรุปว่ายังไงๆก็ยังกลัวตาย

เที่ยวนี้ไม่เหมือนเที่ยวก่อน มือชั้นแป๊ะมันต้องมีแผน คนน้อยยังไงก็ต้องแบ่งเป็น 3 ชุด ชุดแรกพวกแก่ๆเข้าไปนั่งป๋อหลอ เจี๋ยมเจี้ยมอยู่ในห้องประชุม ทำทีทำท่าว่าชุมนุมกันอย่างสงบ ชุดที่สองนี่สำคัญ ไปตั้งประจัญหน้าอยู่ที่ประตูใหญ่ด้านสนามหลวง รับหน้าเสื่องานสำคัญ ปาหินใส่พวกต่อต้าน เผลอๆก็ปาขี้ใส่ให้มันเหม็นโฉ่กันไปทั้งงาน

เพื่อให้ชัวร์ป้าด ชุดที่สามนี่สั่งมาเป็นพิเศษ ส่งเข้าไปมั่วทำเนียนเป็นพวกต่อต้านที่สนามหลวง ตั้งหน้าด่าทอพวกแป๊ะ เอาให้หยาบสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าจะให้เจ๋งมันต้องโชว์จู๋ งานนี้จะใช้ลุงฟันหลอก็กลัวเค้าจำได้ เลยต้องจ้างหน้าใหม่มาสวมบท ให้ช่างภาพที่เตรียมไว้ ถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ เป็นที่มาของแอ็คชั่นอันแสนเท่ห์ ในลีลาเด็ดสะเด่า กับมุมภาพตระการตาระดับเทพ พอๆกับถ่ายทำในสตูดิโอยังไงยังงั้น

พอได้เวลา ปฏิบัติการปาหินก็เริ่มขึ้น แม่นยังกะจับวาง นักข่าวที่ไปมั่วอยู่ฟากสนามหลวง เจอเข้าไปเต็มๆเล่นเอาเลือดหยดติ๋ง ล้มลงดิ้นพราดๆ ยังกะปลาช่อนถูกทุบหัว บางคนก็ว่าดี..สม ทียังงี้มาทำข่าวกันคึกคัก แต่ทีตอนนปก.ชุมนุม มันหายหัว
กันไปจ้อย ทีนี้พอมันสุมหัวกันเยอะจัด ปาไปมั่วๆยังไงก็ต้องโดนเข้าซักหัวแหละน่า

แต่แหล่งข่าวแฉว่างานนี้ไม่ใช่ปามั่ว แป๊ะสั่งให้ล็อคเป้าปาใส่นักข่าวโดยเฉพาะ มันจะได้เล่นข่าว เอาให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน ยิ่งพวกนี้ชาวบ้านเค้าเอาปูนหมายหัวไว้แล้ว มันเลยยิ่งเล็งง่าย หลังเสร็จงาน แป๊ะยังตามไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล จ่ายกันเห็นๆ เอาไปเลย 2 หมื่น แอนตาซิลมาเอง เดี๋ยวจะหาว่าไม่แน่จริง

ไฮไลท์งานนี้มันอยู่ที่ปาอึ ทั้งชาวบ้านทั้งตำรวจ กำลังส่ายหัวหลบลูกหินกันด๊อกแด๊กๆ เผลอๆไม่ทันระวังตัว มันจัดมาเป็นถุงใหญ่ ลอยละลิ่วแตกโพล๊ะกลางอากาศ แตกกระจายยังกับโทมาฮอว์คถล่ม รัศมีทำลายล้างกว้างไกล บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เครื่องแบบตำรวจเปียกมะล่อกมะแล่ก นี่เรียกว่ามาทั้งเนื้อทั้งน้ำ ต้องฝีมือระดับพระกาฬ มันถึงจะได้น้ำได้เนื้อซะขนาดนี้ แล้วกลับถึงบ้าน เมียจะจำกลิ่นได้ไม๊นี่

คดีอุกฉกรรจ์สั่นประสาท แต่ทำท่าว่าตำรวจจะคว้าน้ำเหลว เพราะจับมือใครดมไม่ได้ ก็แน่หละ ใครมันจะกล้าดม กำขี้ดีกว่ากำตด แต่งานนี้ขอกำตด ไม่มีใครยอมกำขี้ สื่อเสี้ยมก็ยังทำหน้าที่กันอย่างเยี่ยมยอด ออกข่าวมั่วทันทีว่าถุงขี้ถูกปามาจากสนามหลวง

ดีที่ผู้สันทัดกรณีรีบออกมาสวนหมัดว่า เหงกแน่ะ! แนวสะเก็ดระเบิดมันพุ่งไปทางสนามหลวง แสดงว่าปามาจากธรรมศาสตร์ชัดๆ..แต่อย่างว่า จะไปเอานิยมนิยายอะไรกะสื่อสมัยนี้ ขนาดช่างภาพถูกปาหัวที่สนามหลวง มันยังแหกตาว่าพวกสนามหลวงไปปามาจากธรรมศาสตร์ เออ..เอาก๊ะมัน

เห็นชัดๆว่างานนี้แป๊ะกะจะกินควบ 2 ต่อเข้าฮอร์ส นอกจากได้ปลอบขวัญพวกกันเองแล้ว ยังได้ป้ายขี้ให้ฝ่ายตรงข้าม จัดฉากฟ้องชาวบ้านว่า เห็นไม๊พวกมันชุมนุมกันอย่างเรียบร้อย แต่ฝ่ายตรงข้ามต่างหากมาเล่นหยาบ..แต่โทษทีเหอะแป๊ะ นอกจากพวกสื่อเสี้ยมกับพวกแมลงสาบแล้ว ชาวบ้านไม่มีใครรับมุขหรอก ใครเค้าไปสนใจว่าชุมนุมเรียบร้อยหรือไม่เรียบร้อย แค่มาม็อบมาป่วนชาวบ้านเค้าก็ด่าเปิงแล้ว ต่อให้นั่งพับเพียบชุมนุมกันเรียบร้อยยังไง ก็โดนด่าอยู่ดี

ตอน 2 ทุ่มครึ่งฝนตกลงมาห่าใหญ่ อะไรๆมันก็ค่อยๆไหลไปรวมกัน เห็นหางโผล่อยู่ไหวๆ อ้าวนั่นมันพะจุ๊งนี่หว่า สื่อเลยตามประทีปโคมไฟไปถามดู ว่าก๊อกๆๆมาทำไม มันรีบตอบว่าเปล่า แค่มาดูให้รู้จริง ไม่อยากฟังจากสื่อ อ้าว..แล้วที 3 จังหวัดภาคใต้ ทำไมฟังจากสื่อ ไม่ไปดูเอง..แต่งานนี้ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าแป๊ะ ว่าที่มันมานี่กะมาเช็คยอด กันแป๊ะไม่ให้มั่วนิ่ม อย่างคราวที่แล้วมา 4 พัน ตั้งเบิกไป 4 หมื่น งวดนี้เห็นทีคงเบิกได้แค่ 2 พันตามจริง

ย้อนไปก่อนงานเริ่ม ตอนกำลังโพล้เพล้ สุภาพสตรีเช้งกะเด๊ะนางหนึ่ง กระเย้อกระแหย่งอยู่ทางประตูท่าพระอาทิตย์ อุตส่าห์นัดเพื่อนไว้ไม่มีใครมาซักคน ความที่ทุกคนก็กลัวถูกจับเอาไปอมนก บรรยากาศเลยวังเวง ยังกะเข้าถ้ำเสือแดนมังกร หันรีหันขวางไม่รู้จะทำยังไง จะเดินหน้าก็กลัวจัง จะถอยหลังก็เสียดาย

ยึกยักอยู่ครู่ใหญ่จนได้เรื่อง ก็คุณเธอเล่นไปยืนอยู่ใกล้มุมตึก จู่ๆก็มีชายลึกลับโผล่พรวดออกมายังกะผีพุ่งใต้ เล่นเอาใจหายหล่นวูบลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม วุ้ยว้ายตาเถรหก รีบหลับตาปี๋คิดว่าเสร็จมันแน่ นึกแล้วก็เสียใจว่าไม่น่ามาเล้ยเรา

เอาวะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไหนๆจะไม่รอดแล้ว ก็ขอดูหน้าให้ถนัดตาซักหน่อย พอลืมตาขึ้นมา อ้าว! จารย์อ้วนตาตี่บ่อมิไก๊นี่เอง ค่อยใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง รีบประนมมือแต้ พร้อมกับเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ

"จารย์ใหญ่ขา..ช่วยพาแอนไปส่งหอประชุมใหญ่ด้วยเถอะค่ะ..แบบว่ากลัวจารย์นกเขาอ้ะ"

จารย์อ้วนกระพริบตาถี่ๆ ทำหน้างงๆ หันไปมองรอบๆจนแน่ใจว่า แอนที่เธอพูดถึงไม่ใช่บุคคลที่สาม เลยหันมาทำตาเขียวปั้ด แล้วแหวใส่ซะดังลั่นก่อนผละจากไป

"โอ้ย..รุ่นนี้แล้ว..ไม่ต้องกลัวหรอก ป้า!"

"!!! เพล๊ง !!!"

==========
วโรทาห์: 27 เม.ย. 51

Thursday, April 24, 2008

ประชาธิป่วน คราวนี้ละเน่าแน่

ออกอาการกันเห็นๆ ชกซ้ายป่ายขวาอุตลุต มั่วซั่วสะเปะสะปะยังกะแมลงสาบเมาดีดีที จู่ๆหัวหน้าก็หนีหาย แต่กุนซือใหญ่กลับออกมาเสนอหน้า เทพเทือกกำลังจะมอดม้วย แต่เทพทวยพยายามจะแจ้งเกิด ไล่ฟัดรัฐบาลมันทุกลูก ตามด่าไปทุกช็อต ไม่เว้นแม้แต่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง เจริญกันละคราวนี้ แทนที่ชาวบ้านจะได้อยู่ดีกินดี เลยเสียหายกันไปหมด

โธ่เอ๊ยทำเป็นปากเก่ง นึกว่าจะแน่ซักแค่ไหน ยังไม่ทันไรก็หมดฟอร์ม หันกลับมาล่อของเก่าในแนวถนัด คุ้ยเขี่ยหากินตามพื้นดิน ตอดเล็กตอดน้อยไปวันๆ ไหนล่ะ ทำเป็นมีหลักการ จะเป็นฝ่ายค้านตัวอย่าง สร้างมิติใหม่ของการเมืองไทย ตั้งรัฐบาลเงามาประกบ คุยโม้ซะดิบดี ยังไม่ทันไรดีแตก สัญชาติเดิมมันออก ท้ามาตบกันดีกว่า.. มันง่ายดี

เรื่องของเรื่อง มันมาเป็นเรื่องก็เพราะรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญนี่แหละ เลยเก็บอาการกันไม่อยู่ วิ่งพล่านกันไปทั้งรัง แตกตื่นกันไปทั้งก๊วน ขืนปล่อยให้แก้ได้ เป็นได้ตายกันยกแก๊งค์ ก็ขนาดยังไม่แก้ แมลงสาบยังแพ้ซะหมดรูป ต้องมาตั้งรัฐบาลเงาพอให้หายอยาก ถ้าแก้กันคราวนี้ เห็นทีต้องเป็นเงากันไปทั้งชาติ

พวกข้าต้องมาก่อน ประชาชนมาทีหลัง งานนี้มันเลยต้องวิ่งสู้ฟัด แต่หล่อใหญ่มันขี้แพ้ เลยถึงทีหล่อแก่ต้องมาออกโรง เวรกรรม..ใครก็ไม่รู้ไปหลอกแกว่าบารมียังล้นเหลือเลยฟิตใหญ่ โผล่หัวออกมาได้ก็ปะฉะดะ ปู่เติ้งไม่ทันระวังตัว เลยเจอใส่ไปเป็นชุด คนกำลังเซ็งชีวิตอยู่ พอเจอมันจัดให้ชุดใหญ่ เลยควันออกหู ลุกขึ้นมาเต้นผาง กะว่าถ้าไม่เคลียร์ให้ดี งานนี้ต้องมีพะบู๊

คนเราบทเลือดจะไปลมจะมา มันไม่บอกกล่าว จู่ๆป้าจวนแกก็หักมุม กลายเป็นจอมพลิกล็อค เลิกเฉ่งกับปู่เติ้งไปซะเฉยๆ หันไปจับเรื่องมือดีจาบจ้วงป.ปลาตากลมซะดื้อๆ ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับมัน ปล่อยให้ปู่แกชกลมอยู่วืดวาด งานนี้ปลาไหลได้แต่ยืนงง ตีกบาลเสร็จก็ตีจาก ไม่ร่ำไม่ลาไม่หันมาขอบใจ ดันไปนัดสื่อแถลงข่าวกันครึกโครม แต่ไม่รู้ผิดคิวกันเองท่าไหน เทพทวยมันปาดหน้าออกมาแถลงก่อน

แถลงอะไรยังพอว่า นี่ดันมาโชว์ขน เส้นสองเส้นยังพอทน นี่มันถอนมาเป็นกระจุก นักข่าวสาวๆแส้ๆแทบจะวงแตก เดชะบุญพวกสื่อมันคอยช่วยก็เลยไม่ประโคมข่าว ไม่งั้นชาวบ้านคงได้ด่าตรึม กินข้าวกันอยู่ดีๆ มันงัดหลักฐานออกมาเป็นกระจุก เป็นได้อ้วกแตกคาชามข้าว หมูโลละร้อยกว่า ข้าวหอมมะลิก็โลละเป็นร้อย อ้วกออกมาให้หมากินหมด

คราวนี้พอถึงทีป้าจวนออกมาแถลง สื่อเลยชักจะแหยงๆเพราะกลัวใจป้าแก เกิดแกฟิตจัดงัดขนออกมาโชว์มั่ง เป็นได้ซวยกันตายชัก ทำเป็นเล่นไป ยิ่งบ้าๆบอๆกันอยู่ด้วยพลพรรคนี้ แต่สรุปแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่ เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่เลยมุขแป๊ก ความที่กลัวว่าจะเสียเชิง ไหนๆออกมาทั้งทีมันต้องโชว์เก๋า ระดับลุงหมักมันต้องเจอป้าจวนถึงจะพอมือ ว่าแล้วก็หันไปงับลุงหมักล่อซะจมเขี้ยว หาว่ามีคดีติดตัวยังมามั่วเป็นนายกฯ

อ้าว..อย่างนี้มันก็สวย เค้าเรียกว่าไม่รู้จักเข็ด เจอสวนไปครั้งที่แล้วยังติดใจ เลยต้องฉลองศรัทธากันอีกช็อต ลุงหมักแกมีโทรโข่งส่วนตัวอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร ทุกวันอาทิตย์ได้โพนทะนาฟรี 1 ชั่วโมง เครือข่ายกว้างไกลทั่วประเทศ ถือโอกาสเล่าให้เจ้าของประเทศได้รู้ว่า มีน้องชายอดีตนายกฯ ฉ้อราษฎร์ไป 200 ล้าน แล้วหนีหน้าหายจ้อยไปจนหมดอายุความ

ได้ผลเกินคาด สองพี่น้องเละเป็นโจ๊ก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ขายหน้าไปทั้งประเทศ อุตส่าห์ปิดเงียบมาได้ตั้งหลายสิบปี สื่อเสี้ยมก็ช่วยกันปิดข่าวซะเงียบกริบ ลุงหมักดันมาเปิดซะล่อนจ้อน อึกอักๆพูดไม่ออกได้แต่กลอกหน้า คนพี่บอกว่าโกงอย่างนี้ไม่เรียกว่าฉ้อราษฎร์ ส่วนคนน้องแก้ตัวว่าคราวหน้าจะลงเลือกตั้ง.. แล้วมันเกี่ยวกันไม๊นี่

คนเราพอถึงคราวซวยนี่ ความซวยมันจัดมาเป็นแพ็คเกจ อุตส่าห์คิดใหม่ทำใหม่ แพ้เลือกตั้งสนามใหญ่ กะว่าหันมาลุยถั่วสนามเล็ก ทั้งหล่อเล็ก หล่อใหญ่ยันไปถึงหล่อแก่ ออกตะลุยช่วยลูกพรรคหาเสียงกันอย่างขะมักเขม้น ปรากฎว่าโป๊ะเชะ ผลการเลือกตั้ง 26 อบจ. แพ้รูดมหาราด ป่านนี้ยังกลับบ้านกันไม่ถูก

แพ้ที่ไหนไม่ว่า นี่ปักษ์ใต้เจอไปเป็นแผง แต่ป้าจวนซะอย่างแป๊บเดียวก็พบสาเหตุ เรื่องอื่นมันเชื่องช้า ทีเรื่องนี้มันเร็วปรื๋อ ฟันธงโชะได้เลยว่าแพ้เงิน คิดได้อย่างนี้ก็สบายใจไปแปดอย่าง ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรให้เมื่อยตุ้ม นั่นมันเรื่องของคนดีชอบแก้ไข แต่นี่มันคนอะไรก็รู้ๆกันอยู่

สงสารก็แต่ลุงเทือก ตั้งแต่ถูกเจ้ามาร์คมันหลอกมาเป็นรมต.เงานี่ แกเสียรังวัดไปเยอะแยะ อยู่ๆก็มาเสียที่ แต่ยังดีว่าไม่เสียเมีย แค่เถียงกันไม่กี่คำ เจ้าเหลิมมันล่อไปเป็นพันๆไร่ นี่เห็นว่ายังจะมีอีก ใจคอมันจะเอากันให้ตายเลยหรือไง อุตส่าห์เก็บหอมออมริบ โซ้ยมาทีละเล็กทีละน้อย กว่าจะได้มาสี่ซ้าห้าพันไร่ พอได้ซุกหัวนอน มันมาแป๊บเดียวล่อซะเกือบเรียบ นี่กะจะไม่เหลือที่ไว้ให้ลุงเทือกดิ้นตายเลยซิท่า

ก่อนจากขอวกมาชำแหละสื่อ เอาแค่พอเป็นกระสายยา ให้ชาวบ้านหูตาสว่างซักเล็กน้อย ก็ดูมันโปรยหัวข่าว...

'สมัคร'อ้างตาใส แก้รธน.ไม่มีผลยุบพรรค

แต่ทำลุกลี้ลุกลน เอาเข้าสภาทันทีที่จบงบประมาณ

โปรยหัว 2-3 ประโยคสรุปให้เสร็จสรรพเรียบร้อย แอบเนียนยัดเยียดความเห็นส่วนตัวเข้าไปเต็มเกือก ใครจะไปตามมันทัน คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด แค่อ่านหัวก็หมดโควต้าแล้ว อย่าว่าแต่จะไปอ่านเนื้อใน ขี่มอร์ไซค์ผ่านร้านขายนสพ.ปร๊าดเดียวก็อ่านจบทั้งฉบับ เอาไปฝอยได้เป็นคุ้งเป็นแคว รู้ไปหมด ทักษิณโกง ชวนขาวสะอาด แต่รู้แค่ผิวๆนะ ถ้าลงลึกกว่านั้นต้องแถเอา

นี่ว่ากันเฉพาะที่มันแหกตาชาวบ้าน แอบเนียนเอาความเห็นของมันไปพาดหัวนะ ไม่รวมภาษาที่มันใช้ ภาษาไทยมีแต่ 'ดื้อตาใส'

ภาษาก๋งมันมี 'อ้างตาใส' ด้วย

==========

วโรทาห์: 23 เม.ย. 51

Monday, April 21, 2008

เพลิงแค้นขุนศึกชรา ตอนวารีวัดใจ

วันที่สิบสองเดือนสี่เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ย่อมถือเป็นธรรมเนียมที่วังจตุรพิษต้องจัดพิธี วารีวัดใจ ถือโอกาสตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ภักดีต่อขุนพลเฒ่า ยิ่งงานปีนี้ยิ่งไม่ธรรมดา จึงต้องจัดเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อฟื้นคืนฐานะของผู้เป็นประมุข

นับแต่ขุนศึกชราจำต้องหลีกเร้นจากยุทธจักร ภายหลังถูกพลังฝ่ามือเทพบุตร ของโอรสแห่งสวรรค์ จนกระเด็นไปไกลหมื่นลี้ บารมีที่สู้สั่งสมมาเนิ่นนาน กลับพลันเลือนหาย กลายเป็นชายชราไร้พิษสงคนหนึ่ง หามีผู้ใดกริ่งเกรงอีกต่อไป งานปีนี้จึงเงียบเหงายิ่งนัก ขุนพลน้อยใหญ่ที่เคยมากันพร้อมเพรียง เสริมสร้างบารมีให้แก่เฒ่าหมื่นพิษอย่างล้นเหลือ มาครั้งนี้กลับหลบลี้หนีหายมิกล้าออกหน้า

ประมุขเฒ่านั่งคู้ตัวอยู่บนเก้าอี้ แบมือทั้งสองข้างวางไว้บนตั่งเบื้องหน้า รองรับวารีที่แม่ทัพสูงสุด หลั่งจากจอกเงินลงใส่ฝ่ามือหยาบกร้านตะปุ่มตะป่ำของมัน ความเย็นแห่งสายน้ำเพียงแค่นั้น ไหนเลยดับความร้อนรุ่มในจิตใจของมันได้ ดั่งถูกเพลิงนรกแผดเผาให้มอดไหม้ อากาศแห่งคิมหันตฤดูแม้ระอุร้อนเพียงใด ยังมิอาจเทียบได้กับความเร่าร้อนภายในจิตใจของจอมมาร

พลันที่แม่ทัพสูงสุดคล้อยหลัง เงาร่างสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วไร้สุ้มเสียง พลันม้วนตีลังกาครั้งหนึ่งด้วยวิชาตัวเบาสุดลึกล้ำ ก็ทิ้งต้วลงยืนเบื้องหน้าประมุขเฒ่า เป็นบุรุษผู้มีร่างกายสูงใหญ่ในชุดเกราะทอง ยืนตระหง่านน่าเกรงขาม หน้าผากกว้างบ่งบอกปัญญาเฉียบแหลม ใบหน้าเคร่งขรึมดุจดังพยัคฆ์ ดวงตากลมโต คมดุจตาเหยี่ยว ที่แท้เป็นแม่ทัพทหารดิน ผู้กุมกำลังภาคพื้นปฐพีอันเกรียงไกร

พลันที่ผู้เฒ่าเงยหน้าขึ้นสบตาบุรุษผู้นั้น ใบหน้าที่ยิ้มละไม พลันแปรเปลี่ยนบึ้งตึง มันสะบัดหน้าเบือนหนีไปด้านข้าง ท่วงท่าดั่งอิสตรียามขึ้งโกรธ อัศวินเกราะทองกลับมิได้ใส่ใจ พลันกระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะด้านข้างอย่างแผ่วเบา จอกเงินใบน้อยกลับลอยละลิ่วขึ้นสู่อากาศอย่างน่าพิศวง เพียงสะบัดข้อมืออีกครา ขุนพลใหญ่ก็ใช้นิ้วคีบจอกนั้น พลิกตักน้ำในอ่างทองคำขึ้นมาอย่างง่ายดาย ค่อยๆรินหลั่งวารีเย็นใสสู่อุ้งมือมาร

ดั่งถูกราดรดด้วยน้ำกรดอันแสบร้อน จอมมารขบฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน พลันรวบรวมลมปราณ เปล่งเสียงเร้นลับกระแทกเข้าใส่โสตประสาทของขุนพลใหญ่ แต่ทว่า หามีผู้ใดได้ยินเสียงนั้นไม่นอกจากผู้ที่ต้องพลัง อา..นี่กลับเป็นเคล็ดวิชาพยัคฆ์รำพึงอันแสนพิศดาร มีแต่ผู้สำเร็จวิชาพลังภายในขั้นสุดยอดเท่านั้น จึงใช้เคล็ดวิชานี้ได้

"เจ้ายังมีหน้ามาอีกหรือ คนอกตัญญู" พลังเสียงเร้นลับที่กระแทกกระทั้นเข้าใส่โสตประสาทขุนทหารใหญ่นั้น ทั้งรุนแรงและอำมะหิต หากผู้รับมิได้มีพลังภายในสูงส่งแล้ว มีแต่โสตประสาทต้องแตกสลายลงในชั่วพริบตา แต่ทว่า..ขุนศึกผู้นั้นกลับยืนนิ่งเฉย เยือกย็นราวกับมิได้ยิน คาดไม่ถึง ยังตอบกลับมาด้วยเคล็ดวิชาสีหราชรำพึง

"ช้าก่อนผู้เฒ่า มิสู้สำรวมถ้อยคำ" พลังเสียงลึกล้ำนั้นกระแทกกลับเข้าใส่โสตประสาทของผู้เฒ่า จนต้องรีบเกร็งลมปราณขึ้นปิดป้องโสตประสาทไว้มิให้แตกสลาย พลันลอบแตกตื่นอยู่ภายในใจ อา..คนผู้นี้มิใช่ธรรมดา พลังภายในช่างลึกล้ำสุดหยั่งคาด ยังมิทันโต้ตอบกลับไป พลังเสียงอีกระลอกหนึ่งก็ตามติดมา

"ตัวข้าหาใช่บุตรบุญธรรมของท่านไม่ ใยจึงกล้าเอ่ยปากทวงหาบุญคุณ หากมิใช่เพื่อช่วยรักษาหน้าให้ท่าน ข้าหรือยินยอมบากหน้าเข้ามา ในเมื่อท่านกล้าเชิญ ข้าจึงกล้ารับ ฉายาของข้า บูรพาไม่แพ้ ปราบทั่วสิบทิศ ถือคุณธรรมเป็นกระบี่ แหงนหน้าไม่เกรงฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน แล้วเหตุใดเล่า จึงต้องเกรงกลัวมนุษย์เดินดินเยี่ยงท่าน"

"ช่างสามหาวนัก!" จอมมารเฒ่ายังมิเคยถูกใครตอบโต้ ถึงกับเลือดลมพุ่งพล่าน กระแทกพลังกลับไปอย่างรุนแรง "ซุนซามักเป็นบิดาเจ้าหรือไร จึงยอมตัวลงเป็นสุนัขรับใช้มัน"

"ผู้เฒ่าสมควรระงับโทสะ ใยจึงเอื้อนเอ่ยวาจาต่ำช้าเยี่ยงนี้" ขุนพลใหญ่ยังคงเยือกเย็น "อาวุโสซุนกับข้า คบหาด้วยใจ เราต่างเหมือนกัน ถือคุณธรรมมั่นไว้ในใจ ใช่เพียงลมปาก ซื่อสัตย์ดั่งกวนอู วาจาไร้เงื่อนงำ ภายนอกแข็งกร้าว ภายในอ่อนโยน ยิ่งคบหายิ่งสบายใจ ท่านผู้เฒ่า..เป็นเพราะท่านริษยาจนเกินไป จึงคิดร้ายถึงเพียงนี้ เป็นเพราะท่านมีแต่ได้มิเคยเสีย เมื่อต้องสูญเสียจึงมิอาจทำใจ ท่านสมควรรับรู้ไว้ว่า อำนาจนั้น หนักกว่าขุนเขา เบากว่าขนนก ละวางได้ จึงนับเป็นยอดคน"

คำพูดเพียงเท่านี้ ไหนเลยทะลุทะลวงกิเลสตัณหาของมารเฒ่าได้ มันเคยแต่สั่งสอนผู้คน เมื่อถูกสอนสั่งจึงมิอาจรับฟัง มันมิยินยอมโต้เถียงด้วย กลับรีบตัดบท

"มิต้องกล่าวแล้ว.. ขุนทหารผู้เป็นบุตรบุญธรรมของข้า ที่แท้แล้วมีกี่คน ที่ถูกพลังฝ่ามือ โยกย้ายฟ้าผ่าของเจ้า กระเด็นไปไกลนับพันลี้"

"ข้ามิเคยใส่ใจว่ามีมากเพียงใด ขอเพียงคืนความชอบธรรมได้ ข้าย่อมต้องลงมือ ในเมื่อพวกมันฉ้อฉลมา เมื่อต้องกลับไปอยู่ที่ของมัน ย่อมเป็นการสมควร คนอย่างข้าถือคุณธรรมเหนือสิ่งอื่นใด มิใช่เอ่ยอ้างเพียงแค่ปาก วาจาดั่งผายลม ลงมือเยี่ยงโจรป่า เพียงเพราะพลาดพลั้งถูกท่านชักนำไปปล้นอาญาสิทธิ์ปวงชนครั้งนั้น จนบัดนี้ข้ายังอดสูไม่หาย"
"เจ้า.." วาจากระแทกกระทั้น จนเฒ่าหมื่นพิษถึงกับเลือดลมพุ่งพล่าน ต้องผนึกลมปราณสะกัดเอาไว้มิให้ธาตุไฟเข้าแทรก

"ยังมี" บูรพาไม่แพ้ ยังคงเอื้อนเอ่ยต่อ "ในเมื่ออาญาสิทธิ์คืนสู่ปวงชนแล้ว ข้าซึ่งเป็นขุนศึก รับเบี้ยหวัดราษฎร ย่อมถือเป็นโอกาสทำคุณไถ่โทษ หากยังดื้อดึง ข่มขู่พวกเขา ข้ายังสมควรเป็นคนอยู่หรือ จึงขอเตือนไว้ว่า ในเมื่อข้ารับบัญชาให้มาพิทักษ์ปวงชน หากท่านยังมิยอมรามือ ก็จงอย่าหาว่า ข้าไม่ไว้ไมตรี.. แต่ถึงอย่างไร ท่านมิจำต้องแตกตื่น คนอย่างข้า ทำสิ่งใดมีแต่เปิดเผย มิเคยลอบกัดใครดุจดังสุนัข หัตถ์ของข้ามิเคยซุกซ่อน จึงยืดอกได้ มิอายฟ้าดิน"

"ยังมิรีบใสหัวออกไปอีกกก.. เจ้าคนถ่.." ขุนศึกชราถึงกับกระอักโลหิตออกมาลิ่มหนึ่ง ต้องรีบกล้ำกลืนกลับลงไป มิให้ผู้คนแตกตื่น

"เมื่อเป็นเช่นนั้น มิสู้ขอลา โปรดรักษาสุขภาพ.. มิอาจอยู่ให้ท่านขัดเคือง ยิ่งมิกล้ารบกวนผู้เฒ่าไปส่ง" อัศวินเกราะทองสะบัดจอกเงินลอยละลิ่วลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล ค้อมคำนับพร้อมกล่าวอำลา พลันถอยออกไปก้าวหนึ่ง ก่อนจากยังกล่าววาจาอีกหลายคำ "ยังคาดหวังว่า มิต้องรอนาน ได้กลับมาหลั่งวารีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อผู้เฒ่านอนหงายบนเตียง รองรับอุทกเจือน้ำยาอุทัยทิพย์ ด้วยฝ่ามือข้างเดียว ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

กล่าวจบขุนศึกฝ่ายธรรมะพลันพลิกตัว หันหน้าไปทางตำหนักเจ้ายุทธภพของซุนซามัก แล้วพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกเกาทัณฑ์พุ่งออกจากแหล่ง เพียงชั่วอึดใจ ร่างนั้นก็หายลับไปจากสายตา
ทิ้งไว้แต่เสียงหัวร่อ ที่ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาทของขุนศึกชรา...

วโรทาห์: 20 เม.ย. 51

Friday, April 18, 2008

ชวน หลบภัย แล้วประชาชนทำไมไม่หลบชวน

กระดี๊กระด๊าน่าเกลียดน่าชัง เพลานี้คงไม่มีใครเกินเฒ่าชวนปากกระแจะ เห็นคู่แข่งกำลังเพลี่ยงพล้ำ ถ้าไม่ตามซ้ำก็ไม่ใช่ชวน เรื่องหลักโกงหลักการอะไรนั่น โอ๊ย..มันเรื่องของน้ำยาบ้วนปาก อมเอาไว้กลั้วคอกลั้วปากแล้วก็ถ่มทิ้ง จะไปจริงจังอะไรกันนักกันหนา

เปิดกะโหลกออกมาแต่ละที โห..เห็นแล้วตกตะลึงพรึงเพริด หยักสมองเรียบแปล้ พอๆกับผม
ทรงกระจังหน้าตั้ง ไม่มีกระดิกกระเดี้ยแม้แต่เส้นเดียว มิน่าล่ะ ความคิดความอ่านมันถึงได้จำกัดจำเขี่ย คิดได้ไม่เกินเด็กสามขวบ จำขี้ปากเค้ามาได้ไม่กี่คำ ใช้ซ้ำใช้ซาก รียูสไม่รู้จักเลิก

คนอื่นซื้อเสียงเอย เราเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาเอย วนเวียนซ้ำซากอยู่นั่นแหละ ตั้งแต่วัยละอ่่อน จนแก่เฒ่าเหนียงยานพาลไปถึงหนังหน้าก็หนาเตอะ จวนเจียนจะเข้าโลงอยู่รอมร่อ ยังท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง เออ..ถ้าคนอย่างชวนเรียกว่าเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา งั้นคนอย่างบังบ้า ก็บิดาแห่งประชาธิปไตยละวะ

พอมือที่มองไม่เห็น ตีปี๊บตั้งป้อม ทำท่าว่าจะยุบพรรคซะให้กราวรูด เหลือไว้แค่ไข่นุ้ย พรรคเดียวอันเดียว ทางนี้ก็ดี๊ด๊า เนื้อเต้นใจสั่น อย่างกับสาวรุ่นเพิ่งจะต้องมือชาย ลืมตาหลับตาก็เห็นแต่ส้มหล่นอยู่เกรียวกราว เฒ่าชวนคนนี้มีหรือจะยอมพลาด สะกิดเจ้ามาร์คให้ถอยออกไปรอก่อน กินนมแม่แล้วไปเข้านอน อย่ามาจุ้นจ้าน ขอลุงก่อน..ขอลุงก่อน..ลุงแก่เลี้ยว

เรื่องน้ำยาน้ำอิ้วนั้นอย่าไปหาซะให้ยาก ที่นั่งโซ้ยล่อไข่แดงมาได้ 2 สมัยนี่ ก็อาศัยลักเล็กโขมยน้อย หาเศษหาเลยเอาทั้งนั้น ครั้งแรกก็ไปฉกผลงานมาจากมหาจำแลง ถือโอกาสมันตีโง่เลยกระซวกซะจมมีด ส่วนครั้งที่สองนี่ยิ่งแสบ ไปแอบล้วงเอางูเห่าออกมาร่วมโซ้ย โกงได้เท่าไหร่ก็โกงไป ขอให้ลุงได้เป็นใหญ่ ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เท่านั้นเป็นพอ

โถ..คนเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา พอปฏิวัติทีไร มันแล่นจู๊ด เปิดตุูดแน่บ ตอนเย็นยังออกทีวีในกรุงฯอยู่จ๋อยๆ พอเค้ารสช.เรียบโร้ย รุ่งขึ้นมันไปสัมภาษณ์อยู่เมืองตรังโน่น โห..มันแบกรัฐสภาหนีไปสุดกู่ เห็นแล้วต้องบอกว่านับถือๆ วิญญาณประชาธิปไตยเข้าสิง ทำให้ตาเฒ่ามันเหาะได้ หลังจากนั้นมันก็หายจ้อย คงหลบลงใต้ดินแอบสู้กับเผด็จการ

รอจนเผด็จการหงายท้อง ยิงกันตาย ฝังกันไปเรียบร้อย เหตุการณ์สงบปุ๊บ หน้าแหลมๆ
ก็ยื่นมาปั๊บ ออกทีวีกันสดๆอยู่ที่กรุงเทพฯนี่แหละ ไม่รู้แอบดอดมาจากตรังตั้งแต่เมื่อไหร่ พอโผล่มาได้ หมาเน่าก็เริ่มลอยออกจากปาก จำลองพาคนไปตาย ๆ ๆ ๆ อ๋อ..ต้องอย่างมัน ไม่พาคนไปตาย แต่หนีตายกลับบ้านไปนอนคลุมโปง ถึงจะเรียกว่าเจ๋ง

แต่เดี๋ยวก่อน..ปฏิวัติเที่ยวนี้มันมาแปลก ไม่หนีไปไหน ปักหลักสู้ตายอยู่กรุงเทพฯ ที่ไหนได้ ที่อยู่นี่ไม่ใช่ว่าใจกล้า แต่คนที่มาปฏิวัติครั้งนี้มันกากี่นั้ง แล้วใครจะบ้าหนีไปทำซาก อุตส่าห์ร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันพายช่วยกันจ้ำ พายเรือให้โจรนั่ง ร่วมมือกันปฏิวัติ ช่วยกันกำจัดศัตรูตัวกลั่น ในเมื่อขอกันดีๆไม่ให้ มันก็ต้องลงมือ เมื่อไม่ยอมลาออก มันก็ต้องปฏิวัติ

ช่วงรัฐบาลกบฏ เฒ่ายุทธเป็นนายกฯ ชาวบ้านอดอยากแทบจะรากเลือด ประชาธิปไตยถูกมันเหยียบย่ำ ระบบยุติธรรมถูกมันลากเอามาย่ำยี รัฐสภาถูกมันขึงพีด แต่เฒ่าชวนหลบหน้าไปหายจ้อย หน้าแหลมๆไม่เคยยื่นออกมาช่วยระบอบรัฐสภา เงียบหายกันไปทั้งแก๊งค์ ทั้งเพื่อนซี้ หมอสังเวช บัดสี ยันไปถึงนายอาจม ปันยาฉุน จนใครเขานึกว่า เจ้าเฒ่าพวกนี้คงตายโฮ๋งกันหมดเกลี้ยงแล้ว

ที่ไหนได้ พอกบฏจากไป ประชาธิปไตยกลับมา บรรดาเฒ่ามุสาก็เรียงหน้าออกมากันสลอน ล่าสุดก็ไป
พ่นพิษใส่ลุงเติ้งคนตัวเตี้ย อดีตคนรู้ใจ เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมไล่ทักษิณกันมา แต่คราวนี้พลิกขั้วเลยจ่อคิวว่าจะโดนยุบ หน็อย..แทนที่จะช่วยกัน มันบอกให้ทำใจ เล่นเอาเสือเฒ่าสุพรรณ โมโหจนควันออกหู บอกว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองบ้างก็ให้มันรู้ไป

เกิดเป็นเฒ่าชวนคนนี้มันก็ดีไปแปดอย่าง จะหยิบจะจับ จะฉวยอะไร ดูมันราบรื่นไปซะหมด สื่อก็ช่วยกันประคับประคอง
นักวิชาบ๊องก็ช่วยกันสดุดี คนเค้าถึงว่า ตาเฒ่าคนนี้มันมีองค์ พอมันเป็นใหญ่ทุกที ต้องมีผีตาแก่มาเข้าทรง ล้วงโน่นควักนี่อยู่พัลวัน ภายใต้สโลแกน ผมไม่ล้วงลูก เหอๆๆๆ.. ปล่อยให้คนอื่นล้วงครับ จะได้ไม่มีเรื่อง ได้อยู่เป็นนายกฯอย่างนี้ ก็ดีตายหะแล้ว

อยู่ดีไม่ว่าดีกลัวคนเค้าหาว่าไม่มีปาก อยู่เฉยๆมันจะตาย กลัวใครนินทาหาว่าเป็นใบ้ หมาน่อยเลยเห่าซะเสียงดัง นึกว่าคนเค้าจะเกรงใจ ทำมาล้งเล้ง นึกว่าใครเค้าจะให้ราคา ถึงคราวมันจะซวย ชาวบ้านมาเจอหน้าแหลมๆเลยโห่ไล่ซะเสียคน ดีว่าหน้าทนก็เลยพอถูไถ ทั้งให้กล้วยให้แห้วมันยังยิ้มได้ ทำเป็นหน้ามึนแล้วก็ฉากหลบไป

หน็อย..แทนที่จะสำนึก มันกลับไปนั่งเจ็บใจ ยิ่งคิดยิ่งแค้นเลยต้องมาเอาคืน คิดเก่าทำเก่า หาว่าพวกที่มาด่านั่นมันจัดตั้ง เป็นพวกรับตังค์เค้ามาก่อกวน โถ..คิดได้แค่นี้ ยังมีหน้ามาเป็นที่ปรึกษา แต่มานึกอีกที มันก็ดีแล้วหละ จะได้ปรึกษากันเข้ารกเข้าพงกันไปทั้งพรรค อย่าได้มาผุดมาเกิดกันอีกเลย ซ้า..ธุ

ล่าสุดนี่ออกมาเปิดหน้า ทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์ผี สวมวิญญาณนกกระปูด เต้าข่าวว่ามีขบวนการ รับจ๊อบมาจ้องเล่นประธานองค์ฯ กะว่างานนี้ ขอรีเทิร์นมาแจ้งเกิด ส้มหล่นกันเห็นๆ ถ้าทำใจเย็นมันก็เกินไป เปิดศึกคราวนี้ ถือว่ามีดีที่หน้าทน ใครจะเตะใครจะถีบก็ไม่ว่า ขอเอาหน้ามากันชน แก่เฒ่าปูนนี้ขออึ๊บอีกทีเอาแค่หนเดียว ทนเจ็บจี๊ดๆ พอจุดติดเป็นได้มีเสียว

องค์ลงอีกที คราวนี้
ละโซ้ยกันสบาย...

วโรทาห์ 17 เม.ย. 51

Thursday, April 17, 2008

สื่อแท้..พ่อของทุกสถาบัน

เอ้า..ฮุยเลฮุย เราสื่อแท้มันต้องช่วยกันลุย.. ปึ้ดจ้ำปึ้ด..จ้ำปึ้ด..จ้ำปึ้ด ช่วยกันพายช่วยกันจ้ำ พายเรือให้โจรเอ๊ย ศักดินานั่ง สื่อแท้ๆจะได้เจริญๆ

เวรกรรม.. นี่คือปณิธานของสื่อแท้ในบ้านในเมืองของเรา ที่มุ่งมั่นตั้งอกตั้งใจกันเสียเหลือเกิน ที่จะต้องล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยให้จงได้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยความเสียหายของประเทศชาติสักแค่ไหน ประชาชนจะต้องวอดวายกันอีกซักกี่คน หากล้มรัฐบาลของประชาชนลงได้ สำหรับพวกมันแล้ว ถือว่าคุ้มเกินคุ้ม

กะอยู่แล้ว พอประชาชนล้มทหารลงได้ ด่านต่อไปไฟต์บังคับ ต้องเจอกับสื่อ เผชิญหน้ากันตัวต่อตัว ซดกันให้ตายไปข้าง ที่หวังว่าจะได้พักหายใจหายคอ ก็เป็นอันว่าเลิกคุย เกิดมาเป็นคนไทย ไม่ต้องไปหาศึกเสือเหนือใต้ที่ไหนให้เมื่อยตุ้ม เอาแค่ฟัดกับคนไทยด้วยกันเอง แค่นี้ก็มันหยด ไม่ต้องคิดไปแข่งขันกับใครเขาแล้ว ชาตินี้

พ่อคุณแม่คุณเอ๊ย สื่อเส็งเคร็งทั้งหลาย ไม่รู้ว่ามีความจำเป็นทางเศรษฐกิจอะไรกันนักกันหนา ถึงได้ต้องมารับจ๊อบทำบาปทำกรรมกันถึงขนาดนี้.. ก็เข้าใจอะนะ ว่าใครๆก็ต้องหากินใส่ปากใส่ท้อง แต่ถ้าพอจะเลี่ยงได้ ไม่ถึงกับอดอยากปากแห้งจนเกินไป ช่วยได้ก็ช่วยๆกันบ้าง เอาบ้านเอาเมืองไว้ก่อน ให้โอกาสชาวบ้านเค้าได้ทำมาหากินกันบ้างเถอะนะ.. ไหว้หละ

เรื่องฐานันดรสี่ห้าบ้าบออะไรนั่น ชาวบ้านเค้าไม่ได้รู้เรื่องด้วยหรอก รู้แต่ว่าเค้าจ้างพวกเอ็ง ให้ไปหาข่าวมาเล่าให้ฟัง หน้าที่พวกเอ็งก็ต้องไปสืบไปเสาะไปหามาให้ละเอียด ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน แล้วบอกเล่ามาตามความเป็นจริง ไม่ต้องเติมผงชูรส ไม่ต้องมาสะเออะออกความเห็น ใช่ว่าเก่งกาจมาจากไหน ถ้ามีที่ไป คงไม่มาเป็นคอลัมนิสต์.. เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเค้าฉลาดกันแล้ว แค่บอกเล่ามาตามตรง เดี๋ยวเค้าไปวิเคราะห์เองได้

นี่อาไร้ จัดการมั่วข่าว โกหกกันไฟแลบ กรองข่าวให้เสร็จสรรพ ว่าข่าวไหนควรให้นายรู้ ข่าวไหนควรจะปกปิดอย่าให้มันระแคะระคาย ข่าวไหนควรเล่าไปตามตรง ข่าวไหนควรจะใส่สีตีไข่ก่อนเสิร์ฟ ถ้าจะให้เนียนหน่อยก็ต้องยัดใส้ เอาความจริงโปะหน้านิดหน่อย ที่เหลือยาพิษล้วนๆ ถ้าเล่นตรงๆไม่ได้ เหยาะใส่นิดหน่อยก็ยังดี

เหมือนคนใช้ในบ้านรับจ๊อบมาฆ่านาย เสิร์ฟน้ำอาหารทีก็เหยาะเห็ดพิษใส่มันทุกวัน วันละนิดละหน่อย ให้ค่อยๆตายไปทีละเล็กละน้อย พอเห็นว่าเค้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แถมร้อนใจอยากให้ตายเร็วๆ เลยมาเร่งยา คราวนี้มันบ้าเลือด ขยุ้มใส่เป็นกำมือ แถมยังหน้าด้านใส่กันซึ่งๆหน้า ความก็เลยแตก ชาวบ้านเลยไหวตัวกันหมด

เล่นคำกันแนบเนียน ถ้าไม่สังเกตุก็คงไม่รู้ ว่าแอบอุ้มชูหรือแอบด่าใครให้เราฟัง ถ้าแม้วพูดมันบอกว่าจ้อ แต่ทีนังชวนจ้อมันบอกว่าแถลง ถ้าพปช.ประชุมกันมันบอกว่าสุมหัว แต่ทีปชป.ไปสุมหัวมันบอกว่านัดถกกัน สมัยก่อนมีข่าว เครื่องบินบินไม่ขึ้น ตกกระแทกรันเวย์ ไม่มีใครตายซักคน มันพาดหัวตัวไม้ว่า "เครื่องบินตก.. หวิดตายหมู่ยกลำ." เออ..ก็ถูกของมัน ถ้าเกิดเครื่องบินระเบิดก็คงตายหมด แต่มันเกิดขึ้นหรือยังล่ะ

ถ้าจะเอายังงั้น วันดีคืนดีหนังสือพิมพ์ขายไม่ออก ก็พาดหัวไปเลยซี่ว่า "โรงพิมพ์ตายลัด..หวิดตายหมู่ยกแก๊งค์" อ้างได้นี่ ว่าที่พวกเอ็งสุมหัวตั้งแก๊งค์กันอยู่ในโรงพิมพ์ มันก็หวิดตายหมู่กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นแหละ ใครจะไปรู้ว่าวันไหนชาวบ้านเค้าจะเหลืออด ยกพวกมารุมตื้บกันจนตายเรียบ

อยากทำลายใคร มันเอาคำพูดสั่วๆยัดปาก ลงข่าวไปดื้อๆว่าเค้าพูดยังงั้นยังงี้ ให้ชาวบ้านเค้าหมั่นใส้ ด่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง พอเค้าออกมาแก้ข่าวว่าไม่ได้พูด มันกลับลงข่าวหาว่าพลิกลิ้น พอเขาชี้แจงว่าสื่อนั่นแหละพูดเอง มันบอกว่าโยนความผิดให้สื่อ โห.. สื่อนี่นะ ถูกใส่ร้าย โถๆๆๆ น่าฉงฉานจังเลย ถ้าทุกข์ระทมขนาดนั้น ไม่ไปโดดตึกตายให้มันรู้แล้วรู้เรื่องเลยล่ะ

อยากนั่งเทียนเขียนมั่ว มันอ้างแหล่งข่าว แล้วเจ้าแหล่งข่าวนี่ก็เหลือเกิน ไม่รู้ว่ามันเก่งมาจากไหน ถึงได้รู้ไปหมดทุกเรื่อง นอกมุ้งในมุ้ง ข้ามน้ำข้ามทะเล ซอกไหนหลืบไหนในโลกมันรู้หมด แล้วอายุมันก็ท่าจะมากโข เพราะเห็นอ้างแหล่งข่าวกันมาจะเป็นร้อยปีแล้วมั้ง แต่เจ้าแหล่งข่าวก็ยังไม่ตายซ้ากที

ดูเหมือนว่าถ้าสมัยไหนปชป.ไม่ได้เป็นรัฐบาลนี่ พวกมันเป็นต้องชักดิ้นชักงอ ทำท่าว่าจะตายตามกันไปซะให้ได้ รัฐบาลยังไม่ทันทำงานก็เร่งจี้จะเอาผลงาน เค้ายังไม่ทันขยับมันก็หาว่าต้องเข้าไปโกงแหงๆ วิตกจริตกันยกใหญ่ ว่าประเทศชาติต้องถูกแทะกินไม่เหลือซากแน่ ถ้าไม่รีบไล่ออกไปโดยเร็ว แต่ที่ไหนได้ รัฐบาลที่โกงกันเห็นๆ หลักฐานจะๆจับติดคุกติดตะรางไปก็เห็นมีแต่รัฐบาลปชป. เองนั่นแหละ

เลือกตั้งทุกครั้งเป็นต้องประสานเสียงกันเซ็งแซ่ เหมือนโจรแหกปากร้องลั่นให้ช่วยกันจับโจร แหกปากกันขรมว่าพรรคอื่นซื้อเสียง จนแล้วจนรอด ก็ไม่เห็นมีหลักฐานที่พอจะฟ้องศาลได้ซักคดี แต่มันด่าล่วงหน้าไปเรียบร้อย ทีพรรคที่ไม่ซื้อเสียง จับได้โช๊ะๆ คาหนังคาเขา อย่างที่เพชรบูรณ์งี้ ได้เงินเป็นล้าน ส่งฟ้องศาลเรียบร้อย ดีว่ากกต.ตาถั่ว เลยมั่วให้ว่าไม่ผิด แค่หยิกให้เนื้อเขียวแล้วก็ปล่อยไป

นี่ยังไม่นับคดีค้างเก่า ที่ตัดสินลงโทษกันเรียบร้อยไปแล้ว อย่างพ่อบุญมากที่ราชบุรีนั่นไง โกงกันเห็นๆ ลงโทษกันคาตา นี่ก็ปชป.มาเอง แต่สื่อไม่แอะซักคำ แถมยังช่วยลงข่าวแก้ตัวให้พวกมันเสร็จสรรพว่า เอ๊ะ มันยังไงกันนี่ บอกเท่าไหร่ไม่รู้จักฟัง ว่าพรรคไม่มีนโยบายให้ซื้อเสียง เออ..คงมีแต่พรรคบ้านแกละมั้งที่มีนโยบายให้ซื้อเสียง

ก่อนนี้ตอนที่สื่อยังพอจะมีเครดิตอยู่หน่อย พูดอะไรไปใครๆก็เชื่อถือ เพราะสันนิษฐานว่าสื่ออยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ ย่อมต้องรู้เรื่องมากกว่าชาวบ้าน ที่ไหนได้ มันเลยถือโอกาส อาศัยความไว้วางใจที่ชาวบ้านมอบให้ โกหกไฟแลบ หาเศษหาเลยจากวิชาชีพ มั่วจนเค้าจับได้ แทนที่จะสำนึก ยังตั้งหน้าตั้งตาลุยถั่ว เพราะเห็นแก่เงินทองลาภยศ

ทุกวันนี้ใครๆเค้าก็รู้แล้ว ว่าสื่อนี่แหละเป็นแนวหน้าของศักดินา ที่รับหน้าเสื่อมาโค่นรัฐบาลของประชาชน แบกเกี้ยวให้ปชป.นั่ง แห่แหนกันเข้าไปชุบมือเปิบเป็นรัฐบาลให้สมใจอยาก จะได้แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ สบายกันถ้วนหน้า กั๊กไว้โกงกันเองในหมู่ผู้มีจริยธรรมสูงส่งนี่แหละ

ปีก่อนนี้ เผด็จการมาปล้นชาติ พวกมันช่วยกันปกป้อง ด่าประชาชนซะไม่มีชิ้นดี อุ้มพรรคกาลีจนน่าเกลียด แต่ดันผิดคิว ชาวบ้านเค้าไม่เล่นด้วย หันไปเทคะแนนให้พรรคของประชาชน คราวนี้เลยมีดิ้น ประชาชนขึ้นมาเป็นใหญ่ กลัวว่าจะถูกเอาคืน

แหมประโคมกันยกใหญ่ สื่อทุกสื่อช่วยกันข่มขู่ ทำแง่งๆยังกะหมาหวงก้าง ไม่ให้รัฐบาลไปแตะต้องสื่อ แต่โทษที ไม่มีใครเค้ากลัวหรอกนะ อย่าหลงตัวเองกันนักเลย อีกอย่าง มาถึงขั้นนี้แล้ว ใครๆก็รู้ ว่าสื่อน่ะ มันไม่มีน้ำยาไปทำอะไรรัฐบาลได้หรอก อย่างเก่งก็แค่ช่วยกันป่วนให้รัฐบาลทำงานยาก แต่ถ้าประชาชนไม่เต้นตามก็เลิกกัน

ถ้าจะเขียนบรรยายความชั่วร้ายของสื่อเวรนี่ 3 วัน 3 คืนก็ไม่จบ เอาเป็นว่าพวกเราประชาชนคงต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ ผนึกกำลังกันให้มั่น ฝ่าฟันพวกสื่อชั่วไปให้ได้ บอกต่อๆกันไป ให้ประชาชนทั่วไปรู้เท่าทันสื่อ อย่าไปเชื่อข่าวมัน อย่าไปให้ความสำคัญมัน ช่วยกันประจานมัน

ถ้าจะให้ดี ไม่ซื้อมัน ไม่สนับสนุนสปอนเซอร์ของมัน ตัดท่อน้ำเลี้ยงซะ ให้มันตายซากกันไปให้หมด รัฐบาลไม่ต้องไปปิดสื่อ ไม่ต้องไปทุบแท่นพิมพ์ ปล่อยให้ชาวบ้านทุบหม้อข้าวมันเอง เดี๋ยวก็ตายแหงแก๋ สื่อแท้แต่ไม่ใช่สื่อของประชาชน ก็เชิญไปหารับประทานกันเอาเอง พอสื่อหมดน้ำยา เดี๋ยวศักดินาโสมมกัยพรรคกาลีก็ตายตามกันไปเองแหละ

เห็นว่าวันนี้วันดี เป็นวันเถลิงศกใหม่ จุลศักราช 1370 เลยจับสื่อชั่วมาเฉ่งปี๋เพื่อไล่ซวย ถือว่าเอาฤกษ์เอาชัยไว้ก่อน

ปีใหม่ปีนี้จะได้มีแต่เรื่องเฮง เฮงๆ...

วโรทาห์: 15 เม.ย. 51

Thursday, April 3, 2008

ถีบบบบ..ใครนะว่าไม่สำคัญ...

โดน..โดน..โดนจนได้ มันวอนมานานแล้ว.. จู่ๆยายเมี้ยนคนขายกล้วยแขก ก็ร้องลั่นออกมาด้วยความสะใจ ทำกระด๊ากระด๊ายังกะถูกหวยเต็งๆ แต่ที่ไหนได้ พอถามไถ่จึงได้รู้ว่าเป็นเรื่องที่ เจ้าเก่งโดดถีบสกายคิกเข้าใส่เจ้าเกียจ กะเอาให้หงายเก๋ง แต่โชคไม่ดี โดนแค่เฉี่ยวๆ คะแนนเลยไม่ขึ้น แต่ก็พอให้เจ้าเกียจได้ดมกลิ่นรองเท้าของเจ้าเก่ง จนอกสั่นขวัญหายไปอีกหลายวัน

โห..เหมือนโดดถีบใส่รังกะจั๊วเข้าไปเต็มเปา แมลงสาบถึงกับแตกรังออกมาดิ้นพล่าน ชักดิ้นชักงอกันเป็นฝูงยังกะโดนถีบหน้าซะเอง ขนาดเจ้าตัวยังไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แค่ครางเสียงอ่อยๆ ว่าแค่ด่าพ่อล่อแม่ตามนิสัยที่เคยปาก กับผลักอกอีกนิดหน่อย ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ แหม..ใครจะไปรู้ คนเคยด่าได้เลยนึกว่าให้ด่าฟรี เคยไปเที่ยวด่าตามข้างถนนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร

ฟังยายเมี้ยนว่า มันก็ถูกของแก เรื่องอย่างนี้อย่าทำเป็นเล่นไป ปากกับส้นมันเจอกันได้ซะเมื่อไหร่ ธรรมชาติถึงได้จัดให้อยู่ห่างๆกันไง คนเรานี่มันต้องระวังไว้ให้มาก อย่าให้ส้นมาชนปากเอาได้เป็นอันขาด แต่ไม่รู้ทำไม คนบางพวก รู้ทั้งรู้ก็ยังพยายามแกว่งปากหาเสี้ยน อยู่นั่นแหละ

ทำไปทำมาเรื่องนี้ท่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งกว่าการที่ทหารถือปืนออกมาโบกตึก เอ๊ยปฏิวัติซะอีก ขืนปล่อยไว้อาจจะสิ้นชาติกันได้ง่ายๆ เลยต้องไปฟังทัศนะจากหลายๆฝ่ายกันดู สรุปรวมความได้ว่า ทุกฝ่ายต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เริ่มจากทางลุงเทือกที่ออกอาการฉุนเฉียว ฟันธงดังโช๊ะ ว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง เอ็งไปหลบทำไมหาไอ่เกียจ(อ้าว) โอกาสงามๆอย่างนี้ มันหาได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่ ถ้าเอาไปขยายผลซะหน่อย พวกมันต้องถูกยุบพรรคแน่นอน ทำไมถึงไม่เอาปากไปรับส้นให้จั๋งหนับ ยิ่งเยินยิ่งดี จะได้ตีให้ถนัดถนี่ สู้ลุงโขกโต๊ะก็ไม่ได้.. ว่าแล้วก็ทำท่าว่าจะย้อนเวลาไปถีบซะเอง จนเจ้าเกียจต้องรีบเผ่นแน่บ

หันมาทางฝ่ายประชาธิปไตยบ้าง ขนาดป้าแจ๋วแฟนพันธุ์แ้ท้ก็ยังออกปากว่าไม่ถูกต้อง เจ้าเก่งมันวู่วามเกินไป ของอย่างนี้นานทีมีหน มันต้องใจเย็นๆ กะให้แม่นๆแล้วค่อยถีบ จะได้ไม่เสียของ พอมันรอดไปได้คราวนี้ จะหาโอกาสอีกซักทีก็คงยากแล้ว ยังไงมันก็ต้องระวังตัวแจแหงๆ

ว่ากันไปแล้วทั้งสองฝ่าย คราวนี้มาฟังทัศนะจากผู้สันทัดกรณีกันบ้าง.. เริ่มที่เซียนเป๋ราชดำเนิน แกก็ยังบอกว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง เจ้าเก่งไม่น่าไปถีบปาก เพราะเป้าหมายมันเล็กเกินไป ทำให้ผิดพลาดได้ง่าย ถ้าให้ดีน่าจะเล่นยอดอก รับรองเปรี้ยงเดียวเห็นผล ลงไปนอนจุกแอ้ดๆมานักต่อนักแล้ว

แต่อย่างว่าอะนะ เนื่องจากเจ้าเก่งมันตัวเล็กนิดเดียว เรี่ยวแรงก็เลยน้อยไปหน่อย มันถึงต้องหมายเอาอวัยวะที่เปราะบางที่สุด แล้วใครๆก็รู้ ว่าแมงกะจั๊วมันปากเปราะกันทุกตัว เจ้าเก่งก็เลยเลือกเจาะไปที่ปาก มันก็ถูกของมัน ฝ่ายหนึ่งถนัดใช้ปากกัด อีกฝ่ายก็ต้องใช้ส้นถีบ มันถึงจะพอสมน้ำสมเนื้อกัน

ฝ่ายเซียนตุ๋ยจอมเตะ ก็ได้แต่ส่ายหัวบอกว่าไม่ถูก..ไม่ถูก ไปโดดถีบได้ยังไง ระยะประชิดขนาดผลักอกกันได้นี่ มันต้องเตะอย่างเดียว ถึงจะได้น้ำได้เนื้อ มุมองศาของลูกเตะก็กว้างกว่าลูกถีบเยอะ โอกาสพลาดไม่ถึงหนึ่งในร้อย แล้วถ้าเตะเป็นอะนะ เตะเสยๆแล้วติดไซด์ก้อยบางๆ แกเอ๊ย.. หัวมันจะหมุนติ้ว ได้ทั้งเจ็บทั้งงงเลยแหละ

แต่เซียนทุ้ยจอมถีบกลับไม่เห็นด้วย แกให้เหตุผลว่าถีบน่ะถูกแล้ว ปากแบบนี้ ใช้ถีบเอามันได้อารมณ์กว่ากันเยอะ เีสียแต่ว่าเจ้าเก่งมันยังอ่อนซ้อม เป้าหมายมันแกว่งปากตลอด จะไปถีบตรงๆได้ยังไง มันต้องอ่านทางให้ถูก แล้วถีบดักหน้าเผื่อไว้ซัก 2 องศา กะให้ส้นกับปากเดินทางไปเจอกัน ที่ปากครึ่งจมูกครึ่ง ละสวยหยด ไม่มีที่ติ

ฝ่ายเจ้ามาร์ค เด็กเมื่อวานซืน ทำมาสอนยายเมี้ยน ว่าการถีบกันนี่มันเป็นเรื่องน่าอาย อีกอย่างเป็นส.ส.มันก็ต้องเรียบร้อยหน่อย เลยเจอยายแกแหวใส่ ว่าเอ็งอย่ามาดัดจาหริต ทีลากรถถังออกมาปล้นกันเห็นๆ นั่นมิยิ่งน่าอายกว่าหรือไง ทำไมยังทำหน้าทนกันอยู่ได้ แล้วเป็นส.ส.ไปเที่ยวด่าชาวบ้านหยาบๆคายๆได้เรอะ หน็อย..ทำมาสอน เดี๋ยวแม่ด่าล้างน้ำ

ล่าสุดทางพรรคกะจั๊วก็มีมติออกมาแล้วว่าต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วน ยิ่งกว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซะอีก จึงต้องขุดขึ้นมาเล่นก่อน กะว่างานนี้ถ้าเล่นให้ดีๆ มีสิทธิถึงฝั่งฝันอันเหลือเชื่อ มีโอกาสได้แฮ็ปปี้กันถ้วนหน้า ไม่ต้องเป็นเงาให้เมื่อยตุ้ม

และเพื่อความไม่ประมาท เนื่องจากคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญชาวแมลงสาบอย่างยิ่ง เพราะใครๆก็รู้ว่า ถึงแม้แมลงสาบจะตายยาก แต่ถ้าขาดปากเมื่อไหร่มันก็ซี้แหง เนื่องจากมันใช้ปากเป็นอยู่อย่างเดียว จึงต้องหามาตรการป้องกันปากโดยเร่งด่วน

ฝ่ายเจ้าจ้อนก็เสนอให้เอาตะกร้อครอบปากกันทุกคน เลยโดนลุงเทือกแหวใส่ว่าเหงกแน่ะ มันเตะรวบทั้งตะกร้อก็ปากแหกเหมือนกันแหละ เจ้าจ้อนเลยต้องอธิบายซะยาวเหยียด ว่าไม่ใช่อย่างนั้น ที่ครอบไว้น่ะ เอาไว้กันเสียงหอน ไม่ให้ออกไปรบกวนอวัยวะเบื้้องล่างชาวบ้านเค้า จะได้ไม่มีใครมาเตะปากต่างหาก เลยสรุปว่าให้ไปทดลองดูก่อน แล้วมารายงานผล ในการประชุมครั้งต่อไป

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าเร็วๆนี้ เราคงได้เห็นแมลงสาบ เดินตะกร้อครอบปากกันเป็นแถว...

วโรทาห์: 3 เม.ย. 51

Tuesday, April 1, 2008

ยามใหญ่..ท่าจะไม่รอด

เจ๊ง..เจ๊ง.. ไม่เจ๊งวันนี้แล้วจะไปเจ๊งวันไหน เสียงคร่ำครวญหวนโหย ดังแว่วมาจากงานสัมมนาสุมหัวด่าคน ในโรงงิ้วแถวท่าพระจันทร์ ยามใหญ่ถึงกับตีอกชกหัว ว่าอุตส่าห์ตีเกราะเคาะกะลา โปรโมทกันเต็มเหยียด กะว่างานนี้ดีไม่ดีต้องมีหลักแสน เผลอๆโรงงิ้วไม่พอต้องถ่อออกไปสนามหลวง ที่ไหนได้มันมากัน 4 พัน

นี่ว่ากันตามยอดที่สื่อเสี้ยมมันนับเผื่อให้แล้วนะนั่น ถ้าเกิดนับกันจริงๆยังไม่รู้จะเหลือซักเท่าไหร่ มองเข้าไปในโรงก็มีแต่อาซิ้มอาซ้อ มานั่งป๋อหลอรอดูงิ้วเอ๋อ นั่งตัวเว้น 2 ตัวพอให้ดูเต็มโรง นอกนั้นก็กันให้อยู่รอบนอก ทำทีทำท่าว่าล้นทะลักกันออกมาจากในโรง อีกพวกทำเป็นไหลบ่าไปถึงสนามหลวง เลยโดนหนังสติ๊กยิงกบาลซะเผ่นกลับเข้ามาแทบไม่ทัน

นี่ขนาดว่าทุ่มทุนโปรโมท ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง งานนี้กะว่าจะกู้ชื่อ นอกจากมีงิ้วทำมาสาดให้ดูเป็นออเดิฟแล้ว ยังขนดาราขาใหญ่มากันเพียบ ไล่ตั้งแต่นกกระตั้วสะแหลนยู แล้วยังตามติดมาด้วย ดนตรีเพื่อชีวิตข้า หง่า ท่าจะวอน ยัง..ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีกวีผู้ยิ่งหญ่าย ลอยอังคาร เข้ารกเข้าพง ควงคู่มากับกวีซี้ซั้ว เน่าละวะ ร่วมวงไพบูลย์ เพียงแค่นี้ก็ซี้ดซ้าดกันไม่เสร็จ

บัตรผ่านประตูหรือก็ไม่ต้องเสีย อาหารน้ำท่าก็กินฟรี แล้วยังแถมค่ารถกลับบ้านให้อีกต่างหาก ยังมีหน้ามากันกะหร็อมกะแหร็ม อย่าว่าแต่ใคร แม้แต่มหาจำแลงยังหลบวูบ บินด่วนตรงสู่เกาหลีไปนั่งซดเกาเหลา สบายใจเฉิบ แต่อย่างว่า ขานี้เค้านกรู้ ถ้ายังไม่ชัวร์ก็อย่าหวังว่ามันจะลงทุน ชัวร์เมื่อไหร่ค่อยกลับมากินเส้น

สรุปว่างานนี้จบลงอย่างชีช้ำ ที่หวังว่าจะโชว์พาว ให้ลุงหมักไข้ขึ้นสะบัดร้อนสะบัดหนาว กลายเป็นโดนน้าเหลิม หัวเราะเยาะจนฟันแทบจะร่วง เลยต้องส่งอสูรเขมร ออกมาทำไก๋ว่าสำเร็จเกินคาด คราวหน้าเลยได้ใจจะเดินสายไปตจว. ก็แน่ละสิ จัดอีกทีใครเขาจะกล้ามา ถ้าโดนหนังสติ๊กหัวปูดหัวโนยังพอทน เกิดโดนลากเอาไปแขวนเล่นที่ใต้ต้นมะขามละซวยตายหะ

เสร็จจากเรื่องสัมมนาก็หันมาว่ากันด้วยเรื่องสบายๆ.. ช่วงนี้ถ้าใครผ่านไปแถวเทือกสุบรรณ เอ๊ยศรีสุบรรณฟาร์ม โปรดอย่าได้นึกว่าลุงเทือกกำลังซ้อมรำเถิดเทิง เพราะความจริงแล้ว แกกำลังล่อเป้าให้สิงห์เหลิมมายำใหญ่ ไล่กระหน่ำจนแทบจะกลายเป็นเทือกเถิดเทิงซะให้ได้

วันก่อนยังมานั่งคร่ำครวญอยู่ ว่ามาร์คนะมาร์ค ไม่น่าทำลุงเล้ย ให้เป็นเงาใครไม่เป็น ดันให้มาเป็นเงามท.1 สงสัยมันกะจะฝังลุงเทือก ก็สิงห์เหลิมนี่ฝีมือมันธรรมดาซะเมื่อไหร ใจคอก็สุดโหด ดูมันเสิร์ฟมาแต่ละลูกก็แล้วกัน ลุงเทือกงี้แทบจะแดดิ้น นี่ขนาดดักหน้าขู่ว่าจะเรียกเป็นแมว แล้วมันกลัวซะเมื่อไหร่

เสร็จจากงานนี้ ยังไม่รู้ลูกผีลูกคน เสียที่ยังพอว่า นี่ทำท่าว่าจะเจอคุก อุตส่าห์เก็บหอมออมริบมาตั้งนาน มันมาเทกระจาดทีเดียวเกลี้ยงจ้อย ขนาดว่าเฒ่าช้วนทำเสร่อเข้ามาประคองปีก ยังพลอยโดนลูกหลงซะจนเดินเป๋ ทำไปทำมา ท่ามันจะเดี้ยงกันไปทั้งข้อง

พูดถึงเฒ่าช้วนนี่ต้องถือว่าแกคงเส้นคงวาใช้ได้ทีเดียว ใจคอแกมุ่งมั่นจะหากินทางตอดเล็กตอดน้อยอย่างเดียว อาทิตย์ก่อนทะเล่อทะล่าไปจี้ลุงหมัก เค้นคอให้บอกมาว่าใครคือมือที่มองไม่เห็น เลยเจอลุงหมักทิ่มซะหงายเก๋ง ว่าอย่ามาแกล้งบ้า ทำเป็นมาเสแสร้งวิกลจริต โถ..ใครๆเขาก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง มีแกไม่รู้อยู่คนเดียว สม..อยู่ดีไม่ว่าดี ดันแส่มาให้เค้าสอย

มาถึงสงครามการเมืองบ้าง ฝ่ายประชาธิปไตยสู้ไปร้องไห้ไป แต่ก็รุกคืบไปได้เรื่อยๆ ฝ่ายอำมาตย์ซะอีก ฮึกเหิมซะไม่มี ฟาดซ้ายป่ายขวา ตีเอาตีเอา แต่ยิ่งตีตัวเองกลับยิ่งเละ หลังจากป้อมค่ายด้านทหารแตกกระเจิง ก็ดูท่าว่าอาการจะหนัก จะหวังพรรคโบราณเป็นนอมินี ให้มาชิงธงด้านการเมือง มันก็โหลยโท่ยเหลือกำลังลาก ภาระทั้งหมดเลยตกมาอยู่กับสื่อเสี้ยม

แต่มาถึงยุคนี้ สื่อมันก็เสื่อมจนแทบไม่เหลือซาก เอาง่ายๆ ก่อนนี้ชี้นำอะไรชาวบ้านก็เชื่อหมด ผิดกับเดี๋ยวนี้อย่างหน้ามือกับหลังเท้า อุตส่าห์ชี้นำแทบตาย ไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ พอทำโพลออกมา ชาวบ้านบอกว่าควรจะแก้ เลยต้องตามน้ำกันเป็นแถว เหมือนตอนที่เชียร์ให้เลือกปชป. ชาวบ้านก็ยังดันไปเลือกพปช. ถึงขนาดนี้ถ้ายังไม่รู้ตัว ก็ไม่รู้จะว่ายังไง

มาถึงวันนี้ สื่อก็ได้แค่ประคองตัว ไปแหย่ลุงหมักแกก็ด่าสวน ฉุดกระชากลากถูยังไงก็เอาแกไม่ลง เพราะชาวบ้านไม่เล่นด้วย แถมยังไปเอาใจช่วยลุงหมัก ให้มาเล่นสื่อซะอีก
แล้วนี่ยังต้องหันมาแง่งๆใส่อาเฮียจักรภพอีก ถ้าไม่ตีกันไว้ก่อน ปล่อยให้แกจัดระเบียบสื่อสำเร็จละก้อ ได้เจ๊งกันเป็นแถบ แต่ว่าก็ว่า คราวนี้เห็นทีจะเล่นกะเฮียแกยาก ดีกรีหัวหมู่ทะลวงฟันกองพันนปก.เป็นการันตี คุกตะรางก็ผ่านมาแล้ว ความแกร่งจึงไม่ต้องพูดถึง

จะว่าไปแล้ว ถ้าสื่อหลอกชาวบ้านไม่ได้ก็หมดกัน จะอาศัยลูกไม้เก่าๆ กดดันให้นายกฯลาออก ด่าว่าเสียดสี ส่งคนไปด่าในตลาด ให้ถอดใจลาออกไปเอง เอามาใช้กับลุงหมักก็คงจะแอ้มแกได้ยาก แต่ถ้าปล่อยแกไป ผลงานก็ยิ่งเด่นชัด ดูท่าว่ายิ่งนานก็ยิ่งแกร่ง คิดแล้วก็กลุ้มไม่รู้จะออกลูกไหน ความหวังสุดท้ายคือออกบัตรเชิญให้ทหารมาปฏิวัติ แต่มันก็ยังเลือนลาง

ว่าก็ว่า ถ้าปฏิวัติอีกทีคราวนี้ละงานช้าง คงไม่มีใครยอมใครเป็นแน่ ถ้าฝ่ายอำมาตย์ปฏิวัติได้ก็คงจะเล่นโหด ยังฝังใจว่าคราวที่แล้วพลาดเพราะไม่โหดพอ ฝ่ายประชาธิปไตยก็รู้แกว ถ้ามีอีกครั้งคงเน่าแน่ ก็ต้องสู้กันยิบตา ท่าจะลากกันไปเป็นสงครามกลางเมือง อย่างไม่ต้องสงสัย จึงขอเตือนไว้ว่า ถ้าศักดินาใหญ่ไม่อยากจะพังครืน ก็จงอย่าริเล่นกับไฟ

ข่าวฝากจากป๋า ฝากมาตัดพ้อ ว่าทำไมหนอ เดี๋ยวนี้ใครๆก็ไม่รักป๋า งานสานใจอะไรนั่นก็หลบกันวูบวาบ ทำยังกะกลัวติดเชื้อหวัดป๋า เลยฝากไปยังทุกลูก ทั้งลูกพรั่ง ลูกบัง ลูกยุทธ กับอีกหลายลูก ยังไงก็อย่าหายไปนานเน่อ ป๋าคิดถึง.. กลับบ้านเถอะลูก

วกกลับมาตบท้ายที่งานสัมมนาอีกที.. ยามใหญ่กะสร้างขวัญกำลังใจ เลยพากล่าวปฏิญาณปิดงาน เสียงดังกึกก้องไปทั้งโรงงิ้ว ฮึกเหิมซะไม่มี แต่พอถึงท่อนสุดท้ายก็ได้เรื่อง ยามใหญ่กล่าวนำหนักแน่น

"พวกเราจะตายพร้อมกัน หาก"

"พรึ่บ ๆ ๆ ๆ" เสียงขยับตัวกันดังพรึ่บพรั่บ พร้อมกับเสียงอื้ออึงดังลั่นห้อง เหมือนเกิดจลาจล ยามใหญ่ถึงกับสะดุด หยุดเพ่งดูจนรู้เรื่อง จึงได้แหกปากลั่น

"อ้าวเฮ้ย..อย่าเพิ่งออกไป.. กลับมาก่อน ยังปฏิญาณม่ายโจ๊บ..."

วโรทาห์: 31 มี.ค.51