Sunday, June 24, 2007

สิทธิของลูก

๏ ในท่ามกลาง ราตรี ที่มืดหม่น
ในฝูงชน คลาคล่ำ สนามหลวง
อุ้มลูกน้อย อิงแอบ ไว้แนบทรวง
แม่มาทวง ประชา- ธิปไตย
๏ แปลบ-สายฟ้า ฟาดผ่า ในห่าฝน
เปรี้ยง-คำรณ ครืนครั่น สนั่นไหว
สงสารแต่ ลูกน้อย เจ้ากลอยใจ
แม่ร่ำไห้ กอดเจ้า ให้หนาวคลาย
๏ เพราะปีศาจ คุณธรรม มันต่ำช้า
มาผลาญพร่า สิทธิเรา เอาจนได้
แม่ไม่ทน อดสู นิ่งดูดาย
สู้ถวาย ชีวัน ไม่หวั่นใคร
๏ สิทธิของแม่ ชิงไป แม่ไม่ว่า
สิทธิลูกยา หน้าไหน อย่าได้หมาย
เพื่อสิทธิลูก แม่พร้อม จะยอมตาย
ไม่เสียดาย แม้ดิ้น สิ้นชีวา
๏ ต้องยับยั้ง มันไว้ ในวันนี้
อย่าให้มี พวกมัน ในวันหน้า
ไม่ให้ลูก เติบโต มาโศกา
เป็นขี้ข้า พาช้ำ ระกำทรวง
๏ สิทธิของมัน มันรู้ ว่ามันรัก
ไม่รู้จัก สิทธิเขา ว่าเขาหวง
มารุกล้ำ สิทธิเรา ให้เราทวง
ไปก้าวล่วง สิทธิใคร มีใครยอม
๏ น้ำตาฟ้า กันแสง จนแห้งเหือด
เหมือนหลั่งเลือด จากกาย จนผ่ายผอม
แม้จะทุกข์ ขื่นขม ระทมตรอม
สู้ถนอม สิทธิเจ้า ผู้เยาว์วัย
๏ นอนเสียเถอะ ลูกรัก หลับเถิดหนา
เพื่อตื่นมา สู่ขวัญ รับวันใหม่
วันที่ฟ้า สีทอง ผ่องอำไพ
ลูกจะได้ เป็นใหญ่ ในแผ่นดิน

วโรทาห์
๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๐

Thursday, June 21, 2007

มาร์ค ม.7

๏ เด็กหนอเด็ก เด็กน้อย ยังด้อยนัก
ไม่รู้จัก คร่ำเคร่ง เร่งศึกษา
ริชิงสุก ก่อนห่าม ตามตำรา
โบราณว่า ด่วนได้ มันไม่งาม

๏ จบมอเจ็ด ออกมา หาลำไพ่
เข้าพรรคใหญ่ เร็วรี่ ทำผลีผลาม
พบนายใหญ่ จอมกรีด เฝ้าติดตาม
โอกาสงาม เปิดให้ ได้สวมรอย

๏ เพราะฝันใฝ่ ไขว่คว้า เป็นนายกฯ
สกปรก แค่ไหน ไม่คิดถอย
เพียงให้ถึง ฝั่งฝัน อันรอคอย
สุดจะถ่อย แสนทราม ก็ทำไป

๏ เข้าทางลัด ยัดใส้ ใช้มอเจ็ด
เผื่อทีเด็ด ครั้งเดียว ก็เสียวได้
ใครก่นว่า น่าชัง ก็ช่างใคร
ต้องด้านได้ อายหมด อดกินชัวร์

๏ ลงเลือกตั้ง สู้ทัก มาร์คไม่ปลื้ม
ยังไม่ลืม ฝันร้าย อยู่ในหัว
เลือกตั้งใหญ่ ทำพัง มาร์คยังกลัว
มาร์คทำมั่ว จนเจ๊ง โดนเฉ่งอาน

๏ สิ้นปัญญา แล้วจึง ต้องพึ่งปาก
ใช้ลิ้นสาก เลียไล้ ไซ้ทหาร
โปรดสงเคราะห์ จัดให้ เอาใส่พาน
คราวนี้หวาน หายอยาก กันสักที

วโรทาห์: ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐

Thursday, June 14, 2007

ข้าคือวีรบุรุษ

๏ ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ทหารไทย ชาตินักรบ
ทั่วหล้ายังสยบ ทั่วภิภพ ต้องหวั่นไหว
เป็นวีรบุรุษ ถ่อยสุดๆ ยิ่งกว่าใคร
ถึงเตี้ยก็โตได้ ยศยิ่งใหญ่ เป็นนายพล
๏ ลำบากแสนยากเข็ญ ยังมาเป็น ขี้ปากคน
อุตส่าห์มาช่วยปล้น ยังมีคน ไม่รู้คุณ
ลงทุนไปไม่น้อย ต้องค่อยๆ มาถอนทุน
กินหน่อยยังทำฉุน มาชี้หน้า ต่อว่าเรา
๏ เป็นบอร์ดมันทุกชุด เหนื่อยสุดๆ ต้องทนเอา
คนอื่นมันโง่เขลา เก่งอย่างเรา ถึงเอาไหว
เงินเดือนแค่จิ๊บๆ แต่ค่าติ๊ป มันยวนใจ
โกยได้ต้องโกยไว้ ยามลี้ภัย พอได้กิน
๏ ทีวีก็เหลือเกิน ออกข่าวเพลิน จนเคยชิน
เซ็นเซอร์มันทุกชิ้น ข่าวทักษิณ ยังออกไป
วิจารณญาณ ไม่มีกัน เลยหรือไง
ถ้าคุมกันไม่ได้ จะคุมให้ ใครกล้าหือ
๏ พวกม็อบมันพวกถ่อย พวกมันน้อย ไม่พอมือ
ริอ่านทำหนังสือ ล่ารายชื่อ มาไล่ตู
อุตส่าห์เว้นโทษตาย ดีแค่ไหน ไปคิดดู
พวกมันคงไม่รู้ ตูเจ้าพ่อ คอมอชอ
๏ โจรใต้มันเรื่องเล็ก ใช้เด็กๆ ก็เกินพอ
อย่างเรามันเจ้าพ่อ สั่งต่อๆ กันลงไป
ขอร้องอย่าพูดมั่ว ไม่ใช่กลัว เลยไม่ไป
ไม่กลัวหรอกโจรใต้ ที่รออยู่ กูกลัวตาย

วโรทาห์
๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๐

Sunday, June 10, 2007

เอาคืนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

บังเอิญไปเจอใน daily garbage เห็นกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เขียนกลอนทวงคืนประชาธิปไตย หลงดีใจนึกว่าช่วยทวงคืนจากพวกกบถ
ที่ไหนได้ยังวนเวียนด่าเรื่องซื้อเสียงเรื่องรัฐบาลเก่าเป็นเผด็จการอยู่นั่น
แหละ แถมยังด่าประชาชนซะเสียหายด้วยสำนวนที่เพราะพริ้ง
อ่านแล้วมันจี๊ด เลยต้องขอวัดรอยเท้าจั๊กกะหน่อย ถึงสู้ไม่ได้ก็จะสู้
--------------------------------------------------

ทวงคืน (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)

๏ อำนาจของประชา คือประชาธิปไตย
ที่มาและที่ไป ต้องเป็นไทและเป็นธรรม
๏ เป็นไทในอำนาจ ไม่เป็นทาสของผู้นำ
ซื้อเสียงไปครอบงำ สำแดงเดชเผด็จการ
๏ สำนึกในอำนาจ ที่ในตนบันดลดาล
ใช่ทาสอันสาธารณ์ ทูนอำนาจให้เจ้านาย
๏ นั้นคือสำนึกทาส ให้เขาพาดสนตะพาย
มีสิทธิ์ไว้ซื้อขาย แลมีเสียงไว้ร้องขอ
๏ จงเป็นประชาชน อำนาจตนแหละต้นตอ
ใช่ไพร่คอยสอพลอ เอาอำนาจไปบำบวง
๏ ประโยชน์ของประชา ต้องเป็นใหญ่กว่าใดปวง
ตื่น ตื่น ...เถิดตื่นทวง ประชาธิปไตยคืน

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (เดลินิวส์: ๓ มิถุนายน ๒๕๕๐)
--------------------------------------------------

เอาคืน (วโรทาห์)

๏ พร่ำเพรียกเรียกร้องหา ทวงประชา-ธิปไตย
ที่มาและที่ไป ยังอยู่ใต้อำนาจปืน
๏ สิทธิของคนไทย ถูกปล้นไปยังไม่คืน
ตื่นเถิดขอจงตื่น ช่วยทวงคืนให้คนไทย
๏ อย่ามุ่งแต่หมิ่นกัน ว่าถูกคนสนตะพาย
เป็นทาสหรือเป็นไพร่ คือคนไทยคือพวกเรา
๏ คืนวันนั้นผันผ่าน จำเนียรกาลมานานเนาว์
ตั้งแต่ยังวัยเยาว์ จนแก่เฒ่าจวนเข้าโลง
๏ เวียนด่าแต่เรื่องโกง ทั้งบิดเบือนและเลื่อนลอย
จับเจ่าบนหอคอย ประดิษฐ์ถ้อยประดอยคำ
๏ สร้างชื่อจนลือเลื่อง ว่าปราชญ์เปรื่องกระเดื่องนาม
เผลอเรอจนเพ้อพร่ำ สำคัญตนว่าเป็นนาย

วโรทาห์ (ไร้สังกัด: ๙ มิถุนายน ๒๕๕๐)

Wednesday, June 6, 2007

สิ้นชาติ

๏ สิ้นชาติกันให้หมด พวกกบถ คนมันชั่ว
เอาแต่พวกของตัว ทำไทยแตก แยกสองฝ่าย
ฝ่ายอื่นมึงจองล้าง ผลาญตลอด ให้วอดวาย
นำพาไทยฉิบหาย เพราะอิจฉา หูตามัว
๏ สมสู่กับพรรคชั่ว พรรคชาติชั่ว ตัวอัปรีย์
แหล่งรวมพวกภูติผี พรรคกาลี พรรคคนชั่ว
พระแม่ธรณี ยังต้องหนี กลัวหมองมัว
ไม่อยู่กับคนชั่ว ปล่อยให้มั่ว กันสุดฤทธิ์
๏ หมู่มารศาลเพียงตา ยอมเป็นหมา ให้มึงใช้
ตัดสินเอาตามใจ ถือสิทธิ์ไร ไปตัดสิทธิ์
ผิดหลักนิติรัฐ ผิดชัดๆ มันไม่คิด
กล่าวหาว่าเขาผิด ผิดตรงไหน มันไม่ชัด
๏ ด่าว่าเขาโกงกิน ไม่เหลือสิ้น แม้กระดูก
ขู่เขาเอาถึงคุก พอทีมึง มึงก็ยัด
ยัดกันแทบบรรลัย มึงมันใหญ่ ใครกล้าขัด
ยัดห่ากันชัดๆ โจรสลัด ปล้นสดมภ์
๏ คนไทยกันแท้ๆ คนพ่ายแพ้ ยังมาเหน็บ
กูแพ้กูก็เจ็บ มึงยังเก็บ มาทับถม
รุกไล่ไม่ลดละ กักขฬะ สุดโสมม
รวมหัวมาถล่ม มึงมาข่ม ให้กูเจ็บ
๏ เจ็บนี้มันเจ็บนัก เหมือนชนัก ปักกลางใจ
บาดแผลเป็นแผลใหญ่ หมอที่ไหน ไม่รับเย็บ
สิ้นไร้คุณธรรม พวกระยำ ทำกูเจ็บ
เจ็บยอกเหมือนตอกเล็บ ทำกูเจ็บ แทบสลบ
๏ พวกกูรักสงบ ถึงต้องรบ ไม่เคยหวั่น
เป็นไงก็เป็นกัน เมื่อสุดกลั้น มันต้องรบ
รบกันประจัญหน้า เรียงหน้ามา มึงอย่าหลบ
พวกกูชาตินักรบ กูไม่หลบ มึงเข้ามา
๏ เอาเลือดล้างแผ่นดิน ล้างให้สิ้น พวกกบถ
ล้างผลาญมันให้หมด คนคิดคด คนหน้าหนา
พวกมึงมันชั่วนัก อยู่ก็หนัก พสุธา
แผ่นดินไม่กลบหน้า ต้องตามฆ่า มันให้หมด

วโรทาห์
๖ มิถุนายน ๒๕๕๐