Friday, June 27, 2008

สรุปอภิปรายลุงหมัก 26 มิถุนา

คนเรานี่นะ ยามอับจนขึ้นมา แหมมันน่าเวทนาอย่าบอกใคร ได้กระดูกมาชิ้นเท่านิ้วก้อย ยังต้องมาต้มซุปกินพอกันตาย เปรียบได้กับฝ่ายค้านยามนี้ แค่หยิบประเด็นเล็กๆน้อยๆจากสื่อมาได้ ยังต้องมาใส่สีตีไข่ เติมน้ำใ้ห้ท่วมหม้อ ปรุงรสด้วย พริก มะนาว น้ำตาลทราย เหยาะผงชูรส พอให้เสิร์ฟได้ไม่ถึงกับอายผู้คน เผื่อลูกค้าตาถั่วยังยกซดกันโฮกฮือ แถมยกนิ้วให้ว่าแซบเหลือหลาย

พูดถึงเรื่องอภิปราย ช่วงนี้หมอเย็บหน้าคงจะงานชุกอยู่ซักหน่อย เพราะมวยโบราณชกแบบเดิมๆ จนคู่ต่อสู้จับทางได้ มะงุมมะงาหลาเข้ามาเป็นเจอสอย เหลือแต่รุ่นเดอะที่ยังพอมีเชิง อย่างลุงหยัดกับลุงสามสี พวกนี้จะไม่โฉ่งฉ่างอย่างเฒ่าช้วน เพราะขานั้นเค้ายังเคลิ้มอยู่ เที่ยวนี้ยังเปิดหน้าลุยเลยเจอเย็บไปหลายเข็ม ทำให้วันนี้ดูสุขุมขึ้นผิดหูผิดตา

เปิดฉากมาในวันใหม่เป็นการชกโชว์โดยลุงสามสี วาดลวดลายลีลาตลกคาเฟ่ชั้นครู ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายไปได้ตั้งเยอะ แต่ฝ่ายค้านคงไปหวังอะไรจากแกไม่ได้มาก หนูมาร์คเลยได้แต่นั่งค้อนขวับๆ ก็แหมคนแก่เพราะกินเหล้า ไม่ใช่เฒ่าเพราะอยู่นาน เรื่องอะไรจะไปเปลืองตัว สู้ถนอมผมหงอกเอาไว้ประดับหัวดีกว่า เรื่องอะไรจะให้เด็กมาถอนไปฟรีๆ

แต่วิทยา แก้วภราดัยไม่ได้คิดอย่างนั้น มาถึงก็ร่ายยาวฟัดน้ามิ่งไปเต็มๆ ทำท่าเจ็บปวดรวดร้าว ราวกับว่าประเทศชาติจะล่มจมซะให้ได้ ถ้าน้ามิ่งยังอยู่อีกต่อไป ยกเหตุให้ชวนสงสัยว่าจะทุจริตโน่นนี่เยอะแยะไปหมด เล่นเอาเกือบเชื่อไปเหมือนกัน โดยเฉพาะลีลาทิ้งท้าย บอกว่าจะลากใส้ออกมาให้ได้ว่าใครกันแน่ ที่เป็นมือมืดแอบดึงหนังสือรับรองให้ประมูลขายข้าวฟิลิปปินส์ออกไป

พูดจบก็ได้เรื่อง มิ่งไ่ม่ต้อง งานนี้หมักลุยเอง สั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความ ผม..นี่แหละเป็นคนดึงหนังสือนั่นออกไปเอง ก็ผมให้ขายจีทูจีกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ แต่ข้าราชการประจำตัวแสบ มันจะให้พ่อค้าประมูล แล้วอย่างนี้มันเอาไว้ได้มั้ย

เพล๊ง..จุดไต้ตำตอเข้าอย่างจัง แผลแหกเหวอะหวะดูไม่จืด หมอสนามเข้าเช็คอาการแล้วเย็บไม่ไหว ได้แต่นั่งกุมหน้าโชกเลือด บ่นกะปอดกะแปด ว่าลุงหมักนะลุงหมัก รู้ว่าคนออกทะเลก็ไม่บอกซักคำ จะส่งซิกกันซักหน่อยก็ไม่ได้ ใจคอจะลุกขึ้นประท้วงซักนี๊ดก็ไม่มี ปล่อยให้กางใบแล่นฉิวอยู่ได้ คนอะไรใจร้ายใจดำ

ไหนๆลุกขึ้นมาแล้วต้องไม่ให้เสียเที่ยว ลุงหมักเลยถือโอกาสรำมวยให้คนดู ทั้งเรื่องข้าวนาปลังนาปี ข้าวถุงธงฟ้า ขายข้าวมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โอย..จิปาถะ เล่นเอาตาสว่างไปตามๆกัน

หลังจากรุ่นใหญ่หงายเก๋งไปแล้ว ก็ปล่อยรุ่นเดอะอาคม ออกมารำป้อพอเป็นพิธี ก่อนจะส่งไม้ต่อให้รุ่นเล็กอรรถวิชย์ ออกมากร่างใหญ่ วางฟอร์มเขื่องอวดภูมิ สั่งสอนน้ามิ่งเป็นฉากๆ เรื่องการเงินการธนาคารอะไรของแกไปเรื่อยเปื่อย ตามซ้ำโดยชาวสวนใส่สูท สาธิต ปิตุเดชะ ลุกขึ้นมาเฉ่งปี๋เรื่องราคาผลไม้ตกต่ำ แล้วสรุปส่งท้าย ไล่กระทืบน้ามิ่งให้ลาออกไป

เข้าล็อคเลยพี่น้อง ต้องขอบคุณฝ่ายค้าน ที่ช่วยทำทางให้น้ามิ่งออกมาโชว์วิสัยทัศน์ ด้วยลีลาเนิบนาบนิ่มนวล กล่อมให้พอเคลิ้มๆแล้วก็ทิ้งหมัดตรงเข้าเบ้าตาเป็นระยะๆ จนฝ่ายค้านถึงกับร้องจ๊าก รีบเขียนเลตเตอร์ถึงท่านประธานให้สต็อปโลด พอแล้วๆ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ไม่มีใครติดใจน้ามิ่งเลยคร้าบ รีบๆจบเหอะ แต่ยากส์..ในเมื่อติดลมซะแล้ว ก็ต้องซัดอีกซะหลายดอกกว่าจะยอมลงได้

ต้องยอมรับว่าน้ามิ่งแกเริ่มเก๋า เข้าการเมืองมา 4 เดือนชักจะเล่นเป็น รู้จักปล่อยมุขเล็กๆออกมาเรียกเสียงฮา ว่าคุงคูก๊าบ ผมขออนุญาติไปปัสสาวะก๊าบ เล่นเอาเจ้าสาธิตมะงุมมะงาหลารับมุขไม่ทัน ถึงกับผิดเหลี่ยม ลุกขึ้นประท้วงไม่ให้น้ามิ่งออกไปชิ้งฉ่อง ให้เหตุผลว่าทำผิดกฎข้อบังคับ ดีว่าท่านประธานที่เคารพรีบเบรคเอาไว้ก่อน ว่าอนุญาติให้ไปได้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม

แต่ถึงยังไงน้ามิ่งก็อย่าเพิ่งย่ามใจ เพราะว่ามุขนี้คงใช้ได้แค่ครั้งเดียว ถ้าใช้ซ้ำอีกทีมันจะน่าเกลียด อภิปรายคราวหน้าถ้าใส่แพมเพิร์สท่าจะเวิร์คกว่า

มาถึงกระทรวงคมนาคม เป็นการเชิดฉิ่งระหว่างสันติกับวินัย สมพงษ์ ตามซ้ำด้วยถาวร แสมแนม และชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ก็เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย ตามฟอร์มของฝ่ายแค้น แล้วก็เจอลุงหมักลุกขึ้นมาเฉ่งปี๋ไปตามระเบียบ แต่เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่เลยต้องขอผ่านคู่นี้ไปเลย

ยิ่งกระทรวงยุติธรรมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เห็นเจ้าพีรพันธุ์ลุกขึ้นมายืนจ้อแล้วก็เก๊กซิม ทำตีหน้าซีเครียดแต่พ่นออกมายังกับท่อน้ำ้ทิ้ง น้ำล้วนๆหาเนื้อไม่เจอซักกะชิ้น อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ งานนี้มาไล่เฉ่งทักษิณโดยเฉพาะ

ตัดมาหลังข่าว 2 ทุ่มนี่สิของจริง มวยคู่เอกระหว่างสิงห์เหลิมกับลุงเทือก ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ถูกเวลา เพียงแต่ว่ามาเสียอารมณ์นิดหน่อย ตอนที่ลุงเทือกดันส่งมวยแทนอย่างมหาบัณฑิต วิรัช กัลยาศิริ ขึ้นมาชกตัดกำลังน้าเหลิมก่อน แต่ไม่มีปัญหา..เห็นแกเน้นจังว่าเป็นมหาบัณฑิต เลยโดนดุษฏีบัณฑิตเหลิมโซ้ยซะเลือดอาบ เผ่นลงจากเวทีแทบไม่ทัน

ถัดมาลุงเทือกก็จำต้องมุดเชือกขึ้นเวที ก่อนอื่นยังอุตส่าห์ออกตัว ว่าความจริงแล้วไม่ได้นึกอยากจะชก แต่ในเมื่อมันเป็นไฟต์บังคับ เลยต้องจำใจลากสังขารขึ้นมาราวี ว่าแล้วก็เริ่มตี๊ตาต่าตี๊อย่างที่ควรจะเป็น แต่ต้องเรียกว่าผิดฟอร์มไปเยอะ ไฟต์นี้ลุงเทือกของเราสเต็ปไม่ออก ได้แต่ติ๊ดชึ่งไปรอบๆเวที ไม่เห็นมีทีเด็ดทีขาด มีแต่สีหน้าแววตาที่มุ่งมั่นระคนแค้น ชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ

ในใจนั้น มันอยากขยี้ให้แหลกราญ แต่สังขารมันก็ดันไม่ร่วมมือ เลยทำได้แค่ใส่อารมณ์ข่มขู่ให้ดูน่ากลัว ขยันชกตลอดเวลา แต่สะเปะสะปะไม่เข้าเป้าซักกะดอก ผิดกับตอนที่สิงห์เหลิมเข้าทำเป็นลิบลับ รายนั้น ถ้าแฟนมวยขวัญอ่อน ยังต้องปิดตาเพราะทนดูไม่ได้

เปิดฉากขึ้นมาด็อกเตอร์เหลิม ก็แหวกการ์ดเข้าไปตั๊นหน้าเอาดื้อๆ ประเดิมด้วยคำว่า สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล..คุณเอาอะไรมาพูด โกหกทั้งนั้น นี่มือตกขนาดนี้แล้วเหรอ..เรื่องโป๊ะนั่นก็ของพล.ต.ศรชัยเขาขายให้ลูกผม เขาขอกรมเจ้าท่าเรียบร้อย แล้วที่ส่วนบุคคลของเขา เขาตั้งชื่อถนนมหาดไทย คุณไปยุ่งอะไรกับเค้าด้วย...

ดูไม่จืด เห็นการเฉ่งปี๋ของสิงห์เหลิมแล้ว ต้องเรียกว่าดูไม่จืดจริงๆ สงสารแต่ลุงเทือกที่ได้แต่ยกมือป้องหน้า แค่กันท่าไม่ใ้ห้ถูกสอยลงไปน็อคพื้น ในขณะที่น้าเหลิมยังตามขยี้ซ้ำอย่างเหี้ยมโหด โดยที่กรรมการยังไม่มีสิทธิห้าม เพราะมันรนหาที่ของมันเอง

โซ้ยไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องไม่ใส่ใจพรบ.ศอบต. เรื่องกลัวจนไม่ยอมลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ติดตามเรื่องซื้อซีซีทีวี เรื่องอวดบารมี เรื่องแต่งตั้งคนของตัวเอง.. สรุปว่าเป็นเท็จหมด คุณเอาอะไรมาพูด ทีหลังไม่รู้อย่ามาพูด ถ้าเป็นเรื่องจริงขอให้ผมฉิบหาย แต่ถ้าไม่จริงขอให้ปชป.เป็นฝ่ายค้านไปตลอดชาติ แหม..ถึงน้าเหลิมไม่แช่งมันก็เป็นอยู่แล้วแหละ

ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่หมัดส่งท้าย ที่เล่นเอาลุงเทือกถึงกับก้นจ้ำเบ้า บอกว่าผมไม่ได้เป็นอันธพาล แต่ผมเป็นนักเลง แล้วนักเลงอย่างผมไม่เคยทำให้ครอบครัวใครแตกแยก แต่ววว...

จบจากมวยคู่เอก เป็นการกล่าวสรุปโดยผู้นำฝ่ายค้าน เจ้ามาร์ครับหน้าที่ด้วยความหยิ่งยะโส พอเกริ่นนำไปได้หน่อยก็เข้าเรื่องเลย เขาพระวิหารครับท่าน เขาพระวิหารคืนชีพอีกแล้ว ต้องเรียกว่าเล่นไม่เลิก เขาให้กล่าวสรุป แต่มันมาตีหัวเข้าบ้าน ถือโอกาสที่อีกฝ่ายหมดโอกาสชี้แจงแล้ว เปิดอภิปรายต่อ โห..แมนจริงๆ

ประเด็นก็ซ้ำซากจำเจ เพราะมันยังเคลิ้มอยู่ ว่าศาลโลกตัดสินให้ไทยคืนซากปราสาทเขาพระวิหาร แต่ไม่ต้องคืนที่ดินใต้ปราสาท เหตุผลก็เดิมๆ แปลภาษาอังกฤษให้ฟัง เทมเปิ้ล แอเรีย อะไรก็ไม่รู้ เรียกว่าโชว์ฟอร์มเต็มที่เรื่องความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ว่างั้นเหอะ แล้วที่แสบสุดๆก็คือการตบท้าย ปลุกระดมให้พรรคร่วมรัฐบาลแข็งข้อเพื่อชาติ...

เพล๊ง !!! ... ภาพเจ้ามาร์คหายวับไปกับตา พร้อมกับตัวทีวีที่ลงไปกลิ้งโค่โล่อยู่กับพื้นแข็งๆ ด้วยแรงถีบระดับเทพไม่น้อยไปกว่า เก่ง สกายคิ๊ก

วโรทาห์: 27 มิ.ย. 51

No comments: