Wednesday, November 26, 2008

ไหนๆก็ไหนๆ จะรอช้าอยู่ใย ปฏิวัติไปเลย

มามัวแทงกั๊กแทงแบนกันอยู่ อย่างนี้ มันไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ยิ่งนานวันไป ก็ยิ่งฉิบหายบรรลัยวายป่วง พวกกวนเมืองก็ตั้งหน้าตั้งตาปล้นชาติ เผาบ้านเผาเมืองยั่วยุต่อไป ในขณะที่ทหารก็ตั้งหน้าตั้งตา รอเก็บจังหวะสอง ให้ประชาชนออกมาปะทะกัน แล้วอ้างความชอบธรรมในการปฏิวัติ งานนี้กะว่าจะกินรวบไม่ต้องแบ่งใคร สบายแฮไปคนเดียว

ส่วนประชาชนนั้น แน่นอน ความที่ไม่อยากให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีก เลยต้องหวานอมขมกลืน สงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ในที่ตั้ง ระหว่างนี้ รัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ เจ๊ใหญ่ก็เอาแต่เย้วๆ สีเขียวเลยหันรีหันขวาง ไม่รู้จะเชื่อใครดี ตกลงบ้านนี้เมืองนี้ ใครใหญ่กันแน่วะ!

เวรกรรมที่ไม่ได้ก่อ เลยมาตกแก่ประชาชนโครมเบ้อเริ่ม ไหนจะต้องหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตแล้ว ยังต้องส่งส่วยไปเลี้ยงดูพวกอำมาตย์ ที่วันๆกินอิ่มแล้วว่างจัด คอยคิดแต่ว่า จะวางแผนยังไง ถึงจะกดหัวประชาชนได้อยู่หมัด

ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เอาเลยก็ดีเหมือนกัน ปฏิวัติซะที จะได้ลุยกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เพราะว่าถ้าไม่มีจุดเปลี่ยน ชนิดถอนรากถอนโคน ก็อย่าหวังเลยว่าจะสงบลงได้ ต่อให้นายกฯฟ้าประทาน หรือว่าการเมืองใหม่ 70/30 ก็ล้วนแล้วแต่โหลยโท่ย เข้ารกเข้าพงกันทั้งนั้น เพราะโครงสร้างมันถูกบ่อนทำลายจนเละเทะ เหลือกำลังลากแล้ว

พูดง่ายๆ ว่า เกียรติภูมิของชาติ จะกู้คืนมาได้ จำต้องพิสูจน์ให้นานาประเทศเห็นจนแน่ใจว่า ประเทศชาติเป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง บ้านเมืองมีขื่อมีแป กลับเข้าสู่ทำนองคลองธรรม เรียบร้อยโรงเรียนประชาชน

นักการเมืองยึดมั่นในระบบรัฐสภา ไม่ใช่แค่ลมปากเหม็นๆ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องล้างบางกระบวนการยุติธรรม ให้เป็นมาตรฐานสากล ไม่ใช่เป็นของคณะบุคคล ที่รักชาติจนน้ำลายไหล

พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ถ้าไม่ทำมันก็ยิ่งยากไปใหญ่ ในเมื่อโรคร้ายมันซึมลึกเข้าถึงกระดูกแล้ว ถ้าไม่ผ่าตัดก็ตายสถานเดียว ดังนั้น ถ้าไม่นองเลือดกันซักตั้ง ก็อย่าหวังเลยว่า โรคร้ายมันจะยอมรามือไปเองง่ายๆ จนกว่ามันจะกัดกินจนยืนตายซากแล้วนั่นแหละ ถึงอาจจะรู้ตัวกัน

ถ้า เลือกที่จะเจ็บน้อย ก็ต้องยอมเจ็บนานเป็นธรรมดา ถ้ายังไม่พร้อมที่จะผ่าตัดใหญ่ ก็ต้องกัดฟันทนกันไปเรื่อยๆ อาการของโรคอำมาตย์เข้ากระดูก มันก็ต้องมีเจ็บจี๊ดเป็นพักๆ เจ็บยุบเจ็บยับ เจ็บกวนโอ๊ยไม่รู้จักหยุดจักหย่อน สามวันดีสี่วันไข้ จะทำมาหากินอะไร มันเลยพาลติดๆขัดๆไำปหมด

ทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ว่าจะมาพูดให้ใจเสีย ตรงกันข้าม อยากจะให้มีกำลังใจกัน ไม่ต้องไปกลัวการปฏิวัติให้มันเกินเหตุ มันจะพาลกินไม่ได้นอนไม่หลับไปซะเปล่าๆ ไม่งั้นทำไมโอบามา ไอ้บ้ามาร์ค จะออกโรงมาคัดค้าน ไม่ให้ทหารทำการปฏิวัติ ถ้าไม่ใช่ว่า เพราะกลัวทักษิณจะได้ประโยชน์ แทนที่จะเกรงว่า มันเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย

สรุปง่ายๆสั้นๆว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าจะออกหน้่าไหน ประชาชนก็รับกินทั้งนั้น ถ้าไม่ปฏิวัติก็ดีไปอย่าง แต่ถ้าปฏิวัติ ก็ยิ่งแจ๋วไปกันใหญ่ รัฐบาลพลัดถิ่นจะได้เริ่มงานซะที นอกในประสานกันเป็นหนึ่ง ตีตะลุยเข้าไป ไม่นานก็จอด ชัยชนะเป็นของประชาชนเห็นๆ หมดจดสดใสซะไม่มี ถ้าออกหน้านี้ก็ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ของตายแน่นอน

แต่ถ้ายังขืนลากยาว กันต่อไป มันก็เก๋ไปอีกแบบ แม้จะไม่งามหยดเหมือนปฏิวัติ แต่ก็ดีไปอย่างที่ไม่ต้องเจ็บตัวมาก ใช้บริการเจ็บผ่อนส่ง ก็ต้องทนกัดฟันเอา รอให้ฝ่ายตรงข้ามมันทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ ถึงที่สุดแล้ว ยังไงมันก็ตายหยังเขียด เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาหน่อย ร้องเพลงรอไปพลางๆ เผลอแผล็บเดียวก็เรียบทั้งร้อย

ที่เริ่มปรากฎชัดตอนนี้ ก็คืออาการหน้ามืดของม็อบแป๊ะ ที่เที่ยวพังร้านรวงชาวบ้านไปเรื่อยเปื่อย โดยคิดโง่ๆแบบเก่าๆ ตามประสาเต่าล้านปีว่า เมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากเข้า จะหันมาต่อต้านรัฐบาล หารู้ไม่ว่า ในความเป็นจริง มันหนังคนละม้วน พอขัดสนขึ้นมาเขาหันไปด่าพวกม็อบ คนตกงานวันนี้ แทนที่จะเข้าร่วมม็อบ เขาจะรวมตัวไปกระทืบมัน

สำหรับระบอบอำมาตย์แล้ว เดิมพันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ในขณะที่ประชาธิปไตย ไม่มีวันตาย แต่ระบอบอำมาตย์นั้นตรงข้าม กำลังรอวันตาย และที่สำคัญ ระบอบอำมาตย์นั้นตายแล้วตายเลย...

หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น

วโรทาห์: 26 พ.ย. 51

1 comment:

แม่มด said...

กระจกวิเศษ...บอกข้าซิใครงามเลิศในปัจฐพี
รัฐบาลประชาภิวัฒน์ซิ..ดีที่สุดในโลกนี้..
เพราะข้าตั้งเอง..ข้าคือผู้มีคุณธรรมสูงสุด