Friday, November 21, 2008

โสเภณีบรรดาศักดิ์ ที่สุขสบายอยู่ในซ่องอำมาตย์

สมัยก่อน ตอนที่ยังละอ่อนน่อย เลิกเรียนแล้ว เราก็ชวนกันไปเล่นบ้านเพื่อน ที่เยาวราช แล้วเรื่องมันก็เกิด ขณะที่นั่งกินข้าว อยู่ในตรอกเท็กซัสอันเลื่องชื่อ เหตุชวนระทึกขวัญ พาลให้เลือดลมพุ่งพล่าน มันเริ่มขึ้น เมื่อมีเสียงเอะอะโวยวาย ดังลั่นมาจากในซอยเล็กๆ ด้านขวาของร้านอาหารตึกแถว ที่เรานั่งอยู่นั่นเอง

ขณะที่มอง เลิ่กลั่กไปยังต้นเสียง ก็ปรากฎร่างของหญิงสาวตัวเล็กๆ วิ่งร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่คิดชีวิต พร้อมกันนั้น ปากที่อยู่ว่างๆ ก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร เบื้องหลังคือร่างบึกบึนของชายฉกรรจ์ 2 คน ที่วิ่งไล่กวดตามมาติดๆ ลักษณะท่าทาง ไม่ใช่ตามมาช่วยเหลือแน่นอน แต่มาทำให้หล่อนต้องร้องขอความช่วยเหลือหละไม่ว่า

ช่างบังเอิญเหลือ เกิน ที่มีรถตุ๊กๆคันหนึ่งแล่นมาส่งผู้โดยสารที่หน้าร้านพอดิบพอดี หญิงสาวคนนั้นเลยโดดคว้ารถเอาไว้อย่างเหมาะเหม็ง เวลาเดียวกัน ผู้โดยสารก็ถือโอกาสช่วงชุลมุน ทำเป็นตกใจ เผ่นหนีไปโดยไม่ต้องจ่ายค่าโดยสาร

ขณะที่หญิงสาวเหนี่ยวตัวขึ้นรถไป ได้หน่อย ชายฉกรรจ์ที่วิ่งตามมาทัน ก็โดดคว้าเอวหล่อนไว้ แล้วกระชากลงมา อย่างไม่ปรานีปราศัย ดีว่าหล่อนยังไวทายาท คว้าเสารถเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แล้วเหนี่ยงไว้จนมั่น เลยเกิดการชักกะเย่อกัน อย่างเอาเป็นเอาตาย เย่อกันไปเย่อกันมา จนรถทั้งคันโยกไป ก็โยกมา

หญิงสาวเคราะห์ร้ายร้องไปเย่อไป ไม่ยอมลงให้มันง่ายๆ แทบไม่น่าเชื่อ ว่ามือเล็กๆของผู้หญิงตัวกระจิ๋ว จะเหนียวอะไรได้ถึงปานนั้น ขนาดว่าจิ้งจกยังแหย ตุ๊กแกยังอาย หนุ่มแน่นบักอึ้ด 2 นาย ยังเอาไม่อยู่ ยื้อๆยุดๆฉุดกระชากเท่าไหร่ ยังเอาหล่อนไม่ลง ยิ่งนานไป เสียงร้องของหล่อน ก็ยิ่งเพิ่มเหรตติ้ง เรียกคนดู ให้มามุงกันอื้อซ่า ทำไปทำมา เรื่องลับๆเลยกลายเป็นประเจิดประเจ้อซะไม่มี

ภาพนั้นมันสะเทือนใจชาย ชาตรีอย่างเราเหลือหลาย จนต้องขยับตัวลุกขึ้น กะว่างานนี้ขอเป็นพระเอกซักหน่อย ดีว่าเพื่อนที่เป็นเจ้าถิ่นมันรั้งเอาไว้ซะก่อน ไม่งั้นละดูไม่จืด เพราะเพื่อนมันบอกว่า อย่ายุ่งเป็นอันขาด พวกนั้นมันมาเฟีย เท่านั้นแหละ พระเอกอย่างเรา เสียววาบไปถึงสะดือจุ่น รีบทรุดตัวลงนั่งแต่โดยดี ไม่มีอาการฮึดฮัดแต่ประการใด

และแล้ว พระเอกตัวจริงเสียงจริงก็โผล่มาทันเวลาพอดี จะใครที่ไหนซะอีก ถ้าไม่ใช่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ เจ้าเก่าของเรานั่นเอง มาถึงไม่ผลีผลาม ไปยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ แล้วตะโกนบอกให้ทุกคนถอยไป พร้อมกับสำทับว่า เดี๋ยวจะมีรายการ ยิงกันสนั่นจอ อ้าว..ชักสนุกซะแล้ว เล่นพูดอย่างนี้ ขืนถอยให้ก็เสียเชิงไทยมุงหมด เรื่องเจอลูกหลงนี่หละโปรดนัก

สรุปว่า บ่อมิไก๊ มวยล้มต้มคนดู ตำรวจเฮงซวย มันมาคอยควบคุมสถานการณ์ ปล่อยให้เย่อกันต่อ เล่นกันจนฝ่ายหญิงหมดแรงข้าวต้มไปเอง แล้วค่อยกระชากลากถู กลับเข้าไปในซอยตามเดิม...จบข่าว ผู้พิทักษฺสันติราษฎร์ของเรา ก็ล่าถอยกลับที่ตั้ง ไปตามระเบียบ

หลัง จากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว เพื่อนซี้เจ้าถิ่นถึงเฉลยให้ฟังว่า หญิงสาวคนนั้น คือออหรี่ที่หนีออกมาจากโรงน้ำชาในซอย พูดง่ายๆก็หนีออกมาจากซ่องนั่นแหละ คนแถวนี้เขาเห็นกันจนชินตาแล้ว..มิน่าหละ พวกในร้านมันถึงได้นั่งกินกันหน้าตาเฉย อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อ นึกภาพว่า หลังจากที่ถูกลากกลับไปแล้ว เจ้าหล่อนจะถูกซ้อมสะบักสะบอมขนาดไหน เลยพาให้กลืนข้าวไม่ลง เกิดอาการเซ็งเป็ดไปตามๆกัน ตั้งใจไว้เลยว่า โตขึ้นจะหน้าด้านเป็นนายกฯให้ได้ เพื่อกลับมาปราบพวกนี้ซะให้ราบ โดยเฉพาะตำรวจเลวๆพวกนั้น ต้องเอามันก่อน แต่จนแล้วจนรอด ถึงป่านนี้ยังกินแห้วเป็นอาหารหลัก ไม่ได้เป็นนายกฯ ซักกะที

ภาพใน วันนั้นยังติดตามาจนถึง 19 กันยา 2549 จึงถูกเกทับด้วยภาพ การไล่จับออหรี่ขนานใหญ่ระดับชาติ ทำให้เรื่องในวันนั้น กลายเป็นเด็กเล่นขายของไปซะฉิบ เพราะเที่ยวนี้ตำรวจไม่ต้อง อาบังมาเอง ขับรถถังพร้อมอาวุธสงครามเต็มพิกัด โดยมีป๋าซ้อนท้ายคอยให้กำลังใจ ออกปฏิบัติการไล่ล่า จับออหรี่ที่หนีอยู่ทั่วประเทศ นับไปนับมาได้ 19 ล้านนางเศษๆ ขาดเหลือไปคงไม่เท่าไหร่

ออหรี่พวกนี้ เกิดมาก็ถูกข่มขืนจนเคยตัว ถึงกับนึกว่าการถูกข่มขืนเป็นเรื่องธรรมชาติ จึงยินยอมพร้อมใจ อยู่กินกันมาอย่างปกติสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อโกแม้วมาทำแสบ เล่นยุให้อยากแล้วค่อยจากไป บอกว่าพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นออหรี่ พูดไม่พูดเปล่า ยังพาทำมาหากินสุจริต เลี้ยงชีพอย่างสุขสบาย ไม่ต้องอาศัยนาผืนน้อยอีกต่อไป เท่านั้นแหละ ออหรี่หนีจากซ่องอำมาตย์กันยกเล้า

ยังดีที่อาบังแกยึกยักจนเกมส์โอ เวอร์ นอกจากจับออหรี่กลับซ่องไม่ได้ซักนาง ยังมีกระโจนหนีตามออกมาอีกเป็นกะตั้ก เหลือไว้แต่พวกออหรี่สูงศักดิ์ ที่เขาสวมหัวโขนให้ พร้อมกับยกยออปอปั้น จนตัวลอย เลยยอมนอนแผ่หราให้อำมาตย์ โดยความสมัครใจ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น

เวร กรรมไม่รู้จักจบสิ้น หนีรอดจากอาบังยังมาเจอโกตั๊บ ในขณะที่โกแม้วก็ถูกหมายหัวไปด้วย โทษฐานที่อยู่ดีๆ มาปล่อยออหรี่หนีหายหัวหมด แต่ถึงยังไงมาม่าซังขันคนละที ก็ไม่มีทางปล่อยให้ออหรี่ หลุดมือไปได้แม้แต่นางเดียว ไม่เช่นนั้น อำมาตย์มีหวังต้องปิดซ่องถาวร ด้วยเหตุฉะนั้น จนป่านฉะนี้ จึงยังไม่อาจรู้ชะตากรรม ว่า...

ออหรี่ซ่องนี้ ยังต้องหนีไปอีกกี่ซอย

วโรทาห์: 21 พ.ย. 51

No comments: