Thursday, November 20, 2008

ถ้าไม่ศาลเสวนา ก็อย่ามาสานสาระแน

กลายเป็นวิถีชีวิตคนเมืองไปแล้วก็ว่าได้ ที่ตื่นเช้าขึ้นมา เป็นต้องหาข่าวการเมืองร้อนๆ รองท้องก่อนออกจากบ้าน อย่างข่าวประเภทที่ว่า เมื่อคืนนี้มีตูมตามขึ้นมากี่ลูก มีหมาตายไปกี่ตัว แล้วบาดเจ็บครางเอ๋งๆอีกเท่าไหร่ จะได้รู้กันไปเลย ว่าวันนี้ทั้งวัน ควรจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี แล้วคืนนี้ยังจะมีอะไรให้ลุ้นกันมันๆอีก

ที่ว่ามานี่ ไม่ได้หมายรวมถึงผู้เฒ่าวัยเพชร ซึ่งหมายถึงคนแก่ชราโคตร ที่ล่วงเลยวัยทองไปตั้งหลายกิโลแม้ว เพราะคนวัยนี้ มันมีเรื่องส่วนตัว ให้ลุ้นกันไม่เลิกอยู่แล้ว ก็แก่เฒ่าจนปูนนั้น มันย่อมต้องมีเสียวทุกวันเป็นธรรมดา ขนาดก่อนนอนยังต้องบนบานศาลกล่าว ขอให้ผ่านคืนนี้ไปได้อย่างสะดวกโยธิน ถ้าเช้ามาลืมตาขึ้นได้ ก็เหมือนฟ้าให้กำไรเพิ่มมาอีกหนึ่งวัน

คนเรานี่มันก็แปลก ทุกข์ร้อยแปดพันเก้าก็ยังพอทน แต่ทุกข์ที่เกิดจากคน มันช่างเหลือทนจริงๆ ถ้าได้ระบายออกมาบ้าง ก็ยังพอบรรเทา คิดเสียว่าพวกนั้นมันหมาไม่ใช่คน ถ้ารู้จักคิดเหมือนคน มันก็ไม่ใช่หมา อย่างพวกสานเสวนานั่นปะไร คงว่างมากไปหน่อย เลยชวนกันออกมา หาเรื่องให้เขาด่า คงอยากจะเสียคน

สานบ้าสานบออะไรกัน ดันตั้งธงมาแต่ไกล ให้แป๊ะเลิกม็อบกับสมชายลาออก แล้วก็ไม่บอกว่ารับจ๊อบจากอำมาตย์มา พูดเอาแต่ได้ ยังไม่ทันไรก็หางโผล่ ทำเป็นซื่อบื้อ หรือไม่รู้จริงๆ ว่างานนี้ เป็นศึกเฮฟวี่เวท ระหว่างศักดินากับประชาชน เรื่องแป๊ะนั้นมันชิวๆ ไม่มีราคา ถ้าแน่จริงก็ไปลากมือที่มองไม่เห็น ออกมาเสวนากันซักหน่อย จะเป็นไรไป

เออ..ถ้าศาลเสวนาก็ว่าไปอย่าง แนวทางนี้ยังพอมีความหวัง เพราะต้องยอมรับกันอย่างไม่อายว่า ที่เรามีวันนี้ ก็เพราะตาชั่งมีส่วนอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดออกหน้าก๋ากั่น ทำราวกับเป็นเจ้าภาพซะเอง ตั้งแต่ต้นขบวนไปยันท้ายขบวน มันเด้งรับเด้งส่งกันอย่างเมามัน หลังจากรถถังภิวัฒน์่กระสุนด้าน ถูกชาวโลกเขาเอาปูนหมายหัว จนไม่กล้าขยับ ก็ได้ตุลาการภิวัฒน์นี่แหละ มารับไม้ต่อ

คิดกันอย่างโง่ๆ ว่าจะตบตาชาวโลกเขาได้ รัฐประหารโดยตุลาการ ไม่มีรถถังไม่ต้องใช้อาวุธ คงคิดว่าเนียนซะเต็มประดา

อย่างที่เฒ่าสังเวช บัดสีว่าไว้ไม่มีผิด ในเมื่อพวกโจรมันยังข่มขืนประชาชนอยู่ยิกๆ จะมาจับมือถือแขนให้เลิกแล้วต่อกันได้ยังไง ลองไล่เรียงกันดู ตั้งแต่คตส.ส่งไม้ต่อมาให้ปปช. ส่งผลให้กล้านรก ต้องวิ่งรอกจนเหงื่อหัวล้านแตกพลั่กๆ ไหนจะกกต. หรือแม้แต่ ส.ว.สรรห่า แล้วยังตาชั่งผีสิงอีกเป็นกะตั๊ก ล้วนแล้วแต่ขับร้องประสานเสียงหมาหมู่กันทั้งนั้น

ในเมื่อเล่นกันจนกระบวนการยุติธรรม พังพินาศฉิบหายหมด แล้วประเทศชาติจะอยู่ได้ยังไงกัน ดังนั้น ถ้าไม่กล้าจะศาลเสวนา ก็อย่ามาสานสาระแน ให้มันกินใจกันเปล่าๆ

จะบ้าตาย..ปล่อยให้ฝ่ายโน้นมันไล่ยำอยู่ได้ตั้งหลายปี พอหมดแรงข้าวต้ม ถึงคิวเขาจะเอาคืน ดันนึกขึ้นมาได้อย่างกระทันหันว่า ไม่น่าใช้ความรุนแรง จึงต้องถามกลับไปว่า แล้วก่อนนี้ไปตายห่าที่ไหนกันหมด

แล้วอีกอย่าง ที่พูดนี่คิดกันหรือเปล่า ใครเขาไปใช้ความรุนแรง นอกจากพวกแป๊ะ ถ้าอยากจะหยุดความรุนแรง แค่ไปบอกแป๊ะ เท่านั้นก็สิ้นเรื่อง จะมาสานเสินทำไมกัน ให้มันเมื่อยตุ้ม

เอ้า..สานไปสานมาจนได้เรื่อง น้าแม้วหย่าเมียไปเสร็จสรรพ เคลียร์ตัวเองเรียบร้อย ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จะได้โซ๊ยกับอำมาตย์ได้ถนัดถนี่ขึ้นมาอีกหน่อย ระหว่างนี้ก็หากิ๊กเอ๊ยหากิน รับจ๊อบเล็กๆน้อยๆไปก่อน เป็นที่ปรึกษาแก้ปัญหาให้ประเทศยากจน หาทุนหารอน มาแก้ปัญหาให้ประเทศอยากจน แถวเอเชียอาคเนย์

ต้องขอเตือนไปยังบรรดาฝาละมีทั้งหลาย ว่านี่เป็นความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบเป็นอันขาด ไม่งั้นเดี๋ยวจะกระดี๊กระด๊า ถือโอกาสหย่าเมียกันยกใหญ่ อ้างว่าจะได้ไปใส่เสื้อแดง โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ถ้าขืนทำอย่างนั้น อาจจะได้เด้งหน้าเด้งหลัง จนเลือดอาบแดงเถือกละไม่ว่า

ในเมื่อคนถูกการเมืองเล่น มันก็ต้องเล่นการเมือง เป็นธรรมดา จึงไม่เข้าใจว่า บรรดาอสุรกายในร่างคน จะกรีดร้องโหยหวนไปทำไมกัน ถ้าไม่กล้าสู้ก็หลบลงรูไปได้ ไม่มีใครเขาว่า แถมยังจะโมทนาสาธุด้วยซ้ำไป ทำไมจะต้องมากดดันให้ทักษิณเลิกเล่นการเมือง ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังต้องการเขาอยู่

ปิดท้ายด้วยข่าวสังคมเบาๆกันบ้าง..จู่ๆไม่มีปี่มีขลุ่ย หรือแม้แต่แซ๊กโซโฟน ลุงจิ๋วจอมยึกยักก็ทิ้งเมียไปออกบวช หลังจากที่องอาจพี้ยาบ้า ออกเบียดไปแต่งเมียได้ไม่นาน ขานี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า ไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีนัยทางการเมือง ดังนั้นก่อนจาก จึงมีดีดลูกหลังใส่น้าสมชาย ไปโครมเบ้อเร่อ ว่าสำนึกผิดที่สั่งฆ่าสัตว์เมื่อ 7 ตุลา ในเมื่อจะเล่นอย่างนี้ ก็เห็นทีว่าต้องชักชวนกัน...

งดใส่บาตรเณรจิ๋ว ปล่อยให้ฉันไวไวซะให้เข็ด

วโรทาห์: 20 พ.ย. 51

No comments: