Tuesday, October 14, 2008

หัวเราะไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก

วันนี้ต้องขออนุญาต หยิบยืมสำนวนกำลังภายใน เอามาใช้แก้ขัดไปพลางๆก่อน ระหว่างที่ยังไม่สามารถหาคำไทยๆ ที่ตรงเป๊ะโป๊ะเช๊ะโดนใจมากไปกว่านี้ ที่จะอธิบายความรู้สึกลึกๆ ต่อสถานการณ์บ้านเมือง ที่กำลังโหลยโท่ยเละเทะ เหลือกำลังลาก อยู่ในปัจจุบัน

ต้องเรียกว่านรกสั่งให้มาเกิดโดยแท้ สำหรับไอ้อีทั้งหลาย ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายโดยใช่เหตุ ไม่ว่าจะโดยที่รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจ หรือว่าถูกหลอกใช้เป็นวัวเป็นควายให้เขาจูงเล่น และไม่ว่าจะเกี่ยวข้องโดยตรง หรือว่าแอบเนียนโดยอ้อมๆ

ขอให้มันทั้งหลายจงอย่าได้ตายดี ให้ตายอดตายอยาก ตายยากตายเย็น โคตรเหง้าสักหลาดให้มีอันเป็น ฉิบหายวายวอดตลอดไป จนชั่วลูกชั่วหลาน

บ้านเมืองจรัญอะไร มองไปทางไหนมันก็เีอียงไปหมด สื่อนั้นมันโคตรของโคตรเอียงอยู่แล้ว ว่าจะหันมาพึ่งพาศาลพระภูมิซะหน่อย ที่ไหนได้ มันก็เอียงโคตรๆ มองซ้ายก็เอียง มองขวาก็เอียง ข้างล่างว่าเอียงแล้ว ข้างบนยิ่งเอียงไปใหญ่ มันจะอะไรกันนักกันหนา ถ้าไม่ได้เอียงแล้ว มันจะตายโหงตายห่ากันหรือยังไง..ฮ่วย!

เป็นไงล่ะแป๊ะ เล่นกะใครไม่เล่น บังอาจมาเล่นกับสมชายสุดปลายเท้า ถ้าให้เดาใจ คงเห็นว่าติ๋มๆน่าจะบ่อมิไก๊ เลยทะลึ่งออกมาทะเล่อทะล่า เปิดยุทธการแหกนรกยึดรัฐสภาเอาดื้อๆ วางแผนดิบดี กะปิดประตูตีแมวให้ดิ้นพราดๆ ที่ไหนได้ เจอแมวข่วนซะเหวอะหวะ ร้องจ๊ากหาแม่ให้ลั่น จนต้องออกมาปลอบขวัญกันยกใหญ่ ให้น้ำให้ท่าแล้วกลับไปป่วนต่อ

ในที่สุดก็ดั้นเมฆออกมาจนได้นะหมอหัวขวาน ผ่าศพจนหน้าเป็นผีแล้วยังไม่สำนึก นับวันยิ่งเห็น ว่าจิตใจนั้นมันยิ่งกว่าผี ไม่รู้ไปตรวจพิสูจน์ท่าไหน ถึงได้ไปเจอแก๊สน้ำตาต่ำกว่ามาตรฐาน ทีระเบิดปิงปองเกลื่อนกลาดไปหมด ไม่เห็นพูดถึงซักกะแอะ

เรื่องแค่นี้ทำไมต้องไปพิสูจน์หลักฐานให้เมื่อยตุ้ม แค่ภาพพันธมิตรหัวล้าน ที่นั่งมือกุดเหงื่อแตกอยู่นั้น เพียงหนึ่งภาพก็เกินล้านคำบรรยาย มือหนึ่งขาดกระจุยไปแล้ว อีกมือยังกำระเบิดไว้แน่น หน้าตาท่าทางบ่งบอกว่า เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด คงไม่ใช่ใจเด็ดอะไรนักหนา แต่เป็นเพราะรู้ดีว่า ถ้าเกิดตูมตามขึ้นมาอีกลูก งานนี้เฮียปอ(เต๊กตึ๊ง)ต้องมีเฮ

ไล่ๆกับที่พันธมิตรโดนแก๊สน้ำตาอย่างจัง พรรคการเมืองใหญ่ก็โดนแก๊สน้ำลายเข้าไปเต็มเปา ส่งผลให้ทุกวันนี้ยังน้ำลายฟูมปาก พล่ามเพ้อเจ้ออยู่ไม่หยุดหย่อน ไม่ได้ลืมหูลืมตามาดูโลก ที่แม้แต่แจแปนไทมส์ ยังกระทบชิ่งไว้อย่างเจ็บแสบว่า่ "พรรคการเมืองต่างๆในไทยจะต้องเข้าใจว่า พวกเขาไม่สามารถแก้กฏกติกาต่างๆเรื่อยไป เมื่อเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้ง"

ขณะที่สีแดงแรงฤทธิ์แทบจะเหยียบกันตายอยู่ที่ธันเดอร์โดม ฝ่ายสีเหลืองกลับต้องมานั่งซึมจ๋อย กะหร็อมกะแหร็มอยู่ในทำเนียบอันแสนโสโครก ขืนปล่อยให้หดหู่กันอยู่อย่างนี้คงไม่ดีแน่ ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์มาช่วย แป๊ะก็ม้วยกันพอดี

เลยต้องมีรายการเปิดตัวโชว์พาวให้เห็นกันจะๆ เผื่อว่าใครมีปัญหาเรื่องเลือกข้าง จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นมาหน่อย เปิดหน้ากันถึงขนาดนี้แล้ว อีกไม่นานก็น่าจะรู้ ว่าใครหมู่้ใครจ่า

กลายเป็นข่าวลือทุกต้นชั่วโมงไปซะแล้ว สำหรับรายการปฏิวัติรัฐประหาร ที่กำลังจดๆจ้องๆ เอาดีไม่เอาดี ตุ๊มๆต่อมๆ กล้าๆกลัวๆอยู่นั่นแล้ว ก็ขอบอกว่า ต้องกล้าๆหน่อย ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์อีกแล้ว ที่คนไทยทุกภาคส่วน จะเตรียมพร้อมต้อนรับคณะปฏิวัติ อย่างใจจดใจจ่อเท่าครั้งนี้

เห็นแว่วๆมาว่า ให้เปิดตัวกันออกมาเลย จะได้จบๆกันไปซะที ชักจะไม่ไหวแล้วโว้ย!

หลังจากที่เชิดฉิ่งทิงนิงนอยกันมาหลายทศวรรษ เสียเลือดเสียเนื้อประชาชนไป นับดูได้น่าจะหลายแกลลอน ก็มีสัญญาณในทางบวกออกมาว่า สงครามครั้งนี้ น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว มันจึงต้องดุเดือดเลือดพล่านเป็นธรรมดา จึงขอบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตยอย่าตกใจง่ายๆ ทุกคนต้องตั้งสติไว้ให้มั่น ไม่งั้นอาจจะต้องไปนอนแก้ผ้า เป็นเพื่อนไก่ นาโน

วิกฤติครั้งนี้ มันมีคนตั้งใจให้เกิด แล้วมาบอกว่าไม่มีทางออก เกณฑ์คนแก่ให้ออกมาแหลกันใหญ่ ว่าต้องรัฐบาลแห่งชาติเท่านั้น เป็นคำตอบสุดท้าย บังเอิญว่าทุกวันนี้ประชาชนเขาคิดเป็น ทางออกน่ะมันมี เพียงแต่ว่าไม่มีใครเขายอมออก เพราะว่า...

มันต้อนให้ไปออกในทางที่มันเตรียมไว้ให้แล้ว

วโรทาห์: 14 ต.ค. 51

2 comments:

Anonymous said...

มาอีกแล้วค่ะ จะเข้ามาบอกตั้งแต่ได้ยินวลีที่เป็นภาษาอังกฤษที่มาจากอเมริกาโน่นแน่ะค่ะ ว่า วลีนั้นเปรียบได้ดังกับน้ำทิพย์โชลมใจนะคะน่ะสำหรับคนไทยที่รักประชาธิปไตยซึ่งทำให้เห็นว่าสุดท้าย ไทยก็รักไทย พร้อมเสมอที่จะให้อภัยซึ่งกันและกัน แต่...พอมาเห็นข่าว ซึ่งเราไม่ค่อยเชื่อข่าวสารไทยสักเท่าไหร่ แต่คราวนี้ต้องบอกว่าไม่เชื่อสายตาตัวเองที่ไปอ่านเจอข่าวอย่างนี้เข้า และภาพก็มีออกมาให้เห็น(ซึ่งเรายังไม่ได้ดูภาพเลย) ท่านเชื่อหรือไม่ว่าสำหรับคนรักประชาธิปไตยแล้ว มันเหมือน โดนตบบ้องหูเข้าจังเบ้อเร่อ ทำเอาเราหมดกำลังไจเอาง่าย ๆ แต่เราจะไม่ท้อค่ะเราขอเอากำลังใจช่วยไทยยุคใหม่ที่รักประชาธิปไตยต่อไป

Anonymous said...

ชาวเราเรียกกันว่า ปรากฏการณ์ อึ้ง กิม กี่ ง่ะ