Wednesday, October 8, 2008

แก๊สน้ำตาเพื่อชาติ กับพรรคการเมืองข้างถนน

ป้าบเข้าให้ โดนเข้าไปเต็มๆ เล่นเอาแหกปากร้องลั่น อย่างกับสุนัขถูกน้ำร้อนลวก อยากอ้อนกันดีนัก คงเห็นว่าสมชายจรดปลายเท้า น่าจะกินนิ่ม ที่ไหนได้จัดให้แต่เช้า เบรคฟาสต์ไข่ดาวเคล้าแก๊สน้ำตา สวาปามเข้าไปชุดใหญ่ อิ่มแปล้ไปทั้งชาติ จนป่านนี้ยังขยาดไม่หาย

เจอเข้าไปงานนี้ รู้แล้วสิท่าว่า ใครจ่าใครหมู่ เห็นเก่งชิบผาย พอเจอของจริง ไหงวิ่งกันน้ำบาน

ปังๆๆ เสียงสะท้านสั่นประสาทดังก้องไปทั้งถนน กลุ่มควันสีขาวคละคลุ้งโขมงโฉงเฉง อย่างกับสงครามเลบานอน ยังไงยังงั้น ทั้งนักรบนักรักรวมไปถึงนักล้วง วิ่งกันป่า่ราบ ยิ่งกว่าวิ่งแข่งระยะสั้นโอลิมปิกยังไม่ปาน ระเบิดปิงปองในกระเป๋าร่วงกราวเกลื่อนถนน พรรคพวกไล่เหยียบกันระเบิดระบาน ขาขาดจู๋ขาดหลังไหม้กันเป็นแถว

สมน้ำหน้า กะเตรียมมาสมนาคุณตำรวจดีนัก ที่ไหนได้กรรมมันซิ่งตามมาทันท่วงที เลยฟาดกันเองซะพุงกาง ร่วงลงไปคลุกฝุ่นนั่งยิ้มกันเป็นแถว

มาร์ค-รับบ่ได้ สมชายใจดำ มาทำพ่อลิ้ม เป็นธรรมดาที่บุตรบุญธรรมก็ต้องปกป้องซือแป๋อยู่แล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แหกปากด่าลั่นว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรง แถลงนโยบายบนคราบเลือดของประชาชน ว่าไปนั่น โธ่โถพ่อคุณ อ้าปากซะกว้าง เห็นลิ้นไก่แดงแจ๋ เขาไล่ทุบกันซะขนาดนี้ ถ้าไม่ผสมโรงก็ไม่ใช่ประชาธิปัตย์

หรือว่าวันนี้ เรามีประชาธิปไตยอันมีประชาธิปัตย์เป็นตัวป่วน เลยต้องให้มันยุ่งเข้าไว้ เผื่อหวังลึกๆว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แค่นึกก็รู้สึกซาบซ่า เสียวซ่านไปถึงรูทวารทั้ง 7 แล้ว ถ้ายังนึกไม่ออก ว่ามาร์คอยากขนาดไหน ก็ให้เอาสุนัขเดือน 12 หลายๆตัวมารวมกัน แล้วจะรู้เอง

ตีผัวแต่เจ็บไปถึงเมีย แบหราอ้าซ่ากันถึงขนาดนี้ ถ้าใครยังไม่รู้ว่าปชป.กับพธม.กุ๊กกิ๊กกันขนาดไหน ก็ไปหาเขามาประดับไว้บนหัวซะ ให้มันรู้แล้วรู้รอด ถ้าถึงขนาดแก้ผ้ากอดกันกลางแดดให้เห็นๆ ยังจะมีหน้ามาแก้ตัวว่าไม่เคยเสียตัวให้กัน ก็ไม่รู้จะว่ายังไง คนเราถ้าไม่นึกอายผีสางเทวดามั่ง ก็ให้มันรู้ไป

งานเข้าแล้วพี่ รัฐบาลแพ้แล้ว สื่อชั่วสื่อเสี้ยมล่อกันหนุบหนับๆ ประโคมข่าวใส่ไคล้ จนประชาชนด่าตรึม แต่โทษที หลงดีใจกันใหญ่ ที่ไหนได้เขาด่าพันธหมากันทั้งบาง ว่าได้คืบเอาศอก ได้ทำเนียบยังจะเอารัฐสภา ถ้าทีวีไม่มัวแต่เอาหมามาเห่าออกอากาศ รู้จักเข้าไปถามไถ่ชาวบ้านบ้าง ก็จะรู้อะไรดีๆอีกเยอะ หรือว่าไปถามแล้ว แต่คำตอบไม่น่าพอใจ เลยไม่เอามาออก

ที่พยายามเอาภาพพันธมิตรที่บาดเจ็บมาฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก คงกะว่าจะให้ชาวบ้านเกิดอารมณ์ร่วม เกิดกระแสประนามรัฐบาลว่าใช้ความรุนแรง เพียงแต่ว่ามันดันได้ผลเกินคาดไปหน่อย อารมณ์ร่วมน่ะมี แต่ร่วมกันด่าพันธแมวซะเสียหมาต่างหาก ใครๆก็ว่า มันป่วนซะจนชาวบ้านจะกินแกลบอยู่แล้ว ยังไม่รู้จักเลิกอีก เจอแค่นี้ยังน้อยไป น่าจะเอาให้หนักๆหน่อย

สื่อต่างชาติไม่เห็นว่าอะไร มีแต่สื่อไทยซะอีก ที่พยายามจะประนามกันเอง ว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรง ทำให้เสียภาพพจน์ของประเทศ แต่ต่างชาติไม่ได้คิดอย่างนั้น ที่เขากลัวที่สุดคือการที่กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แล้วใครจะรับรองความปลอดภัยให้พวกเขา

แต่เมื่อรัฐบาลส่งสัญญาณออกมาอย่างนี้ ก็ช่วยทำให้อุ่นใจไปได้อีกหลายกิโลขีด ว่าในที่สุดแล้ว เมืองไทยก็ยังมีขื่อมีแป

อยากฝากไปถึง พวกนักวิชาเกิน สื่อชั่ว รวมไปถึงพรรคการเมืองข้างถนนว่า ให้มันน้อยๆหน่อย จะเอายังไงก็ให้มันแน่ซะอย่าง ตอนค.ม.ชั่วลุยนปก. ชาวบ้านแค่คว้าอิฐตัวหนอนขึ้นมาสู้ มันหาว่าประชาชนตีตำรวจ แต่ครั้งนี้ตำรวจไม่มีอาวุธ โดนพวกอันธพาลทั้งยิงทั้งแทง ขับรถพุ่งชนกันเห็นๆ มันบอกว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชน

แรงไม่แรง ก็ขนาดตำรวจรับมือไม่ไหว ต้องขอกำลังทหารมาช่วยคุมเชิงให้หน่อย ก็แล้วกัน แต่แหม..พี่สีเขียวก็เหลือเกิน ดันให้โฆษกไก่อู เป็นคนออกมาแถลง แค่เห็นหน้าโผล่ออกจอทีวี ก็เล่นเอาตกใจแทบหงายเก๋ง นึกว่าคมช.มันเอาอีกแล้ว ถ้ายังไง ช่วยเปลี่ยนตัวโฆษกได้ ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ต้องขอขอบคุณปู่บรรหาร ที่ออกมาทำเซอร์ไพรส์ ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า "เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยเห็นบุกยึดรัฐสภา.. ถ้าปล่อยให้ยึดได้.. ก็ยกประเทศให้ไปเลยแล้วกัน.." แถมสำทับว่า "การแถลงนโยบายในวันนี้..ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นต่อจากนี้..พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ.."

เออ..มันต้องอย่างนี้ พูดไปเลยไม่ต้องอ้อมค้อม เรื่องใบแดงพรรคชาติไทย จะได้ตัดสินใจง่ายหน่อย

ผิดกับขานี้อย่างลิบลับ ที่ยังรักษายี่ห้อขวัญอ่อนเอาไว้ได้ อย่างเหนียวแน่น เรียกว่า ตกใจขึ้นมาลาออกไว้ก่อน ความที่ไม่อยากเพาะศัตรูทำลายมิตร เลยทำให้เป๋ไปเป๋มา เป็นปูนาขาเกเซมารู ทางนั้นก็ซี้ทางนี้ก็เพื่อน รักษาน้ำใจทุกคนมาโดยตลอด ผลแห่งกรรมดีที่บิ๊กจิ๋วอุตส่าห์สั่งสมมา จนถึงวันนี้ แกเสียเพื่อนไปเกลี้ยงจ้อย เหลืออยู่แต่ศัตรูทั่วบ้านทั่วเมือง

ขาเม้าท์ก็ช่างจ้อ ว่าแกมาครั้งนี้กะลุยแค่จ๊อบเดียว คือยุทธการเก็บแล้วสอย จับหัวเกรียนขังกรง เปิดทางให้ตำรวจดวลกับพันธมิตรตัวต่อตัว เรื่องนี้จะจริงหรือเท็จไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ เล่นเอาลุงลองถึงกับคันคะเยอไปทั้งตัว โดดเหย็งๆอยู่ในกรง เหมือนลิงถูกล่ามโซ่ ตัดพ้อใหญ่โตว่า พ่อใหญ่จิ๋วช่างใจร้าย งานเลี้ยงระดับนี้ ขาดลองไปได้ยังไงกัน

ข่าวว่าตอนนี้จิ้งเขียวกำลังชิงไหวชิงพริบ กะฉกฉวยจังหวะงามๆ ออกมาเอ๊กเซอร์ไซส์ ชนิดถึงก่อนได้ก่อน ในขณะที่อีกฝ่ายก็เตรียมม้าขาวไว้แล้ว เผื่อแปลงกายเป็นอัศวินมาปราบกบฎ เอาเถอะ..ใครอยากทำอะไรก็ทำเอาตามสะดวก แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน เพราะว่าวันนี้ ประชาชนกลายเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนไปซะแล้ว

ครั้งนี้ฟันธงได้ไม่ต้องกลัวธงหัก ว่าประชาธิปไตยยังไงก็ไม่แพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้รัฐบาลพลาดท่าเพลี่ยงพล้ำ...

ยังมีประชาชนเป็นก๊อกสอง

วโรทาห์: 8 ต.ค. 51

4 comments:

Joga Bonito said...

ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ตามมาอ่านจากพันทิพย์

Anonymous said...

หายไปนานเหมือนกัน เพิ่งกลับเข้ามาอ่านค่ะ เพราะที่หายไปเป็นเพราะอ่อนอกอ่อนใจจริง ๆเพราะได้เอากำลังใจช่วยไปเต็มที่แล้วแต่ไม่เป็นดังใจเลยค่ะ นี่ก็เป็นห่วงท่านเลยมาถามทุกข์สุขเสียหน่อย เพราะชีวิตต้องเดินหน้าค่ะ ยิ่งยุคปัจจุบันเราต้องสู้ไม่อย่างนั้นเขาไม่เรียกว่าฟันฝ่าอุปสรรคหรอกจริงมั้ยคะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านสุขสบายทางกายดีอยู่ เอาเป็นว่าถ้าโรคภัยไม่ถามหา การเยียวยาทางจิตใจก็ง่ายขึ้นค่ะ

Anonymous said...

วังเวงอารมณ์มากกับสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ความถูกต้องกลายเป็นผิด การทำสิ่งที่ผิดกลายเป็นถูกขอความเห็นจากคุณวโรทาห์หน่อยว่าเราจะทำตัวทำใจกันอย่างไรดีกับเหตุการณ์ทางการเมือง ณ วันนี้

Anonymous said...

เรียนคุณ Anonymous ครับ
การทำสิ่งที่ผิดกลายเป็นถูก ความถูกต้องกลายเป็นผิด
แล้วทำให้เรารู้สึกไม่ดี หรือกลุ้มใจ วังเวง ลองวิธีของผมดู ออกจะแหวกแนว แต่ได้ผล ครือว่า
"การทำสิ่งที่ผิด ให้เราคิดว่าเขาทำสิ่งที่ถูกแล้ว"
"ความถูกต้อง ให้เราคิดว่า เป็นความชั่วร้าย"
ขอบคุณครับ
สรยุทธ