Friday, July 25, 2008

พันธมิตร..ปีศาจที่ควบคุมไม่ได้

ยิ่งกว่านิยายรักโรแมนติค ระหว่างหนึ่งหญิงหนึ่งชายหัวใจเดียวกัน ที่บังเอิญพรหมลิขิตขีดเส้นให้มาเจอข้อหาเดียวกัน แต่เส้นทางโคจรของทั้งคู่ กลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ในขณะที่ฝ่ายหญิงถูกถีบถล่มจมดิน ไร้สิ้นหนทางที่จะต่อสู้ แต่ฝ่ายชายกลับได้รับการประคบประหงมเป็นอย่างดี จากมวลชนที่ขนกันมา และอำนาจล้นฟ้าจากมือที่มองไม่เห็น

ถ้าจะผิดก็ผิดที่ฟ้าตาถั่ว เป็นโปรโมเตอร์จอมมั่วที่จัดมวยชกข้ามรุ่น ระหว่างผู้หญิงตัวเล็กๆกับผู้ชายล่ำปึ้ก ระหว่างดาวไฮปาร์คกระจอกงอกง่อย ที่ต่อสู้อยู่เพียงลำพัง กับจ้าวลัทธิผู้ยิ่งใหญ่แวดล้อมไปด้วยศิษยานุศิษย์ผู้มืดบอด พร้อมท่อน้ำเลี้ยงที่เปิดหัวจ่ายให้อย่างไม่อั้น

เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว สวมหมวกปีก เดินส่ายอาดๆ ด้วยมาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ริ้วธงนำหน้าคือหน่วยกล้าตาย แวดล้อมรอบกายด้วยหน่วยอารักขากว่า 50 คน ตามมาด้วยริ้วขบวนรี้พลสกลไกร ต้องตามตำราพิชัยสงครามทุกประการ นี่คือทัพผู้ต้องหาที่กำลังเดินทางเข้ามอบตัว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

เหนือพื้นพสุธาที่ข้าเหยียบ ภายใต้ท้องฟ้าที่ข้าครอง ยังมีหน้าไหนยิ่งใหญ่กว่าข้า หากถือว่าข้าหมิ่นแล้วไม่ให้ประกัน ไพร่ราบพลเลวของข้า ทุกนายทุกนาง จะพร้อมใจกันหมิ่นซะให้หมด ลองดูซิว่า หน้าไหนจะกล้ามาจับ

ทัพใหญ่ล้อมไว้ทุกด้าน สำทับด้วยพยานในเครื่องแบบจอมพล ภายใต้การกดดันอันหนักหน่วงเช่นนี้ อย่าว่าแต่ตำรวจเลยที่ต้องสยบ ต่อให้ฟ้ายังต้องก้ม พญายมยังต้องเกรงใจ แล้วมีหรือที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์น้อยใหญ่ จะหาญกล้าท้าทายด้วยไม่ให้ประกัน

มือเกาะลูกกรง แนบหน้าลงในช่องว่างระหว่างซี่เหล็ก สายตาจับจ้องมองจอทีวี ที่กำลังถ่ายทอดประกาศศักดา คนพาลผู้ยิ่งใหญ่ ดูยังไงก็ไม่น่าเชื่อ ว่าเธอและเขาจะเกิดมาบนผืนแผ่นดินเดียวกัน ภายใต้ร่มธงไทยเดียวกัน และอยู่ใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน

ไม่มีคำพูดที่จะกล่าว ไม่มีน้ำตาที่จะหลั่ง มีแต่ความรู้สึกอันเย็นชา กับหัวใจอันปวดร้าว เมื่ออธรรมมันย่ำยี ชีวิตนี้จะอยู่อย่างไร เจ็บกายยังทนได้ แต่เจ็บใจนั้นเหลือแสน มีแต่ดวงจิตอันกร้าวแกร่งเท่านั้น ที่จะแปรเปลี่ยนความขมขื่นเป็นพลังในการต่อสู้ สองมือเปล่ากำลูกกรงเหล็กจนแน่น เป็นสัญญาณว่าไม่มีวันที่หญิงเหล็กคนนี้จะยอมพ่ายแพ้แก่เหล่าอธรรม

น้ำหนึ่งหยดนั้นช่างไร้ค่ายิ่งนัก แต่เมื่อรวมกันเป็นมหาสมุทรใหญ่ ใครๆก็ต้องเกรงขาม ทะเลเมื่อไร้คลื่นลมนั้นสงบนิ่งและแสนอ่อนโยน แต่เมื่อใดที่ทะเลเดือด แม้แต่ฟ้ายังต้องไหวหวั่น ตราบใดที่เรือใหญ่ยังต้องแล่นอยู่เหนือน้ำ ตราบนั้นความหวังก็ยังไม่สิ้น

อีกฟากหนึ่งของประเทศ พวกเขาได้ลุกขึ้นมาแล้ว ณ.แผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ทางด้านทิศเหนือและตะวันออกเฉีัยงเหนือ ดินแดนที่เป็นอิสระจากการปกครองของพันธมิตร เป็นถิ่นที่อยู่ของชนชาตินักสู้ผู้ไม่ยอมจำนน ไม่มีวันที่พวกเขาจะยอมให้หมู่มารมาปักธงประกาศศักดา เหมือนที่พวกมันทำได้ในเมืองหลวง และดินแดนทางทิศใต้ของประเทศ

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กองทัพมารเข้ารุกราน จึงถูกต่อต้านอย่างยิบตา จนกองทัพอธรรมต้องแตกพ่ายกระเจิง แม้จะพลาดพลั้งถูกตีจนเลือดอาบหน้า เพราะหลงไปต่อสู้ด้วยมือเปล่า กับเหล่าอหิงสาที่ถืออาวุธ แต่พวกเขาก็ไม่เคยถอดใจ กลับเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาพัฒนาการต่อสู้

เมื่อหมู่มารที่อ้างว่าอหิงสากลับใช้อาวุธ พวกเขาจึงต้องมีไม้และฆ้อนเข้าต่อสู้ให้สมน้ำสมเนื้อ นั่นหมายถึงว่าการต่อสู้ได้พัฒนาไปแล้ว จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า การบาดเจ็บล้มตายจะต้องตามมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรเลือดไทยก็ต้องทาแผ่นดิน

มือที่มองไม่เห็น..ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม จงรู้ไว้เถิดว่า เจ้าได้ก่อกรรมทำเข็ญกับราษฎรแล้ว อย่างไม่น่าให้อภัย เจ้าได้ชุบเลี้ยงปีศาจจนเติบใหญ่เกินกว่าที่จะควบคุมได้ มาบัดนี้ แม้แต่เจ้าเองก็ตกอยู่ในอันตราย ถึงเจ้าจะวางมือตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าประชาชนจะต้องเสียเลือดเนื้อไปอีกเท่าใด เพื่อกำจัดมันลง

จงหยุดเถิด มือที่มองไม่เห็น แม้ว่าจะสายเกินไป แต่ยังดีกว่าไม่ทำ ด้วยวิธีนี้ยังไงเจ้าก็ครองใจประชาชนไม่ได้ รังแต่สร้างความชิงชังให้กับคนในชาติ หากปล่อยให้ลุกลามบานปลายต่อไป แม้แต่ชาติก็คงรักษาไว้ไม่ได้ หากไม่กำจัดปีศาจร้ายแต่ต้นมือ...

แม้แต่ชีวิตของเจ้า ยังต้องสิ้นลงก่อนอายุขัย

วโรทาห์: 25 ก.ค. 51

No comments: