Friday, November 6, 2009

แค่เขมรตั้งที่ปรึกษา อำมาตย์ก็จะพาไทยให้ล่มจม

เอาแล้วไง! กลายเป็นดอกบานไม่รู้หุบไปซะแล้ว เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์กัมพูชา ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา

ควบตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนขะแมร์

ส่งผลให้บรรดาขี้ข้าอำมาตย์ ถึงกับออกอาการหน้าเขียวหน้าเหลือง เหมือนถูกถีบเข้าที่พวงสวรรค์อย่างจัง ต่างคนต่างทิ้งตัวลงไปนอนดิ้นทุรนทุราย บิดตัวเร่าๆอย่างกับสุนัขขี้เรื้อนโดนสาดด้วยทิงเจอร์ แล้วตามซ้ำด้วยซีม่าโลชั่นกระปุกใหญ่

เสียงแผดร้องครวญครางไม่เป็นภาษามนุษย์นั้น ดังไปถึงยมโลกก็ว่าได้

แล้วก็เป็นไปตามคาด เรื่องมันๆพรรณอย่างนี้ มีหรือที่มาร์คจะอดใจได้ ไม่โชว์โง่ให้โลกเห็น ว่าแล้วมนุษย์โพเดียมก็โดดผึงออกมาสวนควันปืนแทบจะทันที ด้วยการสั่งให้กุ๊ยกษิตใช้ลูกนักเลง อ้างคนไทยทั้งชาติออกไปฟาดปากกับฮุนเซน อย่างเมามัน

ทำอย่างกับเรื่องคอขาดบาดตายระดับ8 ยังไม่ปาน ถึงกับเรียกทูตไทยประจำกัมพูชา กลับมาโดยด่วน แถมทำหน้ายียวนกวนบาทา สำรากออกมาให้ได้ยินกันชัดๆว่า

"ให้ทางกัมพูชาเลือกเอาว่าจะเลือกคุณทักษิณ หรือประเทศไทย"

ทั้งๆที่คำตอบที่ได้ น่าจะชัดเจนอยู่ในทีแล้วว่า

"เขาเลือกทักษิณ เพราะทักษิณคือประเทศไทย"

สงสารแต่คนไทยที่ไปทำธุรกิจอยู่ในกัมพูชา ว่าป่านนี้คงนอนสะดุ้งจนเรือนไหว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชาวบ้านชาวช่อง จะยกขบวนออกมาเซย์ฮัลโหล เหมือนในอดีต ในขณะที่รัฐบาลเด็กโง่ คงได้แต่ออกมาดักคอล่วงหน้าว่า

งานนี้ถ้ามีเผากันอีก คงเอาซี 130 ไปลงไม่ได้แล้ว

เป็นธรรมดาของคนในระบอบอำมาตย์ ที่ต้องมองทุกอย่างเป็นเกมการเมืองไปซะหมด โอกาสงามๆอย่างนี้ ก็ใช่ว่าจะมีมาบ่อยๆซะเมื่อไหร่ ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร งานนี้มันต้องมีเรื่องให้จงได้ เพื่อป้ายสีทักษิณ ให้เป็นคนขายชาติ ตามที่ป๋าต้องการ

กระแสคลั่งชาติเท่านั้น ที่เป็นความหวังในตอนนี้

ในขณะที่พลพรรคเสื้อเหลือง ที่ดักแทงเข่าคอยทีอยู่แล้ว ก็โหมฟืนเติมไฟกันมือเป็นระวิง พร้อมๆกันกับที่บิ๊กเสือก็ออกมาเปิดงานว่า

"ยังไม่สายเกินไปที่จะสร้างคนให้มีคุณภาพ มากกว่าสิ่งก่อสร้าง ต้องสอนคนให้มีความหยิ่งผยองในความเป็นคนไทย..."

แต่อาจจะสายเกินไป ถ้ายังไม่สอนพวกแก่กะโหลกกะลา ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ก่อนที่จะลงโลง

ที่มันวุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะทหารแก่ไม่ยอมตายพวกนี้ ที่แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ เที่ยวเดินสายมอมเมาชาวบ้าน กะจะโกหกกันจนกว่าจะตายไปข้าง เพียงเพราะว่ากลัวเขาจะรู้เท่าทัน ที่พวกมันไปแหกตาเขามาชั่วชีวิต

งานนี้คนที่ถูกเหล่มากที่สุด เห็นจะไม่พ้นลุงจิ๋ว ที่ขยันออกเดินสายหางานให้ป๋า จนงานเข้า รับไม่หวาดไม่ไหว ตั้งแต่อาเซียนซัมมิท ไปนครปัตตานี แล้วย้อนกลับมาเขมรอีก แต่ละงานล้วนแล้วแต่ได้น้ำได้เนื้อทั้งนั้น ไหนใครเขาว่าแกเป็นอัลไซเมอร์

อัลไซเมอร์บ้านมัน หางานเก่งจนร้องเจี๊ยกกันเป็นแถว

เจอเข้าไปหลายขนาน ป๋าถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่นั่งค้อนปะหลับปะเหลือก แค้นลูกจิ๋วก็แค้น แค้นทักษิณยิ่งแค้นใหญ่ แต่ที่เจ็บใจมากที่สุด เห็นจะไม่มีใครเกินเด็กโง่ ที่ป๋าอุตส่าห์อุ้มใส่เอวมาเป็นนายกฯ แต่ดันเจือกทำงานไม่เป็นสับปะรดขลุ่ย

ผลงานที่เห็นๆ มีแต่เก๊กหล่อใส่กล้อง กับรายการนายกฯพบประชาชน ที่พัฒนากันจัง ทั้งๆที่ไม่มีคนดู ตั้งแต่นั่งแท๊กซี่ให้โชเฟอร์สาวสัมภาษณ์ ไปถึงนอนแผ่หราผึ่งพุง ให้บักหัวเหม่งมันก้อร่อก้อติกอยู่ริมชายหาด

ยิ่งนับวัน รายการยิ่งติดเหรตขึ้นทุกที ตั้งแต่ดูได้ทุกคน มาจนถึง18อั๊พ ทำให้ป๋าร้อนใจ ต้องสั่งติดตามความเคลื่นไหวอย่างใกล้ชิด เพราะว่ายังเหลืออีกสเต็ปเดียว ก็จะลากกันเข้าไปกระหนุงกระหนิงในโรงแรมแล้ว ถึงเวลานั้น...

ไม่แน่ว่า ป๋าอาจจะต้องลงมือสัมภาษณ์เอง

วโรทาห์: 6 พ.ย. 52

2 comments:

Anonymous said...

ชอบอ่านจังเลย
เห็นภาพ พวกนั้นดิ้น ๆ ๆ ๆ ๆ เหมือนไส้เดือนเลย
ขอบคุณมากน่ะค่ะ สนุกจัง

Himhai R said...

สุดยอดบทความอีกเช่นเคยครับ ท่านวโรทาห์...

เขียนทุกวันไม่ได้หรอครับ เวลาเข้ามาไม่เจอบทความของวันใหม่แล้วมันทุรนทุรายยังไงไม่รู้ครับ...