Friday, August 28, 2009

คลิปลับของมาร์ค..คงต้องลำบากป๋าอีกแล้ว

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า โดยนิสัยถาวรส่วนตัวแล้ว ผมเกลียดเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนป้ายสีฝ่ายไหนก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ผมเกลียดพรรคแมลงสาบอย่างโคตรๆ

ดังนั้น แรกๆที่เกิดคลิปลับอื้อฉาวของมาร์คขึ้นมา ผมจึงไม่ค่อยติดตามซักเท่าไหร่ และไม่สนใจหาฟังด้วยซ้ำไป กะว่าปล่อยให้พิสูจน์กันซะให้เสร็จก่อน ว่ามันของจริงของปลอมแล้วค่อยมาว่ากัน

และผมก็คงไม่เขียนถึงเรื่อง แบบนี้ ถ้าไม่บังเอิญเจอลิ้งค์ไปห้องหว้ากอในพันทิพ เห็นว่าพิสูจน์ทราบกันจะๆแล้ว อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เลยต้องตามไปดูซะหน่อย เผื่อว่าจะสรุปได้ซะทีว่ามันยังไงกันแน่

เจ้าของกระทู้เขาออกตัวซะ ดิบดี ว่าเป็นคนทำงานด้านเสียง เลยยอมไม่ได้ที่มีคนเอาวิชาชีพมาใช้ในทางที่ผิด มันต้องอย่างนี้สิเพื่อน ช่วยๆกันผดุงความยุติธรรมไว้ให้สังคม อีกหน่อยเราก็ได้ใช้มันเองแหละ เจ้าความยุติธรรมนี่

เครื่อง มือที่ใช้วิเคราะห์ ก็โปรแกรม audacity ธรรมดานี่แหละ จัดการพล็อตกร๊าฟออกมาให้เสร็จสรรพ เห็นรูปแบบของคลื่นและสเป็คอะไรต่อมิอะไร ตามเรื่องตามราว

หลังจาก ที่ชี้จุดผิดสังเกตุในกร๊าฟไม่กี่จุด โดยที่ไม่มีรายละเอียดว่า ผิดสังเกตุแล้วมันยังไงต่อ ของจริงกับของปลอมมันจะผิดกันยังไง เท่านั้นเอง ผู้วิเคราะห์ก็ฟันธงเปรี้ยงๆเลยว่า ตัดต่อชัวร์ !!!

อ่านไปรอบแรกชัก เคลิ้มตามแฮะ แต่พอกลับไปอ่านทวนอีกทีก็ชักจะเอะใจ ว่าไหงมันสรุปง่ายจังหว่า กะอีแค่จุดผิดสังเกตุในทางเท็คนิคเล็กๆน้อยๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ แม้กับคลิปไม่ลับก็ตาม

เพราะเท่าที่รู้มา คลิปยาวๆมันก็ต้องตัดต่อให้กระชับอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่ประการใด

จาก ที่ไม่เคยคิดจะฟัง ผมเลยต้องไปหามาฟังซะหน่อย แต่พอได้ฟังแล้ว ก็ต้องแอบร้องโอ้โฮในใจ..มิน่าหละ ใครๆเขาถึงได้ว่า คนตัดต่อทำได้เนียนระดับเทพจริงๆ ทั้งสุ้มเสียง ลีลา ใช้ได้เลย

เอาเป็นว่า ตัดต่อเหมือนไม่ได้ตัดต่อ..ว่างั้นเหอะ

โดย เฉพาะเนื้อหานั้น สอดคล้องต้องกันตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งกว่าปี่กับขลุ่ยยังไม่ปาน ในเมื่อชัดเจนปราศจากข้อสงสัยถึงขนาดนี้ ก็ไม่ต้องไปอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ให้มันเมื่อยตุ้มแล้ว ไม่ต้องใช้โปรแกรมอะไรหรอก วโรทาห์นี่แหละจะวิเคราะห์ให้ฟัง

หะแรก พอได้คลิปมา ก็ต้องทำใจให้เป็นกลางซะก่อน ว่าเรื่องนี้อาจจะออกได้ 2 หน้า คือจริงหรือไม่ก็ปลอม จากนั้นจึงเริ่มต้นเปิดฟัง โดยไม่ต้องอินไปกับเนื้อหา ไม่งั้นเดี๋ยวของขึ้นซะก่อน การวิเคราะห์จะกลายเป็นวิแคระไปซะฉิบ

ในคลิปนั้น เปิดฉากขึ้นมา แค่ท้าวความไปถึงเรื่องมาร์คเจอรุมที่กระทรวงมหาดไทย ผมก็เริ่มสงสัยตะหงิดๆแล้วว่า ทำไมในการประชุมมันถึงพูดอย่างกับปาฐกถาเลยวะ ฟังแล้วมีแนวโน้มว่าจะเป็นคลิปปลอมแหงๆ แต่พอฟังๆไป ความข้องใจก็หายเป็นปลิดทิ้ง

เพราะจากเนื้อหาที่พูด มันพอนึกภาพออก ว่าเป็นการเรียกข้าราชการมานั่งป๋อหลอรวมกัน แล้วนายกฯเกาะโพเดียม แถลงนโยบายให้เอาไปปฏิบัติ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะออกแนวปาฐกถา ตามที่ถนัดอยู่แล้ว

ฟังไปจับผิดไป เอาว่าพยายามจับผิดมันทุกเม็ด เผื่อว่าจะช่วยมาร์คได้บ้าง ว่างั้นเหอะ แต่ที่ไหนได้ ยิ่งฟังก็ยิ่งเชื่อว่า..ของจริงทั้งดุ้นเลยมาร์ค

เรื่องที่ว่าตัดต่อ นั้นตัดทิ้งไปได้เลย เพราะถ้าจะตัดต่อกันจริงๆ มันต้องตัดกันแทบทุกจุด แล้วจะไปหาตัดคำพูดจากที่ไหนเป็นร้อยเป็นพันคำ มาปะติดปะต่อให้มันเป็นเรื่องเป็นราวซะขนาดนั้น

แล้วอีกอย่าง ยังนึกไม่ออก ว่าจะปรับแต่งเสียงยังไง ให้มันกลมกลืนเป็นโทนเดียวกันตลอด โดยที่ผู้ฟังไม่มีความรู้สึกว่าสะดุดหูเลย แม้แต่น้อย

ซึ่งจะว่าไปแล้ว แม้แต่ระดับเทพ ก็ไม่น่าจะทำได้ หรือถ้ามีใครทำได้ ก็ลองทำมาให้ฟังเปรียบเทียบดูซักคลิปเหอะ

ส่วน เรื่องที่ว่า มีบางช่วงเว้นวรรคนานไปหน่อย หรือเว้นวรรคในที่ไม่ควรเว้น แล้วทึกทักว่าเป็นการตัดต่อ ก็เล่นไม่ยาก แค่ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเว้นวรรคตามที่ควรจะเป็นแล้ว มันจะเป็นยังไง

ผลปรากฎว่า หลังจากที่ลองเว้นวรรคมันสารพัดท่า ฟังยังไงมันก็ยังได้น้ำได้เนื้ออยู่ดี เผลอๆที่ขาดหายไปตอนเว้นวรรค อาจจะเป็นไฮไลท์สำคัญซะด้วยซ้ำ..ทำเป็นเล่นไป

มา ถึงจุดสุดท้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดสลบของคลิปนี้ เมื่อหลายฝ่ายยอมรับตรงกันแล้วว่า เสียงพูดเป็นของมาร์คจริง พูดในโอกาสเดียวกันจริง แต่มีการตัดต่อ เอาคำว่า"ไม่" ออกไป ทำให้ฟังแล้ว มาร์คกลายเป็นหมาไปได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

จุดนี้ยิ่งง่ายใหญ่ เราก็แค่ถอดความออกมา แล้วเติมคำว่า"ไม่"กลับเข้าไป ในที่ที่คิดว่าเดิมทีมันน่าจะมีอยู่ ซึ่งถ้าตัดออกไปแล้ว จะทำให้เนื้อหาเปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังเท้า..ว่าแล้วก็ลงมือเลย

เจ้า ประคุณเอ๊ย..หลังจากที่ผมพยายามอยู่นานสองนาน เพื่อเติมคำว่า"ไม่"ลงไปในทุกจุดที่สงสัย ซึ่งน่าจะมีอยู่หลายสิบจุด ผลที่ได้นอกจากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังเละเป็นโจ๊ก เหมือนไม่ใช่คนพูดเลยทีเดียว

ไม่เชื่อก็ลองชมตัวอย่างดูก็ได้ อย่างประโยคที่ว่า..

"อันที่สองผม อยากจะให้เกิดเหตุการณ์บานปลายเหมือนกับพัทยา ที่มีเหตุการณ์พี่น้องประชาชนไปปะทะกับผู้ชุมนุม ผมก็อยากให้ท่านสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้มีภาพผู้ชุมนุมเอาปืนไปยิงใส่กลุ่มคนที่มาต่อต้านผู้ชุมนุม ซึ่งพอเหตุการณ์มันลุกลามปั๊บ เราประกาศใช้พ.ร.ก.มันก็จะได้รับการยอมรับบทบาทและความร่วมมือจากพี่น้อง ประชาชน
ในช่วงที่มีการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ถ้าหากว่ามีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลังจากที่มีปฏิบัติการต่างๆ ในเรื่องของทหาร พวกเราทุกคนต้องพยายามที่จะปกปิดการให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่"

หลังจากที่เติมคำว่า(ไม่)ลงไปแล้ว จะได้ประโยคใหม่ดังนี้

" อันที่สองผม(ไม่)อยากจะให้เกิดเหตุการณ์บานปลายเหมือนกับพัทยา ที่มีเหตุการณ์พี่น้องประชาชนไปปะทะกับผู้ชุมนุม ผมก็(ไม่)อยากให้ท่านสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้(ไม่)มีภาพผู้ชุมนุมเอาปืนไปยิงใส่กลุ่มคนที่มาต่อต้านผู้ชุมนุม ซึ่งพอเหตุการณ์มัน(ไม่)ลุกลามปั๊บ เรา(ไม่)ประกาศใช้พ.ร.ก.มันก็จะได้รับการยอมรับบทบาทและความร่วมมือจากพี่ น้องประชาชน
ในช่วงที่(ไม่)มีการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ถ้าหากว่า(ไม่)มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลังจากที่(ไม่)มีปฏิบัติการต่างๆ ในเรื่องของทหาร พวกเราทุกคนต้องพยายามที่จะ(ไม่)ปกปิดการให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการ(ไม่) ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่"

ชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คลิปลับประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ ใครไม่มีไว้ในครอบครอง วันหน้าวันหลัง ถูกลูกหลานด่าก็ช่วยไม่ได้

มิน่าล่ะ! แทนที่จะวางท่าเย้ยหยันไม่ยี่หระ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เที่ยวนี้มาร์คถึงกับเต้นผางๆ เร่งแก้ข่าวอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่เห็นบอกว่าเป็นเองก็หายเอง แบบไข้หวัดหมู ที่สังเวยชีวิตชาวบ้านไป เกือบจะครบ 99 ศพแล้ว

อะไรไม่ว่า งานนี้ทำท่าจะมันสะแด่วแห้วก็ตรงที่ ถึงแม้จะใช้สูตรเดิมว่า คลิปลับถูกปล่อยออกมาจากบริษัทฯของอดีตนายกฯ แต่ใครๆเขาก็รู้ว่า งานนี้ทหารเขาปล่อยของ..ก็ไม่รู้ไปทำอะไรใครเขาไว้นะมาร์ค

แต่ตอนนี้ ของจะถูกปล่อยออกมาจากไหน ยังไม่สำคัญเท่าที่ว่า ทำยังไงมันจะไม่ถูกปล่อยต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่มีการฟันธง ว่ามันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ทำเป็นเล่นไป..คลิปเนียนๆอย่างนี้ ใครฟังก็เชื่อทั้งนั้นแหละ

หันรีหันขวาง ก็ได้แต่พึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่จะช่วยสกัดกั้นการเผยแพร่คลิปโดยเร่งด่วน แต่พอหันไปเห็นบิ๊กป๊อดยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่ถูกเด็กเล็กมันไล่บี้จนแทบเสียผู้เสียคน..มาร์คก็ให้รู้สึกหนาวไป ถึงสะดือจุ่น

สรุปว่างานนี้..คงต้องลำบากป๋าอีกแล้ว

วโรทาห์: 28 ส.ค. 52

No comments: