Friday, May 30, 2008

ไพร่อุปถัมภ์

ในกระบวนนายกฯที่เฮงที่สุดในโลก คงไม่มีใครเกินเฒ่าช้วน ช้าตะพึด แต่ในกระบวนประเทศที่ซวยที่สุดในโลก ต้องยกให้ประเทศที่แกเป็นนายกฯ หลังจากที่ถูกสะด๊วบไป 2 กระทอก หลอกโจ๊ะ ไข่แดงมาราธอนอยู่ตั้ง 6 ปี ไพร่ฟ้าประชาชีก็แทบจะต้องงัดของเก่าเอามาขายกิน

ภายใต้สโลแกน เราทำให้ทุกคนรวยเท่ากันไม่ได้ แต่ทำให้จนเท่ากันได้แน่นอน ว่าแล้วแกก็มุ่งมั่นทำตามสัญญาประชาคม นั่งรอรายงานไปเรื่อยๆ จนชาวบ้านแทบจะกินแกลบกันเสมอหน้า ตั้งแต่รู้จักแกมา นี่ถือได้ว่าเป็นผลงานหนึ่งเดียวของตาเฒ่าร้างคู่ ที่พูดและทำจนเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

เดชะบุญ คนไทยยังไหวตัวทัน ไม่ทะเล่อทะล่าปล่อยให้แกมาทำแฮตทริก ไม่เช่นนั้นแล้ว ใครต่อใครไม่วายต้องเละเป็นโจ๊ก ทำเป็นเล่นไป ถ้าขืนให้แกสานต่อโครงการอีกซัก 2-3 ปีแค่นั้นแหละ พม่าก็พม่าเถอะ อย่ามาแข่งจนกับคนไทยซะให้ยาก ป่านนี้คงได้ดูข่าวแรงงานไทยหลบหนีเข้าเมือง ไปนั่งขอทานในเขมรกัีนเป็นแถวๆ

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องที่จะพ้นเวรพ้นกรรมกันง่ายๆนั้น อย่าได้หวัง หลังจากที่แกถูกถีบออกไป ลูกกรอกที่แกเลี้ยงไว้ก็รับช่วงมาแผลงฤทธิ์ต่อ แถมยังทำทีทำท่าว่าจะหนักกว่าเก่าซะอีก ลูกตุกติกงอแงนี่ เรียกว่าใช้ได้เลยทีเดียว แถมด้วยลูกเขี้ยว ยึกยัก เอาแต่ใจตัวเอง แถมมาให้อีกต่างหาก

เรื่องหลงตัวเองนี่ก็ต้องยกให้ ในสมองมีแต่อเรื่องคติ คนอื่นเลวหมด มีแต่มันดีคนเดียว แถมยังหล่อลากดินไม่มีใครเกิน ทุกวันนี้ก็เอาแต่ไล่ฟัดรัฐบาลอย่างเมามัน วันๆไม่เคยทำอะไรที่เป็นมรรคเป็นผล นอกจากเก๊กหล่อสลับกับตีรวน

คนเราถ้าลองมันตั้งหน้าตั้งตาจะเผาเครื่องกันซะอย่าง ยังไงๆมันก็ต้องเอาให้จนได้แหละน่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็จะเอาด้วยกล ยิ่งคนอย่างนายมากนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดูมันจะเคียดแค้นชิงชังทุกคนที่ขวางทางมัน นี่ก็เล่นไปแล้วทุกท่ายังทำอะไรลุงหมักไม่ได้ เลยอ่อนอกอ่อนใจหันมาเล่นจักรภพแทนก็ยังดี

แต่มาคราวนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเล่นอาวุธหนัก ถึงกับยัดข้อหาหมิ่นฯ เรียกว่ากะตีให้ตายคาที่ แถมยังมีโบนัส กระทบชิ่งไปถึงลุงหมัก ให้ตายตกไปตามกันซะให้สิ้นเรื่อง จะได้ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอมันอีกต่อไป ก็คนมันอยากเป็นนายกฯน่ะ เข้าใจไม๊ว่ามันอยาก...

เรื่องของเรื่อง มันไม่น่าเป็นเรื่อง แต่ก็ดันมาทำให้เป็นเรื่อง ก็คนเค้าพูดให้ฝรั่งฟังมาตั้งกะปีมะโว้ ฟังก็รู้ ดูก็เห็น ไม่ใช่ว่าหลบๆซ่อนๆแบบหนีทหารซะเมื่อไหร่ ไม่รู้ทำไมเพิ่งจะมาแปลเป็นภาษาไทยให้มันหมิ่นฯซะงั้น

อีกอย่าง เรื่องอย่างนี้มันก็ต้องให้ผู้ที่รับผิดชอบเขาดำเนินคดีไป ไม่ต้องมาแปลเป็นไทยให้มันจั๊กกะจี้ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาหาคนแปลเอง เรื่องหมิ่นไม่หมิ่นมันอยู่ที่ภาษาที่เขาพูด ไม่ใช่อยู่ที่ภาษาที่เอ็งแปล ทำเป็นเล่นไป เดี๋ยวฉบับที่ตัวเองแปลนั่นแหละมันจะหมิ่นซะเอง แล้วจะร้องไห้ไม่ออก

เรื่องมันชักจะไม่ง่าย ก็ตรงที่รมต.หนุ่มหล่อก็ดันมาสู้มือ ไม่ยอมให้โซ้ยได้ง่ายๆ จัดแจงเปิดแถลงข่าวชี้แจงซะชัดแจ้งจางปาง แถมมั่นใจเต็มร้อย ท้าทายนายมากออกมาโต้กันให้มันรู้ดำรู้แดง จะเอาที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ไม่เกี่ยง

เอาละซี เจอคนจริงเข้า นายมากก็ถึงกับปาดเหงื่อ แต่ความที่กลัวเสียเหลี่ยมเลยทำเป็นปากแข็ง ทำฟอร์มว่าไม่อยากจะลดตัวลงมาเสวนาด้วย จัดแจงโบ้ยใส่เจ้าโชคว่าเป็นคนแปล มีอะไรให้ไปคุยกันเอาเอง เรียกว่าถ้าจะต้องติดคุกก็เอาเจ้าโชคไปแทนก็แล้วกัน

สัญชาติแมลงสาบ พูดอะไรมันก็ต้องมีเหน็บ เสกสรรค์ปั้นแต่งอยู่ทั้งคืน สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นคำว่า "ไพร่อุปถัมภ์" จัดการพ่นออกอากาศสู่พ่อแม่พี่น้อง ด้วยความภาคภูมิใจ แล้วก็ไม่ทำให้แม่ยกต้องผิดหวัง เสียงซี้ดซ้าดสะใจกันไปทั้งเมือง

ก็จะไม่ให้ซี๊ดได้ยังไง เพราะคำว่าไพร่ มันโดนกันไปถ้วนหน้า ไม่เว้นหัวหงอกหัวดำ รับอานิสงส์กันไปค่อนประเทศ มองไปทางไหนก็ไพร่ทั้งนั้น แม้แต่ประธานที่ปรึกษาเจ้าของสโลแกน "ลูกชาวบ้าน" นั่นก็ไพร่ เลยต้องรับกันไปเต็มๆ ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

อุตส่าห์แปลอังกฤษเป็นไทย เอามาฟัดกันจนแทบจะบรรลัยเป็นแถบๆ ยังมาหาเรื่องให้ต้องแปลไทยเป็นไทยให้พวกไพร่ฟังกันอีก หันรีหันขวางก็เห็นแต่ไพร่อาวุโสที่พอจะเป็นที่พึ่งได้ ค่าที่เป็นไพร่มานานกว่าใครน่าจะรู้ดี ทีเรื่องอื่นเห็นพูดเป็นต่อยหอย ฝอยได้เป็นคุ้งเป็นแคว เลยถือโอกาสลองภูมิกันซักหน่อย ว่าเรื่อง"ไพร่อุปถัมภ์" แกจะไปยังไง

เจอคำถามปราบเซียนเข้าไป ขนาดไพร่อาวุโสยังต้องอึ้งกิมกี่ ใช้สมองส่วนหน้าคิดอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะแสยะปากจำนรรจาออกมาได้ด้วยเสียงเนิบนาบว่า หมาตัวไหนมันพูด เป็นไพร่แล้วมันไปหนักกบาลใคร อ้าว..เป็นเรื่องเลย น้ำเสียงโทนนี้ อ่านสัญญาณได้ว่า เพื่อความปลอดภัย กรุณาถอยออกไปให้พ้นรัศมีทำการของเท้าไพร่

รอจนสงบสติอารมณ์ได้ระดับหนึ่ง ไพร่อาวุโสจึงเริ่มเสวนาด้วยภาษาไพร่ ว่าเกิดมาจนแก่จะตายชักก็ยังไม่เคยได้ยิน "ไพร่อุปถัมภ์" มันแปลว่าอะไรใครจะไปรู้

แต่ที่รู้แน่ๆ ไพร่ที่ข่มไพร่ด้วยกันเขาเรียกว่า "ไพร่ลำพอง"

วโรทาห์: 29 พ.ค. 51

No comments: