Sunday, May 4, 2008

วันสื่อเสี้ยมมวลชนไทย

3 พฤษภาคม "วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก" ตรงกับ "วันสื่อเสี้ยมมวลชนไทย" โดยมิได้นัดหมาย แต่มาปีนี้มันมีงาน อาศัยจังหวะดี โน้มคอมาแทงเข่า จัดให้เป็นวันสื่อจวกนายกฯไปให้สมอยาก จุกอกมาแทบตาย ได้ระบายไปบ้างค่อยโล่งขึ้นมาหน่อย

โห..ทำเป็นเล่นไป คราวนี้มาฟอร์มสูง ลากจิตแพทย์เอามานั่งจ้อ เจ้าหมอเสี้ยมนี่ก็พอกัน คงนึกว่าชาวบ้านเค้ายังโง่อยู่ ที่ไหนได้คนไทยยุคใหม่ กินข้าวเป็นอาหาร เชื่อไม่เชื่ออยู่ที่เนื้อหา ไม่ใช่แค่ดูหน้าคนพูดก็เชื่อไปเป็นตุเป็นตะ งานนี้เลยมีหาวเรอ ถามกันให้แซ่ด ว่านั่นมันจิตแพทย์หรือว่าคนไข้กันแน่หว่า

แค่นี้ยังน้อยไป ต้องไปลากเสื้อกั๊กออกมาช่วยจ้อ พาให้เสื้อกั๊กต้องมานั่งเก๊กซิม จำต้องออกมาละเลงขนมเบื้องจนปากเลอะไปหมด เวรกรรม..จู่ๆให้มานั่งจ้อ จังหวะหรือก็ยังไม่ให้ ก็รู้ๆกันอยู่ ตีหัวเข้าบ้านคืองานถนัด ออกมาแต่ละทีต้องมีแต่ได้ไม่มีทางเสีย

แต่งานนี้มันผิดคอนเซ็ปต์ ดันมีแต่ทางเสียไม่มีทางได้ งานแบบนี้เสื้อกั๊กไม่เคยมาเปลืองตัว แต่ทำไงได้ ในเมื่อพรรคพวกมันเพลี่ยงพล้ำก็ต้องช่วยกัน ที่ผ่านมาสื่อก็ช่วยตีปี๊บไม่เคยบิดพลิ้ว งานนี้เลยต้องช่วยออกมาล่อเป้า หลายหัวดีกว่าหัวเดียว เฉลี่ยๆให้ชาวบ้านเค้าด่ากันทั่วๆ จะได้ไม่เปลืองตัวอยู่คนเดียว

ก่อนนี้สื่อก็คิดว่าตัวเองเจ๋ง ชงเองด่าเองเล่นจนปากเสื่อม ตอนหลังด่าไปไม่มีใครยอมเชื่อ เลยคิดใหม่ทำใหม่ อุปโลกน์งานวิจัยเอามาให้อ่านกัน อ่านไปอ่านไปต้องร้องไอ๊หยา นี่มันงานวิจวกนี่หว่า ไหงมาแหกตาว่างานวิจัย เอากันดื้อๆ เล่นกันโต้งๆ ด่ากันเพียวๆ จวกนายกฯแทนสื่อ ด่ากันลูกเดียวไม่มีลูกอื่น นี่ละหรืองานวิจัย

คิดง่ายทำง่าย นึกว่าด่าไปให้นายกฯด่ากลับ รายการสมัครพบประชาชนนี่เค้าดังหลาย ลูกเด็กเล็กแดงไปยันผู้เฒ่าผู้แก่ เช้าวันอาทิตย์ทีไรต้องมาเฝ้าหน้าจอ ด่าใครไปคนนั้นก็ดังเปรี้ยง ดังไปคับบ้านคับเมือง เลยมีคนเข้าคิวกันยาวเหยียด แจ้งความจำนงค์ ประสงค์ที่จะโดนด่า

แต่ผิดคาด คราวนี้นายกฯท่านมาแปลก ดูท่าว่าจะรู้แกว ด่านิดด่าหน่อยพอเป็นกระสายยา ฉลองศรัทธากันนิดๆหน่อยๆแล้วกรรเชียงออก งานนี้เล่นเอาสื่อครางเป็นนกถึดทือ ลงทุนลงแรงด่าไปแทบตาย ผลสุดท้ายทุนหายกำไรหด นายกฯไม่สนใจ แต่โดนชาวบ้านด่าไปล่วงหน้า เจ๊กอั้กไปแล้วตั้งหลายกระบุงโกย

เอ้า..ไหนๆก็ไหนๆ ในเมื่อเปิดหน้าเล่นกันซะขนาดนี้ ก็ไม่ต้องมาเกรงใจกันแล้ว เอาไงก็เอากัน ไม่ต้องหลบไม่ต้องซ่อน ไม่ต้องแอบมาทำเนียน อยากด่าใครด่า อยากยอใครยอ ไม่ต้องมาแอบอ้างประชาชน รู้เช่นเห็นชาติกันถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องตีหน้าตายมาทำไขสือ

คุกคามสื่อคือคุกคามประชาชน ไหนบอกมาให้ชัดๆซิว่าใครไปคุกคามแก แล้วพวกแกไปเกี่ยวอะไรกับประชาชน อีกอย่าง ก็เห็นแต่พวกแกเที่ยวไปคุกคามใครต่อใครให้ดะไปหมด ด่าซ้ำด่าซาก ด่าไม่เป็นเรื่องไม่เป็นราว ประชาชนจะอดตาย ไม่เคยช่วยกันสร้างสรรค์ มีแต่เอามันเข้าว่า คิดแต่จะช่วยให้พรรคพวกตัวเองได้เป็นรัฐบาล พรรคอื่นมาเป็นด่าแหลก

ปั้นน้ำเป็นตัว มั่วข่าว ตัดต่อภาพ เล่นมันครบทุกลูก แหกตาประชาชนอย่างหน้าด้านๆ ยังมีเรื่องชั่วๆอะไรอีกที่พวกแกไม่เคยทำ บ้านเมืองมีวิกฤติไม่ร่วมแรงกันแก้ไข ยังถือโอกาสมาซ้ำเติม เรื่องเดียวกัน ด่าก็ได้ชมก็ได้ มันเลือกด่า แต่ถ้าพวกเดียวกันมันเลือกชม ไม่ได้สนใจว่าบ้านเมืองจะเสียหายซักแค่ไหน ชาวบ้านจะอดตายซักกี่คน

เป็นไงล่ะ ทำไปทำมาเหรตติ้งชักจะรูดมหาราด ผู้ชมชักจะหดหายเหลือไว้แต่ผู้ด่า หนังสือพิมพ์ก็เหลืออยู่บางเฉียบ ทั้งๆที่สมัยทักษิณมันหนาจนแทบจะแบกกลับบ้าน แล้วที่หายๆไปนั่น มันก็โฆษณาทั้งดุ้น ทำเงินหล่นหายวันละหลายๆแสน เงินเดือนสนช.คงพอมาตู๊ได้มั่งหรอกนะ

เห็นเค้าว่ากันว่า ถ้าขายหนังสือพิมพ์เพียวๆนี่มันขาดทุนยับ ยิ่งขายมากยิ่งเจ๊งมาก หนังสือพิมพ์ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง ยอดเจ๊งก็นำโด่ง ถ้าไม่มีโฆษณามาตู๊ไว้ รับรองได้ว่าซี้แหง ถ้าประชาชนแอนตี้ไม่ซื้อสินค้า...

จะดูซิว่า หน้าไหนยังกล้าไปลง
โฆษณา

วโรทาห์: 4 พ.ค. 51

No comments: