Thursday, April 23, 2009

จากทรชน..สู่..ทรราช

เช้าตรู่วันสงกรานต์ทมิฬ ที่ 13 เมษายน 2552 พลันที่เสียงปืนนัดแรกกัมปนาทขึ้น ณ.สามเหลี่ยมดินแดง ชีวิตของหนุ่มน้อยหน้ามล ทรชนคนรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอยาก ก็พลิกผันสู่หนทางทรราชในบัดดล จากทรชนโจรปล้นตำแหน่งนายกฯ ที่ได้รับความเกลียดชังจากคนไทยค่อนประเทศ พริบตาผ่านไป กลับกลายเป็นทรราชมือเปื้อนเลือด ที่ได้รับการสาปแช่งทั่วทั้งแผ่นดิน

มิ พักต้องพูดถึงว่าประชาชนล้มตายไปเท่าไหร่ มิต้องใส่ใจว่าใครเป็นคนก่อเหตุ เพียงแค่ออกอาชญาบัตรให้อาชญากร ลากเอ็ม 16 ออกมากราดยิงชาวบ้านอย่างเมามัน ก็เกินพอที่จะเสริมส่งให้ ทรชนผู้พลาดหวังจากการทำสถิติ นายกฯอายุน้อยที่สุดในปรเทศไทย ทะยานขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้ปกครองที่หนุ่มที่สุดในทะเบียนทรราช ชนิดไร้คู่แข่งโดยสิ้นเชิง

ยังไม่นับรวมสถิติทรราชคนแรกที่มาจาก พลเรือน แต่อุทิศตนเป็นขี้ข้าทหารอย่างไร้ศักดิ์ศรี พ่วงท้ายด้วยตำแหน่ง ทรราชที่มีประชาชนสาปแช่งมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งยังไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใด สถิตินี้จึงจะถูกทำลายลง

จากเด็กหัว ดื้อที่กร่างเกินวัย ด้วยหัวใจที่หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องอาฆาตมาดร้าย แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูคล้ายผู้คล้ายคน แต่สัปดนภายในกลับแฝงไว้ด้วยความป่าเถื่อน ชั่วช้าน่าชิงชัง ชั่วจนเทียบไม่ได้กับติรัจฉาน แต่ยิ่งกว่าซาตานที่แฝงมาในร่างมนุษย์ เป็นอมนุษย์ที่โฉดพอที่จะไล่ยิงคนเหมือนยิงสัตว์ เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เพียงเพื่อแก้แค้นที่ทำให้เสียหน้าในเวทีโลก

จาก พฤติกรรม โกหกพกลมจนเคยชิน เอาดีเข้าตัว ป้ายชั่วให้คนอื่นเป็นอาจิณ หยิ่งยะโสโอหัง หน้าด้านหน้าทนจนเกินงาม มองผาดๆอาจจะคิดว่า แค่เด็กก้าวร้าวที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่แท้จริงแล้วคือเด็กผีบ้า ที่สามารถฆ่าคนได้ เพื่อไอติมแท่งเดียว

นับแต่นี้เป็นต้นไป ตระกูลเวชชาชั่วชาติ จะได้ลิ้มรสวิบาก ว่ากรรมชั่วเมื่อส่งผลนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อต้องใช้ชิวิตอย่างหวาดระแวง อยู่ท่ามกลางศัตรูที่รายล้อมรอบตัว โดยไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อต้องแขวนชีวิตไว้กับพรก.ฉุกเฉิน โดยต้องคอยต่อชีวิตอยู่เป็นระยะ เมื่อต้องฝากชีวิตไว้ ภายใต้ท็อปบู๊ทของทหารเลว โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่องครักษ์ จะลงมือเด็ดหัวซะเอง

ไม่มีใครคาดหวังให้ทรชนสำนึกผิด ไม่มีใครคิดให้ทรราชออกปากขอโทษ เพียงแค่อยากเห็นธรรมชาติลงทัณฑ์คนชั่วช้าให้สาสม อย่าให้มือของประชาชนอันบริสุทธิ์ ต้องแปดเปื้อนราคี จากเลือดชั่วของคนสารเลว

ไม่ต้องพูดถึงความปรองดอง เพราะนาทีทองได้ผ่านไปแล้ว จะมีประโยชน์อันใด ในขณะที่ปากเห่าหอนถึงหนทางสมานฉันท์ แต่มืออันโสมมยังเหนี่ยวไกปืนใส่กันไม่มียั้ง กระสุนจากเอ็ม 16 มันได้ปิดทางสมานฉันท์ไปแล้วโดยสิ้นเชิง

นับแต่นี้ต่อไป มีแต่ตายกันไปข้างจึงจะสงบลงได้

ไม่มีอีกแล้ว ความรักความบูชา ที่มีให้แก่หัวหงอกหัวดำทั้งหลาย ไม่เชื่ออีกแล้ว คนที่ประชาชนเคยมอบกายถวายชีวิตให้ เพราะหลงลมปากว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ กว่าจะรู้ว่า เบื้องหลังสับปลับอย่างไม่น่าเชื่อ ก็สายเกินไป

ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่เป็นผู้ใหญ่ ถึงตายก็อย่าหวังว่าจะเผาผีกัน

ถ้าคิด ว่าสีแดงจะกลายพันธุ์ เพียงเพราะถูกกระหน่ำตีด้วยสื่อสุนัขรับใช้ในอาณัติ ผสานกับการกวาดล้างด้วยอำนาจรัฐอย่างเข้มข้น ก็ขอบอกได้เลยว่าคิดผิดถนัด ตรงกันข้ามสีแดงจะกลับแดงเข้มจนเป็นสีเลือด

เลือดแห่งความเคียดแค้นชิงชัง ที่รอวันสะสาง แม้สิบปียังไม่สายเกินไป

อย่า คิดว่า เมื่อเด็ดหัวทิ้งแล้ว สีแดงจะแตกสลายรวมกันไม่ติด เพราะสีแดงนั้นแดงด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน แม้ไร้แกนนำก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่ประการใด แต่จะแตกกระจายเป็นกลุ่มย่อยมากมายมหาศาล ภายใต้ยุทธาสตร์ แยกกันเดินแต่รวมกันตี และที่สำคัญ จะไม่มีแกนนำที่สั่งการได้อีก ไม่มีหัวไว้ให้เด็ด ไม่มีแกนนำไว้ให้ประนีประนอม

แล้วจะรู้ว่า สีแดงที่ไร้หัวนั้น มันน่ากลัวแค่ไหน

ฆ่า คนนั้นไม่ยาก แต่จะฆ่าวิญญาณนั้นอย่าหวัง ร่างกายอยู่ได้ไม่นานก็แตกสลาย แต่อุดมการณ์จะเป็นนิรันดร์ วิญญาณประชาธิปไตยจะเป็นอมตะ สีแดงจะไม่มีวันตาย

ตราบที่ตะวันยังฉายแสง ตราบนั้นสีแดงจะคงฉายฉาน...

วโรทาห์: 23 เม.ย.52

1 comment:

GirlTear said...

อ่านตอนแรก นึกว่าไม่ใช่แนวเดียวกับเสื้อแดงซะอีก

เพราเห็นคำว่า ทรราช

นึกว่า ว่าให้แม้วเต็มที่

เค้าว่านะ ที่ประเทศเรามีแต่จมลง

เพราะว่า คนของเรา เป็นหนอนบ่อนไส้มาตลอด

จริง ๆ พวกเราเข้มแข็งนะ แต่เสือกทะเลาะกันเอง

โกงบ้านเมืองกันเอง

ป.ล มีวาทะดีนะ เท่าที่เค้าอ่านมาอะ