Thursday, March 5, 2009

พ่อโง่สอนลูก

พ่อ..คำๆนี้ช่างยิ่งใหญ่คับฟ้า สุดที่จะสรรหาคำใดมาเปรียบสำหรับใครบางคน ในขณะที่อีกหลายต่อหลายคนกลับรู้สึกเฉยๆ ไม่เข้าใจจนแล้วจนรอด ว่าทำไมต้องตื่นเต้นกันนักหนา ในเมื่อเกิดมาทุกคน ก็ต้องมีพ่อเป็นของตัวเอง ให้ต้องเคารพยำเกรงกันอยู่แล้วเป็นธรรมดา ไม่เห็นจำเป็นต้องไปป่าวประกาศ แสดงความรักจนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของคนอื่นซักกะนิด

พ่อ.. สำหรับคนบางคน ถือเป็นคำศักดิ์สิทธิ์เกินกว่า ที่จะไปเที่ยวเรียกใครว่าพ่อ เหตุเพราะทนไม่ได้ ที่จะให้ใครมากล่าวหา ว่าแม่เป็นคนหลายใจ แต่สำหรับใครอีกหลายคน กลับยินยอมพร้อมใจ ที่จะเรียกทุกคนว่าพ่อ ขอเพียงให้สามารถเป็นที่พึ่งได้ หรืออย่างน้อย ให้ได้หน้าก็ยังดี

พ่อ.. สำหรับใครบางคน ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด ที่ต้องไขว่คว้าให้จงได้ ไม่ว่าจะเป็นตายอย่างไร ชาตินี้ขอให้ได้เป็นพ่อ อย่างพ่อมาก มักกะสัน เป็นตัวอย่างที่เลว แม้ใครต่อใครจะพากันรังเกียจ ยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อน ถึงขั้นผลักไสไล่ส่ง ไม่ยอมรับเป็นพ่อ ยังพยายามพล่านไปงุดๆ มุดรูนั้นออกรูนี้ จนสบโอกาสให้มันเอาจนได้ เปิดฉากตำนาน ฆ่าผัวมันเสียเอาเมียมันมา

แต่เอาเหอะ..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อหน้าด้านขืนใจจนได้เป็นพ่อ ก็ต้องเลยตามเลย ถือเสียว่า แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่ในเมื่อด้านได้ถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ยอมกันก็ไม่รู้จะว่ายังไง อย่างที่พ่อมากมักจะสอนลูกๆเสมอว่า คนเรานั้นมันต้องมีความมุ่งมั่น ดังคำขงจื๊อที่ว่า "ด้านได้อายอด"

คำๆนี้ขงจื๊อจะพูดจริงไม่จริงไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือพ่อมากเองนั่นแหละ..ด้านจริงๆ

ตลอด เวลาที่ผ่านมา พ่อมากมักจะพยายามหาโอกาส พูดภาษาอังกฤษให้ลูกๆได้ยินเสมอ เพื่อยืนยันเรื่องที่พ่อชอบโม้ ว่ามีดีกรีระดับอ๊อกซ์ฝอร์ด แต่กลับมีปากหอยปากปู ไปเม้าท์กันมัน ว่าพ่อเคยเป็นช่าง "อ๊อกซ์" อยู่โรงงานประกอบรถยนต์ "ฝอร์ด"

เรื่องที่พ่อมากสอนนักสอนหนา คืออย่าโง่ ไม่ต้องดูอื่นไกล ให้ดูพ่อเป็นตัวอย่าง เรื่องที่ใครต่อใครจะมาต้มพ่อนั้นลืมไปได้โลด และเป็นธรรมเนียมอันน่าเบื่อ ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ พ่อเป็นต้องเล่าเรื่อง ล็อตเตอรี่ที่ขึ้นเงินไม่ได้ ให้ฟังกันจนหูชา เล่าซ้ำเล่าซาก เล่าจนลูกทุกคน จำได้ทุกประโยคโดยไม่ต้องท่องจำ

เรื่องของเรื่องมัน เกิดขึ้น เมื่อพ่อถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 แล้วนำไปขึ้นเงินสด เจ้ากรรมกองสลากก็บิดตะกูด จะจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คให้ได้ มันคงเห็นหน้าพ่อโง่ๆ เลยนึกว่าไม่ฉลาด แต่พ่อก็ดันรู้แกวว่า แคชเชียร์มันก็คือคนเชียร์แขก ขืนรับเช็คมันมาเป็นได้ติดสปริงเด้งดึ๋งเป็นว่าเล่น

ในเมื่อฝ่าย หนึ่งจะเอาเงินสด แต่อีกฝ่ายกลับยืนยันที่จะจ่ายเช็ค ถึงขั้นนี้มันก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ถือว่าผิดสัญญาซื้อขายกันเห็นๆ พ่อเลยยื่นคำขาดไป ถ้าไม่ยอมกันก็ต้องคืนสินค้า เอาสลากกลับไปเอาเงินคืนมา ท่ามันจะเห็นพ่อเอาจริง เลยยอมรับสลากคืนแต่โดยดี

งานนั้นพ่อฟันกำไร ไปเหนาะๆ เพราะแหกตามันไปว่าซื้อมา 200 มันก็คืนให้ 200 อะไรไม่ว่า ยังทำหน้าใหญ่แถมค่ารถกลับบ้านให้มาอีก 100 นี่ถ้ามันรู้ว่าพ่อลงทุนซื้อมาแค่ 80 คงแค้นหนัก จนแทบอยากจะฆ่าตัวตาย

เรื่อง นี้ยังถือว่าน้ำจิ้ม เมื่อเทียบกับเรื่องฉลาดๆมากมาย ที่พ่อมากเก็บมาเล่าให้ลูกฟัง หวังมัดใจให้ลืมพ่อแม้ว แต่เวรกรรมทำเขาไว้เยอะ ถึงพ่อมากจะพยายามอย่างไร ลูกๆก็ยังอดคิดถึงพ่อคนก่อนไม่ได้ อยู่กับพ่อแม้ว จะดีชั่วยังไง ก็ยังได้พกมือถือไปนั่งกินหูฉลาม

แต่หลังจากที่พ่อมาก พาพวกกุ๊ยสำเพ็งมาไล่ตื้บพ่อแม้ว จนต้องระเห็จไปอยู่ต่างเมืองแล้ว แค่ลูกๆจะหาแกลบข้าวหอมมะลิดีๆ เอามายาไส้ ก็ยังลำบาก

คนซวยๆมักจะมา พร้อมกับความซวยเสมอ ผีซ้ำกรรมซัด มาเจอวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์จนได้ กลายเป็นเสีย 2 เด้ง ตอนแรกก็เชื่อพ่อมาก ว่าไม่ใช่เรื่องซีเรียส เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ขาดแคลน ก็หันไปกินฮ็อตด็อกแทนยังพอไหว ที่ไหนได้ มารู้ภายหลังว่าพ่อมากพูดมั่ว ก็สายไปเสียแล้ว คราวนี้แม้แต่แกลบยังไม่รู้ว่าจะมีกินกันหรือเปล่า

หลังจากที่ทนเห็น ลูกๆ ต้มรองเท้าแตะซดน้ำกันโฮกๆไม่ได้ พ่อมากก็มีลูกฮึด ออกนโยบายใหม่มาเอาใจลูกๆ ในเมื่ออยากได้ระบบลูกหลานนิยมนัก ก็เอาไปเลยคนละ 20 จ่ายกันเห็นๆเป็นเช็คเงินสด เอาไปซื้อของที่ห้างไหนก็ได้ แต่เขาจะรับหรือไม่ ก็ต้องไปลุ้นกันอีกที แต่ที่แน่ๆโออิชิตกลงเพิ่มมูลค่าให้ 2 เท่าเป็น 40 เมื่อจ่ายค่าบุฟเฟท์อาหารญี่ปุ่น

ที่สำคัญ พ่อสั่งนักสั่งหนาว่า เงินนี้ห้ามเอาไปซุกหีบเป็นอันขาด ต้องควักออกมาเล่นหม้อข้าวหม้อแกงกันในบ้าน ชงกันเองกินกันเองไม่ต้องไปสนใจใคร เชื่อว่าไม่ช้า วิกฤติก็จะผ่านไปเอง โดยไม่ต้องทำอะไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกตลาด เขารวยเราก็รวยด้วย เขาเจ๊งเราก็เจ๊งตาม ไม่เชื่อพ่อมากแล้วจะไปเชื่อใคร ฉายากุมารทอง ไม่ใช่ว่าใครจะได้มากันง่ายๆ

มาถึงขั้นนี้ ลูกๆถึงกับซาบซึ้งน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง ไม่นึกว่าพ่อมากที่เห็นอีเหละเขละขละมาโดยตลอด จะยังมีกึ๋นพอที่จะนำพาลูกๆฝ่าฟันวิกฤติโลก ถึงขนาดยอมลำบากไปหาเงินมาแจก ก็ยังบ่ยั่น ทำเป็นเล่นไป เงิน 20 บาท แม้จะไม่มากมายเท่าไหร่ แต่ถ้าคูณจำนวนลูกเข้าไป มันก็โขอยู่ กว่าจะกระเสือกกระสนหามาได้ พ่อคงลำบากไม่ใช่น้อย

เมื่อพ่อมากเฉลยให้รับรู้กันว่า เงินก้อนนี้พ่อไปกู้มา ลูกๆก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างพร้อมเพรียง ด้วยความสงสารพ่อ ดูหรือพ่อคุณ ขนาดไม่มีเงิน จนต้องตากหน้าไปขอกู้เงินจากพวกซามูไรก็ยังต้องจำยอม แล้วนี่พ่อยังต้องลำบากอีกนานเท่าไหร่ กว่าจะหาเงินมาใช้หนี้เขาหมด

"ลูกพ่อ..." พ่อมากดึงลูกๆเข้ามากอด ด้วยความเอ็นดู แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็ต้องทำไปตามบท แล้วพล่ามสอนว่า

" ขอให้ลูกๆทุกคน จงจำใส่ใจไว้เสมอว่า คนเราเกิดมา ต้องรู้จักพึ่งพาตนเองเป็นหลัก จะรอให้พ่อหาเลี้ยงไปชั่วชีวิตคงไม่ได้แน่ ที่พ่อจะทำเพื่อลูกๆได้ ก็มีเพียงเท่านี้ ข้างหน้าต่อไป ก็เป็นเรื่องของลูกๆแล้ว ที่จะต้องขวนขวายหาเงินมาใช้หนี้กันเอาเอง..."

"???????"

ทุกวันนี้ ลูกๆยังมึนตึ้บ ตัดสินใจไม่ถูกว่า ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

อย่าซี้ซั้วเรียกใครว่าพ่อ

วโรทาห์: 5 มี.ค. 52

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความ