Wednesday, January 30, 2008

เห็นลุงหมักรับราชโองการแล้ว น้ำตามันพาลจะไหล

หลังหย่าขาดจากข่าวจอตู้ีมาหลายร้อยวัน นับตั้งแต่วันที่พวกกกบฏประกาศยึดประเทศของเราเป็นต้นมา วันนี้นับเป็นวันแรกที่กลับมานั่งเฝ้าจออีกครั้ง ก็แหม..ลุงหมักของเรา รับราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 แห่งประเทศไทยทั้งที จะพลาดได้ยังไง

นั่งดูอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่บ่ายคล้อยจนคล้อยเย็น มาได้ทำพิธีเอาตอนเกือบหกโมง พอได้เห็นลุงหมักทำพิธีเปิดกรวย เท่านั้นแหละ มันเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่อก น้ำตาเจ้ากรรมก็เอ่อท้นขึ้นมาคลอเบ้า พาลจะไหลออกมาซะให้ได้

แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ไม่ใช่น้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยความคับแค้นใจเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา นึกในใจว่าเออหนอ เราก็มาถึงวันนี้จนได้เหมือนกันเนาะ แล้วก็อดไม่ได้ต้องสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด หัวใจพองโตด้วยความภาคภูมิ

ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานว่า นี่นับเป็นครั้งแรก ที่ประชาชนรากหญ้าอย่างพวกเรา ได้เป็นคนปั้นนายกฯด้วยสองมือของพวกเราเอง

พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยแหละว่า ลุงหมักคือนายกฯที่พวกเราปั้นมากับมือโดยแท้จริง ไม่ใช่แค่ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเหมือนปกติ แต่ต้องรวมพลังกันต่อสู้อย่างยิบตา ต้องทุ่มเททั้งชีวิต แรงกายแรงใจ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เข้าต่อสู้เผชิญหน้ากับพวกกบฏประชาธิปไตย

ต่อสู้ยืดเยื้อกันมาเป็นปีๆด้วยสองมือเปล่า และหัวใจอันทระนง เสียเลือดไปก็หลายหยด เสียน้ำตาไปอีกไม่รู้ว่าเท่าไหร่ สู้ไปก็กังวลไป มองไปข้างหน้ามีแต่ความมืดมน ผ่านด่านนี้แล้วด่านหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผ่านไปกี่ด่านต่อกี่ด่าน ก็ยังไม่รู้ว่ายังมีอีกกี่ด่านรออยู่ข้างหน้า

เหมือนการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เต็มไปด้วยความท้อแท้สิ้นหวัง ได้แต่ปลอบประโลมกันเอง ให้มีแรงใจที่จะต่อสู้ฟันฝ่าต่อไป ไม่มีใครรู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่าเราต้องสู้ สู้ และสู้อย่างเดียว หลังจากนั้นก็สุดแล้วแต่ฟ้าจะลิขิต

ยังจำได้ว่า พวกเราต้องต่อสู้อย่างเดียวดาย โดยไร้ผู้นำมานานเกือบปี กว่าที่ลุงหมักจะประกาศเข้ามาถือธงให้พวกเรา นับเป็นการเข้ามาที่ถูกที่ถูกเวลาอย่างยิ่ง ทำให้พวกเราฮึกเหิมขึ้นมาเต็มที่ เหมือนสายฝนพร่างพรมลงมา รากหญ้าที่เหี่ยวเฉาก็พลันระบัดใบขึ้นมาอีกครั้ง

และลุงหมักก็ไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง การต่อสู้อันมีลุงหมักเป็นผู้นำทัพ ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างเหลือเชื่อ ทุกคนมอบความไว้วางใจให้ลุงหมัก เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเราก็ไม่หวั่นไหว เพราะมั่นใจว่าลุงหมักจะจัดการคลี่คลายให้ได้จนหมด

และผลสุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่าสวรรค์ยังมีตา ทำให้พวกเราได้มีวันนี้จนได้ วันที่ลุงหมักได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ คือวันประกาศชัยชนะของพวกเรา เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ที่มีเหนือฝ่ายเผด็จการ

ถึงแม้ว่าจะยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญ นับจากนี้ไปก็เหลือแต่เพียงว่า เราจะรักษาชัยชนะอันหอมหวานนี้ไว้ได้อย่างไร และเราจะต่อยอดให้เป็นชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้แค่ไหน

ฟ้าหลังฝนช่างสดใสมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก สิ่งสกปรกชั่วร้ายถูกสายฝนชะหายไปจนเกลี้ยง หายใจหายคอก็เต็มปอด มองไปทางไหนมันสดใสซาบซ่า พี่น้องเราก็ยิ้มแย้มแจ่มใส หันไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เราไม่ได้เห็นมากว่าปี

จริงอยู่ว่าเชื้อชั่วมันไม่เคยตาย ข้อนี้พวกข้าก็เตือนกันเองอยู่เสมอ ขอให้ลุงวางใจได้ ลุงก็ทำหน้าที่ของลุงไป พวกข้าก็ยังทำหน้าที่ของพวกข้าต่อไป ลุงรุกไปข้างหน้า พวกข้าจะคอยระวังหลังให้ ไม่ต้องเป็นห่วง พิงหลังมาได้เลย ไม่ต้องกลัวหงายเก๋ง

ทางด้านการเมือง ลุงก็คงต้องรับบทโต้โผใหญ่ซะเอง ใครเล่นการเมืองมาลุงก็เล่นการเมืองกลับไป ให้มันสมน้ำสมเนื้อ พอสมควรแก่เหตุ ทางด้านเศรษฐกิจก็ให้คุณมิ่งกะหมอเลี๊ยบจัดการไป พวกใต้ดินกับมือที่มองไม่เห็น คงต้องพึ่งดร.เฉลิม ซีไอเอของเราจัดการ

พวกสื่อเลวๆมันต้องเจอพวกข้า ลุงอย่าไปด่าพวกมัน จะเสียผู้ใหญ่ซะเปล่าๆ ไว้เป็นธุระให้พวกข้าด่าเอง เวิร์คกว่ากันเยอะ เรียกว่าการเมืองภาคประชาชน เอาไว้ปราบพวกกุ๊ยข้างถนนโดยเฉพาะ รู้ๆกันอยู่ว่าพวกมันไม่ปล่อยให้ลุงได้ฮันนีมูนแน่ ยังไม่ทันไรพวกมันก็เริ่มตุ๊ยท้องอย่างเอาเป็นเอาตายกันแล้ว

โลกเรานี่มันก็ประหลาด ขนาดว่าลุงประกาศจบชีวิตการเมืองในตำแหน่งส.ว.แล้วเชียว พวกมันยังหาเรื่องป่วน จนสุดท้ายลุงเลยต้องมาจบชีวิตการเมืองในตำแหน่งนายกฯ เล่นเอาพวกอิจฉาตาร้อน แทบจะชักตาตั้งตายไปต่อหน้าต่อตา

วันก่อนเห็นพวกมันส่งเสียงกรีดร้องโหยหวลอย่างน่าสมเพช คร่ำครวญว่าหากรู้สักนิดว่าจะเป็นอย่างนี้ จ้างให้วันนั้นพวกมันก็จะไม่ไปไล่น้าแม้วให้โง่

วาสนาคนเรานี่มันก็แปลก คนไม่อยากได้ใคร่ดี จู่ๆบุญก็หล่นทับตีนบวม แต่ทีคนที่มันอยากได้กลับไม่ให้เป็น ขนาดว่าลงทุนดิ้นรนจะเป็นจะตาย เอามันทุกท่า ขอนายกฯม.7 ก็แล้ว บอยคอตเลือกตั้งก็แล้ว สุมหัวกับพวกกุ๊ยป่วนประเทศก็เอา

ทำประเทศชาติเสียหายวินาศสันตะโร ยอมเป็นลูกไล่ให้ทหาร รับความอนุเคราะห์ทุกอย่าง โกงมันทุกท่าเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยคิดอายฟ้าอายดิน แต่สุดท้ายก็...แห้ว...

สุดท้ายนี้ก็ขอถือโอกาสแสดงความยินดีกับตำแหน่งนายกฯของลุงอย่างเป็นทางการ เมื่อเป็นนายกฯแล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งใหม่ให้ได้โดยเร็วนะลุง ก่อนอื่นคงต้องหัดพูดจาภาษาดอกไม้ เป็นนิวหมักให้อึ้งกิมกี่กันไปเลย

อีกอย่าง ลุงจะ้ไปหิ้วตะกร้าทำกะเปิ้บกะป้าบอยู่แถวตลาดอตก. เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนา พลาดท่าพลาดทาง เดี๋ยวพวกมันส่องเอาละเป็นเรื่องแน่ ยิ่งพวกมันยังทำใจไม่ได้อยู่ด้วย ใครจะไปรู้ว่าจะบ้าเลือดเอาเมื่อไหร่

วันก่อนเห็นเฒ่ายุทธแกซ้อมยิงหนังสติ๊ก ท่าทางขึงขังเหมือนพวกเด็กเหลือขอ แล้วก็อดเป็นห่วงลุงไม่ได้ ถ้ายังไง ช่วงนี้ไปไหนมาไหน ลุงใส่หมวกกันน็อคไว้ก่อนจะดีกว่า ข้าว่านะ เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้หน่อยก็ดี

แต่เอ...ตั้งแต่หันมาเห่อลุงหมักนี่ พวกเราชักจะลืมๆน้าแม้วไปแล้วนะนี่ ไม่รู้ว่าแกจะน้อยใจหรือเปล่า...

วโรทาห์: 30 ม.ค. 51

No comments: