Friday, February 1, 2008

ลาก่อนลุงยุทธ... แล้วอย่ากลับมาอีกหละ !!!

เป็นอันว่าเก็บฉากลาโรงไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับจำอวดคณะขิงแก่พาเพลิน ที่เปิดการแสดงเก็บเงินมาปีครึ่ง เล่นเอาคนดูกระเป๋าฉีกไปตามๆกัน ดีที่ยังไม่ทำให้แกลบขึ้นราคา เลยยังได้พอประทังชีวิตไปวันๆ

ย้อนกลับไปตอนเปิดวิกใหม่ๆ แหม..ออกแขกกันซะใหญ่โต ไม่รู้หน้าไหนสะเออะออกหน้ามารับรองว่า ยกมือไหว้ได้สนิทใจ เรารึก็เดาแทบตายว่าใครหว่าที่ไหว้ได้สนิทใจ นึกไปนึกมาตั้งนานถึงได้ถึงบางอ้อ อ้าวเวร มันจะไปเอาหลวงพ่อคูณมาเป็นนายกฯซะแล้ว

พอเปิดม่านออกมา อะจึ๋ย..นึกว่าใคร ลุงยุทธนี่เอง เดินตัวตรงแหน็วยังกับหุ่นยนต์ ออกมาจากหลังโรง แม่ยกขานรับกันเจี๊ยวจ๊าว ไฮซ้อนั่งดูข่าวการปล่อยตัวทางทีวี ถึงกับน้ำตาซึม ยกมือไหว้ทีวีเพื่อทดสอบ แล้วก็ต้องสะดุ้งแทบตกเก้าอี้ เมื่อมีเสียงร้องลั่นมาจากในครัว

"คุณนายขา..แมลงสาบ" พอหันขวับไปดู กลายเป็นคุณแจ๋ว กำลังตั้งหน้าตั้งตากระหน่ำตีแมลงสาบอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงได้แต่กัดฟันกรอด แล้วคำรามอยู่ในลำคอว่า

"ร้องเข้ากับบรรยากาศเชียวนะเมิง"

ลุงแกมาถึงก็ท่องบ่นคุณธรรมจริยธรรมจ๋อยๆ ไปตามเรื่องตามราวของแก เพราะทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็น แต่พอใครทักว่าแก่เท่านั้นแหละแกสวนโครม บอกถึงแก่ก็แก่ขิงโว้ย ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด มีไรเปล่า

พอเริ่มงานจริง หยิบจับอะไรไม่เป็นซักอย่าง พวกเลยอำเอา พาไปไหว้โจรเฉย ปะเหลาะหน่อยว่าเป็นการแสดงความกล้าหาญ เดี๋ยวโจรมันก็ให้อภัยเองแหละ แกก็ตาลุกตาโปนตั้งแต่นั้นมา

ในเมื่อกล้าแหกตา แกก็กล้าเชื่อ ดั้นด้นลงใต้ไปไหว้โจรปะหลกๆ แถมเงินให้อีกหลายอัฐ แต่ไม่ใช่เงินแกนะ เงินภาษีประชาชนเราๆนี่แหละ โจรรับเงินเสร็จก็ออกมายิงชาวบ้านต่อ เล่นเอาลุงแกพูดไม่ออก ได้แต่ทำหน้ามึนไปวันๆ ไม่พูดถึงเรื่องโจรใต้อีกเลย

สไตล์การทำงานลอกแบบมาจากชวน-ปากกระแจะเด๊ะ ซึ่งก็ก็อปมาจากซือแป๋เฒ่าอีกต่อนึง คืองานการไม่ทำ ใช้วิชาตัวเบาลอยตัวเหนือปัญหาลูกเดียว ลูกน้องขิงเลยได้โอกาสออกงิ้วกันสนุกสนาน เจี๊ยวจ๊าวยังกับลิงศาลพระกาฬ

แรกๆเลย หมอหัวล้านดูเหมือนจะมาแรงที่สุด โห..ฟิตจัดยังกับโด็ปยาบ้ามาล็อตใหญ่ สั่งร้านค้าเก็บบุหรี่ซุกหมด เหล้ายาห้ามโฆษณาตลอด 24 ชั่วโมง กะว่าจะทำเป็นเมืองคุณธรรมว่างั้นเหอะ สุดท้ายเจอชาวบ้านเฉ่งซะ เป๋ไปทั้งหัวหน้าลูกน้อง เลยเงียบไปได้พักใหญ่ แต่อย่าหวังว่าจะเข็ด

เห็นอีกที โน่น.. ไปเย้วๆอยู่กับพวกประเทศยากจนแถวอาฟริกา ตะโกนด่าร้านขายยาเหย็งๆ ขู่กรรโชกจะเอายาเอดส์ฟรี ให้เหตุผลว่าไทยก็เป็นประเทศยากจนเหมียนกัน เล่นเอาคนไทยอายม้วน จากที่เคยเดินยืดอกสมัยน้าแม้ว กลายเป็นต้องมาเอาหน้ามุดดินสมัยลุงยุทธไปฉิบ

ถ้าแค่นี้ว่าเจ๋ง แสดงว่ายังไม่รู้อะไร ที่เข้าตากรรมการจริงๆ ต้องยกให้ขิงอุ๋ย ขานี้ตีนต้นแรงอย่าบอกใคร มาถึงก็แย็บซ้ายแย็บขวาอุตลุด ไม่ให้โอกาสฝ่ายตรงข้า่มได้ตั้งตัวติด เป็นนักมวยอันตรายประเภทไฟ้เต้อร์ แขนขายาวแล้วแถมยังหมัดหนักยังกับตะลุมพุก

เคยพลาดไปโดนหน้าลุงยุทธจังๆก็หลายครั้ง แต่ยังทำอะไรแกไม่ได้ ด้วยความที่หน้าแกทนเหลือหลาย จนกระทั่งมาเจอหมัดเด็ดล่าสุด เล่นเอาลุงยุทธถึงกับก้นเตี้ย แทบร่วงลงไปกองกับพื้น ดีว่าสื่อไม่ตามน้ำ ไม่งั้นคงได้เรียกปอเต๊กตึ้งมาเก็บศพ

เรื่องของเรื่อง น้าอุ๋ยแกกลัวน้อยหน้าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เลยคลอดโปรเจ็คท์ใหญ่ 30% สำรองทุกบาท เท่านั้นแหละได้เรื่อง หุ้นทุกตัวพุ่งปรี๊ด หัวทิ่มดิ่งเหว แดงเถือกทั้งกระดาน นักเล่นหุ้นเผ่นอ้าว หนีตายกันอุตลุด พอตั้งตัวได้ก็หันมาสรรเสริญบรรพบุรุษ เรียงแถวหน้ากระดานไม่เว้นหัวหงอกหัวดำ

เจอหมัดนี้เข้าไปเต็มๆ ทำให้ขิงเฒ่าเหลืออด ออกโรงมาจวกน้าอุ๋ยให้น้อยๆหน่อย แถมทิ้งท้ายว่า ถ้าอุ๋ยจะอยู่เฉยๆมั่ง พี่ก็จะไม่ว่าอุ๋ยเป็นง่อยหรอกนะ เออ..พูดงี้ค่อยสบายใจหน่อย ขิงอุ๋ยเลยจัดการเข้าเกียร์ว่าง ตามแบบอย่างอันดีงามของขิงอื่นๆเขา

เจอลูกบื้อ เข้าเกียร์ว่างตลอดของสารพัดขิง อาบังก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ได้แต่นั่งงงเต็ก เหมือนขับรถที่ไม่มีพวงมาลัย เกียร์ก็ไม่ต้องหา เบรคก็โบ๋เบ๋ เหยียบวืดๆ มีแต่แตรให้อย่างเดียว บังเลยได้แต่กดแตรปิ๊นๆข่มขวัญชาวบ้านไปเรื่อย แต่รถมันจะหยุดมันจะไป หรือเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา มันก็เรื่องของรถ บังไม่เกี่ยว

แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าใครจะประนามว่าลุงยุทธไม่มีผลงาน เห็นว่าไม่น่าจะยุติธรรมกะแกนัก ดังที่นักปราชญ์ว่าไว้ การไม่ทำงานก็คือการทำงาน ในบางสถานการณ์ไม่ทำงานซะ ยังจะดีกว่ากันเยอะเลย

ก็ลองคิดดูสิ ถ้าลุงยุทธเกิดฟิตจัดขึ้นมา ไล่บี้ขั้วอำนาจเก่าแบบหน้ามืดตามัว อย่างที่พวกมารมันต้องการละก้อ บ้านเมืองไม่เละเป็นโจ๊กเรอะ ป่านนี้ประเทศไทยคงเกิดสงครามกลางเมืองไปเรียบร้อย สถานการณ์เลวร้ายบานไม่หุบ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง

แล้วอีกอย่าง ว่าก็ว่านะ ให้เทวดามาบริหารก็ท่าจะไม่รอด เพื่อนเล่นห้ามประชานิยม ห้ามสานต่อนโยบายเดิม ห้ามคบหาต่างชาติ ห้ามประชาชนจับจ่ายใช้สอย ท่องไว้อย่างเดียว พอเพียงๆๆๆ โห..ถ้าเศรษฐกิจเดินได้ก็แปลกแล้วแหละ

แล้วถ้าสมมติเล่นๆนะ เกิดซวยๆขึ้นมา ลุงยุทธฝีมือไร้เทียมทาน บริหารประเทศไปโลด ติดลมบนฉิวๆ คงดูไม่จืดแน่ เผด็จการเป็นได้ผยองไม่เลิก เพราะเป็นประเทศเดียวที่พิสูจน์ได้ว่า เผด็จการดีกว่าประชาธิปไตย ทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดีแบบยั่งยืน ก็ตัวใครตัวมัน เผด็จการจงเจริญ

สุดท้ายกรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง ผู้ที่มีส่วนในการโค่นล้มประชาธิปไตย ก็เริ่มมีอันเป็นไปทีละคนสองคน ลุงยุทธเองก็ไม่มีข้อยกเว้น อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องมาเสีย 2 เด้ง ฝ่ายประชาธิปไตยก็เกลียด ฝ่ายเผด็จการก็ชัง

เอ้า... ที่แล้วมาก็แล้วกันไป ใครก่อกรรมก็รับกันเอาเอง ดูอย่างอาบังตอนนี้ก็แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ลื่นไหลมุดรูหนีลูกเดียว คนอื่นๆก็แตกกระสานซ่านเซ็น ตอนนี้สื่อต้องออกหน้ามารับไม้ต่อจากเผด็จการ แต่คงยื้อได้อีกไม่นานหรอก สื่อก็สื่อเหอะ เดี๋ยวได้เจ๊งกันอีกฝูงใหญ่เป็นแน่แท้ ทำมาล้อเล่นกับพลังประชาชน

ที่พูดมาทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่าจะมายกย่องเชิดชูขิงเฒ่าหรอกนะ เพราะส่วนเสียแกก็อื้อซ่า อย่างเรื่องด่าน้าแม้วนี่แกด่าได้ด่าดี ไม่รู้เป็นบ้าอะไร ขนาดว่าตระเวณไปด่าให้ต่างชาติฟังก็เอา เห็นเขายิ้มแหยๆ ลุงแกนึกว่าเค้าเห็นด้วยเลยใส่ฉอดๆๆ ไม่มียั้ง

หารู้ไม่ว่า ลับหลังเค้าไปคุยกันว่าตานี่ท่าจะบ้า มาด่าพวกตัวเองให้เราฟัง บ้านมันใครจะโกงใคร ดีชั่วยังไงมันเกี่ยวอะไรกะตูวะ นี่แหละน้าคนเรา อยู่แต่ในกะลามาชั่วชีวิต แหกตากันเองมาตลอด พอออกไปสังคมข้างนอก ทำสะเหร่อยังไม่รู้จักว่าน่าอาย

เอาเถอะ.. ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ถือซะว่าลุงยุทธแกรักษาการนายกฯ ไว้ให้ลุงหมักก็แล้วกัน ถือว่าชั่วก็มี ดีก็ไม่น้อย เอาเป็นว่าหยวนๆเจ๊ากันไปแล้วกัน แต่วันหน้าวันหลังอย่าหวนมาอีกล่ะ

ควันหลงจากวันส่งมอบงาน ลุงยุทธถือแฟ้มเอกสารไปส่งมอบให้ลุงหมักถึงโต๊ะทำงานนายกฯ ลุงหมักที่กำลังฟิตก็เปิดแฟ้มออกดูทันที แต่แล้วก็ต้องผงะหงาย

"เฮ้ย เอกสารหายไปไหนหมด" ลุงหมักตกใจร้องลั่น แต่ลุงยุทธกลับนั่งยิ้มเฉย ไม่ได้แสดงสีหน้าอาการแปลกใจแม้แต่น้อย

"มีแค่นั้นแหละพี่" แกตอบด้วยเสียงราบเรียบ

"กระดาษเปล่าๆ แผ่นเดียวนี่อ่ะ่นะ" ลุงหมักถามย้ำให้แน่ใจอีกที ลุงแกเลยยิ้มเจื่อนๆเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าโขมยช็อคโกแล็ตในตู้เย็นไปกิน แล้วสารภาพเสียงอ่อยๆว่า

"ครับพี่.. ผมไม่ได้ทำอะไรเลยพี่...แฮ่ะๆ..."

วโรทาห์: 1 ก.พ. 51

No comments: