Thursday, December 25, 2008

นายกฯกาลกิณี ไปถึงไหน ซวยถึงนั่น

กลายเป็นตัวกาลกิณีไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับท่านนายกฯอภิสัทธิ์.. ไม่ใช่สิ บารมีท่านซะขนาดนั้น คงต้องเรียกว่า พณฯ อภิมหาสัทธิ์ มันถึงจะถูก ก็บอลเขาแข่งกันดีๆ ผ่านเข้ารอบชิงมาฉลุย ไม่มีปัญหาแท้ๆ จู่ๆลูกเขยยายเนียน ดันฉวยโอกาสมาหาเสียง เข้าไปช่วยลุ้นในสนามราชมังคลา นัดแรกก็พาซวยกันไม่เลิก เจ๊งชัยกันระเนระนาด

ไม่ เชื่อก็ต้องเชื่อ ตั้งแต่ปล้นตำแหน่งนายกฯมาได้ ลางร้ายก็เริ่มปรากฎให้เห็นจะๆกะตา อย่างวันแรกที่เข้าทำเนียบ ยังไปทำซวยตอนไหว้ศาลพระภูมิ งานนั้นเล่นเอาช้างของพระภูมิท่าน ตกแตกชิบหายหมด

นี่ขนาดว่า ก่อนแข่งฝ่ายไทยฟอร์มดีกว่าเวียตนามเยอะ เรียกว่าเป็นต่ออยู่หลายขุม ถ้าเป็นมวยก็ชนะกันแบเบอร์ เชื่อโอเลี้ยงกินได้ เดี๋ยวมีคนมาตามจ่าย แต่ที่ไหนได้ ไม่รู้มันไปเชียร์ท่าไหน แค่ครึ่งแรกฝ่ายไทย ก็รับประทานไข่ไป 2 ฟอง เล่นเอาพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปตามๆกัน

จะไม่เอาก็ไม่ได้ เพราะมันเล่นเลี้ยงเดี่ยว เข้ามายิงยัดใส่แสกหน้ากันดื้อๆ ชนิดที่วงการทหารเขาเรียกว่า เป็นภารกิจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงแม้ครึ่งหลัง ฝ่ายโน้นเขาจะคืนกำไรมาให้ 1 ลูก แต่สรุปแล้วก็ยังแพ้หมดรูปอยู่ดี งานนี้เล่นเอาท่านต่อถึงกับวงแตก ต้องชักดาบค่าโอเลี้ยงกันหน้าด้านๆ ก็คนมันไม่มีจ่ายน่ะ จะให้ทำยังไงได้

แต่ ช้าก่อน ถ้าเวียตนามคิดว่าจะคว้าชัยออกไปง่ายๆ แสดงว่ายังรู้จักพี่ไทยน้อยไป งานนี้มีแววว่าจะต้องลุ้นกันถึงฎีกา เพราะจากภาพถ่ายในสนาม แสดงให้เห็นกันตำตา ว่าตอนที่ยิงประตู นักเตะตระกูลเหงียน ดันหันก้นให้คนดู

อะไรไม่ว่า วงการโคตรเซียนกระซิบกระซาบกันให้แซด ว่างานนี้เราเจอไส้ศึกเข้าไปเต็มเปา เพราะรู้ทั้งรู้ว่าทำซวยมาหลายงาน ยังอุตส่าห์เข้าไปนั่งดู นี่แสดงว่าตั้งใจ ยิ่งเมื่อสืบสายสาแหรกไปถึงต้นตระกูล ก็ยิ่งชัดใหญ่ เพราะนายกฯของเราดันสืบเชื้อสาย มาจากตระกูลเหงียนซะได้ มิน่าล่ะ ที่ผ่านมาถึงได้เหงี่ยนน่าดู

ดูบอลไทยแข่งกับเวียตนามแม็ทช์นี้ ทำให้อดนึกย้อนไปถึงคู่กัด ระหว่างประชาธิปัติย์กับไทยรักไทยในอดีตไม่ได้ เพราะว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันก็เหมือนกับตอนนี้ ที่ประชาธิปัติย์เป็นต่อชนิดสุดกู่ เรียกว่าวงการต่อรองไม่ให้ราคากันเลยทีเดียว แต่หลังจากผลการแข่งขันปรากฎออกมา กลับกลายเป็นว่า พรรคแมลงสาบเอง ที่กู่ไม่กลับจนถึงทุกวันนี้

ขนาดว่า ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ จัดทั้งม็อบปอบเหลือง ประสานพลังกับพวกกุ๊ยเขียว ขนทั้งระเบิดทั้งปืนออกมาช่วยกันแล้ว ยังเอาไม่อยู่ โดนฝ่ายประชาชนยันเอาหงายเก๋งไปหลายยก ดีที่ว่าเป็นมวยอึดหน้าทน เลยตามตื๊อตามป่วนไม่เลิก จนสุดท้ายมาได้ตาชั่งจับมัดมือชก ถึงได้นั่งเก้าอี้นายกฯ สมกับที่เงี่ยมมานานแสนนาน

เอาเถอะ ไหนๆบอลก็แพ้ไปแล้ว แต่ตัวซวยก็ยังอยู่ดีมีสุข ถ้าจะถือโอกาสนี้ จำไว้เป็นบทเรียนก็คงดีไม่น้อย ในเมื่อบุพการีไม่ได้สอนมา ก็ต้องมาเรียนรู้เอาเอง กีฬามีแพ้มีชนะ พลิกคว่ำพลิกหงายกันได้เป็นธรรมดา แต่ถึงยังไงก็ต้องอยู่ในกติกา ไม่ใช่ถือกติกูมันยันเต

เป็นนักกีฬา มันต้องมีสปิริต ยามชนะก็อย่าออกอาการลิงโลดให้มากนัก ประเภทดีใจจนต้องส่งเอสเอ็มเอส ไปโพนทะนาให้ชาวบ้านรู้ว่า ข้าได้เป็นนายกฯแล้ว มันก็เกินไป ยิ่งยามแพ้นี่ยิ่งสำคัญใหญ่ นักกีฬาที่ดี มันต้องแพ้ให้เป็น ไม่ใช่แพ้แล้วพาลพาโลโฉเก เผาบ้านเผาเมืองจนวอดวาย วินาศสันตะโรไปหมด

ที่สำคัญอีกอย่าง ต้องเรียนรู้ที่จะหักห้ามความอิจฉา อย่าให้โจ่งแจ้งออกมานอกหน้าจนเกินงาม จะฝืนใจยังไง ก็ต้องแสดงความยินดีกับผู้ชนะให้ได้ ไม่ใช่ยืนหน้ามุ่ย ปล่อยให้ผู้อาวุโสกว่า ต้องเดินมาหาเพื่อขอจับมือ..นี่ถือว่าสอนให้ฟรีๆ ไม่คิดค่ายกครูเหมือนอีตาจรัญนั่น ก็เพราะไม่อยากให้เป็นนายกฯเถื่อนๆไปอย่างนี้ ถือซะว่า...

ทำหน้าที่แทนพ่อแม่นายกฯซักครั้ง มันก็เก๋ไปอีกแบบ

วโรทาห์: 25 ธ.ค. 51

5 comments:

Anonymous said...

สะใจมากกกกกกกกกก

นายกฯ ไทยนี่ตัวซวยจริงๆ ไปที่ไหน ฉิบหายที่นั่นเลย

Anonymous said...

สวัสดีค่ะ
แล้วนี่มันจะพากันซวยไปถึงใหนคะเนี่ยะ
เป็นห่วงพวกเสื้อแดงจังเลย
ไม่รู้ว่าจะมีน้ำอดน้ำทนกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
อย่าลืมว่าพวกเสื้อเหลืองมันทนได้
เพราะมันมีแรงที่มองไม่เห็นหนุนนะคะ

แล้วพวกที่เรียกตัวเองว่ารากหญ้าที่มีแต่
แรงกายและแรงใจนี่ไม่รู้ว่าจะทนได้สักกี่มากน้อย

เป็นห่วงจริง ๆ ค่ะ

Anonymous said...

ท่านวโรทาห์ค่ะ พี่ว่าคนมันแปลก สงสัยว่ามันจะไม่ได้เกิดมาแบบเรา ๆ เกิดกัน ดูมันคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา ทั้งด้าน ทั้งโกง หรือมันมีอำนาจมานานจนคิดว่า เป็นเรื่องปกติ รอบนี้ทำใจไม่ได้ จริง ๆ

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่ คุณวโรทาห์
ติดตามอ่านบทความหยิกแกมกัดของคุณวโรทาห์มาพอสมควร
เห็นคุณหายไปนาน ก็เข้ามาโพสเพื่อเป็นเสียงหนึ่งที่จะบอกกับคุณว่า มีคนติดตามอ่านบทความของคุณนะ
และก็โอกาสสวัสดีปีใหม่ ณ โอกาสนี้ซะเลย

หวังว่าคงจะมีบทความ insider มาให้อ่านเพื่อหล่อเลี้ยงสติปัญญากันอีกนะ

Unknown said...

มาถึงวันแรงงาน2553เรายังสู้กับอำมาตย์ เรียกขานตัวเองว่า.ไพร๋.พวกไพร่รากหญ้าได้สละชีพสังเวยไปแล้วกว่ายี่สิบร่าง เสื้อแดงแกร่งขึ้นมาก ฝ่ายผู้ปกครองเพลี่ยงพล้ำรายวัน แต่..ต้องไม่ประมาท เราต้องชนะ