กำลัง มันหยดติ๋งๆ สำหรับภาพยนตร์เกาหลีเรื่องยาว "บันทึกรักคิมชูซอน สุภาพบุรุษมหาขัณฑี" ลากยาวมาถึงตอนที่พระราชาองค์ใหม่ กำลังบ้าอำนาจอย่างสุดๆ สั่งลงทัณฑ์ขุนนางที่ชอบขัดใจอยู่เรื่อย จนงอมพระรามไปตามๆกัน ในขณะที่ขุนพลอยพยักกลับได้ดิบได้ดี อ้างราชโองการออกไล่ยำขาวบ้าน จนกลัวหงอไปทั้งบ้านทั้งเมือง
แล้วก็ เป็นไปตามสูตร ประชาชนที่ไหนจะไปแยกแยะออกว่า ราชโองการอันไหนของจริง อันไหนของปลอมทำเหมือน เลยยกผลประโยชน์ให้จำเลย หันไปแอบด่าพระราชาซะเละตุ้มเป๊ะ
ทั้งหลายทั้งปวงจึงเป็นหน้าที่ของ คิมชูซอน ในฐานะเจ้ากรมมหาดเล็ก ที่ต้องรับหน้าเสื่อเอากระดิ่งไปผูกคอแมว เพื่อปกป้องพระราชาไม่ให้เสื่อมหนักยิ่งไปกว่านี้ ด้วยการออกปากตักเตือนพระราชา ให้ประพฤติตัวอยู่ในทศพิธราชธรรม จนเป็นที่มาของวลีอมตะ "อย่าเป็นพระราชาที่ประชาชนกลัว แต่จงเป็นพระราชาที่เกรงกลัวประชาชน"
แล้วก็ได้ผลตามคาด มหาขัณฑีเจอยำซะเละเทะ ชนิดที่หมอไม่รับเย็บ แถมด้วยอ๊อปชั่นพิเศษ จับโยนออกไปนอกวังอีกต่างหาก..สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกับพระราชา
นี่เป็นรายงานสรุปเหตุการณ์ล่าสุด ที่ออกฉายทางทีวีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรื่องราวต่อไปจะมันเจ๋งเป้งขนาดไหน ต้องไปลุ้นระทึกเอาทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตอนเย็นย่ำโพล้เพล้ แต่ข่าวล่ามาเร็วจากพรรคพวกที่ใจร้อน ซึ่งแอบดอดไปซื้อซีดีมาดู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระซิบบอกมาว่า พระราชางานเข้า สุดท้ายก็โดนวางยาพิษ เรียบร้อยโรงเรียนเกาหลี ไปตามระเบียบ
หนังเรื่องนี้ ถ้าสร้างมาจากเรื่องจริง ก็ทำให้ได้รับรู้ว่า วัฒนธรรมเกาหลีนั้น เขามีการเกรงใจประชาชนมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ชาติอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่สำหรับเกาหลีแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหน ถึงยิ่งใหญ่คับฟ้า ก็ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ทำเป็นมองข้ามหัวประชาชนไป ไม่นานก็จอดไม่ต้องแจว
สำหรับใครหลายคน คงออกมาโวยวายหาว่าขี้โม้ มีที่ไหน พระราชาต้องเกรงกลัวประชาชน มีแต่ประชาชนต้องกลัวพระราชาจนหงอหละไม่ว่า แต่ถ้าคิดให้ซึ้งก็จะพบว่า ทั้งหลายทั้งปวง มันเป็นสัจจธรรม พระเดชทำให้คนกลัวได้ แต่คงอยู่ไม่นาน ผิดกับพระคุณ ที่ทำให้คนรัก ถึงจะไม่เฉียบขาด แต่ก็ตีตั๋วยาว
ก็ลอง ว่าหน้าไหน ไม่ว่าพระราชาหรือสามัญชน ถ้าเกิดบ้าระห่ำลุกขึ้นมาไล่ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว แต่จะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็ว่ากันไปอีกเรื่อง ถึงไม่มีใครจัดการได้ แต่สุดท้ายก็เสร็จพญายมอยู่ดี ดูแต่จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นตัวอย่าง ตอนอยู่ใครๆก็กลัวหงอ แต่พอตายไป เป็นไงล่ะ โดนขุดฮวงซุ้ยซะเละตุ้มเป๊ะ
ถ้า เป็นไปได้ ก็อยากให้ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ไม่ว่าจะในรัฐธรรมนูญ หรือนอกรัฐธรรมนูญ ก็แล้วแต่ ได้หาโอกาสมานั่งดูหนังเรื่องนี้ แล้วฉุกคิดกันบ้าง เผื่อว่าอะไรๆอาจจะดีขึ้น อย่างน้อยที่สุด ก็จะได้สำเหนียกกันว่า แม้แต่พระราชา ยังใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ แล้วพวกท่านเป็นใคร ถึงจะเอาแต่ใจตัวเอง เป็นบรรทัดฐาน
เวรกรรมของคน กะเหรี่ยง ที่ดันเกิดมาในถิ่นกาขาว เลยต้องอาศัยดูหนังชาติอื่น เอามาเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพราะถ้าขืนเปิดไปดูหนังกะเหรี่ยง นอกจากไม่สอนอะไรดีๆแล้ว ยังประสาทจะกินเอาอีกต่างหาก เมื่อเห็นตัวละครไล่ตบตีกัน ตั้งเปิดฉากไปจนยันเก็บฉากม้วนเสื่อ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สังคมกะเหรี่ยง จะตัดสินปัญหาด้วยกำลังลูกเดียว
ทุกครั้งที่ดูหนังเรื่องนี้ ยังอดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมเบื้องหลังชีวิต ของกงกงเกาหลีคนนี้ กับขัณฑีเกาเหลาคนนั้น มันถึงได้แป่เอี่ยเซมๆ อย่างกับโขลกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน เพราะต่างก็อกหักรักคุดมาจากหญิงงาม เลยเสียใจถึงกับตอนตัวเองมาเป็นขัณฑี เพียงแต่ว่าชีวิตหลังจากนั้น ดันกลายเป็นหนังคนละม้วน
จะว่าไปแล้ว ระหว่างเกาเหลากัีบเกาหลี ก็มีดีเหมือนกันอยู่หลายอย่าง ในขณะที่ทางนั้นมี "คิมชูซอน" ทางนี้ก็เต็มไปด้วย "คนซ่อนชู้" และแม้แต่ทางนั้นมี "สุภาพบุรุษมหาขัณฑี" ทางนี้ก็มี...
"สุภาพสตรีมหาบุรุษ"
วโรทาห์: 4 ธ.ค. 51
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
12 comments:
โชคดีทีประเทศไทยของเรามีพระราชาที่ทรงเปี่ยมไปด้วยทศพิธราชธรรม
เศรษฐกิจพอเพียง
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหาร ประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะที่ควร
" เศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy
… คำว่า Sufficiency Economy นี้ไม่มีในตำราเศรษฐกิจ.
จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็นทฤษฎีใหม่
… Sufficiency Economy นั้น ไม่มีในตำรา
เพราะหมายความว่าเรามีความคิดใหม่ …
และโดยที่ท่านผู้เชี่ยวชาญสนใจ ก็หมายความว่า
เราก็สามารถที่จะไปปรับปรุง หรือไปใช้หลักการ
เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกพัฒนาดีขึ้น. "
พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 23 ธันวาคม 2542
" … ขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกิน มีความสงบและทำงานตั้งอธิษฐาน ตั้งปณิธาน ในทางนี้ ที่จะให้เมืองไทยอยู่แบบพอกิน
ไม่ใช่ว่าจะรุ่งเรืองอย่างยอด แต่มีความความพออยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนี้ได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้ …
ฉะนั้นถ้าทุกท่านซึ่งถือว่าเป็นผู้มีความคิดและมีอิทธิพล
มีพลังที่จะทำให้ผู้อื่น ซึ่งมีความคิดเหมือนกัน
ช่วยกันรักษาส่วนรวมให้อยู่ดีกินดีพอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่พอกิน มีความสงบ ไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัตินี้จากเราไปได้ ก็จะเป็นของขวัญวันเกิดที่ถาวรที่จะมีคุณค่าอยู่ตลอดกาล "
พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 23 ธันวาคม 2542
พระราชกรณียกิจที่สำคัญ
แม้ว่าบทบาทของพระมหากษัตริย์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จะลดลง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์ยังคงพยายามปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อ ก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ คือ ทางด้านเศรษฐกิจ ทรงพยายามช่วยเหลือ โดยการส่งเสริมอาชีพ เช่น การทำฟาร์มโคนม พระราชทานความคิดในการประดิษฐ์เครื่องยนต์กลไก ส่งเสริมการเลี้ยงไหม การประมง ป่าไม้ โครงการ เกษตรหลวงที่ดอยอ่างขางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชักชวนให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น มาปลูกพืชผลและดอกไม้ที่จะเป็นประโยชน์กว่า โครงการเกษตรกรรมที่หุบกระพง ประจวบคีรีขันธ์
พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักดีว่า การพัฒนาการศึกษาของเยาวชนนั้น เป็นพื้นฐานอันสำคัญของประเทศชาติจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์จัดตั้งมูลนิธิอนันทมหิดล ให้เป็นทุนสำหรับการศึกษาในแขนงวิชาต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาได้มีทุนออกไปศึกษา หาความรู้ต่อในวิชาการชั้นสูงในประเทศต่างๆ โดยไม่มีเงื่อนไขข้อผูกพันแต่ประการใด เพื่อที่จะได้นำความรู้นั้นๆ กลับมาใช้พัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป นอกเหนือไปจากนี้แล้ว ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการจัดทำสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนขึ้น สารานุกรมชุดนี้ มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากสารานุกรมชุดอื่นๆ ที่ได้เคยจัดพิมพ์มาแล้ว กล่าวคือ เป็นสารานุกรมอเนกประสงค์ที่บรรจุเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นสาระไว้ครบทุกแขนงวิชา โดยจัดแบ่งเนื้อหาของแต่ละเรื่องออกเป็นสามระดับ เพื่อที่จะให้เยาวชนแต่ละรุ่น ตลอดจนผู้ใหญ่ที่มีความสนใจ สามารถที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ได้ตามความเหมาะสมของพื้นฐานความรู้ ของแต่ละคนโดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละสาขาวิชา การอุทิศเวลาและความรู้ เพื่อสนองพระราชดำริ โดยร่วมกันเขียนเรื่องต่างๆ ขึ้น แบ่งออกเป็น 4 สาขาวิชา คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทรงก่อตั้งกองทุนนวฤกษ์ ในมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนริเริ่มในการก่อสร้างโรงเรียนตามวัดในชนบท สำหรับที่จะสงเคราะห์เด็กยากจนและกำพร้า ให้ได้มีสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียนโดยอาราธนาพระภิกษุเป็นครูสอนในวิชาสามัญต่างๆ ที่ไม่ได้ขัดต่อพระธรรมวินัย ตลอดจนช่วยอบรมศีลธรรมแก่เด็กนักเรียน ทั้งนี้ เป็นพระราชประสงค์ที่จะให้เด็กนักเรียน ได้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับการศึกษาควบคู่กันไป อันจะทำให้เยาวชนของชาติ นอกจากจะมีความรู้ด้านวิชาการแล้ว ยังจะทำให้มีจิตใจที่ดี ที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม เพื่อที่จะได้เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติต่อไป ในอนาคต โรงเรียนร่มเกล้า ก็เป็นสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ในหลายจังหวัดที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริ ที่จะให้ทหารออกไปปฏิบัติภารกิจในท้องที่ทุรกันดาร ได้ทำประโยชน์ต่อชุมชน และมีส่วนช่วยเหลือประชาชนในด้านการศึกษา ตามโอกาสอันควร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ทหารจัดสร้างโรงเรียนขึ้นในจังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นต้น เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนสถานศึกษาสำหรับเยาวชน และยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจอันดี ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารที่ไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่นั้นๆ กับราษฎรเจ้าของท้องที่อีกโสตหนึ่งด้วย ซึ่งในการดำเนินงานจัดสร้างโรงเรียน ทางฝ่ายทหารได้ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายศึกษาธิการ เพื่อเลือกสถานที่ตั้งโรงเรียนที่เหมาะสมกับความจำเป็นที่สุด ซึ่งปรากฎว่าราษฎรในท้องที่ที่มีการสร้างโรงเรียน ได้พากันร่วมอุทิศแรงกายช่วยในการก่อสร้าง ตลอดจนอุทิศทุนทรัพย์สมทบเป็นทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงเรียน เพื่อเป็นการโดยเสด็จพระราชกุศลด้วย และเมื่อการก่อสร้างโรงเรียนแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโรงเรียนเหล่านั้น พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า โรงเรียนร่มเกล้า ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งโรงเรียนระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา
ด้านศาสนา
ทรงออกผนวชตามพระราชประเพณี เมื่อ พ.ศ.2495ทรงอุปถัมภ์การทำนุบำรุง ศาสนาทุกด้าน เช่น การสร้างวัดสร้างพระพุทธรูป ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น การทอดกฐิน ผ้าป่า และการบำเพ็ญกุศลต่างๆนอกจากนี้ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกๆ ศาสนาที่ประชาชนนับถือ
ด้านการปกครอง
เนื่องจากฐานะของพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ภายใตัรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีบทบาทโดยตรงทางการเมือง แต่ในทางปฏิบัติทรงเป็นประมุข ทรงเป็นผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นแบบอย่างในการปกครอง ทรงเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชาชน เวลาที่เกิดวิกฤตการณ์หรือ ความไม่มั่นใจในชาติ ดังเมื่อเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ยามที่เดือดร้อนที่สุด ประชาชนก็ไปขอ รับพระราชทานความร่มเย็นจากพระองค์ พระองค์ยังทรงเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนชาวไทยเสมอมา
ด้านการแพทย์
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรตามท้องที่ต่างๆ ทุกครั้ง จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีคณะแพทย์ที่ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากโรงพยาบาลต่างๆ และล้วนเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น โดยเสด็จพระราชดำเนินไปในขบวนอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ครบครัน พร้อมที่จะให้การรักษาพยาบาลราษฎร ผู้ป่วยไข้ได้ทันที นอกจากนั้น ยังมีโครงการทันตกรรมพระราชทาน ซึ่งเป็นพระราชดำริที่ให้ทันตแพทย์อาสาสมัคร ได้เดินทางออกไปช่วยเหลือบำบัดโรคเกี่ยวกับฟัน ตลอดจนสอนการรักษาอนามัยของปากและฟัน แก่เด็กนักเรียนและราษฎรที่อาศัยอยู่ในท้องที่ทุรกันดาร และห่างไกลจากแพทย์ทั่วทุกภาค โดยให้การบริการรักษาโรคฟัน โดยไม่คิดมูลค่าในการแพทย์เคลื่อนที่ สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมวัดทุกแห่ง ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางของชุมชนในชนบท โดยจะพระราชทานกล่องยาแก่วัด เพื่อพระภิกษุใช้เมื่อเกิดอาพาธ และเพื่อแจกจ่ายแก่ราษฎรผู้ป่วยเจ็บ
ด้านการแพทย์ (ต่อ )
ในหมู่บ้านนั้นๆ ส่วนในการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมหน่วยทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ที่ออกไปตั้งฐานปฏิบัติการในท้องที่ทุรกันดาร ก็จะพระราชทานสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ รวมทั้งยารักษาโรคสำหรับใช้ในหมู่เจ้าหน้าที่ และใช้ในการรักษาพยาบาล และเพื่อแจกจ่ายแก่ราษฎรในท้องที่ ที่มาขอความช่วยเหลือ อันจะทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม และประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติการ ได้มีความเข้าใจอันดีต่อกัน รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทางด้านหน่วยแพทย์หลวงที่จะต้องตามเสด็จพระราชดำเนินไป ณ ที่ประทับแรมทุกแห่งนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ใหการรักษาพยาบาลราษฎร ผู้มาขอรับการรักษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใด นอกจากนั้น หน่วยแพทย์หลวงยังจัดเจ้าหน้าที่ออกเดินทาง ไปรักษาราษฎรผู้ป่วย
ด้านการแพทย์ (ต่อ)
ตามหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นผู้แนะนำสถานที่และร่วมเดินทางไปด้วย สำหรับราษฎรผู้เจ็บป่วยรายที่มีอาการหนัก หรือจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจรักษาเพิ่มเติมนั้น ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จพระราชดำเนิน ทำการบันทึกรายชื่อ อาชีพ ที่อยู่ และอาการโดยละเอียด โดยตรวจสอบความถูกต้องกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และมีสำเนาให้รับทราบเพื่อติดต่อประสานงานต่อไป ในการพิจารณาส่งผู้ป่วยไปรับการรักษาต่อ ตามความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจ
Post a Comment