Thursday, December 18, 2008

เรื่องของยายเนียน ที่ชักจะไม่ค่อยเนียนซะแล้ว

เช้าวันนี้ ยายเนียนประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการลืมตาขึ้นดูโลกอีกครั้งหนึ่ง เพียงแค่ยังหายใจอยู่ได้ ก็เท่ากับบวกกำไรให้ชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก 1 วัน ด้วยวัย 84 ปี ถึงแม้จะยังดูเด็กมากเมื่อเทียบกับปู่เย็น แต่ถ้าว่ากันตามมาตรฐานทั่วไปแล้ว ต้องถือว่าเป็นวัยแรกแย้มฝาโลง ที่เข้าใกล้ความตาย จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพญายม

ขณะที่กำลังนั่งมึน อยู่ที่ชานเรือน ยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตต่อไปยังไงดี สายตาที่เหม่อมองไปบนถนนลูกรัง ที่ทอดผ่านหน้าบ้าน ก็ล็อคเป้าเข้าจังเบอร์ที่ลูกหมาตัวน้อยๆ ซึ่งกำลังจะเดินผ่านหน้ายายเฒ่า ไปอย่างเซ็งๆ คาดไม่ถึงว่า ภาพนั้นกลับปลุกอารมณ์คนแก่ให้คึกขึ้นมา อย่าน่าอัศจรรย์

เท้าไวเท่าความคิด ยายเนียนโดดผลุงลงจากชานเรือนอย่างรวดเร็ว ดักหน้าดักหลังเจ้าตูบน้อย ที่เกิดอาการแตกตื่นในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะคว้าคอมับ อุ้มมาเข้าอ้อมอก แล้วลูบหลังลูบไหล่ด้วยความเอ็นดู ถือเป็นลาภลอยแท้ๆ ที่จู่ๆก็มีหมามาสู่ โดยไม่ต้องออกไปตะลอนหา เช่นทุกวันที่ผ่านมา

ยา่ยเฒ่าอุ้มหมาน้อย ขึ้นเรือนไปอย่างลิงโลด แล้วลากกล่องสังกะสีมาเปิด สายตาแสดงอาการลิงโลดอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่จ้องมองไปที่แหวนทองเหลืองจำนวนมาก ที่สุมกองอยู่ระเกะระกะ ค่อยๆเลือกสรร จนกระทั่งได้อันที่เหมาะเหม็งกับข้อเท้าของเจ้าตูบ

แต่แล้ว จู่ๆไม่มีปี่มีขลุ่ย แกก็พรวดพราดลุกขึ้นอย่างแตกตื่น รีบอุ้มเจ้าตูบเข้าไปซุกอยู่หลังฝ้าบ้าน แล้วค่อยๆชะโงกหัวโผล่ออกไปสอดส่องที่ถนนหน้าบ้าน

เสียงรถบุโรทั่ง แล่นโครมคราม ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงบีบแตรปู๊นๆ เป็นสัญญาณว่า รถรับซื้อหมามาแล้ว เจ้าของคือทิดมากที่นั่งยิ้มเผล่ เก๊กหล่ออยู่ในที่นั่งคนขับ คนผู้นี้ จัดว่าเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่หัวโบราณ ที่คนในหมู่บ้านเกลียดยิ่งกว่าขี้

รถนั้นแล่นผ่านหน้า่บ้านไป ไม่ช้าไม่เร็ว มองเห็นตราพระแม่ธรณีบีบมวยผม หราอยู่ข้างรถอย่างชัดเจน นัยว่ามันไปถอดแบบมาจาก การประปานครหลวงที่เมืองกรุง คนขับนั่งดุ๊กดิ๊กๆอยู่ไม่สุข ตลอดเวลา เป็นบุคคลิกส่วนตัว ที่ไม่มีใครยอมเลียนแบบ พร้อมกันนั้นยังส่งยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย กะเรี่ยกะราดไปทั่ว ทำราวกับว่า ตัวมันนั้นหล่อซะเต็มประดา

" ฝากบ้านไว้ด้วยคร๊าบ..ฝากบ้านไว้ด้วยคร๊าบ.." เป็นเสียงตะโกนซ้ำๆซากๆของไอ้จ้อน เด็กเหลือขอท้ายบ้าน ที่ไม่รู้ว่ามันนึกเพี้ยนยังไง มาวิ่งตามดมฝุ่นที่ฟุ้งอยู่ท้ายรถ อย่างไม่ยอมลดละ

"ไปฝากไว้กับก๋งมึงนั่น..กูไม่ใช่ยาม" ทิดมากชะโงกหัวออกมาด่าเช็ด อย่างเหลืออด ด้วยความรำคาญ ที่มีเด็กกะโปโลมาวิ่งตามแหกปากไม่เลิก

วันนี้ไอ้จ้อนมันเป็นบ้าอะไรของมันวะ ยายเนียนรำพึงกับตัวเอง ท่ามกลางฝุ่นสีแดงที่ฟุ้งเข้ามาเต็มบ้าน ขณะที่รถรับซื้อสุนัขควบปุเลงๆผ่านไป อย่างไม่ใยดี ต้องรออยู่ครู่ใหญ่ กว่าฝุ่นนั้นจะค่อยจางลง จึงหันมาบรรจงสวมแหวนทองเหลืองเข้าที่ข้อเท้าเจ้าตูบ ถือเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของคนวัยดึก ที่ได้สวมแหวนหมั้นให้กับสุนัขข้างถนน

" ขอวงหนึ่งซิยาย" เสียงทักดังลั่นขึ้นมาทำลายความเงียบ พร้อมกับใบหน้าอูมๆสีดำปี๋โผล่มาที่ประตู เมื่อผสมกับนัยน์ตาที่เบิกโพลง จนถลนออกมานอกเบ้า มองแว๊บก็รู้ว่าผีเน่าอืดลอยมา เป็นใครไม่ตกใจ สงสัยว่าไม่บ้าก็เมา

ยิ่งยายเนียนขัวญอ่อนด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แกกระโดดตัวลอยจนเกือบทะลุหลังคา ก่อนที่จะตกปุ๊ลงมาเพราะถูกกระชากอย่างจัง จากแรงโน้มถ่วงของโลก บ้านทั้งหลังสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ในขณะที่ปากซึ่งเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติอยู่แล้ว ก็เริ่มด่ากราดอย่างสาดเสียเทเสีย เล่นไปซะหลายชุด จึงค่อยสงบลงได้ กว่าจะเริ่มเอ่ยปากทักทายกัน ตามประสาคนคุ้นเคย

"ไอ้เมือก ไอ้ชิบหาย.." แค่ทักกันพอท้วมๆ ยังไม่ได้พูดอะไรต่อ ก็ถูกขัดจังหวะจากไอ้จ้อน ที่วิ่งกระหืดกระหอบ เข้ามาหาเฒ่าเมือก

"ข้าตะโกนให้แล้ว เอาเงินมาซะดีๆ" ไอ้เด็กเวรมันทำท่าทำทาง อย่างกับนักเลงรับจ้างมาทวงหนี้ อาการอย่างนี้ทำให้เฒ่าเมือกไม่อาจปฏิเสธได้ ต้องล้วงควักไปทั่วตัว จนได้แบ๊งค์ยี่สิบติดหนึบออกมา 1 ใบ ยื่นส่งให้ไอ้จ้อน อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

"20 เองเหรอตา อย่าลูกเล่นดีกว่า ไหนตกลงกันว่า 50 ไง" ไอ้จ้อนโวยลั่น ทำท่าว่างานนี้มันเอาเรื่องแน่

"ก็เองเล่นไม่เนียนเอง ไปโดนทิดมากมันด่ากลับ หักไป 30 จะเอาไม่เอา" เฒ่าเมือกก็ไม่เบา ยื่นคำขาดที่ไม่อาจปฏิเสธ กลับไปเหมือนกัน

"อ้าวเวร.." ไอ้จ้อนสบถออกมา ด้วยสุ้มเสียงที่แผ่วเบา ขณะที่ยื่นมือไปรับแบ๊งค์ 20 อย่างจำยอม เพราะรู้ดีว่า ถ้าไม่คว้าไว้ก่อน อาจจะโดนโกงไปมากกว่านี้

หลังจากนั้นเฒ่าเมือกจึงหันมาเจรจาธุรกิจ กับยายเนียนอย่างมือโปร ก่อนที่จะจบลงด้วยการจูงมือสาวเหลือน้อย ไปที่งานปั้นข้าวเหนียวที่ไร่มันสำปะหลัง

@@@@@@@@@@@@@@@

"... ไม่ลืมวัน ที่ปั้นข้าวเหนียวที่ไร่มันสำปะหลัง และอดที่จะเอ่ยถึงไม่ได้ คือ คุณยายเนียน ที่ได้มอบแหวนวงนี้ ให้ผม และได้หมั้นผมกับคนอีสานไว้" ทิดมากชูแหวนที่สวมนิ้วไว้ตลอดเวลา ขณะที่ส่งเสียงออดอ้อนอยู่ในจอทีวี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง นายกสมาคมคนซื้อสุนัขแห่งประเทศไทย จากผลงานการกว้านซื้อสุนัขจากบุรีรัมย์ มาได้อื้อ

"โถ..พ่อคุณ นึกว่าลืมคู่หมั้นคนนี้ไปซะแล้ว.." ยายเนียนที่ใจจดใจจ่ออยู่หน้าจอทีวี ประทับใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แกร่ำไห้ออกมาอย่างเหลืออด ขณะที่กอดสุนัขตัวน้อยไว้แนบอก

พร้อมกับยกขาหน้าข้างซ้ายของมัน ที่มีแหวนหมั้นทองเหลืองสวมอยู่ตลอดเวลา ขึ้นมาแนบกับแก้มเหิ่ยวๆ ด้วยความซาบซึ้ง...เหนือคำบรรยาย

วโรทาห์: 18 ธ.ค. 51

1 comment:

Anonymous said...

สุดยอดเหมือนเดิมค่ะท่าน พี่ออรั่มเองแหละ วันนี้เมนต์ไป 2 กระทู้ดันลืมรหัสผ่านอีก เลยเข้าไม่ได้