Wednesday, December 17, 2008

ชัยชนะของพรรคประชาวิบัติ บนความพ่ายแพ้ของประชาชน

ออกอาการเซ็งไปตามๆกัน เมื่ออุตส่าห์ต่อสู้มาแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี ต้องจำนนต่อรัฐบาลยัดเยียดแห่งชาติ ที่ได้รับการอนุเคราะห์เป็นอย่างเลว จากระบอบอำมาตย์ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกหมู่เหล่า องค์กรโคตรอิสระทั้งหลาย นักวิชาการชั่ว สื่อเลว และใครๆต่อใครอีกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ จาระไนไม่หมด

และที่ประชาชน จะลืมไม่ได้เป็นอันขาดคือ "นักรบศรีธนญชัย" ที่อยู่ในคราบตาชั่งภิวัฒน์

บันทึก หน้าใหม่ในกินเนสส์บุ๊ค ต้องจารึกไว้ว่า รัฐบาลที่สุดของที่สุดแห่งโลก ได้เกิดขึ้นแล้วเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ไมใช่นายกฯที่หนุ่มที่สุด แต่เป็นนายกฯที่หน้าด้านที่สุด เท่าที่โลกเคยมีมา อีกทั้งสุดยอดแห่งวิชามาร เรื่องชั่วช้าเลวทรามทั้งหลาย และสัตว์ประหลาดทุกสายพันธุ์ บรรดามี ได้มาสุมหัวรวมกันเรียบร้อย ในรัฐบาลนี้รัฐบาลเดียว

ความด้านอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น ทุภาษิตบทนี้ ยังใช้ได้ดีเสมอสำหรับคนหน้าด้าน คำพูดที่ว่า คนหน้าด้านเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริง ในกระบวนยอดฝีมือทั้งหลาย ไม่ว่าจะเก่งกล้าสามารถเพียงใด ไม่มีใครไม่กลัวคนหน้าด้าน เหตุเพราะมันทำได้ทุกอย่าง ที่ไม่มีใครคาดคิดว่า มันจะกล้าทำ

เป็นครั้งแรก ที่เราได้เห็นคนอย่างนายม.7 ออกอาการเหนียมๆ เมื่อทราบผลว่าได้แอ้มเก้าอี้นายกฯแน่นอนแล้ว คล้ายๆกับว่ายังพอมียางอายอยู่บ้าง ไหนๆก็ถึงฝั่งแล้ว ก็ควรจะให้หนังหน้าได้พักซักหน่อย ไม่งั้นอาจจะด้านจนเกินเยียวยา เห็นพูดผ่านทีวีว่ารู้สึกไม่คุ้น ที่มีคนเรียกว่าท่านนายกฯ เลยโดนสวนทันควันจากหน้าจอตู้ว่า กูยิ่งไม่คุ้นใหญ่ ที่จะเรียกคนหน้าด้านว่าไอ้นายกฯ

ท่านอำมาตย์นี่ก็ช่างกระไร ไหนๆก็ด้านได้ถึงเพียงนี้แล้ว จะด้านเพิ่มอีกซักหน่อยจะเป็นไรไป ไหนๆก็ไหนๆน่าจะให้เฒ่าหน้าแหลม เขียนลงไปในรัฐธรรมนวยซะ ให้รู้แล้วรู้รอดว่า พรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องเป็นพรรคที่ก่อตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 ปี แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องมาลากยาว ให้ฉิบหายวายป่วงกัน อย่างเช่นทุกวันนี้ เพราะถึงยังไง ท้ายที่สุดก็ต้องให้พรรค 60 ปี ตั้งรัฐบาลอยู่ดี

ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาอยู่ดีกินอร่อย ภายใต้รัฐบาลกองทัพงูเห่า ที่มีโลโก้ติดตลาดไปซะแล้ว เป็นรูปไอ้ห้อยกับไอ้โหนกอดกันกลม ราวกับพี่น้องแฝดคนละฝา ที่หลงรูหากันไม่เจอมาหลายสิบปี เมื่อได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก จึงต่างโผเข้าจูจุ๊บกันอย่างดูดดื่ม เล่นเอาชาวบ้านแตกตื่นกันทั้งบางนึกว่า "หั้นกอดเกีย"..แต่เดี๋ยวก็เฮี่ยกัดกัน

เมื่อ"หั้นมาเจอเกีย" มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเป็นเบี้ยล่าง ไม่งั้นจะผสมพันธุ์กันยังไง ซึ่งงานนี้ ใครๆก็มองออกว่า "ฮาร์คเมี่ย" ต้องเป็นเบี้ยล่างของ "หิ้นเนเวีย" แต่ถึงขนาดนั้น ยังไม่วายปากหมา หยอดลูกเล่นว่า ผมเป็นเบี้ยล่างของประชาชนเท่านั้น

เป็นอันว่า ต่อไปนี้ไม่ว่าประชาชนจะมีกิน หรือไม่มียัดก็ตาม แต่สาบานได้ว่า จะมีคำพูดสวยหรูประเภทนี้ ให้ได้ฟังกันจนเอียน

เจอ ลูกเข็มขัดสั้นเข้าไปอย่างนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยถึงกับทำใจลำบาก เมื่อเจอไอ้ห้อยเตะลูกเข้าประตูตัวเองเฉย เลยหันมาโวยวายกันใหญ่ แต่ไม่รู้ทำไม ไหงมาโวยกันเองซะฉิบ เสียสปิริตชาวเสื้อแดงหมด บ้างก็ว่า ฝ่ายตรงข้ามมันแอบเนียนมาทำโวย เพื่อให้ผิดใจกัน แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ก็ขอให้ใจเย็นไว้ก่อน บอกแล้วว่าศึกครั้งนี้ มันเป็นมหากาพย์ ต้องออมแรงไว้ซดกันยาวๆ

เกมส์ฟุตบอลตัดสินกันใน 90 นาที แต่เกมส์ประชาธิปไตยไม่มีวันจบ ต้องสู้กันไปข้ามภพข้ามชาติ จนกว่าประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะนั่นแหละ ถึงจะเลิกรา และในตำนานของมนุษยชาติ ประชาชนไม่เคยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพียงแต่ว่าจะชนะเมื่อไหร่ ก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่อง เรื่องล้มลุกคลุกคลานนั้นมีแน่ แต่ถ้าตื้อกันไปให้ถึงที่สุด ยังไง๊ยังไง ประชาชนก็ต้องได้รับการชูมือทุกที

แพ้ ชนะในระหว่างรบ มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ตราบใดที่ยังต่อสู้ ก็ยังมีวันพลิกกลับมาชนะได้เสมอ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยแพ้ซะเมื่อไหร่ จะว่าไปแล้ว เราแพ้มาตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำไป พอลืมตาดูโลก ก็อยู่ภายใต้อุ้งเท้าอำมาตย์ซะงั้น เพียงแต่ว่าเมื่อไม่รู้ตัว เลยไม่รู้สึกอึดอัด เพิ่งมาตาสว่างโร่ ก็เมื่อไม่นานนี้เอง การสงครามจึงเป็นเพียงแค่เริ่มต้น จะรีบเอาชนะคะคานกันไปถึงไหน

เกมส์ ของใคร ก็ออกแบบมาให้ตัวเองได้เปรียบอยู่แล้วเป็นธรรมดา เราอย่าไปเล่นเกมส์เขามันก็หมดเรื่อง ต่อไปนี้ก็ประสานนอกใน บนดิน ใต้ดิน ใครถนัดทางไหน ก็เล่นทางนั้น อย่ารวมกันเป็นกลุ่มก้อน ให้มันกำจัดได้ง่ายๆ ยุทธวิธีอย่างนี้นี่แหละ อำมาตย์กลัวนัก แค่โดนเข้าไปไม่กี่น้ำ ก็ขี้คร้านจะรีบวิ่งโร่มาปูผ้ากราบ หรือออกนโยบาย 66/51 มาเกี้ยเซี้ย

กำแพง ยักษ์ยังอาจพังทลายลงได้ ถ้าถูกเซาะเอาอิฐออกไปทีละก้อน ระบอบประชาธิปไตย อาศัยแค่เสียงข้างมากก็เพียงพอ แต่เผด็จการต้องได้เสียงท่วมท้น ถึงจะพออาศัย จึงไม่แปลก ที่พวกนั้นจะต้องคอยร้องแรกแหกกระเชอ ให้รู้รักสามัคคี มาเป็นขี้ข้าให้อำมาตย์ใช้สอยซะดีๆ ถ้าขืนเอาไว้ไม่อยู่ มีคนคัดค้านเพียงแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ หายนะก็มีหวังมาเยือนเอาง่ายๆ เพราะ...

อิฐที่เซาะออกมา 1 ก้อนจะไปเซาะอิฐข้างๆอีกหลายก้อน จนกระทั่งลามปาม ถึงจุดพังทลายในที่สุด

วโรทาห์: 17 ธ.ค. 51

1 comment:

Anonymous said...

รอบนี้สาหัสจริง ๆ ทำใจยากมาก แทบไม่อยากเข้ามาอ่านเลยทีเดียว ไม่อยากรับรู้อะไรเลย แต่พอผ่านไปไม่ถึง 20 นาที ก็ยิ่งต้องเริ่มงานใหม่ พูด ขยายความให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สงสัยตัดใจเลิกส่งผลงานขอซี9 แล้ว ใจไม่ให้จริง ๆ ค่ะท่าน เรื่องไอ้นายกมันวนขึ้นวนลง จนลมจะใส่เสียให้ได้