Wednesday, May 13, 2009

คิดจะรบกับอำมาตย์ มันต้องฟาดฟันกันทุกมิติ

นับตั้งแต่เกิดปฏิวัติ 19 กันยา มาฉุดให้ประเทศไทยหัวทิ่มบ่อ ติดกึกกักอยู่ในหล่มโคลนลึกจนมิดล้อ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ถนัด ผลของมัน เล่นเอาบ้านเมืองถึงกับบรรลัยวายวอด วินาศสันตะโร กู่ไม่กลับมาถึงทุกวันนี้

แต่ ด้านที่เป็นประโยชน์ก็ใช่ว่าจะไม่มี อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชี ได้รับรู้ถึงพิษสงของอมาตยาธิปไตย หรืออำมาตยาธิปไตย ว่ามันอำมะหิตผิดมนุษย์มนาขนาดไหน

ถ้าจะถามถึงความหมายของคำว่าอำมา ตยาธิปไตย คำตอบที่ได้คงสะเปะสะปะ คนละคุ้งคนละแคว แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ชาวสีแดงส่วนใหญ่ ได้ปักใจเชื่อจนมิดด้ามแล้วว่า อำมาตยาธิปไตยนั้นมันกึ่งหญิงกึ่งชาย อยู่บ้านหลายเสา แถมยังผมขาว และคอเอียง

ความจริงก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะว่าถ้าพูดถึงระบอบ มันก็ต้องว่ากันเป็นแก๊งค์ แก๊งค์อำมาตย์ก็ต้องคู่กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งหมายถึงการปกครองของอำมาตย์ โดยอำมาตย์ และเพื่ออำมาตย์

เป็น ระบอบที่โหลยโท่ยห่วยแตกที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เพราะตั้งหน้าตั้งตาแต่จะปรนเปรอกันเองไม่ลืมหูลืมตา เสวยสุขบนความทุกข์ของราษฎรเป็นอาจิณ จนทั่วโลกเขาลงมือกำจัดทิ้ง ล้างซวยกันจนเหี้ยนเต้ไปเกือบหมดแล้ว

แม้กระนั้น ยังอุตส่าห์มีบางส่วนเดนตาย มาแอบเนียนเกาะกินสังคม อยู่ในประเทศด้อยพัฒนา แล้วเจ้ากรรมดันเป็นประเทศที่เคร่งครัดคุณธรรมจริยธรรม ยิ่งกว่าสำนึกผิดชอบชั่วดีซะอีก

หนำไม่ซ้ำ ทำไปทำมา ดันไปผสมเทียมกับสื่อชั่ว นักวิชาการเลว ลามปามไปมั่วเซ็กซ์กับพรรคการเมืองโฉดอีกต่างหาก เชื้อชั่วเลยกลายพันธุ์ ยกระดับขึ้นไปเป็นชั่วดับเบิ้ลชั่ว กินบ้านกินเมือง สวาปามกันพุงปลิ้น ไล่ไม่ยอมไปอยู่ในเวลานี้

สุดท้ายกลายเป็นงานช้างระดับซุปเปอร์เฮ ฟวี่เวท เมื่อประชาชนดันเกิดมาซวยช่วยไม่ได้ ต้องเสี่ยงตายไปงัดอ้อยออกจากปากช้าง ทั้งๆที่รู้ว่ามันต้องสู้ยิบตาอย่างหมาจนตรอก เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ชาติชั่วเอาไว้ ไม่ให้สูญหายไปจากโลกนี้ อย่างที่ประเทศอื่นเขาเป็นกัน

ลืมไปได้เลยสำหรับคำว่าอหิงสา ถ้าจะใช้กับอำมาตย์ ต่อให้มหาตมะคานธีมาเอง ก็คงมีหวังถูกยิงกลิ้งเป็นลูกขนุน เพราะแม้แต่เจ้าตำรับเองยังยอมรับเลยว่า มันมีข้อจำกัดในทางปฏิบัติ ใช้ได้เฉพาะกับผู้ปกครองที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เปรียบได้กับเด็กที่นั่งตื๊อ จนพ่อแม่ใจอ่อนยอมให้ขนมตามที่ปรารถนา

แต่ถ้าเกิดย่ามใจไปนั่งตื๊อกับมหาโจร รับรองได้ว่างานเข้า ถ้าไม่เจอกระสุนปืนลูกแบล๊งค์ จะยอมให้เหยียบหน้าป๋าหรือแป๊ะก็ได้

ที่ พูดนี่ไม่ได้หมายความว่า การนัดชุมนุมประท้วงโน่น ประท้วงนี่ของชาวเสื้อแดงนั้นไม่ควรทำ เพียงแต่ว่าจะไปหวังเอาเป็นทีเด็ดทีขาดคงจะไม่ได้ แต่ก็สนับสนุนให้ออกมาแสดงพลังกันเป็นระลอกๆ เอาให้พวกมันวิ่งแก้เกมส์กันตาเหลือกแล้วก็เลิกไป พอนานๆทีเห็นว่าพวกมันชักจะว่างมากแล้ว ค่อยเอาใหม่

ก่อนอื่นต้องทำ ใจไว้ล่วงหน้าว่า ศึกนี้มีหวังลากยาวเป็นขบวนรถไฟสุไหงโก-ลก อย่างเร็วก็ตอนที่อ้ายมาร์คมันทำเจ๊งจนเกิดจลาจล ถ้าไม่งั้นอีกทีก็โน่น ตอนที่มัจจุราชลงมือปลิดชีพจอมอสูร เมื่อกองทัพส่วนตัวออกมาละเลงเลือดชิงอำนาจกัน นั่นแหละจะเป็นทีของประชาชน

ดัง นั้นระหว่างนี้จึงควรที่จะฟิตซ้อมไปพลางๆ โดยมุ่งไปที่การขยายมวลชนเป็นด้านหลัก เล่นกันให้ครบทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การทหาร ใต้ดิน บนดิน จัดให้ไปเลยเป็นแพ็คเกจ ใจเย็นๆค่อยทำค่อยไป เหมือนพยัคฆ์ร้ายซุ่มคอยตะปบเหยื่อ โอกาสเปิดเมื่อไหร่ค่อยออกไปได้เสียกัน

ที่สำคัญ ต้องจัดตั้งวอร์รูมให้คอยทำหน้าที่วิเคราะห์สถานการณ์ เอามากำหนดยุทธศาสตร์ แล้วส่งซิกให้มวลชนเดินไปตามแผนใหญ่ การเคลื่อนไหวมันถึงจะมีน้ำหนัก เรียกว่าออกหมัดแต่ละที มันต้องมีเป๋ให้เห็น ไม่งั้นก็สู้ออมมือไว้ ยังจะดีซะกว่า

อย่างการ ปิดบัญชีธนาคารโจรมันก็ดีอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น มันต้องนัดแนะกันทั้งประเทศ ทำพร้อมๆกันให้มันเกิดผลทางจิตวิทยา ถ้าถึงขนาดคนที่ไม่ใช่เสื้อแดง เกิดอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว แห่กันไปปิดบัญชีมั่ง นั่นแหละ มันถึงจะงานเข้า

แล้วอีกอย่าง ถ้าทำไปโดยไม่มีทีมงานหาข้อมูล มาทำการวิเคราะห์ให้ดีซะก่อน เกิดธนาคารกำลังหน้ามืด เพราะมีเงินฝากมากเกินขนาด แต่ปล่อยกู้ไม่ออก การปิดบัญชีแทนที่จะไปสร้างปัญหา เลยกลายเป็นไปแก้ปัญหาให้ศัตรูซะฉิบ

พี่ น้องเสื้อแดงที่ไม่ได้ออกไปร่วมชุมนุมนั่นก็อีก แทนที่จะไปประนามหยามเหยียดกันว่าใจไม่สู้ น่าจะลองค้นคว้าหาวิธีใช้ประโยชน์จากคนกลุ่มนี้ให้ได้ ยังจะเกิดมรรคผลซะกว่า อย่าลืมว่า คนกลุ่มนี้มีมากกว่าคนที่ไปร่วมชุมนุมตั้งหลายเท่า และพวกเขาก็อยากแสดงออก

เพียงแต่ต้่องหาพล็อตเรื่องดีๆ ให้คนเหล่านี้สามารถร่วมกิจกรรมจากที่บ้านได้ เช่นการต่อต้านนายทุนของอำมาตย์ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบอยคอตสินค้า หรือเฉื่อยงาน และอื่นๆ สักแต่ว่าจะคิดกันออกมาได้

เพียงแต่ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วทำกันโดยพร้อมเพรียง ให้เกิดแรงกระเพื่อมจนรู้สึกได้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำอย่างทุกวันนี้

ที่ พูดมาทั้งหมดนี่ ไม่ใช่ว่าจะมายกตนว่าเก่งกาจอะไร เพียงแต่ต้องการช่วยคิดสะกิดเตือน ในฐานะสมาชิกสีแดงที่ดีคนหนึ่ง วัตถุประสงค์ก็เหมือนพลพรรคเสื้อแดงทั้งหลาย คือต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยกำชัยชนะให้เร็วที่สุด แต่เหนืออื่นใด...

ต้องเป็นชัยชนะที่ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อของชาวเสื้อแดง...แม้แต่หยดเดียว

วโรทาห์: 13 พ.ค. 52

No comments: