Thursday, February 19, 2009

เมื่อนายกฯครวญ..อย่าเรียกข้าว่าอาเฮีย

เรียบร้อย โรงเรียนแป๊ะไปแล้ว สำหรับปฏิบัติการ"ฝ่านรกยึดอุดร" ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ ขนาดกลิ่นอุจจาระยังไม่ทันจางหายไปจากหนองประจักษ์ก็ว่าได้ แม้กำลังพลครึ่งแสนจะโดนตำรวจซิวไปถึง 3 คน ที่เหลือก็ยังเกินพอที่จะลุยกันให้ถึงกึ๋น แต่เอาเข้าจริง นับไปนับมา หักขาดสายลาป่วยแล้วเหลือไม่ถึง 2 พัน เลยทำได้แค่กิน-ขี้แล้วกลับ ไม่ต้องลุยต้องเลยมันแล้ว

ไม่น่าเชื่อ ว่าคนที่ออกอาการผิดหวังไม่น้อยไปกว่าแป๊ะ กลับกลายเป็นหลวงตาอรหันต์ ที่สู้อุตส่าห์ทรยศต่อลูกศิษย์ลูกหา ดัดแปลงวัดป่าเป็นฐานทัพ กะว่ายังไงก็ต้องมีการฟาดเข้าให้ อย่างที่ตั้งอกตั้งใจนั่งลุ้นกันจนตัวโก่ง สุดท้าย เมื่อไม่มีการตีกันซักกะเผียะ อรหันต์ภิวัฒน์ที่ลมเสียได้ง่ายๆอยู่แล้ว เลยตบะแตกไม่มียั้ง ออกอาการล้งเล้งฮิพอฮิแม น้ำหมกน้ำหมากกระจาย

รูป การณ์อย่างนี้ วงการต่อรองไม่มีใครเขาให้ราคา ผิดกับสื่อชั่วบ้านเรา ที่ยังมะงุมมะงาหลา กดคะแนนให้จนมือแทบหงิก บอกว่าที่สีเหลืองไม่ถูกตีหัวแบะกลับมา ต้องถือว่าชนะสีแดงอย่างราบคาบ ดูว่าไปนั่น..ช่างคิดกันไปได้

ถ้าจะลุยกันจริงๆ เรื่องแค่นี้ สำหรับฝ่ายเสื้อแดง ต้องถือว่าชิวๆ หนักกว่านี้ยังเจอมาแยะจนขี้เกียจจะนับ ขนาดว่าอำมาตย์ออกอาวุธหนัก ระลอกแล้วระลอกเล่า ต่อเนื่องกันมาหลายปีดีดัก สีแดงยังไม่มีอาการยุบให้เห็นแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับพองเอาพองเอา จนแม้แต่ท่านปุโรหิต ยังต้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ก็ไหนว่าตัดท่อน้ำเลี้ยงทักษิณแล้ว สีแดงจะตายเกลี้ยงไม่เหลือหลอไง แต่ทำไม ทำไปทำมา มันยิ่งตัดยิ่งโต แล้วนี่อำมาตย์จะทำยังไงดี

ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะความโง่มันไม่เคยปราณีใคร ในเมื่อยังมะงุมมะงาหลา หลอกตัวเองไปวันๆ ว่าปัญหาอยู่ที่ทักษิณ ก็คงต้องปล่อยให้โง่กันต่อไป ในขณะที่สีแดงก็โตเอาๆ จนยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ไปซะแล้ว

ขนาดว่าคัดตัวเจ๋งๆ มาลงตำแหน่งสำคัญๆ เพื่อตามล่าตามล้างทักษิณเป็นการเฉพาะ ทั้งองค์กรอิสระ สื่อชั่ว นักวิชาการโฉด พรรคการเมืองเลว ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ยันไปจนตาชั่ง ล้วนแล้วแต่อดีตนักฟุตบอลทีมชาติ ฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์กันทั้งนั้น เรื่องส่งลูก รับลูก ทำชิ่ง ติ๊ดชึ่ง จึงเนียนตาอย่าบอกใคร

แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ ปล้นเอาตำแหน่งนายกฯ ไปประเคนให้หนูมาร์ค คราวนี้เลยสนุกกันใหญ่ รัฐบาลขิงแก่ยังต้องชิดซ้าย เมื่อเจอรัฐบาลลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ละเลงกันจนเลอะเทอะ ปูดโน่นปูดนี่ให้เละเทะไปหมด

กับคิวที่ รตอ. ดร. เฉลิม อยู่บำรุง โยนระเบิดปิงปอง 250 ล้าน ตูมเข้าให้กลางฝูงตะกวด เล่นเอาตัวเงินตัวทองขวัญหนีดีฝ่อ เผ่นกระเจิงไปคนละทิศละทาง เมื่อพลพรรคประชาธิปัด ออกมาปัดกันอุตลุด ดูๆไปเหมือนลิงโดนมดแดงรุมต่อยยังไงยังงั้น ตั้งแต่หัวหน้าพรรค ยันประธานที่ปรึกษาเทกระโถน พร้อมใจกันออกมาประสานเสียงว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน

ก็เพิ่งรู้ว่าประชาธิปัด แอ๊ดเวอร์ไทซิ่ง เขารับทำโฆษณาครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท ผลงานจะฮ้อแร่ดขนาดไหน คงไม่ต้องบอก ก็ขนาดว่าเสี่ยโรงปููน ยังตามจีบติดหนึบ ยิ่งกว่าข้าวเหนียวติดหนับ เขาไม่ให้รับงานใหญ่ ยังอุตส่าห์ซอยยิก ครั้งละล้านแปดล้านเก้า เอาให้ครบ 250 ล้านจนได้ อย่างนี้แล้วจะไม่ให้กกต.สนใจ มันก็เกินไป

เจ๊งสนิท ศิษย์ส่ายหน้า สำหรับการบินไทย "รักมึงเท่าฟ้า" เมื่อข้าวผัดหมื่นกล่อง ที่อภินันทนาการแก่ผู้ก่อการร้ายสากล เริ่มออกอาการผดผื่นคันให้เห็นกันแล้ว หลังจากเจ้าจำปีที่ชูคอโด่เด่มาหลายปีดีดัก กลับออกอาการมะเขือเผาเอาดื้อๆ งานนี้เกจิอาจารย์ต่างออกมาฟันธงกันแล้วว่า ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น

เยือนอินโดฯไม่เยือนไทย ไม่รู้ว่าลุงแซมจะส่งสัญญาณอะไรมาถึงลุงอำมาตย์ อุตส่าห์อธิบายว่า "อาหารดี ดนตรีอร่อย" ยังไม่ฟังกัน ก็ไม่รู้จะว่ายังไง

แม่นางฮิลลารี่นี่ก็เหลือเกิน ถึงแม้ไม่มีใจให้กัน จะแวะมาเข้าห้องน้ำซักหน่อยยังไม่มี อย่างน้อยก็น่าจะรับมุขกันซักหน่อยก็ยังดี เพื่อที่อำมาตย์จะได้ตีปี๊บ เขย่ามือตบให้ดังไป 3 บ้าน 8 บ้าน ว่าดูสิ แม้แต่อเมริกายังเห็นดีด้วย กับการปิดสนามบิน

โง่แล้วโง่เลย ถึงใครจะพยายามช่วยยังไงก็คงไม่หายโง่ไปได้ อยู่ๆอำมาตย์ ก็ดันไปช่วยแยกเนวินออกจากคนเสื้อแดงซะงั้น คราวนี้คนที่รักประชาธิปไตยแต่ไม่รักเนวิน เลยแห่กันออกมาแดงแป๊ด โดยไม่มีอาการเคอะเขิน เมื่อรวมเข้ากับคนรักทักษิณและประชาธิปไตย ผนวกเข้ากับคนรักประชาธิปไตยแต่ไม่รักทักษิณ เลยออกมามืดฟ้ามัวดินอย่างที่เห็นกันไปแล้ว

ล่าสุดยังผลักอ.ใจ ไปเข้าพวกเสื้อแดงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คราวนี้เลยยุ่งกันไปใหญ่ เมื่ออ.ใจฉากแว๊บไปปักหลัก ตั้งป้อมสู้อยู่ที่ลอนดอน ด้วยเครือข่ายส่วนตัวที่กว้างขวางในระดับโลก เลยกลายเป็นกำลังเสริมที่แข็งปึ้กในต่างประเทศ ให้กับชาวเสื้อแดง โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง แม่แต่อีแปะเดียว

นี่ถ้าอำมาตย์โง่น้อยกว่านี้ซักหน่อย หันมาใช้งานทักษิณ แทนที่จะไล่บี้จนเหงื่อแตกอย่างทุกวันนี้ ขี้คร้านอำมาตย์ใหญ่จะยิ่งกว่าพยัคฆ์ติดปีกซะอีก

ปิดท้ายกันที่ข่าวบันเทิงกันดีกว่า เมื่อนายกฯของไทย กำลังจะโกอินเตอร์ ภายใต้บทบาท พระเอกหนังฟอร์มยักษ์ Don't call me hear ในชื่อภาษาไทย อย่าเรียกข้าว่าเฮี่ย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจ จากครั้งไปร่วมงาน ศพ ท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ แล้วได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริก ด้วยคำกล่าวยกย่อง ชนิดที่เจ้าตัวถึงกับออกอาการเขิน เมื่อใครต่อใครในงานต่างพร้อมใจกันสรรเสริญว่า...

อ้ายเฮี่ยๆๆๆๆๆๆ

วโรทาห์: 19 ก.พ. 52

No comments: