Thursday, January 8, 2009

2552 ปีแห่งความซวย กับนายกฯเฮงซวย

ซวย..ซวยจริงๆ ไม่รู้ว่าจะซวยอะไรกันนักกันหนา บ้านนี้เมืองนี้ เห็นทีจะอยู่กันลำบากซะแล้ว หลังจากที่ได้รัฐบาลเฮงซวย ที่มาพร้อมกับนายกฯตัวซวย ชาวบ้านตาดำๆที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เลยต้องรับกรรมกันไปโดยถ้วนหน้า เพียงแค่เริ่มศักราชใหม่มาได้ไม่ถึง 30 นาที ก็เกิดไฟประลัยกัลป์ ล้างผลาญซานติก้าผับ ส่งผลให้นักดิ้นเท้าไฟ บาดเจ็บล้มตายเป็นใบไม้ร่วง

ยัง..ยังมีอีก ถ้ามีเรื่องแค่นั้นยังถือว่าไม่ซวยพอ ต้องตามมาด้วยเรือล่มทั้งๆที่ยังไม่จอด สลับดอกด้วยไฟไหม้ที่โน่นที่นี่อีกเป็นระลอกๆ และทุกงานต้องมีตายกันเป็นเบือ มันถึงจะซวยมหาซวยของจริง ก็ขนาดยายเนียมที่ว่าแน่ๆ แต่ดันพลาดท่าไปเล่นกับของซวย ยังต้องซวยเข้าขั้นตรีทูต ต้องเตรียมแหวนทองเหลือง เอาไว้หมั้นยมบาลเพิ่มอีก 1 วง

มันต้องให้ได้อย่้างนี้ ถึงจะเรียกว่าซวยซุปเปอร์ซวย ของแท้แน่นอน รับประกันคุณภาพโดย นายกฯเทพประทาน นายกฯกาลีบ้านกาลีเมือง

หันกลับไปมองปี 51 ที่เพิ่งจะผ่านไปแหม็บๆ แม้จะทุลักทุเลแทบล้มประดาตาย แต่ก็ยังพอทน หลังจากที่ต้นปียังกระดี๊กระด๊าอยู่กับลุงหมัก นายกฯขวัญใจชาวรากหญ้า พริบตาผ่านไป ต้องมานั่งลุ้นเสียวแทบตาย กับรัฐบาลนายกฯสมชายสุดปลายเท้า ที่สุดท้ายก็ถูกตาชั่งฟาดตกเก้าอี้จนได้ ปล่อยตำแหน่งนายกฯร่วงหลุดมือ ให้สุนัขคาบไปรับประทาน หายง่านเป็นปลิดทิ้ง

แต่ถึงยังไง การฉลองปีใหม่ก็ยังไม่กร่อยซะเลยทีเดียว เมื่อเสื้อแดงแรงฤทธิ์ยังได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย ไล่ตีหมาหัวเน่า จนวิ่งหางจุกตูด ไปแถลงนโยบาย ที่กระทรวงต่างประเทศ ไม่เสียแรงรัฐบาลโจร ที่ตั้งแท่นส่งรัฐมนตรีพันธมิตร ไปยึดหัวหาดไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ไก่โห่ แต่ก็ยังดี ที่ไม่นัดกัน ไปสุมหัวแถลงนโยบายในโพไซดอน ไม่งั้น มันจะยิ่งดูไม่จืด

นี่ถ้าเป็นฝ่ายสีแดงทำมั่ง รับรองได้ว่าตุลาการงานเข้า มีหวังว่า 40 ส.ว.ได้เข้าชื่อส่งตีความ ให้ต้องเปิดพจนานุกรมกันมือหงิก

สำหรับชาวเสื้อแดงแล้ว ปีที่ผ่านมาก็นับว่าไม่เลวนัก เพราะถือเป็นปีที่ศักดินามหาอำมาตย์ ต้องอับอายจนเสียผู้เสียคน เมื่อเจอเข้ากับมวยอึดอย่างพลังประชาชน พรรคของคนเสื้อแดง ที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย ขายเท่าไหร่ก็ไม่ขาด อย่างมากก็สลบไปชั่วครั้งชั่วคราว ก่อนที่จะกลับมาฮึดใหม่ แถมยังเฮี้ยนกว่าเก่า เล่นเอาอำมาตย์เอกแทบอยากจะบ้าตาย วันละหลายๆครั้ง

อย่างว่าหละ คนมันเคยตัว เห็นประชาชนเป็นลูกไล่มานานแสนนาน เลยฮึกเหิมเกินห้ามใจ นึกอยากทำอะไรก็ทำ มันถึงได้เสื่อมไม่มีหูรูด มาถึงทุกวันนี้ แต่ถ้ามองอีกด้าน พวกสอพลอมันก็ไม่เคยปราณีใครเหมือนกัน ลองถ้าเปิดช่องให้ เป็นได้สอพลอกันแหลกราญ แล้วมีหรือที่ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ใช่เทวดามาจากไหน จะไม่แอบเคลิบเคลิ้มจนตีนลอย

เสื่อม..เสื่อม..มองไปทางไหนก็เสื่อมไปหมด พวกสื่อกับนักวิชาการนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเสื่อมจนไม่รู้ว่าจะเสื่อมยังไงแล้ว แต่ที่เล่นเอาช็อคโลกจนตาตั้ง ก็คือระบบตาชั่ง ที่ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะโหลยโท่ยกันได้ถึงขนาดนี้ แต่อย่างว่า จะไปโทษตัวบุคคลก็คงลำบาก เป็นธรรมดาอยู่ดี ที่รัฐธรรมนวยหัวคูญ ก็ต้องคู่กับตุลากวยหัวคาร เอาไว้ตีความกันให้ฮาแตก

เรื่องความจงรักภักดีนั้น ถ้าใครจะหาญไปแข่งกับหมา เห็นท่าจะลำบาก แต่สุนัขนั้นมันก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ดี เพราะมันจะภักดีแต่กับผู้ที่ให้อาหารมัน โดยไม่สนใจว่าอาหารนั้นมันเป็นของใคร แต่ว่าไม่ได้ เพราะนั่นมันหมา จะให้คิดอะไรซับซ้อนกว่านั้น มันก็ไม่ใช่หมา แต่คนที่คิดได้แค่หมานี่สิ มันน่านัก ขนาดอาหารที่สวาปามเข้าไปทุกวัน ยังไม่รู้ว่า นั่นมันมาจากภาษีของประชาชน

ทหารที่เคยองอาจผึ่งผาย เป็นคนนำประชาธิปไตย ใส่พานมาให้ประชาชนแท้ๆ พอมาวันนี้ถึงได้กลายเป็นสุนัขรับใช้ ที่ไร้เกียรติภูมิ ยิ่งกว่าสุนัขข้างถนน นี่ว่ากันเฉพาะตัวเอ้ๆ ที่เราเห็นๆกันเท่านั้น ไม่ได้ด่ากราดไปทั้งกองทัพ ซะเมื่อไหร่ เห็นว่ากันว่า ทหารชั้นผู้น้อยส่วนใหญ่ ก็ยังเป็นทหารของประชาชน ไม่มีวันเสื่อมคลาย

ผิดกับสุนัขแก่ ไม่เคยตาย โอลด์ด๊อก เนเวอร์ดายน์ แก่ชิบหายยังไม่ตายซักที อยู่บ้านฟรี อาหารฟรี มีสุนัขรับใช้ให้เป็นฝูง ยังมาคอยล้างผลาญ ตามล้างตามเช็ด ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย ไม่รู้จักจบจักสิ้น พูดมาได้ว่าประเทศไทยโชคดีที่มีนายกฯโจร..มันจะโชคดีหรือโชคร้าย รอให้ประชาชนเขาพูดเองดีกว่ามั้ง..ตาแก่

นักการเมืองก็แสดงสันดานดิบออกมา ให้เห็นกันจนหมดเปลือกแล้ว กัดกันเอง ขายกันเอง ยิ่งกว่าโสเภณีข้างถนน ยังมีหน้ามาชูคอ ขู่ฟ่อๆว่า ถ้ารู้ว่าสู้กับใครแล้วจะหนาว เลยถือโอกาสนี้ ขู่กลับไปเลยว่า ถ้ารู้ว่าสู้กับประชาชนแล้ว..จะยิ่งหนาวกว่า

นับแต่นี้ต่อไป ฝ่ายประชาธิปไตย คงต้องตั้งหลักกันให้ดีๆ ฉากสุดท้ายคงต้องใส่กันมันหยดติ๋งๆ จึงต้องคุมสติให้มั่น จับเป้าศัตรูให้ถูกคน ไม่ใช่ว่า ไล่ตีดะ ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม มันจะหมดแรงข้าวต้มซะก่อน ก่อนที่จะเจอของจริง เหนือสิ่งอื่นใด ยังต้องเลือกยุทธวิธีที่เหมาะสม รุกเมื่อควรรุก ถอยเมื่อควรถอย...

สู้เพื่อชนะ อย่าสู้เอามัน รับประกันซ่อมฟรี ยังไงก็เข้าวิน

วโรทาห์: 8 ม.ค. 52

3 comments:

Anonymous said...

ไปร้านก๋วยเตี๋ยววันหนึ่ง ป้าเจ้าของร้านด่าเช็ด เราฟังเรายังหนาว เออ รู้กันทั้งประเทศจริง ๆ

แต่ไอ้พวกเรียนสูง ๆ ที่อยู่ที่ทำงาน แหย่ว่า พวกมันกินเงินเดือนประชาชนไม่ได้กินเงินเดือนหลวงเท่านั้นแหละ

ขนาดเป็นพี่มหาลัยมัน คณะเดียวกัน มันไม่พูดด้วยจนเดี๊ยวนี้ เริ่มจากมันทักไม่อยากให้ไปร่วมเย็ว ๆ ที่สนามหลวงเลยบอกความจริงมันเท่านั้นแหละ มันโกรธจนไม่พูดด้วย

ไม่รู้จะสอนมันอย่างไง มันเคยสบายเช้าชามเย็นชามฟาดเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่ง มากกว่าผู้ว่าที่บริหารทั้งจังหวัดอีก สู้พวกอยู่บ้านนอกไม่ได้ พวกนั้นจะรู้ดีเพราะอยู่กับปัญหาความยากจน

บ่นแค่นี้แหละ เสียดายท่านไม่ไปพันทิป บางครั้งอึดอัดอยากระบาย ก็กลัวคนอื่นรู้ เพราะประเทศนี้มันเป็นเผด็จการ พูดอะไรก็ไม่ได้ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนการปกครองซักที เบื่อมาก

Anonymous said...

Beauty,Head,Beam ศวยหัวคาล

Anonymous said...

ขอบคุณคับ