Tuesday, December 15, 2009

เต๋า-007 เข็ดจริงๆ ให้ดิ้นตาย

บินกลับบ้านมานอนเลียแผลใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับยอดชายนายคนยอดซวยแห่งปี 2552 ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ หรือเต๋า-007 จารชนจำเป็นซึ่งตกที่นั่งจำยอม รับหน้าที่จารกรรมแผนการบินของอดีตนายกฯโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เป็นการหักมุมปิดฉากแบบแฮ๊ปปี้เอนดิ้งสำหรับสองแม่ลูก แต่สำหรับมาร์คแล้วมันไม่ใช่ เพราะถูกปล่อยให้ค้างเติ่ง จนต้องวิ่งแจ้นไปหาช่างรองเท้า ให้ช่วยทำศัลยกรรมใบหน้า ที่แตกยับเละเทะหมอไม่รับเย็บ

ก็ไหนว่าแผนการบินไม่ใช่ความลับ แล้วไหงถึงโดนจำคุก 7 ปี พร้อมอ๊อปชั่นจับปรับอีกเป็นแสน นี่ถ้าไม่ได้ลุงจิ๋วกับน้าแม้ว สองแรงแข็งขัน ช่วยกันพายช่วยกันจ้ำ ป่านนี้นักโทษชายศิวรักษ์ มีหวังยังโซ้ยข้าวแดงอยู่ที่คุกไปรซอ ไม่รู้จักเลิก

ยังดีที่ไม่ไปเชื่อลมปากตาเฒ่าชวน ที่งวดนี้มาแนวพหูสูตร สู่รู้ไปหมดว่านายเต๋าไม่ผิด เลยยุให้สู้คดีสุดลิ่มทิ่มประตู ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง เข้าไปนั่น แต่ยุยังไงก็ยุไม่ขึ้น นอกจากว่าทางเขมรยินยอมให้ตาแก่ปากจัดคนนี้ ไปติดคุกแทนระหว่างอุทธรณ์ พร้อมทั้งให้เบิกงบโกงเข้มแข็งไปสู้คดีได้ โดยไม่ต้องควักเนื้อเอง

ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลลากยาวไปซัก 20-30 ปี เต๋าก็บ่ยั่น

แต่จะว่าไป รัฐบาลไทยก็ไม่ได้นิ่งดูดายซะทีเดียว มีความพยายามช่วยจริงช่วยจัง จนคุณแม่ต้องขอร้องว่า ให้ช่วยไปไกลๆหน่อย ฉันยังไม่อยากให้ลูกติดคุกหัวโต เพราะพี่แกดันหนักไปทางช่วยด่าประจานรัฐบาลเขมร มากกว่าที่จะช่วยเกี้ยเซี้ย

เรื่องของเรื่อง จนป่านนี้คนไทยยังไม่มีโอกาสรู้เรื่อง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้แต่ว่าฟังรายงานจากสื่อไทยแล้วปวดหัวมึนตึ้บ ซัดพาราไปเป็นกำมือยังไม่หายมึน

ก็เครื่องลงจอดไปแล้วตั้ง 20 นาที ทีวีเขมรก็ถ่ายทอดให้เห็นกันจะๆ แต่นายคำรบยังอุตส่าห์โทร.ไปล้วงความลับจากนายเต๋าว่า เครื่องบินทักษิณลงหรือยัง แถมยังโทรซ้ำโทรซากตั้ง 3 ครั้ง ลากยาวไปถึง 7 นาที มันมีอะไรให้คุยกันนักกันหนา นอกจากคำว่า..ลงจอดตั้งกะปีมะโว้แล้ว

ฝ่ายนายเต๋าก็อินกับบทบาทไปหน่อย เล่นย่องเข้าไปจิ๊กข้อมูลจากหอบังคับการบิน แล้วแทนที่จะต่อสายตรง ยืนรายงานจ๋อยๆอยู่ตรงนั้น เพราะมันไม่ใช่ความลับซักหน่อย แต่กลับทำกระมิดกระเมี้ยน แอบจดใส่ฝ่ามือออกมา แค่คำว่า CL 30 แล้วยืนหลบมุมโทรศัพท์รายงานเข้าหานายคำรบ

กับคำถามว่าเครื่องลงหรือยัง และคำตอบว่า CL 30 ยังล่อไปตั้ง 7 นาที เสียค่าโทรศัพท์ไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่รู้ว่าเท่าไหร่

นี่ถ้าข้าราชการไทยมีไหวพริบปฏิภาณซักหน่อย..เปิดทีวีเขมรหาข่าวซะ มันก็ไม่มีเรื่อง

งานนี้ต้องบอกว่าเสียค่าโง่อย่างแรง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นายเต๋าจะไม่เอะใจว่า มันจะเอาข้อมูลการบินของทักษิณไปทำไมกัน ทั้งๆที่เขากำลังฮึ่มฮั่มกันอยู่ แสดงว่ารู้อยู่เต็มอกว่าไม่ชอบมาพากล แต่ก็ยังทำ อาจจะเป็นเพราะว่าทางเลาขาทูต รับประกันซ่อมฟรีให้ ว่าไม่มีเรื่อง

ไม่นึกว่า พอเกิดเรื่องขึ้นมา กระทรวงต่างประเทศแค่บอกว่าทำไปตามกรอบของการทูต แต่ปล่อยให้นายเต๋าทำไปตามกรอบของขี้ทูต จนถูกจับยัดเข้าซังเตเขมรซะ..หายโง่เป็นปลิดทิ้ง

นี่ถ้านายคำรบไม่มีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครอง เรื่องคงจะง่ายขึ้นเยอะ แค่ตำรวจเขมรจับไปดีดไข่เค้นหาความจริงแป๊บเดียว เรื่องก็แดงโร่ลามปามไปถึงใครต่อใคร ที่กำลังมุดหัวหลบมุมอยู่ในตอนนี้

แต่ถึงยังไง สุดท้ายนายเต๋าก็ได้ออกมาลอยนวลโดยไม่ต้องคอยนาน เล่นเอาใครต่อใครหนาวๆร้อนๆ จับไข่สั่นกันเป็นแถว

ก็คนระดับนายกรัฐมนตรี ยังต้องออกมาตีกัน ห้ามศิวรักษ์ป้ายสีคำรบเป็นอันขาด ทำให้ชาวบ้านเขาเอะใจว่า มันรู้ได้ยังไงว่าคำรบบริสุทธิ์ แล้วรู้ได้ยังไงว่า ศิวรักษ์จะป้ายสี

ยิ่งพยายามดับไฟไม่ให้ขยายผล บอกว่า มันควรจะจบได้แล้ว ยิ่งแปลกไปกันใหญ่ เพราะผิดวิสัยของแมลงสาบที่เคยประพฤติปฏิบัติกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ ที่ถ้าพวกตัวได้เปรียบ เป็นต้องตามกระทืบซ้ำ ให้จมธรณี ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด

แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อเรื่องมันเข้าตัว กระแส"จัดฉาก"ก็ถูกโหมประโคมเป็นการใหญ่ เริ่มจากวอร์รูมอำมาตย์ ผ่านสื่อไร้จรรยาบรรณ โพลล์แมลงสาบ แล้วก็บรรดากองเชียร์ ต่างส่งเสียงหอนรับกันเป็นแถว

ขอเพียงมีใครจุดพลุมาว่าจะเอายังไง ทุกคนก็พร้อมที่จะตามแห่ ตะแบงหาเหตุผลเอามาประกอบจนได้ ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่แค่ไหน ไม่ต้องไปใส่ใจให้มันเมื่อยตุ้ม

ก็ขนาดฮุน เซน นำนายเต๋ามาส่งให้ถึงมือแม่ มันยังเอามาเป็นประเด็น ทำนองว่า ปฏิบัติต่อนักโทษดีเกินกว่าเหตุ เพราะน้าฮุนแกไปโอบหลังโอบไหล่นายเต๋า แทนที่จะโดดถีบเข้าแสกหน้า ฐานที่ทำจารกรรม ล้วงคองูเห่าเขมร

อุทาหรณ์เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ตราบใดที่คนไทยยังโง่ไม่เลิก ตราบนั้นก็อย่าหวังว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้

แต่ดูแล้วยังไงเมืองไทยก็คงต้องดักดานไปอีกหลายปี จนกว่าจะมีใครตายโหงตายห่าให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว สิ้นเวรสิ้นกรรมต่อคนไทยทั้งชาติ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ยังไม่รู้ว่าประชาชนจะอดทนได้แค่ไหน

เป็นธรรมดาของอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลาย ผู้คนก็วิปริตผิดเพศ เห็นผิดเป็นถูก ไม่เอาเหตุเอาผล เอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง เมื่อฝ่ายที่เสียเปรียบเรื่องเหตุผล ถือดีว่ามีปืนอยู่ในมือ จึงช่วยไม่ได้ ที่อีกฝ่ายก็ต้องหันไปหาทางเลือกที่ไม่อยากเลือก นั่นคือกองกำลังติดอาวุธ

ในเมื่อตัดสินกันด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ ก็คงต้องไปจบกันที่ปลายปากกระบอกปืน

วโรทาห์: 15 ธ.ค. 52

3 comments:

Anonymous said...

ตามมาอ่านเช่นเคยค่ะ
ขอบคุณมากนะค่ะ
สงสารแม่ลูกเค้าจังเลย

FOSSIL said...

อยากจะบอกว่า ตามมาอ่านอยู่ตลอดครับ

ชอบมากๆ

Anonymous said...

ฺำิBEST WISHES FOR P'นักรบฯ
MAY THE PEACE , JOY AND PROSPEROUS NEW YEAR & FOREVER NAKA