การเมืองบ้านเราช่วงนี้ ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร หันไปทางไหนมันก็ให้ผิดเพี้ยน ขัดใจไปซะหมดทุกเรื่อง...
ดูอย่างเจ้าหมูตุ๋นนั่นปะไร ใคร้จะไปนึกว่าชั่วเวลาแค่สองสามเดือน จากนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรง ความหวังของประเทศชาติ จะเปื่อยได้ที่กลายเป็นหมูตุ๋นพร้อมเสิร์ฟไปได้ถึงเพียงนี้
ย้อนไปตอนที่มันโดนซิวเข้าคุกโดยไม่รอลงอาญา เห็นลูกน้อง 3 คนของมัน ลงทุนกราบทีนออกทีวี อ้อนวอนให้เป็นหัวหน้าต่อ ยังนึกอยู่ว่า แหม่... บารมีของเจ้าแป๊ะนี่มันก็่ใช่ย่อย
ที่ไหนได้วงในเค้าเม้าท์กันว่า พอจบข่าวปุ๊บมันก็กราบไอ้ 3 ตัวนั่นคืนปั๊บเหมือนกัน แถมเทศนาให้อีก 1 กัณฑ์ฟรีๆว่า...
ให้ตูกราบทีนพวกเมิงดีก่า แล้วรีบๆไสหัวไปให้ไกลทีนตูเลย ตูยังชิกหัยไม่พอใช่ไม๊ ต้องให้ตูชิกหัยอีกเท่าไหร่พวกเมิงถึงจะพอใจ.. ให้ตูติดคุกสบา่ยๆหน่อย พวกเมิงจะตายกันเรอะไง...
อย่า... ตูถือศีลห้า อทีนนาทานา เวรมณี ห้ามเอาทีนไปตึ้บใครโดยไม่จำเป็น พวกเมิงอย่ามายั่วให้ศีลตูขาด... ข่าวว่าหลังฟังเทศน์จบ ก็ตัวใครตัวมัน ไม่ต้องรอติดกัณฑ์เทศน์
หันมาทางเจ้าเตี้ยบ้าง ตั้งแต่ไปตกท่อมานี่ มันก็ประสาทกลับป้ำๆเป๋อๆไม่เป็นผู้ไม่เป็นคน ให้สัมภาษณ์อะไรก็มั่วซั่วไปหมด จนชาวบ้านสับสน ไม่รู้มันจะเอายังไง
ข่าวเค้าว่า ที่เป็นเช่นนี้้ ไม่ใช่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนตอนตกท่อหรอกนะ แต่มันมากระเทือนเอาทีหลัง ตอนขึ้นศาลป้าแจ่มที่บ้านนี่แหละ
คืนนั้นพอแกมุดหัวเข้าบ้านปุ๊บ ป้าแจ่มก็เปิดศาลชำระคดีปั๊บเหมือนกัน ทันอกทันใจวัยโจ๋ไม่หยอก ข้อหาก็คือ มันไปสร้างสถานการณ์ กะมัดใจหญิง ว่างั้น
อะไรไม่ว่า ทันทีที่เริ่มกระบวนการไต่สวน ศาลก็เบิ๊ดกะโหลกมัดจำเอาไว้ก่อนหนึ่งที แรงส่งป้าแกยังใช้ได้ เล่นเอาเจ้าเตี้ยหัวทิ่ม เสียศูนย์ก่งก๊งมาตั้งแต่วันนั้น
ไต่สวนฝ่ายเดียวเสร็จ ศาลก็ตัดสินเดี๋ยวนั้น ลงโทษเดี๋ยวนั้นเหมือนกัน ไม่ให้เถียง ไม่ให้ชี้แจง กำหนดโทษเปรี้ยง ห้ามออกจากบ้าน 3 เดือน แถมไม่รอลงอาญาอีกต่างหาก แม๊... ทันสมัยจริงๆ
ระหว่างนี้ยังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ แต่ข่าวเค้าว่าท่าจะรอดยาก เพราะหลักฐานมันทนโท่ซะขนาดนั้น ถ้าแกไม่ไปเช็ดแก้มให้น้องเค้า ยังพอมีหนทางต่อสู้ กล้อมแกล้มอ้างไปได้ว่า อยู่ในขั้นเตรียมการ ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติ แต่นี่ภาพมันฟ้องกันเห็นๆ เล่นกันจะๆ เลยจบข่าว
ทีแรกป๋าเติ้งแกก็ร่ำๆจะรับสารภาพอยู่เหมือนกัน เผื่ออ้างเป็นเหตุบรรเทาโทษได้มั่ง นิดๆหน่อยๆก็ยังดี เดชะบุญว่าได้ทนายดี เป็นเพื่อนซี้กันสมัยเรียนตงฮั้วฮะเก๋า มาเหยียบเบรคห้ามไว้ทัน บอกว่า...
แกจะบ้าเรอะ ศาลภรรยานี่ใครเค้าสารภาพกัน การสารภาพนี่ไม่ใช่เหตุบรรเทาโทษนะโว้ย ตรงกันข้ามมันเป็นเหตุเพิ่มโทษต่างหาก พอแกสารภาพปั๊บ รับรองว่าศาลร้องจ๊ากก... นั่นไง... ตูว่าแล้ว ซื้อหวยไม่ยักกะถูก ฉอดๆๆๆ...
ว่าแล้วก็รำมวยใส่ทันที ไม่ต้องสอบกันแล้ว... ตำราเค้าถึงสอนนักสอนหนาว่า ต่อหน้าศาลภรรยานี่ ยังไงก็ต้องปากแข็งไว้ก่อน...
เรียกว่า... ถึงรู้ก็อย่าให้เห็น ถึงเห็นก็อย่าไปรับ หากจะรับก็ให้รับครึ่งเดียว ยังไงก็ต้องเหลือความหวังไว้ให้ศาลมั่ง เพราะที่เค้าคาดคั้นนั่นก็หวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริง
หันมาทางเจ้ามะม่วงจำบ่มบ้าง เจ้านี่ก็แปลกคนจริงๆ ไม่รู้มันจะเดือดร้อนอะไรกันนักกันหนา กับการที่ออหมักไม่ยอมไปร่วมดีเบทก๊ะมัน... มันก็พูดไปฝ่ายเดียวซะซี่ ดีซะอีก จะได้ตีกินตุนคะแนนใส่กระเป๋ากันเนื้อๆไปเลย
นี่เห็นวันๆส่งทหารเลวไปท้ารบเหย็งๆ เสียเวลาเปล่าๆ แทนที่จะไปทำมาหากินอย่างอื่น อย่างนี้นี่เล่า คะแนนเสียงมันถึงได้สาละวันเตี้ยลงๆ จนยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ดิ่งเหวไปเรื่อยๆ จนจะพากันตายยกรังเอา
พอถูกนำห่างก็เลยเล่นง่าย กะคลุกวงใน ปล้ำตีเข่าอย่างเดียว โท๊... ก็คะแนนเค้านำอยู่ ใคร้จะไปแลกให้เสียของ เค้าก็ต้องฟุตเวิร์คเอาสวยงามเข้าว่า เป็นแกก็เหอะ ถ้าคะแนนนำเค้าขนาดนี้ จะมาท้าเหย็งๆอยู่ไม๊...
ส่วนลูกพี่ใหญ่ เจ้ามือมีดโกนนั่นก็อีกคน อุตส่าห์ไปเข็นรถจี๊ปสมัยสงครามโลกออกมา กะโชว์พาว ไม่ได้รู้เรื่องเล้ย ว่าโลกเค้าไปกันถึงไหนแล้ว สงสัยมันคงจะจำเอามาจากอาจสามารถ สมัยเจ้าทักเค้า เลยกะจะเรียลลิตี้โชว์ลงใต้ ว่างั้นเหอะ
อาศัยว่าพวกสื่อมันก็ให้ท่าอยู่แล้ว เตรียมทำข่าวให้เต็มที่ เอากันตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯไปยันตรังเลยแหละ กะออกข่าวทุกวันเหมือนพวกวิ่งแก้บนยังไงยังงั้น... โถ... ถ้าเป็นเมื่อหลายสิบปีก่อนล่ะไม่เถียง คนไทยยังโง่อยู่ ยังพอกล้อมแกล้มหลอกกันไปได้
แต่เที่ยวนี้ผิดคาด แทนที่จะเห็นชาวบ้าน พากันมารอรับตามรายทาง ทั้งๆที่สื่อช่วยกันประโคมข่าวนำไปก่อนตั้งหลายวัน ที่ไหนได้... เงียบเป็นเป่าสาก ไปที่ไหน มีแต่หมาวิ่งไล่เห่ากันเกรียว ขืนออกข่าวไปได้อายตายห่า
ซ้ำร้าย ฝ่ายตรงข้ามอย่างออหมักนี่ ก็ดันแฟนคลับตรึมซะอีก ยิ่งได้ออเหลิมมาเสริมทัพอีกคนนี่ เปิดวิกที่ไหนก็วิกแตก พอๆกะคอนเสิร์ตสายัณ สัญญา ยังไงยังงั้น ก็ไม่รู้แกไปเอาเงินถุงเงินถังมาจากไหน ไปจ้างคนมาฟังซะเพียบ
ข่าวตาชวนเลยหายจ้อย ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง รถแกแล่นไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ มาได้ข่าวอีกที ก็ตอนแกเปิดเวทีปราศัยย่อยที่พัทลุง ข่าวลงว่าชาวบ้านมารอฟังกันตรึม 700 คน
ก็นับว่าไม่เลวอ่ะนะ ถ้าเทียบกับที่เจ้ามาร์คไปเปิดปราศัยใหญ่ ที่วงเวียนใหญ่ คนก็แน่นพอกันนี่แหละ 700 คน ตัวเลขตรงกันเด๊ะ โดยไม่ได้นัดหมาย
แต่ไหงพอถึงเวลา ตาชวนดันหายจ้อยอ้างว่าไม่ฉะบาย ขับรถฝ่าแดดมาจนไข้ขึ้นว่างั้น ทั้งๆที่ปกติแล้ว เห็นแกตัวเล็กๆยังกะลูกหมายังงั้นเหอะ แข็งแรงยิ่งกว่าแรด แต่มาคราวนี้ ไหงกระหม่อมบางขึ้นมาดื้อๆ
ไอ้ไข่คนใกล้ตัวแท้ๆ มันยังบอกว่า ตอนเย็นก็ยังเห็นดีๆอยู่ ยังคุยกันจ๋อยๆ แต่พอตกค่ำ ทางเวทีแจ้งมาว่าชาวบ้านเค้าหลงทาง เลยเหลือมาฟังปราศัยไม่ถึง 300 คน เท่านั้นแหละ ได้เรื่อง จับไข่สั่นใหญ่เลย ไข้ขึ้นสูงปรี๊ด ไปปราศัยไม่ได้ซะดื้อๆ
โถ... กะอีแค่เป็นไข้แค่นี้มันจะไปอะไรกันนักกันหนา ไม่ใช่ว่าป่วยหนักถึงขนาดเข้าห้องซีไอเอซะเมื่อไหร่ ขอย้ำห้องซีไอเอจริงๆ ไม่ได้พิมพ์ผิดนา แค่ขอยืมศัพท์เท็คนิคของป๋าเติ้งเค้ามาใช้หน่อย เห็นว่ามันเท่ห์ดีน่ะ ไม่ใช่อะไร
กะอีแค่ป่วยนิดป่วยหน่อยทำเป็นมาสำออย คนเรา.. ถ้าใจมันรักจริงอ้ะนะ มันจะไปยากอาไร้ ก็ตั้งระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์เข้าซี่ ยิงภาพพร้อมเสียงขึ้นดาวเทียมโลด แล้วเด้งสัญญาณลงมากลางเวทีปราศัย โช๊ะ!
ทางนั้นก็ตั้งทีวีจอยักษ์รับสัญญาณถ่ายทอดสด ปั๊บ! ส่งตรงถึงพ่อแม่พี่น้อง... ขี้คร้านจะฮือฮายิ่งกว่าเจ้าทักเค้าซะอีก... ฮาาาา....
วโรทาห์: 15 ธ.ค. 2550
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment