Wednesday, May 9, 2007

บัง-เอย เจ้าสมควรต้องรู้ว่าเจ้าต่อสู้อยู่ด้วยผู้ใด

. บัง-เอย วันเวลาผันผ่านรวดเร็วดั่งติดปีกบิน นี่มิใช่ล่วงเลยเจ็ดเดือนแล้วหรือนับแต่วันที่เจ้านำพาลิ่วล้อของเจ้าเข้าปล้นชิงอำนาจมาจากทักซิ้งจอมยุทธผู้มั่งคั่ง คิดถึงวันนั้นแล้ว ยิ่งคิดยิ่งปลาบปลื้ม วันนั้นโหงวเฮ้งเจ้าดูภูมิฐานยิ่งนัก ใบหน้าเจ้าแม้เป็นสีดำยังดูเอิบอิ่ม เจ้ายืดอกอย่างผึ่งผายสมชายชาติทหาร เผยอปากแย้มยิ้มเยี่ยงผู้ชนะ ใครเลยพบเห็นแล้วยังอดใจมิชื่นชมบารมีของเจ้าได้
. บัง-เอย เจ็ดเดือนผันผ่านมิถือว่าเนิ่นนาน ใยสรรพสิ่งกลับผันแปรไปได้ถึงเพียงนี้ ดูเจ้าเวลานี้สิ เจ้าชราไปไม่น้อย ใบหน้าสีดำของเจ้ากลับยิ่งหมองคล้ำไร้ราศี ดูเจ้าฝืนยิ้มไร้ความร่าเริงแม้ไม่บอกยังรู้ได้ถึงความทุกข์ระทมในใจของเจ้า เฮ่ย... ผู้คนยามไร้วาสนา แม้แต่จ้องหน้าสุนัขมันยังมิยอมหลบเลี่ยงสายตา
. บัง-เอย เจ็ดเดือนนรกกลับเนิ่นนานกว่าเจ็ดปีสวรรค์ ยามทุกข์ระทมวันเวลาย่อมผ่านไปเชื่องช้านัก เจ้าต้องทุกข์ระทมแค่ไหนยามที่ต้องรอคอยอย่างเจ็บปวดเพื่อดูวันล่มสลายของทักซิ้ง ยังมิเทียบเท่าความทุกข์ระทมของปวงชนผู้คับแค้นที่รอคอยวันล่มสลายของเจ้า ยิ่งรอต้อนรับทักซิ้งกลับมานำพาให้พวกเขาอยู่ดีกินดีเฉกเช่นครั้งก่อน เจ้าทำเช่นนี้แล้วประเทศชาติที่เจ้ารักได้สิ่งใดขึ้นมา ใยมิใช่พ่ายแพ้หมดทุกคนดอกหรือ
. บัง-เอย ลูกผู้ชายกล้าทำย่อมต้องกล้ารับ เจ้ากล้าแย่งชิงอำนาจปกครองปวงชนมา เจ้าจึงสมควรต้องกล้ารับผิดชอบปากท้องของพวกเขา เป็นเพราะเจ้าประชาชนจึงอดอยากหิวโหย เยี่ยงนี้แล้วเจ้ายังโทษใครได้อีก
. บัง-เอย ลิขิตฟ้ามิอาจขัดขืน วาสนาคนเรามิอาจแข่งขัน แม้เจ้าชิงชังทักซิ้งเพียงใดยังมิอาจไม่ทำใจยอมรับชะตากรรม เจ้านั้นต่ำต้อยยิ่งนักมิอาจเผยอหน้าไปเทียบเทียมเขาได้ มิต้องดูอื่นไกล เจ้านับดูคนที่รักชอบเจ้าสิ นอกจากบิดามารดาของเจ้าแล้วยังมีใครอีก คนที่รักชอบเจ้านับไปยังน้อยกว่าคนที่ชิงชังทักซิ้งมากนัก คนที่ชิงชังเขายิ่งมิอาจเทียบเทียมได้กับคนที่รักชอบเขา ยิ่งมาถึงเวลานี้ไม่เพียงแต่คนที่รักชอบเขาเท่านั้นที่ชิงชังเจ้า แม้แต่คนที่ชิงชังทักซิ้งจำนวนไม่น้อยยังหันมาชิงชังเจ้าแทน เช่นนี้แล้วเจ้ายังอยู่ได้อย่างไร
. บัง-เอย ความรักจึงเป็นพลังสร้างสรรค์ ความเกลียดชังมีแต่ทำลายล้าง กองไฟย่อมแผดเผาทุกสรรพสิ่งไม่ละเว้นดุ้นฟืนผู้ให้ชีวิตแก่มัน ความเกลียดชังย่อมแผดเผาได้แม้แต่ตนเองมิแตกต่าง เช่นนี้แล้ว ต่อให้เจ้าเชื่อมั่นว่าเขาทำผิดจริงยังต้องปฎิบัติต่อเขาด้วยความรัก มีแต่ทำเช่นนี้จึงสมควรกล่าวอ้างเป็นผู้มีคุณธรรม ทำเช่นนี้แล้วอย่าว่าแต่ศัตรูต้องยกย่องเจ้า แม้แต่ฟ้าดินยังมิอาจไม่ชื่นชม
. บัง-เอย เจ้าสมควรต้องรู้ว่าเจ้าต่อสู้อยู่กับผู้ใด ศัตรูของเจ้ายังอาจมิใช่ทักซิ้งผู้เดียวดาย หาไม่เช่นนั้นแล้วด้วยพลังฝ่ามืออำมหิตที่พวกเจ้าโถมซัดเข้าใส่มันดั่งพายุโหมกระหน่ำไหนเลยมันเล็ดรอดไปได้ มันนอกจากไม่ตายแล้วกลับยิ่งตียิ่งกล้าแข็ง หากมิใช่มหาชนผู้ชื่นชอบมันเป็นโล่ห์คอยปกป้อง เป็นกำแพงให้พิงหลัง ไหนเลยมันยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างทรนง ทำให้เจ้าต้องหวั่นไหวได้ถึงเพียงนี้
. บัง-เอย พลังมหาชนนั้นยิ่งใหญ่นัก เจ้ามิอาจดูแคลน พลันเหล่าชาวยุทธฝ่ายธรรมะผนึกกำลังกันได้ แม้แต่นางมารเฒ่าผมขาวแห่งวังจตุมารผู้มีวิชาตัวเบาสูงส่งยังมิอาจรับมือ เพียงประมือครั้งแรก เหล่าชาวยุทธรวมพลบุกไปถึงรังของมัน ฟาดไปเพียงฝ่ามือเดียวนางมารเฒ่าถึงกับกระเด็นไปไกลหมื่นเชี๊ยะ ยังกระอักโลหิตออกมาหลายลิ่ม จำยอมถอยร่นไปเร้นกายรักษาตัวยังเมืองแห่งสิงโตอยู่หลายเพลาจึ่งทุเลา ไหนเลยฝีมือต่ำต้อยเยี่ยงเจ้ายังคิดบังอาจต่อกรด้วยมหาชนเล่า
. บัง-เอย ใยเจ้าจึงโง่นัก ลิ้มซ่งติงย่อมถูกกล่าวขานเป็นคนบอกข่าวปลิ้นปล้อนคนหนึ่ง ใยเจ้ายังไปเชื่อฟังมัน คนผู้นี้เอื้อนเอ่ยวาจาออกมาสิบส่วนแฝงเร้นความจริงไม่ถึงครึ่งส่วน ผู้เชื่อฟังมันมีแต่ออกลูกเป็นวานร มันย่อมอาศัยวิชาชิวหาตะกวดหากินไปวันๆ นอกจากสาวกของมันแล้วมีเพียงเจ้ายังชื่นชอบฟังมัน ตำแหน่งเจ้าสูงส่งเป็นถึงเจียงกุง(แม่ทัพ)ผู้ยิ่งใหญ่ ใยจึงยินยอมให้คนบอกข่าวต่ำต้อยผู้หนึ่งชักจูงดั่งโคกระบือ
. บัง-เอย เจ้าช่างหูเบานัก เพียงฟังนางมารเฒ่าผายลม เจ้าถึงกับฮึกเหิมลุกขึ้นมาปล้นชิง ยังมีห้ามารอัปลักษณ์อีก เพียงพวกมันมาเห่าหอนให้เจ้าฟังว่าทักซิ้งฉ้อโกงแผ่นดิน เจ้ายังถึงกับหลั่งน้ำตาสงสารประเทศชาติ มิอาจไม่แต่งตั้งพวกมันเป็นห้ามารตรวจสอบ แล้วเป็นเช่นใดเล่า เจ็ดเดือนล่วงเลยมันตรวจสอบพบสิ่งใด มีแต่เห่าหอนไปวันๆ ยังคงรับเบี้ยหวัดแล้วดื่มกินเสพย์สุขมิรู้จักอับอาย
. บัง-เอย เจ้ายังไร้เดียงสานัก อาศัยจดทะเบียนวิวาห์สองใบไหนเลยทำให้เจ้าเรียนรู้ความรักลึกซึ้งได้ เจ้ายังมิอาจเข้าใจความรักที่ปวงชนและทักซิ้งมีต่อกัน เจ้าจึงกล้าคิดว่า เพียงเจ้าใส่ใคล้เขาได้แล้วปวงชนย่อมเหินห่างจากเขามารักชอบเจ้าแทน เจ้าดูแคลนพวกเขาเกินไปจริงๆ ผู้คนหากมีเยื่อใยต่อกันไหนเลยทอดทิ้งยาม ยาก อันสามีหากทำผิดจริงแม้ต้องโทษกักขัง ไหนเลยภรรยาผู้ภักดีตัดใจตีจาก ใยมิใช่คอยส่งเสียข้าวปลาอาหารแล้วนับวันรอคอยเวลาที่สามีพ้นโทษออกมาอยู่กินร่วมกัน
. บัง-เอย งาช้างย่อมมิอาจงอกเงยออกจากปากสุนัข ไหนเลยเผด็จการยังอาจก่อเกิดประชาธิปไตย กฎเหล็กแห่งรัฐใยมิใช่ขีดเขียนโดยปวงชนจึงเป็นประชาธิปไตย นึกไม่ถึงเจ้ากล้าแต่งตั้งปีศาจสูบยาไปขีดเขียนแทนปวงชน มารเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นี้ ย่อมมองเห็นผู้คนเป็นตะกวดเฉกเช่นตัวมัน มารเฒ่าอกตัญญูผู้นี้ย่อมมิเคยมองเห็นศีรษะผู้คนไหนเลยรู้จักประชาธิปไตย มันยังบังอาจลบหลู่ปวงชนถึงกับถ่มถุยออกมาว่ามันย่อมขีดเขียนกฎเหล็กเพื่อดักตะกวด เช่นนี้แล้ว ใยมิใช่ให้มันหลอกหยิบตั๋วเงินจากท้องพระคลังไปเสพย์สุข ถึงกับนำพาพวกมันไปเสวนาดื่มกินริมทะเลสาบ อิ่มหนำสำราญแล้วกลับมามอบกระดาษเปื้อนหมึกเล่มหนึ่งแก่เรา
. บัง-เอย ผู้ปกครองมิอาจสืบทอดยาวนาน ผ่านมาแล้วย่อมผ่านไปดั่งคนเดินทาง ปวงชนจึงเป็นนิรันดร์ พวกเขาเกิดบนผืนแผ่นดินนี้ แม้ตายยังต้องตายบนผืนแผ่นดินนี้ ต่อให้เจ้ารุกไล่อย่างไรปวงชนมิอาจถอยร่น มีแต่สู้ตายบนแผ่นดินเกิดของเขาเท่านั้น มิว่าอย่างไรห้ามเจ้ามองข้ามปวงชนเป็นอันขาด
. บัง-เอย ผู้ที่ถูกโจรป่าแย่งยึดบ้านเรือน หาเรียกว่าผู้ไม่มีแผ่นดินอยู่ไม่ มันผู้ที่อยู่ในบ้านต่างหากเล่า หากเจ้าของบ้านรังเกียจมิยินยอมให้อยู่ จึงเรียกได้ว่าผู้ไม่มีแผ่นดินอยู่
. บัง-เอย ความผิดในครั้งนี้ เจ้ายังคงต้องตายกี่พันครั้งจึงสาสม รอถึงปวงชนมีผู้นำให้เกาะยึดย่อมแปรเปลี่ยนเป็นมหาชนที่ยิ่งใหญ่ มิมีผู้ใดบังอาจต้านทาน ถึงเวลานั้นมิสายไปแล้วหรือ เจ้ายังคิดว่ามีผู้ใดกล้าเข่นฆ่าปวงชนเพื่อรักษาชีวิตเจ้าไว้อีกหรือ เจ้ายังคงมั่นใจได้อย่างไรว่าปลายทวนคมกระบี่มิกลับหันเข้าหาเจ้าเพื่อใช้เจ้าเซ่นสังเวยต่อปวงชน
. บัง-เอย ใยเจ้าไม่ฉกฉวยโอกาสขณะที่ปวงชนยังเพิกเฉยต่อเจ้ารีบกลับตัวเสีย ใยไม่ชิงเข้ามอบตัว รีบคืนทรัพย์สมบัติที่เจ้าปล้นชิงไป หากเจ้าสำนึกได้แม้โทษผิดมิอาจอภัย แต่โทษตายคงได้ละเว้น
. บัง-เอย เจ้าช่างดื้อดึงนัก ถ้าเจ้ายังมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางนี้ผู้ใดย่อมมิอาจทัดทานเจ้าได้ หากแต่เจ้าสมควรต้องนั่งคิดอย่างจริงจังแล้วว่าเจ้ายังคงลี้ภัยไปที่ใดได้ ยังมีประเทศใดในโลกที่รับเผด็จการทหารให้ลี้ภัยเฉกเช่นปิโนเชต์หรือไม่ แม้นหากหาที่ลี้ภัยได้ เจ้ายังคงต้องคิดต่อไปว่ายังมีสำนักศึกษาใดเล่าเชื้อเชิญเจ้าไปพูดจาให้ฟัง ยังมีประเทศใดเล่าเชื้อเชิญเจ้าไปเป็นกุนซือ(ที่ปรึกษา) ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่ง่ายเลย
. บัง-เอย หลายวันมานี้อากาศร้อนนัก เป็นเพราะพิรุณหลั่งมาห่าหนึ่ง วันนี้อากาศจึงเย็นสบาย ใยร่างกายเจ้ากลับสั่นเทาประหนึ่งเป็นไข้ เล่า หากเจ้ารู้สึกหนาวมิสู้เข้าห้องไปเถิด ข้าได้เตรียมผ้าห่มผืนหนึ่งให้เจ้าแล้ว ตัวข้าเองนับว่าอ่อนเพลียไม่น้อย นั่งรับลมเย็นๆครู่หนึ่งแล้วข้ายังคงต้องไปหลับนอนเช่นกัน

เทพคุณธรรม (วโรทาห์: 6 พฤษภาคม 2550)

4 comments:

Anonymous said...

เขียนได้ดีมากครับ

อยากให้คุณวโรทา เขียนกลอนด่าพวกสื่อชั่วๆ บ้างครับ

วโรทาห์ said...

อยู่ใน list แล้วครับ โปรดติดตามต่อไป

Anonymous said...

ชอบมากครับ...เขียนได้ดีมาก ๆ สุดยอด มากเลย professional จริง ๆ เลยครับ
แล้วผมจะติดตาม บทกวี และ บทความต่อไปนะครับ
*ผมตามอ่านจาก hi-thaksin มาถึง Blogger warotah เลยนะครับ






HI-THAKSIN MEMBER

วโรทาห์ said...

ยินดีต้อนรับครับ