๏ อันตะวัน นั้นพลันคล้อย จะลอยลับ
คนก็นับ ถึงวันตาย กลายเป็นผี
ใยไม่เห็น แก่ไพร่ฟ้า ประชาชี
ไปเที่ยวชี้ ให้ผีป่า มางำเมือง
๏ ลุแปดสิบ พระชันษา มหาบพิตร
ต่างน้อมจิต มารวมใจ ใส่เสื้อเหลือง
ยังคิดอ่าน ทำการร้าย ให้ขุ่นเคือง
ระคายเบื้อง ยุคลบาท นาถบดินทร์
๏ ดูหรือวัย ก็ล่วงเข้า จะเก้าสิบ
แลลิบลิบ เห็นไวไว ว่าใกล้สิ้น
มาทำชั่ว ให้เขาด่า เป็นราคิน
เมื่อด่าวดิ้น จะผินพักตร์ ไปทักใคร
๏ เห็นแต่หน้า ไม่รู้ใจ เหมือนใสซื่อ
หลงนับถือ เคยเคารพ เคยนบไหว้
ดูหน้าเนื้อ กลับซ่อนเสือ ไว้ภายใน
หลงไว้ใจ พวกผู้ใหญ่ ใฝ่อธรรม
๏ หรือเห็นแก่ ซึ่งอำนาจ ราชศักดิ์
จนมิพัก จะหยุดยั้ง ยังไม่หนำ
เพราะเมามัว เรื่องชั่วช้า จึงกล้าทำ
ใช่ถลำ เพราะไม่รู้ หรือหูเบา
๏ อันประชา ธิปไตย ใครก็รัก
มาหาญหัก ของรักไป ใครไม่เศร้า
อำนาจรัฐ ที่ถูกต้อง เป็นของเรา
มาปล้นเอา มันแสนช้ำ สุดกล้ำกลืน
๏ เสียไปแล้ว อีกเมื่อไร จะได้กลับ
ต้องเสียทรัพย์ ต้องเสียคน ต้องทนฝืน
ต้องเสียเลือด อีกเท่าไร จะได้คืน
ต้องสะอื้น หลั่งน้ำตา ดั่งวารี
๏ เสียงสาปแช่ง ทั้งด่าก่น จนสิ้นศักดิ์
คนใจยักษ์ หนักแผ่นดิน สิ้นราศี
ทั้งสาปส่ง ลงนรก อเวจี
อยู่เป็นผี ชั่วกัปกัลป์ พุทธันดร
วโรทาห์: ๓ เมษายน ๒๕๕๐
แก้ไข : ๒๖ กันยายน ๒๕๕๏
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment