Thursday, March 24, 2011

รัฐบาลเทพ(รับ)ประทาน

สะบักสะบอมจนแทบไม่เหลือสภาพเป็นผู้เป็นคน แต่ยังอุตส่าห์ลากถูลู่ถูกัง..ไปต่อกันจนได้ เหนือคำบรรยายจริงๆสำหรับรัฐบาลลูกเทวดา ที่หน้าด้านหน้าทนเกินกว่าที่มนุษย์เดินดินกินข้าวแกง อย่างเราๆท่านๆจะจินตนาการได้

ก็ขนาดลากไส้ออกมากองกลางสภาเป็นขดๆ มันยังดิ้นกระแด่วๆ แถกเหงือกกระเสือกกระสนเอาตัวรอดไปน้ำขุ่นๆ ไม่อายฟ้า ไม่อายดิน

"ประเทศไทยโชคดีที่ได้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ...คนนี้ผมเชียร์"

นึกถึงคำๆนี้ขึ้นมาทีไร มันให้เจ็บหัวใจจี๊ดๆ อยากเขกกะโหลกเจ้าเฒ่าจอมเชียร์แขก ที่นานทีปีหนจะปล่อยดอกพิกุลร่วงลงจากเรียวปากสัก 2-3 กลีบ แต่ถ้าหลุดออกมาเมื่อไหร่ เป็นอันรับประกันได้ว่า ต้องเน่าคลุ้งส่งกลิ่นเหม็นโชย จนอ้วกแตกอ้วกแตนไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ก่อนหน้านั้นไม่นาน ก็เจ้าเฒ่าหนึ่งเดียวคนนี้นี่เอง ที่เรียกเสียงฮือฮาจากการรับจ๊อบออกแขกให้นายกฯลากตั้งคนก่อน ด้วยวลียอดฮิตที่ว่า "คนๆนี้ยกมือไหว้ได้อย่างสนิทใจ"

เล่นเอาพ่อยกแม่ยกที่หลงไหว้เข้าเต็มเปา ต้องวิ่งแจ้นไปล้างมือแทบไม่ทัน โถ...นึกว่าคนดิบคนดีมาจากไหน ที่แท้ก็"เฒ่ายุทธเขายายเที่ยง" คนที่อมภูเขาเป็นลูกๆแข่งกับนายมัน คนนั้นนั่นเอง

มาถึง"รัฐบาลเทพประทาน" ที่จัดแจงแปลงกายเป็น "รัฐบาลเทพ(รับ)ประทาน" ไปในชั่วพริบตา หลังจากที่บุญพาวาสนาส่ง ท.ทหารอดทนอุ้มกระเตงใส่ตะกร้าล้างน้ำ แบกขึ้นวอไปนั่งแท่นกินบ้านกินเมืองได้ไม่นาน เรียกว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น กฎเหล็ก 9 ข้อยังท่องจำได้ไม่หมดด้วยซ้ำไป

"ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่เราแหลกม่ายล่าย" กลายเป็นสโลแกนท็อปฮิตติดชาร์ท สำหรับรัฐบาลผสม เสือสิงห์กระทิงแรด เหี้ยห่าสารพัดสัตว์ ที่สวาปาล์มกันไม่เลือก ตั้งแต่ปลากระป๋องเน่า นมบูด ไปจนถึงรถถังซังกะบ๊วย เรือเหาะเซียงกง ยันไม้ส่องผี "จีที-200"

แล้วอย่างนี้ยังมีอะไรอีกที่...เราม่ายล่ายแหลก

หลังจากที่อดอยากปากแห้งมานานแสนนาน ก็ถึงเวลาของบุฟเฟ่ท์คาบิเน็ต 30% อ๊อฟ ใครใคร่ยัด..ยัด ใครใคร่แดก..แดก เอากันให้พุงปลิ้น ฟาดกันให้ปากมัน ล่อแม่มันกลางวันแสกๆ ไม่ต้องกลัวใครพบ ไม่ต้องกลัวใครเห็น พ่อกูใหญ่ซะอย่าง ชาวบ้านจะไปทำอะไรได้ นอกจากยืนมองทำตาปริบๆ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว น่าจะจัดสอบชิงทุน สปก.4-01 อีกซักกระทอก ให้มันลือลั่นไปชั่วลูก หลาน เหลนซะ ให้รู้แล้วรู้รอด

แต่ถึงยังไง ผลงานการงาบระดับนี้ ก็ต้องถือว่าเข้าขั้นเทพ อย่างไม่มีข้อสงสัย ว่ากันว่า ถึงขนาดทำลายสถิติตลอดกาลของตอแหลแลนด์อย่างย่อยยับ กินขาดทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลเผด็จการทหาร ซึ่งถือเป็นจอมงาบระดับตำนานของโลกมาทุกยุคทุกสมัย

ไม่ต้องไปหาใบส่งใบเสร็จให้มันเมื่อยตุ้ม อภิมหากาพย์การงาบระดับนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่ประชาชนจะสามารถจับต้องได้ด้วยตัวเอง สุดยอดผลงานขนาดนี้ย่อมบาดลึกไปถึงกึ๋น และเจ็บกว้างไปทุกหย่อมหญ้า

แม้สื่อขี้ข้าทั้งหลายจะพยายามเจือจางด้วยน้ำยาขัดโถส้วมยี่ห้อ "คุณชายสะอาด" แต่ประชาชนที่ไม่ได้บริโภคหญ้าเป็นอาหารหลัก ย่อมมีวิจารณญาณพอ ที่จะชี้ขาดได้ว่า อะไรเป็นอะไร

"คุณชายสะอาด" ของสื่อตอแหล จึงกลายเป็น "คุณชายมอมแมม" ของประชาชน โดยไม่ต้องอาศัยการโฆษณาชวนเชื่อ แม้แต่น้อย

นับเป็นความชาญฉลาดของระบอบอำมาตย์ ในการเลือกเฟ้นนกกระสามาปกครองฝูงกบในสระน้อย คุณไม่ต้องพกความทะเยอทะยานอยากมา เพราะพวกเผด็จการมีมันมากพออยู่แล้ว ขอเพียงคุณมีความง่าน ถึงขนาดอยากเป็นนายกฯจนตัวสั่น และตอแหลลงตับขนาดได้โล่ห์ยิ่งดี แค่นี้คุณก็เป็นนายกฯของเราได้ อย่างสบายๆ

นอกจากชวนป๋วยเป่าปี่กู ผู้ไม่เคยเลี้ยงกาแฟใครแล้ว กราดสายตาไปทั่วทั้งปฐพี ยากที่จะหาผู้ใดส่องประกายรัศมีตอแหลเจิดจ้า แม้เพียงเศษเสี้ยวของมาร์คได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สุดท้ายแล้วเขาจะพบสัจธรรม หลังจากที่ดิ้นรนมาแทบตายว่า ถ้าคุณมีโทษสมบัติพร้อม ประตูสู่นายกฯ ก็ไม่ไกลเกินไปกว่าประตู "ร้านราบ 11"

จากหนุ่มนักเรียนนอกไฟแรง ที่ถูกตาเฒ่าชวนไล่ให้กลับไปดูดนม ก่อนมาแสดงความคิดเห็นสวนทวารผู้หลักผู้ใหญ่ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่า เขาแอบไปดูดนมอะไรมา ถึงได้มีอินทรีย์แก่กล้าทันตาเห็น ชนิดที่ซาตานยังขยาด ปีศาจยังต้องชิดซ้าย ถ้าศรีธนญชัยไม่หักหลบลงคู เป็นได้โดนบี้แบนติดถนน อย่างไม่ต้องสงสัย

ชีวิตในวัยเยาว์ของเขา ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เหมือนรถปิคอัพทั่วๆไป ที่มีความใฝ่ฝันอันบรรเจิดว่า เมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นรถบรรทุก ไม่ใช่เพราะว่ารถคันใหญ่บรรทุกได้มาก ทำประโยชน์ได้เยอะ แต่หลักใหญ่ใจความอยู่ที่ว่ามันเท่ห์ดี เป็นศักดิ์เป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล

ด้วยโทษสมบัติ โกหกน้ำไหลไฟดับ อันเป็นพรนรกที่มีติดตัวมาแต่อ้อนแต่ออก เขาได้พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นสู่ ความเป็นมนุษย์โพเดียม ที่ไม่มีการพูดเท็จอีกต่อไป

จากหลักปรัชญาที่ว่า ถ้าคุณโกหกได้มากพอ และด้วยอัตราความถี่ที่เหมาะสม คุณจะสามารถทำให้ตัวเองเชื่ออย่างสนิทใจ ว่ามันเป็นความจริง และเมื่อนั้นคุณจะไม่ใช่คนโกหกอีกต่อไป เพราะคุณจะพูดแต่ความจริงที่คุณเชื่อ และจะเชื่อทุกสิ่งที่คุณพูด

สุดท้าย คุณจะพบสัจธรรมอันน่าแปลกใจว่า คนทั้งโลกยกเว้นคุณ...ล้วนพูดเท็จเป็นอาจิณ

เมื่อคุณบรรลุธรรมถึงขั้นสุดยอด จนสามารถโกหกได้แม้กระทั่งตัวเองแล้ว ต่อไปไม่ว่าเรื่องชั่วช้าแค่ไหน คุณก็สามารถทำมันได้ โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย แล้วอย่างนี้ ทำไมจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ที่อำมาตย์ได้อภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ

และสองปีบนเก้าอี้อันยิ่งใหญ่ อภิสิทธิ์ก็ไม่เคยทำให้ประชาชนต้องผิดหวังแม้แต่น้อย นโยบายประชาวิบัติ ประชาชนต้องตายก่อน เปิดโอกาสให้ชาวบ้านตาดำๆได้สัมผัสกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างลึกซึ้ง ได้เรียนรู้อย่างเจ็บปวดว่า น้ำมันพืชหนึ่งขวดนั้น มันมีค่าขนาดไหน

ยายเมี้ยนคนขายกล้วยแขก เพิ่งได้สำเหนียกว่า การทอดกล้วยแขกขายทุกวันนั้น ถือเป็นการละโมบอย่างไม่น่าให้อภัย ภายใต้รัฐบาลนี้ แกจึงต้องรู้จักกระเหม็ดกระแหม่ ขายวันเว้นไป 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดโลกว่า จะมีน้ำมันปาล์มกระเส็นกระสายมาถึงมือแกเมื่อไหร่

เมื่อรัฐบาลที่อำมาตย์หวังฝากผีฝากไข้ ให้ช่วยกวาดต้อนประชาชนกลับเข้าคอกตามเดิม กลับเปิดฉากรุกไล่อย่างหนัก ทำให้พวกเขาต้องถอยร่นไปจนสุดซอย งานนี้จึงมีทีท่าว่าจะดูไม่จืด เมื่อมหาชนหันกลับมาตั้งป้อมเผชิญสู้ อย่างสุนัขจนตรอก

ระยะแรกพวกเขาอาจจะยังมะงุมมะงาหรา ทำให้ถูกฆ่าตายไป 91 ศพ บาดเจ็บร่วม 2,000 แต่ไม่นานประชาชนก็คลำทางถูก และเริ่มเปิดฉากตีโต้อย่างได้ผล ไม่ต้องใช้สไนเปอร์ ไม่ต้องมีแม้แต่หนังสติ๊ค ขึ้นชื่อว่ามหาชนย่อมน่าเกรงขามเสมอ แค่ขี่จักรยานเล่นเป็นกลุ่มก้อน ก็ทำเอาอำมาตย์ถึงกับนอนผวาไปแปดตลบแล้ว

เป้าหมายต่อไปคือด่าน 112 อันเป็นจุดสลบของระบอบอำมาตย์ ว่ากันว่า มันคือปราการด่านแรกที่ฝ่ายประชาชนต้องตีให้แตก แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นปราการด่านสุดท้าย ที่ฝ่ายเผด็จการต้องรักษาไว้ให้มั่น

เมื่อทั้งสองฝ่ายจำต้องรุกไปข้างหน้า จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า อาจจำต้องรบพุ่งประจัญบาน ถึงขั้นติดดาบปลายปืน เพราะว่าเดิมพันมันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

ถ้าไม่มีด่าน 112 ซะอย่าง ระบอบอำมาตย์ก็พังทั้งแถบ

วโรทาห์: 24 มี.ค. 54