Wednesday, May 13, 2009

คิดจะรบกับอำมาตย์ มันต้องฟาดฟันกันทุกมิติ

นับตั้งแต่เกิดปฏิวัติ 19 กันยา มาฉุดให้ประเทศไทยหัวทิ่มบ่อ ติดกึกกักอยู่ในหล่มโคลนลึกจนมิดล้อ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ถนัด ผลของมัน เล่นเอาบ้านเมืองถึงกับบรรลัยวายวอด วินาศสันตะโร กู่ไม่กลับมาถึงทุกวันนี้

แต่ ด้านที่เป็นประโยชน์ก็ใช่ว่าจะไม่มี อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชี ได้รับรู้ถึงพิษสงของอมาตยาธิปไตย หรืออำมาตยาธิปไตย ว่ามันอำมะหิตผิดมนุษย์มนาขนาดไหน

ถ้าจะถามถึงความหมายของคำว่าอำมา ตยาธิปไตย คำตอบที่ได้คงสะเปะสะปะ คนละคุ้งคนละแคว แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ชาวสีแดงส่วนใหญ่ ได้ปักใจเชื่อจนมิดด้ามแล้วว่า อำมาตยาธิปไตยนั้นมันกึ่งหญิงกึ่งชาย อยู่บ้านหลายเสา แถมยังผมขาว และคอเอียง

ความจริงก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะว่าถ้าพูดถึงระบอบ มันก็ต้องว่ากันเป็นแก๊งค์ แก๊งค์อำมาตย์ก็ต้องคู่กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งหมายถึงการปกครองของอำมาตย์ โดยอำมาตย์ และเพื่ออำมาตย์

เป็น ระบอบที่โหลยโท่ยห่วยแตกที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เพราะตั้งหน้าตั้งตาแต่จะปรนเปรอกันเองไม่ลืมหูลืมตา เสวยสุขบนความทุกข์ของราษฎรเป็นอาจิณ จนทั่วโลกเขาลงมือกำจัดทิ้ง ล้างซวยกันจนเหี้ยนเต้ไปเกือบหมดแล้ว

แม้กระนั้น ยังอุตส่าห์มีบางส่วนเดนตาย มาแอบเนียนเกาะกินสังคม อยู่ในประเทศด้อยพัฒนา แล้วเจ้ากรรมดันเป็นประเทศที่เคร่งครัดคุณธรรมจริยธรรม ยิ่งกว่าสำนึกผิดชอบชั่วดีซะอีก

หนำไม่ซ้ำ ทำไปทำมา ดันไปผสมเทียมกับสื่อชั่ว นักวิชาการเลว ลามปามไปมั่วเซ็กซ์กับพรรคการเมืองโฉดอีกต่างหาก เชื้อชั่วเลยกลายพันธุ์ ยกระดับขึ้นไปเป็นชั่วดับเบิ้ลชั่ว กินบ้านกินเมือง สวาปามกันพุงปลิ้น ไล่ไม่ยอมไปอยู่ในเวลานี้

สุดท้ายกลายเป็นงานช้างระดับซุปเปอร์เฮ ฟวี่เวท เมื่อประชาชนดันเกิดมาซวยช่วยไม่ได้ ต้องเสี่ยงตายไปงัดอ้อยออกจากปากช้าง ทั้งๆที่รู้ว่ามันต้องสู้ยิบตาอย่างหมาจนตรอก เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ชาติชั่วเอาไว้ ไม่ให้สูญหายไปจากโลกนี้ อย่างที่ประเทศอื่นเขาเป็นกัน

ลืมไปได้เลยสำหรับคำว่าอหิงสา ถ้าจะใช้กับอำมาตย์ ต่อให้มหาตมะคานธีมาเอง ก็คงมีหวังถูกยิงกลิ้งเป็นลูกขนุน เพราะแม้แต่เจ้าตำรับเองยังยอมรับเลยว่า มันมีข้อจำกัดในทางปฏิบัติ ใช้ได้เฉพาะกับผู้ปกครองที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เปรียบได้กับเด็กที่นั่งตื๊อ จนพ่อแม่ใจอ่อนยอมให้ขนมตามที่ปรารถนา

แต่ถ้าเกิดย่ามใจไปนั่งตื๊อกับมหาโจร รับรองได้ว่างานเข้า ถ้าไม่เจอกระสุนปืนลูกแบล๊งค์ จะยอมให้เหยียบหน้าป๋าหรือแป๊ะก็ได้

ที่ พูดนี่ไม่ได้หมายความว่า การนัดชุมนุมประท้วงโน่น ประท้วงนี่ของชาวเสื้อแดงนั้นไม่ควรทำ เพียงแต่ว่าจะไปหวังเอาเป็นทีเด็ดทีขาดคงจะไม่ได้ แต่ก็สนับสนุนให้ออกมาแสดงพลังกันเป็นระลอกๆ เอาให้พวกมันวิ่งแก้เกมส์กันตาเหลือกแล้วก็เลิกไป พอนานๆทีเห็นว่าพวกมันชักจะว่างมากแล้ว ค่อยเอาใหม่

ก่อนอื่นต้องทำ ใจไว้ล่วงหน้าว่า ศึกนี้มีหวังลากยาวเป็นขบวนรถไฟสุไหงโก-ลก อย่างเร็วก็ตอนที่อ้ายมาร์คมันทำเจ๊งจนเกิดจลาจล ถ้าไม่งั้นอีกทีก็โน่น ตอนที่มัจจุราชลงมือปลิดชีพจอมอสูร เมื่อกองทัพส่วนตัวออกมาละเลงเลือดชิงอำนาจกัน นั่นแหละจะเป็นทีของประชาชน

ดัง นั้นระหว่างนี้จึงควรที่จะฟิตซ้อมไปพลางๆ โดยมุ่งไปที่การขยายมวลชนเป็นด้านหลัก เล่นกันให้ครบทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การทหาร ใต้ดิน บนดิน จัดให้ไปเลยเป็นแพ็คเกจ ใจเย็นๆค่อยทำค่อยไป เหมือนพยัคฆ์ร้ายซุ่มคอยตะปบเหยื่อ โอกาสเปิดเมื่อไหร่ค่อยออกไปได้เสียกัน

ที่สำคัญ ต้องจัดตั้งวอร์รูมให้คอยทำหน้าที่วิเคราะห์สถานการณ์ เอามากำหนดยุทธศาสตร์ แล้วส่งซิกให้มวลชนเดินไปตามแผนใหญ่ การเคลื่อนไหวมันถึงจะมีน้ำหนัก เรียกว่าออกหมัดแต่ละที มันต้องมีเป๋ให้เห็น ไม่งั้นก็สู้ออมมือไว้ ยังจะดีซะกว่า

อย่างการ ปิดบัญชีธนาคารโจรมันก็ดีอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น มันต้องนัดแนะกันทั้งประเทศ ทำพร้อมๆกันให้มันเกิดผลทางจิตวิทยา ถ้าถึงขนาดคนที่ไม่ใช่เสื้อแดง เกิดอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว แห่กันไปปิดบัญชีมั่ง นั่นแหละ มันถึงจะงานเข้า

แล้วอีกอย่าง ถ้าทำไปโดยไม่มีทีมงานหาข้อมูล มาทำการวิเคราะห์ให้ดีซะก่อน เกิดธนาคารกำลังหน้ามืด เพราะมีเงินฝากมากเกินขนาด แต่ปล่อยกู้ไม่ออก การปิดบัญชีแทนที่จะไปสร้างปัญหา เลยกลายเป็นไปแก้ปัญหาให้ศัตรูซะฉิบ

พี่ น้องเสื้อแดงที่ไม่ได้ออกไปร่วมชุมนุมนั่นก็อีก แทนที่จะไปประนามหยามเหยียดกันว่าใจไม่สู้ น่าจะลองค้นคว้าหาวิธีใช้ประโยชน์จากคนกลุ่มนี้ให้ได้ ยังจะเกิดมรรคผลซะกว่า อย่าลืมว่า คนกลุ่มนี้มีมากกว่าคนที่ไปร่วมชุมนุมตั้งหลายเท่า และพวกเขาก็อยากแสดงออก

เพียงแต่ต้่องหาพล็อตเรื่องดีๆ ให้คนเหล่านี้สามารถร่วมกิจกรรมจากที่บ้านได้ เช่นการต่อต้านนายทุนของอำมาตย์ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบอยคอตสินค้า หรือเฉื่อยงาน และอื่นๆ สักแต่ว่าจะคิดกันออกมาได้

เพียงแต่ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วทำกันโดยพร้อมเพรียง ให้เกิดแรงกระเพื่อมจนรู้สึกได้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำอย่างทุกวันนี้

ที่ พูดมาทั้งหมดนี่ ไม่ใช่ว่าจะมายกตนว่าเก่งกาจอะไร เพียงแต่ต้องการช่วยคิดสะกิดเตือน ในฐานะสมาชิกสีแดงที่ดีคนหนึ่ง วัตถุประสงค์ก็เหมือนพลพรรคเสื้อแดงทั้งหลาย คือต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยกำชัยชนะให้เร็วที่สุด แต่เหนืออื่นใด...

ต้องเป็นชัยชนะที่ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อของชาวเสื้อแดง...แม้แต่หยดเดียว

วโรทาห์: 13 พ.ค. 52

Sunday, May 10, 2009

เพียงแค่รากหญ้ารู้จักคำว่าพอเพียง ระบอบอำมาตย์ก็อาจจะพังครืน

โถ..นึกว่าสำนึกผิด คิดว่าสำนึกได้ เห็นรัฐบาลทรราช เทพประทานมารอุปถัมภ์ พากันตีปี๊บป่าวประกาศว่าจะ "หยุดทำร้ายประเทศไทย" แต่ที่ไหนได้ ยังแกว่งปากหารองเท้าอยู่หยอยๆ ไล่ถล่มคู่แข่งทางการเมืองอยู่เหย็งๆ

งานการไม่ต้องเป็นอันได้ทำกัน นอกจากจ้อๆๆ แล้วก็จ้อ เอาดีเข้าตัว ป้ายชั่วให้คู่แข่ง นอกนั้นแล้วก็มีแต่ขึ้นภาษี แล้วก็กู้กับกู้ คงกะทุบสถิติ จอมกู้ระดับอินเตอร์ซะก็ไม่รู้

เกิดเป็นคนไทยพ.ศ.นี้มันก็ดีไปอย่าง เรื่องที่กลัวว่าชีวิตจะจืดชืด เป็นอันว่าลืมไปได้ ลืมตาขึ้นมาก็มีแต่เรื่องให้ได้ลุ้น ได้เสียวไม่เว้นแต่ละวัน ก็มันผิดฝาผิดตัวมั่วกันเละเทะ จนน่ากลัวว่าจะพากันแหกโค้ง เทกระจาดเข้าวันไหนยังไม่รู้

มีอย่างที่ไหน เอานายกฯมาคอยรับคำสั่งทหาร เอารัฐมนตรีมาตามล่าทักษิณ แถมยังมีรัฐมนโท เนรวิน จอมเนรคุณ มาคอยทำตัวเป็นริดสีดวงทวาร ให้ลุกนั่งเดินเหินลำบากซะงั้น

ตายกันพอดี นี่แหละคนไทย เขาถึงว่าความเสี้ยนทำให้เสื่อมแท้ๆ เป็นฝ่ายค้านด่าเขามันปากอยู่ดีๆไม่ชอบ อุตริขันอาสามาเป็นฝ่ายบริหารซะเอง เลยงานเข้าจนหน้ามืด คราวนี้ซึ้งหรือยังล่ะ ว่าใช้มือทำงานมันยากกว่าใช้ปากขนาดไหน

แต่อย่างว่า ด่าไปก็เท่านั้น เหมือนเอาไม้จิ้มฟันไปทิ่มหนังแรดระดับเทพ อย่างเก่งถ้าหนังบางหน่อย มันก็แค่คันยิบๆ สู้เอาเวลามาวางกลยุทธสู้ศึกกับอำมาตย์ ยังจะเป็นมรรคเป็นผลกว่ากันเป็นไหนๆ

หลังจากสงกรานต์ทมิฬที่ผ่านมา อำมาตย์ก็ได้ให้บทเรียนโดยไม่คิดสตางค์แล้วว่า การรบกับอำมาตย์นั้น ถ้าขืนบุ่มบ่ามเดินเข้าไปดุ่ยๆ มีแสนก็ตายแสน มีสองแสนก็ตายสองแสน เหตุเพราะว่าอำมาตย์นั้น ไม่เคยเห็นหัวรากหญ้าว่าเป็นคนอยู่แล้ว

ดังนั้น ถ้าอยากชนะโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ จึงต้องพยายามงัดเอาพลังแรดของรากหญ้าที่หลบในอยู่ ออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด

ทำเป็นเล่นไป พลังรากหญ้าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้ารู้จักใช้ให้เป็น ต่อให้ระบอบอำมาตย์ที่ว่าใหญ่คับฟ้า ก็สามารถล้มครืนลงได้ โดยไม่ต้องออกไปล่อเป้าเอ็ม-16 ให้มันเสียวซ่านโดยใช่เหตุ

พูดไปก็จะหาว่าโม้ ที่จริงแล้ว ผู้เสียภาษีรายใหญ่ของประเทศ ก็คือรากหญ้าพี่น้องเรานี่เอง หาใช่บรรดาเจ้าสัวทั้งหลาย ที่พวกนักวิชาเกินพยายามกรอกหู ให้เราเชื่อตามซะเมื่อไหร่ เออ..ถ้าพวกนั้น เอาเงินบิดามารดามันมาจ่ายภาษี จะไม่เถียงซักคำ

แต่นี่ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป มันเอามาบวกลงในราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่รากหญ้าเราซื้อหามากินมาใช้ ไม่มีหายหกตกหล่นแม้แต่น้อย สุดท้ายคนที่จ่ายก็ผู้บริโภคนั่นเอง อย่างนี้ต้องเรียกว่า ผู้เก็บภาษีรายใหญ่แทนรัฐมันถึงจะถูก

อะไรไม่ว่า ทำไปทำมาชักจะลืมตัว นึกว่าภาษีที่ชักค่าต๋งมาเตรียมส่งให้รัฐนั้น เป็นเงินของตัวเลยเกิดเสียดาย หาทางซิกแซ๊กเอาเข้าพกเข้าห่อซะงั้น จากผู้เสียภาษีรายใหญ่ เลยกลายเป็นผู้งาบภาษีรายยักษ์ ไปซะฉิบ

ติ๊งต่างให้เห็นเป็นรูปธรรมก็ได้ว่า กว่าจะมาเป็นบะหมี่ "ม๋าม๋า" 1 ซอง มันต้องผ่านเสือสิงห์กระทิงแรด ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ตั้งแต่อาเฮียแป้งหมี่ อาตี๋ขายซอง อาซ้อโรงพิมพ์ อาซิ้มโรงเกลือ เยอะแยะตาแป๊ะไก๋ จาระไนไม่หมด

ต่างคนต่างงาบ ไล่กันเป็นทอดๆ ผ่านมือใครทีก็ล่อกันคนละหนุบละหนับ นอกจากเก็บส่วยสาอากรส่งเข้ารัฐแล้ว ยังชักกำไรเป็นค่าต๋ง น้ำร้อนน้ำชาของตัวเองอีกต่างหาก เรียกว่าผลักภาระภาษีบวกกำไร ไล่กันไปเป็นลูกระนาด

จนกระทั่งสุดท้าย มาจอดแหมะที่ผู้บริโภค เพราะผลักภาระต่อไปไม่ได้แล้ว เลยจำใจต้องเป็นเจ้าภาพ รับเละแต่เพียงผู้เดียว

จากเงิน 6 บาท ที่ควักออกไปให้อากู๋สหพัด เป็นค่า "ม๋าม๋า" 1 ซอง ตีเป็นค่าของไม่เกิน 2 บาท อีก 4 บาทเป็นค่าภาษี กำไร แป๊ะเจี๊ยะเก๋าเจี๊ยะ ฟาดกันพุงกาง

ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือ ส่วนหนึ่งของเงิน 4 บาทของเรานี่แหละ ที่พวกมันขนเอาไปให้แป๊ะลงทุนกู้ชาติ จนฉิบหายวายป่วง กู่ไม่กลับถึงทุกวันนี้

ในขณะที่ภาครัฐ ถ้าได้รัฐบาลดีก็ดีไป แต่ถ้าได้นอมินีอำมาตย์อย่างทุกวันนี้ มันก็เอาเงินภาษีของเราไปละเลงซะเละเทะ แถมยังประเคนให้ทหารเอาไปซื้ออาวุธ เอามาไล่ยิงกราด คืนกำไรให้ประชาชนอีกต่างหาก

ดังนั้น เพียงแค่รากหญ้าเรารู้จักคำว่าพอเพียง อดใจให้ได้ฟาดม๋าม๋าให้น้อยลงคนละ 1 ซอง ก็ฆ่าตัดตอนเก๋าเจี๊ยะไปได้คนละ 4 บาท ล้านคนก็ 4 ล้านบาท ถ้าเพิ่มความพอเพียงลงไปในสินค้าอีกหลายตัว ก็เจ๊งบ๊งไปอีกหลายล้านบาท

หมั่นทำกันให้เยอะๆ เล่นมันให้บ่อยๆ กลุ่มทุนเก่าอันยิ่งใหญ่ของอำมาตย์ก็เหอะ เจ๋งแค่ไหนก็เป๋ได้เหมือนกัน แถมรัฐบาลโจรอุปถัมภ์ ที่กำลังหน้ามืดไล่กู้จนหัวสั่นหัวคลอน ก็ได้ภาษีน้อยลงไปอีก คราวนี้ถ้าไม่ขายของเก่ากินก็ให้มันรู้ไป

ถ้าแค่นี้ยังพอเพียงไม่ถึงใจ รากหญ้าก็นัดกันลาออกจากงาน กลับตจว.ไปปั้นข้าวเหนียวจิ้มแจ่วปลาร้า ให้มันรู้แล้วรู้รอด เลี้ยงหมูเลี้ยงปลา ทำนาปลูกข้าวกินเอง ไม่ต้องเสียค่าต๋งค่าภาษีซักบาท

ทำการเกษตรแบบธรรมชาติ พ่อค้าแม่ค้าก็อย่าหวังว่าจะได้แอ้มค่าปุ๋ยเคมีซะให้ยาก แทร็คเตอร์ก็ไม่ต้องใช้ อาศัยแรงงานพันธมิตร อ้ายถึกอีทุย ไถดะไถแปรไปตามเรื่อง และที่สำคัญ ต้องอย่าโลภเป็นอันขาด ปลูกข้าวแต่พอกิน ไม่ต้องให้เหลือไปขายใครทั้งสิ้น

อาซิ้มอาซ้อ อาเฮียอากู๋ อยากกินข้าวก็หาปลูกกันเอาเอง เซ้ลฟ์เซอร์วิสกันตามสะดวก

ส่วนสาวโรงงานที่ขัดข้องทางเท็คนิค ไม่สามารถลากลับไปอยู่ตจว.ได้ ก็ยังไม่สิ้นหนทาง ก่อนอื่นก็พยายามไปอยู่กับนายจ้างสีแดง แล้วช่วยกันทำมาหากินตัวเป็นเกลียว เพื่อให้โรงงานสีแดงเจริญรุ่งเรือง จะได้เป็นกำลังสำคัญของพวกเราเอง

แต่ถ้าหลบเลี่ยงไม่ได้ จำใจต้องเป็นลูกจ้างสีเหลืองจริงๆ ก็ขอให้พยายามทำงานอย่างพอเพียง อย่าโลภมากเป็นอันขาด หรือจะนัดกันจัดสัปดาห์ทำงานอย่างพอเพียง ก็เก๋ไปอีกแบบ แค่นี้แหละ..

ไม่ต้องมากไปกว่านั้น แต่อย่าให้น้อยไปกว่านี้ รับรองได้ ไม่นานเกินรอ ระบอบอำมาตย์ มีหวังเจ๊งวินาศสันตะโร...

โดยไม่ต้องออกแรง แม้แต่ปอนด์เดียว

วโรทาห์: 10 พ.ค. 52

Friday, May 1, 2009

สภาเสื้อแดง..ทีเด็ดทีขาด..ในสงครามประชาชน

เป็นอันว่า ยังมะงุมมะงาหรา แทนที่จะหาทางออกจากวิกฤติ กลายเป็นหาทางออกจากโอกาสกันต่อไป นับตั้งแต่เสียรังวัด จากการลากรถถังทำปฏิวัติเพื่อหาทางออก จนเปลี่ยนมายึดทำเนียบ แล้วขยับมายึดสนามบินนานาชาติ ฟาดด้วยตาชั่งเอียงกระเท่เร่อีกต่างหาก

จนล่าสุดบ้าเลือด ถึงขนาดใช้บริการเสื้อเขียว ออกมายิงเปิดทางด้วยเอ็ม-16 ซัดคนเสื้อแดงมือเปล่าๆด้วยอาวุธสงคราม ยังไม่มีใครถอย และถึงแม้จะยิงถลกหนังหัวแป๊ะเกือบ 200 นัด แต่จนแล้วจนรอดยังหาทางออกไม่เจออยู่ดี

พอเหนื่อยหนักเข้าถึงเพิ่ง นึกได้ว่า ยังไง้ยังไงเราก็ไทยด้วยกัน อย่ากระนั้นเลย หันมาจูบปากปรองดองกันดีกว่า ให้ถือซะว่าเราไม่เคยมีอะไรต่อกัน ทรัพย์สินที่พวกข้าปล้นมานั้น ก็ให้ถือว่าแล้วกันไป

ใครที่เคยถูกพวก ข้าข่มขืนจิตใจ ก็ขออย่าได้ถือสาหาความ คิดซะว่าแลกเปลี่ยนเซ็กซ์กัน ก็มันไปอีกแบบ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้บ้านแตก ก็จงอย่าต่อสู้ขัดขืนอีกเลย

แหม่...ดูแล้วก็เล่นไม่ยากเท่าไหร่ ช่างคิดกันไปได้ ไม่รู้จะด่ายังไงถึงจะรู้จักเจ็บ นี่คงถือคติว่า เจ้าทรัพย์มันบริโภคยอดหญ้าเป็นอาหารหลักละกระมัง

ถึงขั้นนี้แล้ว ใครจะเห่าจะหอนยังไงก็ช่าง แต่สำหรับหมู่เฮาชาวเสื้อแดง ในเมื่อมันถึงที่สุดกันซะแล้ว ก็คงไม่มีอะไรที่จะเสียอีกต่อไป บทเรียนที่ผ่านมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันตอกย้ำจนถึงกึ๋นแล้วว่า ถ้าเสื้อแดงไม่สู้..ก็อย่าหวังว่าจะชนะได้

มาถึงวันนี้ นอกจากสงครามยังไม่สิ้นสุดแล้ว กลับยิ่งลุกลามไปกันใหญ่ ในขณะที่แดงบนดินก็เล่นกันไป ส่วนแดงใต้ดินจะเล่นยังไง คงไม่มีใครเขาออกมาแฉให้โง่ เหลือแต่ภาคประชาชนอย่างเราๆท่านๆ จะนั่งรอนอนรอจนกว่าจะถึงเวลา ออกไปแสดงพลังกันอีกที มันก็คงไม่ใช่ที่

สู้เอาเวลามาคิดหมากวางเกมส์ขยายฐานมวลชนไปเรื่อยๆ เพื่อรอเวลาเปิดศึกใหญ่ ยังจะเวิร์คซะกว่า

ถ้า มองเผินๆก็เหมือนกับว่า เสื้อแดงเราไม่มีอาวุธอะไรจะไปสู้กับอำมาตย์ แต่ถ้ามองผาดๆก็จะเห็นว่า อาวุธมหาประลัยที่เรามีอยู่ในมือนั้น พวกอำมาตย์มันครั่นคร้าม จนถึงขนาดต้องเอามือปิดตาตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก้อจะอะไรซะอีก ถ้าไม่ใช่มวลมหาประชาชนชาวเสื้อแดงของเรานี่เอง

มวลชนที่รวมตัวกัน เป็นชุมชนย่อยๆ แล้วเกาะเกี่ยวเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่โตมโหฬาร ครอบคลุมทุกทิศทั่วไทย กว้างไกลไม่น้อยกว่า 62 จังหวัด นับเป็นจำนวนประชากร เฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งก็ไม่รู้ว่าเกิน 10 ล้านไปกี่เท่า ที่สำคัญยังแทรกซึมอยู่ในทุกวางการ ทุกสาขาวิชาชีพอีกต่างหาก

เครือ ข่ายขนาดนี้ ใช่ว่าจะสร้างกันได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่ ขนาดแป๊ะอยากได้แทบตาย ยังไปไม่รอด เคยออกเดินสายปลุกระดม หวังสร้างเครือข่ายสีเหลืองทั่วประเทศ แต่ไม่มีใครเขาเล่นด้วย ปลุกขึ้นมาเท่าไหร่ กลายเป็นสีแดงหมด

มีของ ดีอยู่ในมือแท้ๆ แต่ไม่รู้จักนำมาใช้ ในเมื่อเสื้อแดงเรามีเครือข่ายที่แข็งปั๋งซะขนาดนั้น ถ้าไม่คิดเอามาต่อยอด ก็น่าเสียดายแย่ วันนี้เลยลองเสนอไอเดียมาแลกเปลี่ยนกัน เผื่อใครทำได้ก็น่าจะดีไม่หยอก อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก็ได้ ใครจะไปรู้

มา เริ่มมองกันในด้านสังคมก่อน เอาแค่นี้ก็มีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย แดงต้านยาเสพย์ติด เพื่อสานต่อนโยบายปราบปรามยาเสพย์ติด ของไทยรักไทยเดิม หรือแดงต่อต้านคอรัปชั่น เพื่อตามเช็คบิลพวกตำรวจนอกแถว ที่คอยตั้งด่านปล้นจี้สิบล้อมอเตอร์ไซค์ ตามข้างถนนอย่างถูกกฎหมายของอำมาตย์

หรืออีกทีก็สร้างเครือข่ายต่อ ต้านอาชญากรรม อันเป็นปัญหาสำคัญ ที่เป็นของแถมมาพร้อมกับวิกฤติเศรษฐกิจ ที่เด็กอมมือกำลังรับบทเป็นลิงแก้แหอยู่ หลักการง่ายๆก็คือว่า ถ้าเครือข่ายเสื้อแดงร่วมมือกันทั่วประเทศ ย่อมไม่มีที่ยืนสำหรับอาชญากร อันเป็นศัตรูของประชาชน

เพื่อ การนี้ องค์กรเสื้อแดง มีหน้าที่ออกพาสปอร์ตแดง ให้กับชาวเสื้อแดงทุกคน เพื่อเป็นหลักประกันให้ว่า ท่านจะอยู่ซอกหลืบไหนของประเทศไทยก็แล้วแต่ เครือข่ายเสื้อแดงจะคอยคุ้มครองท่านอยู่ตลอดเวลา ขืนขโมยขโจรทำรุ่มร่ามมาปล้นจี้ชาวเสื้อแดงเมื่อไหร่ รับรองได้ ว่าต้องซวยกันไม่เลิก

เพราะองครักษ์เสื้อแดงจะตามจิกไปทั่วหล้า ไม่ว่าจะไปมุดหัวอยู่ณ.ที่ใด และด้วยเครือข่ายเสื้อแดงที่มีอยู่ทั่วประเทศ ช้าเร็วก็ต้องลากคอมาลงทัณฑ์ให้จนได้

ส่วนทางด้านเศรษฐกิจ เครือข่ายเสื้อแดงก็คือกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ ที่สามารถเป็นฐานให้ธุรกิจของชาวเสื้อแดงได้อย่าง ส.บ.ม.ย.ห. ภายใต้สโลแกน แดงทำแดงใช้ แดงสบายไปตลอดชาติ

ยิ่งถ้าเชิญน้ามิ่งมาเป็นที่ปรึกษา เรื่องตลาดในประเทศ พร้อมกับเชิญน้าแม้วมาช่วยกรุยทางด้านต่างประเทศ ขี้คร้านธุรกิจเสื้อแดงจะแล่นฉิวปลิวลม ยิ่งกว่าเรือใบสีฟ้าซะอีก เรียกว่ารวยเอาๆ ทั้งๆเศรษฐกิจโลกตกสะเก็ดอยู่นี่แหละ

ยิ่งไปกว่า นั้น อาศัยว่าเสื้อแดงเรามีแรงงานอยู่เยอะมากถึงเยอะที่สุด ถ้าแรงงานเหล่านี้ทุมเทให้โรงงานของเสื้อแดงเป็นพิเศษ แล้วใครหน้าไหนจะมาแข่งขันได้ พวกโรงงานขี้ข้าอำมาตย์ ถ้าไม่ม้วนเสื่อเจ๊งยับ ก็ต้องไปลากอาซิ้มอาซ้อ มานั่งเย็บจักรกันเหย็งๆ

เพื่อ การนี้ เครือข่ายเสื้อแดงจะกลายเป็นอีกสังคมหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา มีสาธารณูปโภคครบครัน เพื่อให้บริการแก่ชาวเสื้อแดงโดยเฉพาะ มีโรงเรียนของเสื้อแดง ที่เป็นหลักสูตรก้าวหน้า อย่างที่น้าแม้วเคยพูดถึง แล้วถูกโจมตีจนโงหัวไม่ขึ้น มีห้องมสุดหนังสือ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จนสีไหนก็ต้องอิจฉา

เหนือ อื่นใด ยังมีสื่อของชาวเสื้อแดง ที่เน้นความเป็นมืออาชีพ จนแม้แต่เสื้ออื่นยังต้องติดตามรับชม เพื่ออัพเดตข่าวสารตามที่เป็นจริง ไม่มีการสอดแทรกอคติโดยเด็ดขาด

ในเมื่อมันฮ้อแรดซะขนาดนี้ เป็นใครจะอดใจได้ ไม่อยากมาเข้าร่วมเครือข่ายเสื้อแดง เพราะฉะนั้นการขยายมวลชนก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ส่วนเรื่องการเมืองเดี๋ยวมันก็ซึมกันไปเอง นี่ถ้าทำให้เป็นจริงได้ มิเท่ากับยิงกระสุนนัดเดียว นกตายเป็นฝูง หรือไง

ทางด้านการเมือง ถ้าจะมีพรรคเสื้อแดงก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด เพียงแต่ว่าต้องขอร้อง อย่าไปจดทะเบียนให้มันตามมายุบพรรค จนตั้งพรรคใหม่แทบไม่ทันก็แล้วกัน ปล่อยมันเถื่อนๆอยู่อย่างนี้แหละ ในสภาก็ไปตั้งพรรคนอมินีเอา

พรรคเสื้อแดงจะมีกรรมการบริหารที่มาจากการเลือกตั้ง เอากันตั้งแต่ระดับชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ อาจจะตั้งเชียงใหม่ให้เป็นเมืองหลวงของเสื้อแดง แต่นัดกันไปเลือกตั้งสมาชิกสภาเสื้อแดงที่ราชมังคลา ให้มันเสียวสะดือกันเล่นๆซะงั้น

แค่ นี้เราก็ไม่ต้องไปคอยลุ้นกันตาเหลือกแล้ว ว่ารัฐบาลเด็กเส้นมันจะบริหารงานได้เฮงซวยขนาดไหน มันกู้มาเท่าไหร่ ก็ให้มันไปตามเฉ่งกันเอาเอง เพราะถึงยังไงเสื้อแดงเรา ก็ยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างสบายอยู่แล้ว

ด้วยพลังของชนชั้น กลางระดับหัวกะทิของชาวเสื้อแดง ที่มีอยู่เยอะแยะจนแทบจะเหยียบกันตาย เมื่อประสานเข้ากับมวลชนรากหญ้าจำนวนมากมายมหาศาล แค่นี้ก็ยิ่งกว่าเสือติดปีก ด้วยพลังต่อรองมหาศาล ขี้คร้านอำมาตย์จะดิ้นยิ่งกว่าไส้เดือนถูกขี้เถ้า

ถ้าคุณแจ๋วของเราไม่ยอมไปเป็นคนรับใช้ในบ้านพวกขี้ข้าอำมาตย์ แค่นี้อาซิ้มอาซ้อก็ตายแล้ว

ยัง ไม่นับรวมว่า ทหารไอ้เณรก็พวกเราทั้งนั้น ถ้านายทหารอำมาตย์ กล้าเอาไปเป็นทหารรับใช้ก็เข้าล็อค ไอ้เณรเสื้อแดงจะได้แปลงกายเป็นสายลับ ส่งเอสเอ็มเอสกันมือเป็นระวิง เพียงแต่ว่า...

ต้องหมั่นขัดถูห้องน้ำให้สะอาดเข้าไว้ อย่าให้ลื่นหกล้มได้เป็นอันขาด

วโรทาห์: 1 พ.ค. 52